Group Blog
ผ่านไปวันๆ
My Life
<<
มกราคม 2548
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
18 มกราคม 2548
มาลดความอ้วนกันดีกว่า
All Blogs
ดีนะที่ยังไม่ถึงร้อยวัน
หลากอารมณ์ของแต่ละกรุ๊ปเลือด ตอนที่ 3
หลากอารมณ์ของแต่ละกรุ๊ปเลือด ตอนที่ 2
หลากอารมณ์ของแต่ละกรุ๊ปเลือด ตอนที่ 1
I Could Not Love You More
ภาคสองของสิว (Acne Episode II)
สิว
คุณเคยเจอสิ่งนี้บ้างมั้ย
My Best Friend's Wedding
I'LL CRY FOR YOU
รายงานสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมหัวใจวิทยา
สัตว์เลี้ยงสื่อนิสัย
โรคคิดถึง (Missing Syndrome)
Happy Birthday To Jon Bon Jovi
มาดูซิว่า....คุณได้อะไรจากการกระโดดตึกครั้งนี้
Over And Over Again/Robby Valentine
When I Look Into Your Eyes
งอน
วิธีรักษาสิว (ใครเป็นสิวต้องอ่าน)
All I Ask Of You / The Phantom Of The Opera
มาลดความอ้วนกันดีกว่า
10 ข้อคิดเพื่อเติมคุณค่าให้ชีวิต
5 เหตุผลที่จะทำให้คุณเลิกเป็นคนขี้โมโห
More than words can say / Alias
Another Day/Dream Theater
ใครนอนดึกหรือนอนน้อย เข้ามาอ่านทางนี้หน่อย
สวัสดีปีใหม่ครับ
วันหยุดก็ยังต้องทำงานอีกเหรอเนี่ยเรา!!!
เก็บตก MICRO NUVO ONE BIG SHOW (ต่อ)
เก็บตก MICRO NUVO ONE BIG SHOW
คอนเสิร์ตยกมือขวาให้สุดๆไปเลย (MICRO NUVO ONE BIG SHOW)
เมื่อยจัง
มือใหม่หัดขับ
มาลดความอ้วนกันดีกว่า
ไปเจอบทความเกี่ยวกับการลดความอ้วนมาครับ อาจจะยาวซักนิดนึง แต่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจครับ ถ้ายาวจนอ่านไม่จบก็ค่อยๆแวะมาอ่านเป็นระยะก็ได้ครับ
ก่อนอื่นก็มาดู 10 คำถามยอดฮิต เพื่อเสริมสร้างกำลังใจกันก่อนเน้อ
Q : ทั้ง ๆ ที่ฉันเลือกซื้อแต่อาหารที่แปะป้าย "ไขมันต่ำ" ไม่ก็ "ปราศจากไขมัน" แต่ทำไมน้ำหนักไม่ลดเสียที?
A : การเลือกผลิตภัณฑ์ประเภทไขมันต่ำ หรือปราศจากไขมันนั้น ไม่ได้ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ ถ้าแคลอรียังคงสูงทะลุเป้าอยู่ ดังนั้น การพิจารณาเลือกอาหาร ต้องดูทั้งปริมาณไขมัน แคลอรีให้ต่ำ และมีใยอาหารให้สูงเข้าไว้ เช่น พวกผัก ผลไม้ หรือบรรดาธัญพืช เป็นต้น
Q : ฉันอยากจะลดสัก 10 กก. จะทำได้เร็วที่สุดแค่ไหน?
A : ถ้าคุณไม่กลัวว่าการลดน้ำหนักฮวบลงไปอย่างเร็วนั้น จะทำให้ผิวที่เคยเต่งตึงกลับยืดย้วยลงมาละก็ อดอาหารสักไม่นานนักก็เห็นผล แต่ว่าความคงทนมักจะไม่นาน การลดน้ำหนักที่ดีที่สุด ไม่ควรคำนึงถึงความเร็วเลย แต่ควรจะนึกถึงการปรับนิสัยการกินและการออกกำลังกาย เพราะว่าจะทำให้คุณสามารถควบคุมตัวเองได้เรื่อย ๆ จึงขอแนะนำว่า ควรลดน้ำหนักสักครึ่งกิโลกรัมต่อสัปดาห์ โดยการลดปริมาณแคลอรีที่กินเข้าไปให้เหลือวันละ 300-500 แคลอรี แล้วแต่ความสามารถของคุณ หุ่นอันสวยงามก็จะอยู่กับคุณได้นานและนาน
Q : ตั้งแต่จำความได้ ร่างกายฉันก็เต็มไปด้วยไขมันอยู่แล้ว ฉันจะมีสิทธิ์ผอมได้บ้างไหม?
