Group Blog
หลวงพระบาง 2547
My Gang
บาหลี 2548
สิงคโปร์
ออสเตรเลีย2548
ฮังการี-เชค-ออสเตรีย-เยอรมัน 2549
ฮ่องกง-มาเก๊า
เขาใหญ่ 2549
สวิส - เยอรมัน 2550
โรงแรมหรูที่เคยไป
มาเลเซีย
เขมร 2549
เวียตนาม 2551
ญี่ปุ่น 2551
กิน...กิน..แล้วก็กิน
Yogjakarta 2010
Taiwan 2010
Turkey 2011
Taiwan 2012
<<
มกราคม 2552
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
26 มกราคม 2552
ตุหรัดตุเหร่ไปในเวียตนาม ตอนที่ 4
All Blogs
ตุหรัดตุเหร่ไปในเวียตนาม ตอนที่ 6(จบซะที)
ตุหรัดตุเหร่ไปในเวียตนาม ตอนที่ 5
ตุหรัดตุเหร่ไปในเวียตนาม ตอนที่ 4
ตุหรัดตุเหร่ไปในเวียตนาม ตอนที่ 3
ตุหรัดตุเหร่ไปในเวียตนาม ตอนที่ 2
ตุหรัดตุเหร่ไปในเวียตนาม ตอนที่ 1
ตุหรัดตุเหร่ไปในเวียตนาม ตอนที่ 4
วันที่ 4
วันนี้เราจะต้องนั่งรถ Open Bus ไปเมืองฮอยอันในช่วงบ่าย เป็นที่น่าเสียดายว่า เราจะไม่ได้นั่งสายชมวิวเส้นทาง Hai Van Pass เนื่องจากได้รับการยืนยัน(ไม่รู้โดนหลอกหรือเปล่า)จากบ.ทัวร์ รวมทั้ง Shin Cafe ว่าเดี๋ยวนี้รถทุกคันจะวิ่งผ่านอุโมงค์ตัดตรงไปเลย ก็เลยกลับไปซื้อตั๋วที่บ.ทัวร์ของโรงแรม Duy Tan เจ้าเก่า เพราะเค้าคิดราคาให้ถูกลงไปคนละ 1 USD เจ้าหน้าที่บอกว่าของเค้ารถดีกว่าของที่อื่น(อีกแระ) เอาก็เอา ไม่มีทางเลือกนี่หน่า
ตอนเช้าเราก็เลยเดินข้ามแม่น้ำหอมเพื่อไปเดินตลาดกัน แล้วก็ซื้อเสื้อหนาวเพิ่มให้พ่อด้วย ตอนแรกที่มี น้องสาวก็เตือนแล้วนะ ว่าให้หอบเสื้อหนาวไปเผื่อด้วย เพราะเพื่อนน้องที่มาก่อนหน้านี้ ไม่ได้เตรียมเสื้อหนาวมา ต้องมาซื้อเอาที่เวียตนาม เพราะทนหนาวไม่ไหว แต่พวกเราก็ไม่ได้เชื่อเท่าไหร่ เพราะคิดว่า เวลาที่เรามานั้น เมืองไทยก็ร้อนตับแล่บ เวียตนามอยู่ในเส้นละติจูดที่ไม่ได้สูงกว่าเราเท่าไหร่ คงไม่เท่าไหร่หรอก โดยเฉพาะคุณพ่อ เพราะตอนแรกไม่ได้เอาเสื้อหนาวมาเลย แล้วยังเอากางเกงขาสั้นมาอีกต่างหาก เหมือนกะจะมาเดินเล่นแถว ๆ บ้านเลย จนแม่ทนไม่ไหว ต้องจับเสื้อหนาวยัดใส่กระเป๋ามาให้ 1 ตัว เผื่อไว้ โชคดีนะเนี่ยที่เอามาด้วย แต่ก็ไม่ไหว เพราะไม่สบายด้วย เลยต้องไปซื้อเสื้อกั๊กเพิ่มอีกที่ตลาด ซึ่งราคาทางฝั่งตลาด ถูกว่าฝั่งที่เราพักมาก เนื่องจากฝั่งที่เราพักนั้นเป็นแหล่งนักท่องเที่ยว