-= The Buddha's Warrior =-
Group Blog
 
 
มกราคม 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
2 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
เรา-ปุจฉา

สวัสดีครับคุณดังตฤน ที่เคารพยิ่ง

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณอย่างสูงอีกครั้ง ที่สละเวลามาแสดงธรรมให้กระจ่าง... ขอขอบคุณจริงๆ และก็ขออนุโมทนาด้วยครับ


ค่อนข้างยาวทีเดียว ถ้าไม่เป็นการลำบาก ก็รบกวนอ่านหน่อยนะครับ :}

ผมเจริญสติ โดยยึด ๗ เดือนบรรลุธรรมเป็นหลักครับ ( ขอขอบคุณอีกครั้งนะครับ ) ไม่ได้ไปสอบถามอาจารย์ที่ไหน เนื่องด้วยยังไม่มีเวลาและโอกาศที่เหมาะสม อีกทั้งไม่ได้เจอปัญหาถึงกับปฏิบัติต่อไม่ได้ แต่ตอนนี้มีปัญหานิดหน่อยครับ ขออนุญาติเรียนถามซัก 2-3 ข้อนะครับ

ผมนั่งสมาธิตามตำรา ( ๗ เดือนฯ ) เจริญตามโพชฌงค์ ๗ พยายามสร้างองค์แรกคือสติอยู่หลายเดือน ทั่งนั่งสมาธิ และหาลมระหว่างวัน พบว่า เมื่อรู้ไปพร้อมกับการพากษ์ว่า ลมนี้ไม่ใช่ของเรา เราควบคุมมันไม่ได้ จิตที่กำลังคิดฟุ้งซ่านนี้ไม่ใช่ของเรา เราควบคุมมันไม่ได้ ก็พบว่า เห็นลมกับความคิดลอยมาแล้วก็ลอยไป สบายๆ โล่งๆ ก็เลยอนุมานเอาเองว่า น่าจะเป็น สติ กับธรรมวิจัยที่เกิดพร้อมๆ กัน พอเริ่มเผลอเหม่อมากๆ เข้า ก็ออกจากสมาธิตามปรกติ พบว่าจิตยังค่อนข้างนิ่งสงบอยู่อีกซักพักใหญ่
วันรุ่งขึ้น ไปทำงานตามปรกติ office อยู่ในห้างน่ะครับ งานของผมเป็นงานหัตถการ งานที่ต้องใช้มือเป็นหลัก หลายครั้งผมชอบดูมือตัวเอง ดูแขนตัวเอง ดูว่าไม่เที่ยงบ้าง ดูแบบเหม่อๆ บ้าง เรื่อยเปื่อยน่ะครับ ว่างจากงานก็เดินดูของไปเรื่อย รู้เท้าบ้าง รู้ลมบ้าง ชัดบ้าง จางบาง ซักพักนึง อยู่ดีๆ ก็มีรูปกล้ามเนื้อบริเวณแขนของตัวเองโผล่มาในหัว แบบ กล้ามเนื้อแดงๆ น่ะครับ เหมือนจะขยับเสียดสีกันเองหน่อยๆ ด้วย น่ากลัวมากครับ ไม่กล้ามองแขนตัวเองเลย ต้องเอามือเดินไพล่หลัง แล้วพอเดินส่วนกับคนอื่น ก็รู้สึกเหมือนเห็นเค้าเป็นกล้ามเนื้อแดงๆ เดินได้ โดยมีจิต มีวิญญาณที่เต็มไปด้วยแรงขับของจิตใจ เหมือนจะขับจากความต้องการของตัวเอง อยากได้โน่น อยากทำนี่ มาผลักดันให้เลี้ยวซ้าย แลขวา ทุกคนเลยครับที่เดินสวนไปมา น่ากลัวมากครับ ทำอย่างไร เดินไปไหน ก็ไม่หายซะที กลัวความว่างเปล่าของร่างกาย ว่าเรา ว่าเค้า ก็มีกันแค่นี้เอง แค่กล้ามเนื้อแดงๆ เดินได้ ซักครู่นึงก็ค่อยๆ หายไปเอง
หลังจากนั้นซัก 2-3 วัน ได้ทบทวนตำรา ในเดือนที่ ๖ ตอน สัมมาสังกัปปะ, รบชนะ สักแต่ว่ารู้อาการที่จิตสว่างมาก แล้วน้อยลง โดยไม่ละความเพียรในการเดินจงกรม จึงลองมาปรับใช้บ้างน่ะครับ พอเจริญสติได้ แล้วพยายามประคองไว้ พบว่า จิตมีอาการแปลกไปครับ ลมหายใจที่เคยรู้สึกอยู่ที่ปลายจมูก เหมือนห่างออกไปไกลถึงปลายเท้า แขนขาที่รู้สึก ก็รู้สึกว่า ห่างออกไปไกลกว่าเดิมในอัตราส่วนใกล้เคียงกัน มันโล่งๆ ยังไงไม่รู้ครับ ลมหายใจก็เบาลงจนเริ่มตามได้ยาก ความคิดที่ลอยมาก็เบาบางลง สักแต่ว่ารู้แล้วก็ผ่านไป พยายามตามอยู่ครับ พอตามๆ ไป บางที ก็เหมือนมีใครมาค่อยๆ เปิดไปในห้อง เหมือนค่อยๆ สว่างขึ้นมานิดหน่อย แล้วก็ค่อยๆหรี่ไป 2-3 รอบ แล้วซักพักนึง มีความคิดหนึ่งลอยมาว่า "ออกได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า" ก็เลยพยายามออก ค่อยๆ ลืมตาช้าๆ ปวดหัวครับ ปวดหนักๆ เลย ก็เลยหลับตาใหม่แล้วค่อยๆ กำหนดรู้ตัวจาก ปลายมือปลายเท้า หายใจให้แรงขึ้น นึกถึงพระรัตนตรัย นับ 123 แล้วออกมา ก็ยังปวดหัวมากอยู่ดีครับ มึนไปหมด ลงมือนอนก็นอนไม่หลับ กระสับกระส่ายทั้งคืน จนเช้า กว่าจะดีขึ้นก็ค่ำๆ เลยครับ มึนๆ หนักๆ ทั้งวัน มานึกๆ เรื่องเมื่อคืน ก็อนุมานเอาเองว่าเป็นวิริยะกับแสงสว่างของปิติ ที่เรียกว่าโอภาศ...