A : อย่าเป็นคนอ้วนขี้ใจน้อย คุณสามารถมีร่างระหงทรงเพรียวเรียวรูดได้ จากการสำรวจโดยนิตยสาร Good house keeping คนอ้วนเกือบ 2000 ราย ซึ่งลดน้ำหนักอย่างน้อย ๆ 10 กก. นั้น สามารถรักษาหุ่นสวย ๆ ไว้ได้ และเกือบครึ่งของกลุ่มตัวอย่างนั้น ๆ ก็เป็นกลุ่มที่มีน้ำหนักเกินมาตั้งแต่อายุต่ำกว่า 10 ปีเสียด้วยสิ ส่วนเรื่องที่คนตุ้ยนุ้ยมาแต่เด็ก ๆ มักจะลดยากก็เพราะมักจะท้อใจเสียก่อนที่จะเห็นผล รวมถึงนิสัยการกินและการออกกำลังกายไม่ได้เปลี่ยนไปให้ถูกทางอย่างจริงจังนั้นเอง
Q : ฉันจะลงแดงตายอยู่แล้ว เพราะชอบกินช็อกโกแลตมาก ๆ แต่ก็อยากผอมด้วย ทำยังไงดี?
A : ในการควบคุมน้ำหนัก ไม่ได้ห้ามทานขนมหวานเลย เพียงแต่ต้องควบคุมปริมาณแคลอรีให้ดี ๆ เท่านั้น หากคุณกำลังจะลงแดงละก็ ไปซื้อหามาทานเสีย และลดแคลอรีจากอาหารประจำวันอื่น ๆ แทน อย่างไรก็ตาม อาหารที่ไขมันต่ำ แคลอรีต่ำ และไฟเบอร์สูง ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่จะลดความอ้วนอยู่ดี ดังนั้น อย่าลงแดงบ่อยนักล่ะ
Q : น้ำหนักฉันขึ้น ๆ ลง ๆ เป็นโยโย่ มันจะทำลายกระบวนการเผาผลาญพลังงานของร่างกายฉันหรือเปล่า?
A : ไม่เลย ปัจจุบัน วงการแพทย์ได้ลงความเห็นกันว่าไม่มีหลักฐานใด ๆ ทำให้เชื่อว่าลักษณะโยโย่ที่เกิดกับคนที่ลดความอ้วนนั้นจะลดโอกาสในการมีรูป ร่างเพรียวงามของสาว ๆ ในอนาคตเลย แต่ในทางจิตใจนั้นก็คนละเรื่อง การที่คนเราน้ำหนักลง ๆ ขึ้น ๆ ไม่คงที่ดังต้องการเสียทีนั้น ทำให้เกิดความรู้สึกท้อกับการลดน้ำหนัก จึงเลิกควบคุมอาหารไปเสียอย่างนั้น แน่นอนเลยว่าท้ายที่สุด ไขมันก็จับอยู่ตามร่างกายไม่ยอมหายไป ดังนั้นอย่าให้ความท้อแท้มากลายเป็นอุปสรรคในการลดน้ำหนักเชียว เพราะสิ่งนี้แหละเป็นศัตรูของความงามอย่างแท้จริง
Q : การทานแต่ผักผลไม้อย่างเดียวดีต่อร่างกายจริงหรือเปล่า? ได้ยินว่านอกจากจะช่วยลดน้ำหนักได้เร็วและยังล้างพิษได้ด้วย?