ราคาเลยสูงขึ้นไป ตลาดที่นี่มีอาหารทะเลขายเยอะแยะไปหมด ทั้งปลาเค็ม กะปิ กุ้งแห้ง ปลาหมึกแห้ง ที่ถามดูราคาก็ไม่แพง(ไม่รู้เวลาชั่งจะโกงน้ำหนักหรือเปล่า) แต่กลิ่นแรงเหลือเกิน เลยตัดสินใจไม่ซื้อดีกว่า กลัวกระเป๋าเหม็น ก็เลยเดินเล่นอย่างเดียว จนมาเจอร้านเบเกอรี่เจ้าหนึ่ง คนซื้อเยอะเหลือเกิน เลยเข้าไปมุงกะเค้าด้วย เห็นคนซื้อขนมไข่กันเยอะแยะไปหมด เลยลองซื้อมาชิมบ้าง อืม ก็เฉย ๆ แต่ถูกดี แต่ที่ถูกใจสุด ๆ ในร้านนั้นก็คือ มีขายเนยแข็งแบบนิ่ม กล่องกลม ๆ ราคาแสนถูก กล่องละ 40 บาทเอง ส่วนแบบ cube มี 24 ก้อนเล็ก ๆ พอคำ แพงหน่อย กล่องละ 80 บาท บ้านเราขาย 120บาท ก็เลยโกยมา 4 กล่อง
เดินตลาดเสร็จก็ออกเดินต่อไปยังประราชวังต้องห้าม แต่ก็เดินดูแค่รอบนอก เนื่องจากเวลาไม่พอ
รูปนี้ถ่ายจากประตูหน้าเข้าไป ชมวิวมุมกว้างของพระราชวังแบบไม่เสียตังค์
เดินแป๊บเดียวก็เกือบเที่ยงแล้ว เราต้องไปขึ้นรถตอนบ่ายโมงครึ่ง เลยเดินกลับมาหาข้าวกลางวันกินก่อนแถว ๆ ที่พัก อืม ก็อร่อยอีกแล้ว ทำไมเป็นคนกินง่ายแบบนี้เนี่ย อะไร ๆ ก็อร่อยไปหมดเลย ไม่ต้องฝืนใจกินซักกะมื้อเลย
พอเห็นรถที่เราจะต้องเดินทางไปนั้น แทบไม่อยากขึ้นเลย อยากไปนั่งรถแบบไม่สบายจังเลย เราโดนนั่งรถแบบ Sleeping Bus อีกแล้ว ตาคนที่บ.ทัวร์ก็ออกมาส่งด้วยความภูมิใจประมาณว่าเป็นไงล่ะ สบายมั๊ย ดูดีกว่ารถของ An Pu เยอะเลย (แต่ช้านไม่ต้องการอ่ะ) ครอบครัวเรามองหน้ากัน เห็นด้วยกระแสจิตว่า พวกเราอยากนั่งรถเก่า ๆ โทรม ๆ ข้างหลังมากกว่า เข็ดกับรถ Sleeping Bus ยังไงก็ไม่รู้ แล้วก็เหมือนเดิม เราได้นั่งแถวหลังสุดอีกแล้ว แต่ก็ยังดีที่ได้นั่งเดี่ยว 1 ที่ เพราะแม่หลังไม่ดี คราวนี้นั่งสบายกว่าตอนขามาเยอะเลย คงเป็นเพราะนั่งกับคนเวียตนามซึ่งตัวเล็ก ไม่กินที่ ไม่เหมือนครั้งแรกเป็นฝรั่งตัวใหญ่ ที่เลยแคบเกินไป แต่ก็ยังยืนยันคำเดิม ก็คือ เราชอบนั่งรถแบบเก้าอี้ธรรมดามากว่า นั่งอาจสบายสู้ไม่ได้ แต่สามารถเปลี่ยนอิริยาบทได้ มองวิวได้สบายกว่า ระหว่างทางเจออุบัติเหตุรถบรรทุกชนกันเกือบตกไหล่ทาง(ทางเป็นทางขึ้นเขา ) ถ้ารถไถลอีกนิดเดียวก็คงไปนอนแอ้งแม้งอยู่พื้นข้างล่างแน่ ๆ คิดมานานแล้ว ว่าที่นี่ไม่มีอุบัติเหตุหรืออย่างไร ขับรถกันน่าหวาดเสียวก็ปานนั้น ใครว่าเวียตนามขับรถช้ากันเนี่ย ไม่รู้ว่าความเร็วเท่าไหร่หรอกนะ แต่ขับกันได้หวาดเสียวมาก ๆ เลย จนอดนึกไม่ได้ว่าขับกันอย่างงี้ไม่เกิดอุบัติเหตุมั่งหรือ เจอเหตุการณ์นี้ก็หายคาใจแล้ว