1. ตามโพชฌงค์ทั้ง ๔ องค์ที่ผมอนุมานเอาเองถูกต้องหรือไม่ อย่างไรครับ แล้วสมควรต้องมาสงสัยมั้ยครับว่า ถูกหรือไม่ถูก

2. เห็นกายตนเองเป็นอย่างนั้น ผมเข้าใจว่าอาจจะเป็นอสุภะสัญญาเหมือนรบชนะ ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ และแม้ว่าจะค่อนข้างน่ากลัว ผมก็เข้าใจเอาเองว่า น่าจะตามดูตามรู้ต่อไปเฉยๆ สักแต่ว่ารู้ ถูกมั้ยครับ ผมควรแก้ไข ระวัง หรือทำอะไรมากกว่านี้หรือไม่ครับ ผมเข้าใจว่าอสุภะสัญญา มีไว้เพื่อลดกามกิเลส ผมต้องพยายามเก็บความรู้สึกนี้เอาไว้สู้กับกามเวลาถูกกระทบ หรือไม่ อย่างไรครับ

3. ผมไม่รู้ว่า สมาธิผมระดับไหน แต่สมาธิระดับนั้น ออกจากสมาธิอย่างไรไม่ให้มีผลข้างเคียงครับ ครั้งก่อนๆ รู้สึกสงบอยู่ ทำไม่คราวที่รีบออกถึงปวดหัวนัก แก้ไขอย่างไรครับ


ค่อนข้างยาวทีเดียว ถ้าไม่เป็นการลำบาก ก็ขอความช่วยเหลือด้วยนะครับ

ขอบคุณจากใจจริงอีกครั้งครับ

จากคุณ : pormaid [ ตอบ: 13 ต.ค. 50 00:34 ] ยังไม่แนะนำตัว | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 9 | ฝากข้อความ | MSN |


Create Date : 02 มกราคม 2551
Last Update : 2 มกราคม 2551 18:11:55 น. 0 comments
Counter : 253 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Pormaid
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




---กราบแทบเท้าอาจารย์ ผู้บอกทางที่พระพุทธองค์ท่านตรัสไว้ดีแล้ว ว่ามีอยู่จริง ไปได้จริง ไม่ยากเกินมนุษย์คนหนึ่งจะทำได้... ท่านหนึ่งเป็นฆราวาส ท่านหนึ่งเป็นพระภิกษุ และมีอีกหลายท่านที่ไม่มีวาสนาบารมีพอจะได้รับคำสอนจากท่านเหล่านั้น... กราบนมัสการด้วยเศียรเกล้าครับ _/l\_---


ใครที่ผ่านเข้ามาอ่านก็คงจะงงๆ หน่อยนะครับ ส่วนหนึ่ง ผมตั้งใจจะเขียน blog นี้เพื่อเป็นบันทึกในการปฏิบัติธรรมตามมหาสติปัฏฐานสูตร เอาไว้อ้างอิงสำหรับตนเองเพื่อปรับปรุงแก้ไข และสำหรับท่านผู้สนใจ เส้นทางการปฏิบัติที่ผมเดินผ่านมาในอดีต...

อีกส่วนหนึ่ง เป็นความคิด และมุมมองทางโลก ซึ่งส่วนใหญ่ค่อนข้างก้าวร้าวซักหน่อย แต่เกือบทั้งหมดเกิดขึ้นก่อนที่จะหันหน้าเข้าทางธรรม อีกนัยหนึ่ง มุมมองทางโลก อาจจะผลักดันให้ผมหันหน้าหาธรรมะก็ได้

เหมือนผมจะมี 2 บุคลิกนะครับ
Friends' blogs
[Add Pormaid's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.