A : จริง ๆ แล้วการกินแต่ผักผลไม้ล้วน ๆ นั้น เป็นการกดดันร่างกายอย่างหนึ่ง และไม่ได้เป็นการบริโภคที่ถูกหลักโภชนาการเลย แม้ว่าจะเป็นช่วงสั้น ๆ ซึ่งจะนำไปสู่ผลข้างเคียงบางอย่าง เช่น หน้ามืด ปวดหัว หูอื้อ เป็นต้น ยิ่งถ้ากินเช่นนี้ติดต่อกันสองสามวัน ก็จะเห็นผลกระทบอย่างชัดเจน อันตรายทีเดียว
กระบวนการที่ผลักดันร่างกายจะไปดึงเอาพลังงานสำรอง นำไปสู่การเสื่อมสภาพของกล้ามเนื้อ และอวัยวะสำคัญ ๆ อื่น ๆ เช่น สมอง และหัวใจ (สมองไม่สามารถใช้พลังงานจากสารอาหารอื่น ๆ ทดแทนได้ด้วยนะ จะใช้พลังงานจากน้ำตาลเท่านั้น) ซึ่งจะมีผลกับระบบหมุนเวียนโลหิตอีกต่างหาก คือ ไม่สามารถฟอกโลหิตดำให้สะอาดได้หมดจดเหมือนเคย และส่งผลให้เกิดการขาดน้ำหมุนเวียนในร่างกาย โอย...น่ากลัว
และสิ่งที่อยากจะให้ทราบอีกอย่างหนึ่งก็คือ น้ำหนักที่หายไปในช่วงอดอาหาร หรือเลือกกินแต่ผักผลไม้อย่างเดียวนั้น ส่วนมากเป็นน้ำ และน้ำหนักก็จะตีกลับขึ้นมาเหมือนเดิม เมื่อคุณกลับมากินอาหารตามปกติ
Q : ได้ยินบ่อย ๆ ว่าให้กินทีละนิด ๆ แต่หลายมื้อหน่อยจะช่วยลดน้ำหนักได้ มันจริงหรือ?
A: การแบ่งมื้ออาหารให้บ่อยขึ้น แต่กินทีละนิด ๆ นั้น อาจช่วยในการลดน้ำหนักได้ เพราะจะช่วยลดความอยากอาหารลง การวิจัยในเบื้องต้น แนะนำว่าให้กินอาหารมื้อเล็ก ๆ จะช่วยควบคุมการเพิ่มของไขมันในร่างกายของคนที่อายุมากขึ้นได้
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยทัฟท์ส ในบอสตัน ได้พบว่า หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน เรื่อยไปจนถึงที่เพิ่งโบกมือลาประจำเดือนช่วงแรก ๆ ที่กินอาหารมื้อใหญ่ ๆ (1000 แคลอรี) จะเผาผลาญพลังงานราว ๆ 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งน้อยกว่าสาว ๆ วัย 20 ซึ่งกินอาหารเหมือนกัน แต่เมื่อตัดปริมาณอาหารให้น้อยลงเหลือราว ๆ 500 แคลอรี การเผาผลาญพลังงานของหญิงวัยนี้จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเหมือนสาว ๆ เลยทีเดียว
Q : การกินอาหารที่เน้นแต่โปรตีนอย่างเดียวนี่เป็นผลเสียจริงหรือ? แต่ฉันลดน้ำหนักได้ถึง 8 กก. เลยนะ แถมคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตยังต่ำลงอีก?
A : การลดปริมาณแคลอรีในอาหารล้วนแต่ "เวิร์ค" ทั้งนั้น และไม่ใช่เรื่องมหัศจรรย์เลย ในการเน้นแต่โปรตีน อย่างพวกเนื้อนมไข่ แล้วลดปริมาณแป้งในแต่ละมื้อแล้วช่วยให้น้ำหนักลด และเมื่อน้ำหนักลด ความดันโลหิตรวมถึงคอเลสเตอรอลก็มีแนวโน้มที่จะลดตามลงไปด้วย
แต่เดี๋ยวก่อน! การเน้นโปรตีนให้มากเข้าไว้นั้นค่อนข้างเสี่ยงทีเดียว เพราะบรรดาเนื้อนมไข่นั้น เต็มไปด้วยไขมันอิ่มตัว ซึ่งอาจจะไปอุดตันเส้นเลือดได้ด้วย หากทานไปนาน ๆ เข้า ส่งผลที่ร้ายที่สุดก็คือ การเป็นโรคหัวใจ ดังนั้น ควรจะหันไปเพิ่มปริมาณผักผลไม้และธัญพืชจะดีกว่า เพราะนอกจากจะได้ไฟเบอร์ไปนอนเล่นในกระเพาะสูง (แต่ไม่ดูดซึม) แล้ว วิตามินและเกลือแร่ยังจะช่วยให้การทำงานของร่างกายเป็นไปตามปกติ ดังที่เราได้เรียนเรื่องอาหารหลัก 5 หมู่มาตั้งแต่ชั้น ป. 1 ไง
Q : กางเกงยาง หรือเข็มขัดลดความอ้วนที่ว่ากันว่าจะช่วยทำให้เผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นตอน ออกกำลังกาย เป็นเรื่องชัวร์หรือมั่วนิ่ม?