รถมาแวะจอดให้ลงไปยึดเส้นยึดสาย พักกินข้าว เข้าห้องน้ำที่ Lang Co Beach แต่ขี้เกียจลง แดดร้อนมาก เลยนอนรออยู่บนรถ จากนั้นก็มาแวะที่เมืองดานังเพื่อส่งผู้โดยสารลง ไม่ได้แวะถ้ำตามที่อ่านมา รถแล่นผ่านไปเลย และแล่นไปตามถนนเลียบชายหาด เมื่อรถแล่นมาตามถนนสายเล็ก ๆ ที่เลี้ยวมาจากถนนเลียบชายหาดแล้วก็จอดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เดี่ยว ๆ ริมถนน ไม่มีสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นเลย พร้อมกับมีคนขึ้นมาประกาศว่ารถเราได้มาถึงฮอยอันแล้ว ป้ายนี้คือฮอยอัน จากจุดนี้ไปรถจะไปจอดอีกครั้งที่เมืองนาตรัง ซึ่งห่างไปอีกประมาณ 200 กิโลเมตร ตอนแรกเราไม่เชื่อ โกหกให้ลงไปพักโรงแรมนี้ชัวร์เลย ก็ยึก ๆ ยัก ๆ ไม่ยอมลง แอบกระซิบถามคนขับก็ดันส่งเราไปให้พูดกับไอ้คนที่ขึ้นมาประกาศอีก อย่างงี้ก็เข้าทางคุณพี่เค้าหละ แล้วก็มีฝรั่งเดินลงกันมาหลายคน ตามด้วยพ่อกับแม่ตัวเอง ก็เลยลงก็ได้ แล้วก็เลยโดนน้องนางเวียตนามต้อนให้ขึ้นไปดูห้อง ห้องก็ใหม่ สวย สะอาดดี แต่ว่าไม่เห็นเมืองฮอยอันเลย จำได้ว่าโรงแรมอยู่นอกเขตเมืองเก่า แต่ก็สามารถเดินได้ไม่ไกล แล้วก็มีโรงแรมเป็นดงเลยนี่หน่า โดนไอ้รถทัวร์หลอกอีกแน่ ๆ เลย และที่สำคัญ คุณแม่เราขี่จักรยานไม่เป็นอยู่คนเดียว อย่างงี้ชั้นก็ต้องรับภาระกระเตงแม่ซ้อนท้ายแน่ ๆ เลย ถ้าพักโรงแรมนี้ ไม่เอาดีกว่า คิดได้แล้วก็ชวนผู้ปกครองเผ่นออกจากโรงแรมนี้ แล้วเราก็ออกเดินไปตามถนนสายเปลี่ยวที่พวกที่โดนหลอกร่วมกับเราได้เดินกันไปแล้วอยู่ลิบ ๆ เดิน ๆ ๆ ไปกิโลกว่า ๆ แถมลากกระเป๋าใบใหญ่อีกต่างหาก ระหว่างกำลังเดิน แม่ก็พูดเล่น ๆ ว่าสงสัยถ้าเราเดินเข้าไปในเมืองสำเร็จ เราคงจะเจอรถทัวร์ที่ปล่อยเราลงแน่ ๆ เลย ว่ามั๊ย อืม น่าคิดนะ เพราะความเจ็บใจที่โดนหลอก มักมาหลอนเราตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่เลย
