หม่ามี๊กับปะป๊ากลับถึงบ้านเมื่อตอนเย็นวันจันทร์ ภาพห้องนั่งเล่นที่เห็น อยู่ในสภาวะหลังสงครามก็ว่าได้ ของเล่นเกลื่อนพื้น และมีกระดาษฉีกขาดอยู่บนพื้น พร้อมกับคำรายงานจิตพิสัยหลังการถล่มบ้านของพี่ปูนปั้นและปั้นแป้งว่า "ก่อนที่ปะป๊าหม่ามี๊จะเข้าบ้าน พี่ปูนปั้นทำบ้านเละ โยนของ และ พี่ปูนปั้นตีน้อง" สิ่งแรกที่เราทำหลังจากได้เห็นภาพ และได้ยินเรื่องราวเหล่านั้น คืออะไร ... ลองเดากันฮะ แล้วมาแบ่งปันประสบการณ์กัน สิ่งแรกคือ ปะป๊าเดินไปหาปูนปั้น คุยกันแบบปกติว่า ปะป๊า : ปูนปั้นครับ ของเล่นมันเกลื่อนไปหมดและมีเศษกระดาษฉีกด้วย เกิดอะไรขึ้นครับ ปูนปั้น : ปูนปั้นอยากฉีกกระดาษมาล่อมด เพราะมดมันเดินมากินขนม ปะป๊า : อืมมม ปูนปั้นครับ เราตกลงกันไว้ว่าในครอบครัวเราว่ายังไงนะครับ ปูนปั้น : เราจะพูดแต่ความจริง ปะป๊า : ใช่เลย บอกปะป๊าได้มั้ยครับ ว่าทำไมฉีกกระดาษ ปูนปั้น : ปูนปั้นฉีกเล่นครับ ปะป๊า : OK เมื่อกี้ทำไมปูนปั้นไม่ตอบอันนี้เอ่ย ปูนปั้น : ปูนปั้นกลัวปะป๊าดุ ปะป๊า : ปะป๊าดุแล้วน่ากลัวหรอ ปูนปั้น : ก็ปะป๊าจะไม่ยิ้ม ปะป๊า : OK ไม่เป็นไร ปะป๊าไม่ได้จะดุ ปะป๊าเข้าใจ ปูนปั้นคงเล่นสนุกมาก ปูนปั้นเก็บของให้เสร็จแล้วเราค่อยมาทำการบ้านและอ่านหนังสือกันมั้ย ปูนปั้น : ได้ครับ ปะป๊า : ครั้งนี้ปะป๊าจะช่วยนิดเดียวนะ เพราะปูนปั้นรื้อเองก็ต้องเก็บเองง (ในระหว่างนั้น ก็ช่วยแค่เล็กๆน้อยๆ แค่ไม่ให้เขาเสียกำลังใจ) เก็บทีละชิ้น สองชิ้น จนเสร็จ เกลี้ยง พอเก็บของเสร็จ เราก็ชมเชยว่าต้องแบบนี้สิ ทำแล้วก็ต้องเก็บเองให้เรียบร้อย ปะป๊ารู้ว่าพี่ปูนปั้นมีความรับผิดชอบ เราให้เขาเบรกดื่มน้ำ ขนมเล็กน้อย พอเตรียมการบ้านที่ต้องทำพร้อม อารมณ์พร้อม ปะป๊า : ปูนปั้นครับ ปะป๊ามีเรื่องจะคุยกับปูนปั้นอีกเรื่องนึง OK มั้ย ปูนปั้น : OK ครับ ปะป๊า : เราจะพูดกันแต่เรื่องจริงใช่มั้ยเอ่ย ปูนปั้น : ใช่ครับ (เอามือตบกันเป็นสัญญา) ปะป๊า : ปูนปั้นตีน้องหรอครับ ปูนปั้น : ครับ (ตอบชัดเจน ไม่อิดออด) ปะป๊า : ทำไมเอ่ย ปูนปั้น : เพราะปั้นแป้งดื้อครับ โยนของ ปะป๊า : ปูนปั้นไปดึงของจากมือน้อง ตอนน้องเล่นอยู่หรือป่าวครับ ปูนปั้น : ป่าวครับ ปะป๊า : OK ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว เพราะถ้าน้องเล่นอยู่แล้วพี่ปูนปั้นจะไปดึงมาเก็บน้องคงไม่ชอบใจแต่ถ้าไม่ได้ทำแบบนั้นก็ดีแล้ว ปูนปั้นลองนึกซิ เวลาปูนปั้นดื้อปะป๊าตีมั้ย ปูนปั้น : ไม่ครับ ... แต่บางครั้งก็ตีนะครับ ปะป๊า : เวลาปะป๊าตี ปะป๊าตีเจ็บมั้ย ปูนปั้น : ไม่เจ็บครับ ปะป๊า : ปะป๊าบอกก่อนมั้ยว่าจะตี และทำไมตี ปูนปั้น : บอกครับ ปะป๊า : ปะป๊าตีครั้งสุดท้ายนานมากหรือยัง ปูนปั้น : จำไม่ได้แล้ว ปะป๊า : ที่ปะป๊าตีไม่เจ็บ ที่ปะป๊าบอกก่อน เพราะปะป๊าไม่ได้อยากตีไงครับปะป๊าแค่บอกให้รู้ว่าอันนี้ไม่ดีนะ ปะป๊าก็เลยตีแบบมือแปะๆใช่มั้ย ทำไมปะป๊าไม่ตีปูนปั้นรู้มั้ยครับ ปูนปั้น : เพราะปูนปั้นเป็นเด็กดี ปะป๊า : นั่นก็ใช่ แต่ที่สำคัญคือ ปะป๊ารู้ว่า เราคุยกันรู้เรื่องมีอะไรเราก็คุยกันใช่มั้ย ไม่ต้องใช้ตี ปูนปั้น : (พยักหน้า) ปะป๊า : แล้วถ้าน้องดื้อปูนปั้นคิดว่าจะใช้วิธีตี หรือวิธีพูดคุยแบบปะป๊าดีครับ ปูนปั้น : พูดคุยแบบปะป๊าครับ 1) เราเลือกที่จะเริ่มคุยกับเขาด้วยอารมณ์ปกติไม่ใช่ขุ่นมัวจากของที่เกลื่อนพื้นเพราะเราต้องรู้จักว่าลูกเราเป็นอย่างไงอย่างปูนปั้น เรารู้ว่า ปกติเล่นเสร็จก่อนจะไปทำอย่างอื่น เราจะให้เก็บของก่อน ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่โตเป็นธรรมชาติที่เขา OK เราจึงเลือกคุยเรื่องนี้ เพราะทำเสร็จ เขาจะได้รับคำชม ได้เบรกจนอารมณ์ปกติ พร้อมที่จะคุยเรื่องในสเต็ปต่อไป 2) พอจบข้อ 1) ได้พักเราก็ค่อยชวนคุยเรื่องน้อง พอตอนนี้อารมณ์พร้อมไม่กลัวถูกดุ เพราะทำดีมาและอารมณ์นิ่ง เขาก็จะพูดด้วยความสบายใจ เข้าใจกันและเขาไม่รู้สึกว่าโดนตำหนิเรื่องน้อง พอทุกอย่างอยู่ในภาวะปกติพี่ปูนปั้นก็เดินเอาของเล่นไปให้น้องเอง ก่อนจะกลับมาทำภารกิจตามสัญญา คือ เราก็ทำการบ้านด้วยกันแบบสนุกสนาน จากนั้นก็ตามด้วย อ่านหนังสือนิทาน 4 เล่มตามที่พี่ปูนปั้นเลือก
เมื่ออารมณ์ดีก็ได้เวลาขึ้นนอน ขึ้นไปเจอน้องก็กอดปล้ำ ฟังเพลงกล่อมนอน และคืนนั้นก็เริ่มความฝันอย่างสวยงาม
Create Date : 20 ธันวาคม 2560 |
Last Update : 20 ธันวาคม 2560 15:36:31 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1068 Pageviews. |
|
|
ลูสาวคนเดียวที่บ้านก็จะทะเลาะกับแม่นี่แหละค่ะ หุหุ