A : ข้อนี้ตอบได้โดยไม่ต้องคิดมากเลยว่า "มั่วนิ่ม" แม้ว่ากางเกงหรือเข็มขัด หรือชุดรีดน้ำที่หนัก ๆ อยู่ในร่างกายนั้นจะช่วยให้คุณ "ดูเหมือน" น้ำหนักลดลงไป แต่ที่หายไปน่ะ น้ำล้วน ๆ ซึ่งเพียงชั่วข้ามคืนก็จะกลับมาหาคุณเหมือนเดิม ที่ร้ายกว่านั้นก็คือ การสูญเสียเหงื่อมาก ๆ นั้น อาจส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำอย่างกะทันหัน และหัวใจอาจหยุดเต้นไปชั่วขณะได้ (ร้ายที่สุดอาจหยุดไปเลย) ดังนั้น อย่าเสี่ยงดีกว่า
Q : การมีลูกจะทำให้หุ่นสวย ๆ ของฉันกลายเป็นหุ่นเสีย ๆ หรือเปล่า?
A : การตั้งครรภ์และคลอดลูกไม่ใช่เหตุผลที่คุณจะโยนความผิดเรื่องอ้วน ๆ ไปให้ได้เลย เพราะว่ามหาวิทยาลัยแห่งอลาบามา ในเบอร์มิงแฮมได้วิจัยมานาน 5 ปี ได้ผลว่า คุณแม่จำนวน 2800 คน เมื่อเปรียบเทียบกับหญิงที่ไม่มีลูก ผู้ที่มีลูกคนแรก มักจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 10-19 ปอนด์ (4-8 กก.)แต่ว่าหญิงที่ไม่มีลูก ก็มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเหมือนกัน เฉลี่ยประมาณ 6-13 ปอนด์ (2.5-5 กก.) ดังนั้น การตั้งครรภ์ อาจจะทิ้งน้ำหนักส่วนเกินไว้ให้คุณแม่คนใหม่ให้ออกแรงกำจัดราว ๆ 4-6 ปอนด์ (1.5-2.5 กก.) ซึ่งเล็กน้อยมาก
ไม่เชื่อลองดูสินจัย จริยา มาช่า หรือแม้แต่มาดอนน่า แต่ละคนทรวดทรงองค์เอวเหมือนเดิมทั้งนั้นเลย
Create Date : 18 มกราคม 2548
Last Update : 18 มกราคม 2548 15:03:05 น.
7 comments
Counter : 877 Pageviews.
Share
Tweet
มาต่อกันดีกว่า
ลดไขมันให้ได้ใน 5 สัปดาห์
วิธีที่คนทั่ว ๆ ไปเมื่อโดนทักว่า อ้วน ขึ้นและต้องการกลับมาผอมเพรียวในระยะเวลาอันรวดเร็วคงจะหนีไม่พ้นการอดอาหาร อย่างหนักหน่วง ซึ่งคุณอาจจะกลับมาผอมได้ แต่ในระยะยาวแล้ว นั่นไม่ใช่คำตอบสุดท้าย วิธีที่ดีกว่าคือการทานอาหารไขมันต่ำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายหรือการทำตาม คำแนะนำที่เราจะบอกต่อไปนี้
1. ท่องขึ้นใจไว้ว่าสิ่งที่จะลดคือ ไขมัน ไม่ใช่ น้ำหนัก เป็นเรื่องลำบากจริง ๆ เพราะระหว่างที่คุณควบคุมอาหาร ร่างกายจะปกป้องตนเองด้วยการรักษาแคลอรีไว้และเผาผลาญกล้ามเนื้อแทน และเมื่อคุณสูญเสียกล้ามเนื้อ การเผาผลาญอาหารในร่างกายก็จะลดลง การลดน้ำหนักก็จะยิ่งยากขึ้น
หนทางแก้ไขก็คือคุณต้องรักษาและสร้างกล้ามเนื้อควบคู่ไปด้วยกับการควบคุมอาหาร กล้ามเนื้อหนัก 450 กรัมเผาผลาญแคลอรีมากกว่าไขมัน 70 เท่า การเพิ่มกล้ามเนื้อเพียง 1.3 กิโลกรัมก็ทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีเพิ่มขึ้นอีก 150-300 หน่วยต่อวันไม่ว่าคุณจะออกกำลังหรือไม่ออกกำลังก็ตาม