ในที่สุดเราก็เดินต๊อกแต๊ก เข้าเมืองมาจนสำเร็จ จากที่เรามาถึงในตอนบ่ายแก่ๆ กว่าจะดั้นด้นเข้าเมืองมาได้ก็เริ่มมืดแล้ว ในที่สุดเราก็เดินมาจนถึงดงโรงแรมที่คิดว่าจะมาหาที่พักบนถนน Nhi Trang แล้วก็เดินเลือกโรงแรม สำรวจห้องกันไป จนได้ห้องที่เหมาะใจคือที่โรงแรม Thanh Binh II แต่ก่อนที่จะเข้าโรงแรมนั้น สายตาก็ได้เหลือบไปเห็นรถทัวร์ที่จอดฝั่งตรงข้าม เอ๊ะ ยี่ห้อทัวร์คุ้น ๆ แต่พยายามคิดว่าไม่น่าใช่รถคันที่เรามาหรอก มันบอกว่ามันจะไปนาตรังเลยนิหน่า ไม่จอดฮอยอันแล้ว.....เหรอ ???? อืม ต้องสอดส่ายสายตาหาหน้าคุ้น ๆ ซะหน่อย แล้วก็เจอจริง ๆ ด้วย แงงงงงงงง้ โดนมันหลอกอีแล้ว มันเป็นรถทัวร์คันเดียวกับที่ปล่อยเราลงที่โรงแรมโน้นนั่นแหละ แล้วมันก็มาจอดหน้าโรงแรมที่เราดั้นด้นเดินมาพัก แค้นนนนนนนนจริง ๆ นะ แค้นจนหันมามองหน้าพ่อกะแม่แล้วก็หัวเราะกันใหญ่ แบบว่าความแค้นสุมอก ไปด่ามันก็เท่านั้น โง่ลงมาเองนิ แล้วก็เดินมาถึงแล้วนี่ ก็เลยนึกถึงหนังสือเรื่องเสียดายคนอินเดียไม่ได้อ่านมาตะหงิด ๆ เรื่องการถูกหลอก เขาบอกว่า ข้อดีของการถูกหลอกคือ มัน ทำให้เรามีเรื่องเล่า แต่ว่า....โดนหลอกไปซะเยอะ กลับมาก็เลยมีเรื่องเล่าเยอะแยะไปเล่าให้คนรู้จักฟังได้ตั้งหลายหน คูณสามด้วย เพราะไปกัน 3 คน คุ้มเนอะ (บ้านหล่อนรวยเนอะ ซื้อไปซะเยอะเลย เรื่องเล่าเนี่ย คนเขียนจิกกัดตัวเองและบุพการี)
กลับมาเรื่องของเราต่อ พอได้ห้องเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปหาข้าวเย็นกิน พร้อมกับเดินชมเมืองเลย โดยกะว่าจะไปนั่งกินข้าวชมบรรยากาศริมน้ำซะหน่อย ร้านอาหารเก๋ ๆ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำทูโบน ประดับด้วยโคมไฟสีสวย บรรยากาศดูย้อนยุค เมืองนี้เป็นเมืองที่เราเห็นฝรั่งเดินกันเยอะมากที่สุดจากทุกเมืองที่ผ่านมา เป็นเมืองที่เหมาะกับการเดินเล่นในเวียตนาม เพราะรถมอร์เตอร์ไซด์วิ่งกันไม่เยอะ ไม่ต้องระวังมาก บ้านเรือน 2 ข้างทางก็ตกแต่งได้เก๋สมเป็นเมืองเก่า แต่ขอบ่นหน่อยว่า น่าจะปรับปรุงถนนให้ดีกว่านี้หน่อย เป็นหลุมเป็นบ่อซะเยอะ