รู้อย่างนี้แล้วก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เพราะขณะที่คุณบริหารร่างกายจนแปรเปลี่ยนไขมันให้เป็นกล้ามเนื้อได้สัก 1-2 กิโลกรัม น้ำหนักของคุณจะไม่ลดลงมากแต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงก็คือคุณจะใส่เสื้อผ้าได้สบายขึ้นหรือไม่แน่ก็เสื้อหลวมไปเลยเพราะฉะนั้นในช่วงที่คุณลดความอ้วน ควรใช้สายวัดตัวแทนการชั่งน้ำหนักดีกว่า
2. ออกกายบริหารทุกวันร่างกายผอมลง เคล็ดลับก็คือให้คุณรักษาสมดุลระหว่างความหนักหน่วงกับระยะเวลาที่คุณใช้ในการออกกำลังกาย พูดง่าย ๆ ก็คือ ออกกำลังกายเท่าที่ร่างกายรับได้และรักษาระดับไว้นาน 30 นาที นั่นคือการเดินเหยาะ ๆ ครึ่งชั่วโมงย่อมดีกว่าการโหมวิ่ง 10 นาทีแล้วเหนื่อย
มีแนวทางบางอย่างในการออกกำลังกายที่อยากจะเสนอแนะนั่นคือคุณควรทำอย่างน้อย สัปดาห์ละ 5 ครั้ง ๆ ละครึ่งชั่วโมงด้วยการกายบริหารหรือแอโรบิค ถ้าไม่มีเวลาอย่างน้อยก็ควรหาโอกาสที่จะได้เดินเร็ว ๆ บ้าง อย่าหักโหม วิธีที่จะรู้ว่านั่นเป็นปริมาณที่พอเพียงหรือยังนั่นคือ ถ้าคุณพูดไปด้วย ออกกำลังไปด้วยได้นั่นคือคุณยังไม่เหนื่อย
3. อาหารไขมันต่ำ ประโยชน์สูง อาหารเช้าคุณควรจะคำนวณสัดส่วนระหว่างแคลอรีจากอาหารกับชั่วโมงที่คุณต้องใช้พลังงาน รับประทานอาหารไขมันต่ำ เช่นผลไม้ ตั้งแต่เช้าเลยยิ่งดี ส่วนตอนกลางคืนร่างกายจะเผาผลาญพลังงานช้ามาก แคลอรีของอาหารจึงจะสะสมในรูปของไขมัน
อ้อ! ไม่ได้แนะนำให้คุณ งด อาหารไขมันโดยสิ้นเชิงนะ แม้คุณจะอยู่ในระหว่างควบคุมอาหารเพราะไขมันมีดีตรงที่ทำให้คุณอิ่มนาน แต่ให้คุณรับประทานไขมันอย่างจำกัดคือ 25% ของแคลอรีของอาหารทั้งวัน
4. นิสัยประจำวันก็ต้องเปลี่ยน ภายใน 5 สัปดาห์นี้ คุณต้องท่องเตือนใจตัวเองตลอดเวลาว่า ฉันจะไปเที่ยววาเลนไทน์กับแฟน ฉันจะผอม ฉันจะทานแต่อาหารมีคุณค่า ฉันจะเดินวันละ 10 กิโลเมตร ฉันจะเลิกกินจุบกินจิบ ฉันจะทานเวลาที่หิว และหยุดทันทีที่หายหิว ฉันจะทานช้าลง ฯลฯ
วิธีอื่นที่จะช่วยคุณได้ก็คือลองจดบันทึกดูว่าคุณทานเข้าไปกี่แคลอรี คิดล่วงหน้าว่าจะทานอะไรจะช่วยให้ไม่รีบทานโน่นทานนี่มากจนเกินไป ที่สำคัญคือให้ความสำคัญของของที่คุณจะทาน เช่น ถ้าคุณเลือกขนมปังจืดแทนโดนัทครึ่งชิ้น น้ำหนักคุณจะลด 220 กรัมใน 1 เดือน ดื่มนมพร่องมันเนยแทนนมธรรมดาก็จะลดลงกว่าครึ่งกิโลกรัม เป็นต้น
อ่านจบแล้วเป็นไงบ้าง ยากมะ แต่เชื่อว่าถ้าคิดจะทำจริงๆ คงไม่ยากเกินความสามารถหรอกครับ ดังนั้นขอให้ประสบความสำเร็จกับการลดความอ้วนกันนะครับ
โดย: hansen
วันที่: 18 มกราคม 2548 เวลา:13:42:39 น.
อ่านจนจบ ... ไม่ลดดีก่ะ อิ อิ
โดย: เจ๊ก IP: 203.146.80.48 วันที่: 18 มกราคม 2548 เวลา:14:51:51 น.
แบบว่ามันชอบแพ้ใจ(ปาก)ตัวเองน่ะ
โดย: นกกระตั้ว IP: 210.86.128.34 วันที่: 18 มกราคม 2548 เวลา:19:27:53 น.
อาหารสำหรับมนุษย์คือ...เนื้อสัตว์
โดย: Nereidis IP: 61.90.36.83 วันที่: 29 มกราคม 2548 เวลา:14:30:17 น.
กำลังปฏิบัติตนจากสาระที่ได้รับรู้มาแต่ไม่ใช่เพราะลดน้ำหนักแต่ใส่ใจปฏิบัติเพราะอยากมีสุขภาพที่ดี....ขอบคุณที่นำสาระดีๆมาฝากค่ะ
โดย: กันต์ณพัชญ์ IP: 61.19.66.11 วันที่: 29 เมษายน 2551 เวลา:12:46:37 น.
อ่านแล้วท้อจังเลยเฮ้อ T_T
โดย: หญิง IP: 222.123.226.88 วันที่: 16 ธันวาคม 2553 เวลา:21:39:13 น.
ขอบคุณนะค่ะสำหรับสาระดีๆ เกือบจะซื้อไปแล้วไอ้เข็มขัดลดสัดส่วนเนี้ย แหะๆ
โดย: Flukie IP: 27.55.11.152 วันที่: 15 กรกฎาคม 2555 เวลา:9:25:48 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
hansen
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
ge-or-ge
นกกระตั๊ว
นักสืบเอกชน
Nutonline
Yensid
spiralhead
คุณนายเจอร์ราร์ด
sundown
Gross Anatomy
Jekyll
Achille
PanQ24
นุทศรี
Webmaster - BlogGang
[Add hansen's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ลดไขมันให้ได้ใน 5 สัปดาห์
วิธีที่คนทั่ว ๆ ไปเมื่อโดนทักว่า อ้วน ขึ้นและต้องการกลับมาผอมเพรียวในระยะเวลาอันรวดเร็วคงจะหนีไม่พ้นการอดอาหาร อย่างหนักหน่วง ซึ่งคุณอาจจะกลับมาผอมได้ แต่ในระยะยาวแล้ว นั่นไม่ใช่คำตอบสุดท้าย วิธีที่ดีกว่าคือการทานอาหารไขมันต่ำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายหรือการทำตาม คำแนะนำที่เราจะบอกต่อไปนี้
1. ท่องขึ้นใจไว้ว่าสิ่งที่จะลดคือ ไขมัน ไม่ใช่ น้ำหนัก เป็นเรื่องลำบากจริง ๆ เพราะระหว่างที่คุณควบคุมอาหาร ร่างกายจะปกป้องตนเองด้วยการรักษาแคลอรีไว้และเผาผลาญกล้ามเนื้อแทน และเมื่อคุณสูญเสียกล้ามเนื้อ การเผาผลาญอาหารในร่างกายก็จะลดลง การลดน้ำหนักก็จะยิ่งยากขึ้น
หนทางแก้ไขก็คือคุณต้องรักษาและสร้างกล้ามเนื้อควบคู่ไปด้วยกับการควบคุมอาหาร กล้ามเนื้อหนัก 450 กรัมเผาผลาญแคลอรีมากกว่าไขมัน 70 เท่า การเพิ่มกล้ามเนื้อเพียง 1.3 กิโลกรัมก็ทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีเพิ่มขึ้นอีก 150-300 หน่วยต่อวันไม่ว่าคุณจะออกกำลังหรือไม่ออกกำลังก็ตาม