เราเดินไป เดินมาเพราะเลือกไม่ถูกว่าจะกินร้านไหนดี เห็นคนเยอะทุกร้าน แสดงว่าคงอร่อยหมดทุกร้าน เลือกไม่ถูก จนคุณพ่อเริ่มหงุดหงิด เพราะเดินเยอะแล้วนะ ไม่ได้กินซะที แหม ก็มันทำใจลำบาก ไม่ได้อยู่หลายวันซะหน่อย จะได้เข้ามันทุกร้าน เราอยู่แค่คืนนี้ แล้วก็พรุ่งนี้เองนะ ต้องพิถีพิถันหน่อย แต่สุดท้ายก็เลือกได้ร้านนึงริมน้ำ คุณรู้มั๊ย ว่าคำว่าเลือกนักมักได้แร่มันมักจะมาหาเราเสมอ ร้านที่เราเลือกดันเป็นร้านเหล้า แล้วก็ขายอาหารฝรั่งไปซะนี่ แล้วก็ไม่ได้นั่งบรรยากาศริมน้ำด้วย หงิง ๆ สบตากัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก เราแว้บหายไปจากร้านกันเถอะ ระหว่างที่คนเสิร์ฟกำลังเผลอจะไปเตรียมน้ำ รีบขอโทษเค้าแล้วเผ่นออกจากร้านไปเลย คราวนี้ พ่อทนไม่ไหวแล้ว พอออกมาตั้งหลักได้ก็จับพวกเราเข้าไปร้านเยื้อง ๆ กับร้านที่เพิ่งออกมา ไม่ติดริมน้ำ แล้วยังไม่ให้ขึ้นไปนั่งชมวิวข้างบนด้วย เพราะพ่อขาไม่ดี ขี้เกียจเดินขึ้นบันได ร้านนี้ชื่อร้าน Madam Ly คนละร้านกับร้านแนะนำใน LP แต่อาหารอร่อยเด็ดขาด จัดมาสวยเชียว
White Rose อาหารขึ้นชื่อประจำเมืองนี้
จานนี้เป็นขนมเบื้องญวณ จัดมาในกระจาดไม่ตอก ประดับด้วยผักกินแนมกัน สวยกว่าทุกร้านที่กินมา กินไป ดูอาหารไป อารมณ์สุนทรีย์สุด ๆ
กุ้งพันอ้อย หน้าตางามแล้วรสชาติก็อร่อยด้วย
กินกันอิ่มแปร้เลย แล้วก็กลับมานอนหลับสบาย
Create Date : 26 มกราคม 2552
Last Update : 26 มกราคม 2552 16:14:41 น.
2 comments
Counter : 530 Pageviews.
Share
Tweet
แวะมาเที่ยวด้วยคนค่ะ เห็นเมนูอาหารแล้วน่าทานจังเลย
โดย:
mamminnie
วันที่: 26 มกราคม 2552 เวลา:17:35:41 น.
แอบไปเที่ยวเวียดนามด้วยคนค้า
โดย: ปูเสื่อรออ่าน IP: 121.91.221.134 วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:8:57:04 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
นู๋Poopy
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [
?
]
http://fastwebcounter.com
Friends' blogs
อุณากรรณ
wayo
ninaM
beebah
Devil Cupid
ตงเหลงฉ่า
O-HO
BlogGang.com
ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์
มิถุนายน
หมาเลี้ยงแกะ
Picike
P_JUNG_PIGLET
มดx-v3
daonari
แตนต่อย
pinkyjung
รำเพย
ผู้สาวเมืองยศ
MONIQUE
invisible-angel
Webmaster - BlogGang
[Add นู๋Poopy's blog to your web]
Links
Blogอีกแห่งของเราเอง
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.