รู้อย่างนี้แล้วก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เพราะขณะที่คุณบริหารร่างกายจนแปรเปลี่ยนไขมันให้เป็นกล้ามเนื้อได้สัก 1-2 กิโลกรัม น้ำหนักของคุณจะไม่ลดลงมากแต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงก็คือคุณจะใส่เสื้อผ้าได้สบายขึ้นหรือไม่แน่ก็เสื้อหลวมไปเลยเพราะฉะนั้นในช่วงที่คุณลดความอ้วน ควรใช้สายวัดตัวแทนการชั่งน้ำหนักดีกว่า
2. ออกกายบริหารทุกวันร่างกายผอมลง เคล็ดลับก็คือให้คุณรักษาสมดุลระหว่างความหนักหน่วงกับระยะเวลาที่คุณใช้ในการออกกำลังกาย พูดง่าย ๆ ก็คือ ออกกำลังกายเท่าที่ร่างกายรับได้และรักษาระดับไว้นาน 30 นาที นั่นคือการเดินเหยาะ ๆ ครึ่งชั่วโมงย่อมดีกว่าการโหมวิ่ง 10 นาทีแล้วเหนื่อย
มีแนวทางบางอย่างในการออกกำลังกายที่อยากจะเสนอแนะนั่นคือคุณควรทำอย่างน้อย สัปดาห์ละ 5 ครั้ง ๆ ละครึ่งชั่วโมงด้วยการกายบริหารหรือแอโรบิค ถ้าไม่มีเวลาอย่างน้อยก็ควรหาโอกาสที่จะได้เดินเร็ว ๆ บ้าง อย่าหักโหม วิธีที่จะรู้ว่านั่นเป็นปริมาณที่พอเพียงหรือยังนั่นคือ ถ้าคุณพูดไปด้วย ออกกำลังไปด้วยได้นั่นคือคุณยังไม่เหนื่อย
3. อาหารไขมันต่ำ ประโยชน์สูง อาหารเช้าคุณควรจะคำนวณสัดส่วนระหว่างแคลอรีจากอาหารกับชั่วโมงที่คุณต้องใช้พลังงาน รับประทานอาหารไขมันต่ำ เช่นผลไม้ ตั้งแต่เช้าเลยยิ่งดี ส่วนตอนกลางคืนร่างกายจะเผาผลาญพลังงานช้ามาก แคลอรีของอาหารจึงจะสะสมในรูปของไขมัน
อ้อ! ไม่ได้แนะนำให้คุณ งด อาหารไขมันโดยสิ้นเชิงนะ แม้คุณจะอยู่ในระหว่างควบคุมอาหารเพราะไขมันมีดีตรงที่ทำให้คุณอิ่มนาน แต่ให้คุณรับประทานไขมันอย่างจำกัดคือ 25% ของแคลอรีของอาหารทั้งวัน
4. นิสัยประจำวันก็ต้องเปลี่ยน ภายใน 5 สัปดาห์นี้ คุณต้องท่องเตือนใจตัวเองตลอดเวลาว่า ฉันจะไปเที่ยววาเลนไทน์กับแฟน ฉันจะผอม ฉันจะทานแต่อาหารมีคุณค่า ฉันจะเดินวันละ 10 กิโลเมตร ฉันจะเลิกกินจุบกินจิบ ฉันจะทานเวลาที่หิว และหยุดทันทีที่หายหิว ฉันจะทานช้าลง ฯลฯ
วิธีอื่นที่จะช่วยคุณได้ก็คือลองจดบันทึกดูว่าคุณทานเข้าไปกี่แคลอรี คิดล่วงหน้าว่าจะทานอะไรจะช่วยให้ไม่รีบทานโน่นทานนี่มากจนเกินไป ที่สำคัญคือให้ความสำคัญของของที่คุณจะทาน เช่น ถ้าคุณเลือกขนมปังจืดแทนโดนัทครึ่งชิ้น น้ำหนักคุณจะลด 220 กรัมใน 1 เดือน ดื่มนมพร่องมันเนยแทนนมธรรมดาก็จะลดลงกว่าครึ่งกิโลกรัม เป็นต้น
อ่านจบแล้วเป็นไงบ้าง ยากมะ แต่เชื่อว่าถ้าคิดจะทำจริงๆ คงไม่ยากเกินความสามารถหรอกครับ ดังนั้นขอให้ประสบความสำเร็จกับการลดความอ้วนกันนะครับ