*** ความสุขเล็ก ๆ ของ ๆ คนหนึ่ง ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหม ว่ามันจะเป็นเพียงแค่การได้อยู่ ได้มอง ได้เห็น และสัมผัส สิ่งมีชีิวิตเล็ก ๆ ที่เรียกว่าลูก เติบโต ตามวัย คืน และวัน โดยไม่จำเป็นต้องมีสิ่งประกอบใดอีก ***

ไม่ต้องการรักแท้ขอแค่คนดูแลหัวใจ (นิยาย) ตอนที่ 4


อรอุมาเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ วันนี้เป็นวันแรกที่หล่อนจะต้องทำงานที่นี่ จึงมาเช้ากว่าปกติ และสังเกตได้ว่าภายในห้องรับแขกนี่ ได้มีโต๊ะทำงานเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งโต๊ะซึ่งน่าจะเป็นโต๊ะทำงานของหล่อนมีโทรศัพท์และเครื่องคิดเลข วางอยู่ด้วย แม้มีโต๊ะทำงานเพิ่มขึ้นมาอีกแต่ห้องนี้ก็ไม่ได้ดูแคบลงเลย มันกว้างขวางเพราะที่จะใช้เป็นสำนักงานอยู่แล้ว

แต่ว่าวันนี้ ปราณหายไปไหนเสียละ

เสียงกุกกักดังมาจากด้านหลังทำให้หญิงสาวหันไปมองด้วยความสนใจ

“บางทีเขาอาจจะทานอาหารอยู่ข้างใน”

หญิงสาวคิดเบา ๆ ก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไปดูและก็ทำหน้าตาเหรอหราด้วยความตกใจเมื่อเป็นปราณกำลังสวมขาเทียมอยู่

“อ้าวคุณอรมาเช้าดีนะครับ”

“เอ้อคะ..นั่นคุณหมายความว่า..”

อ้อที่เขามักจะนั่งนิ่งไม่ขยับไปไหนนี่เพียงเพราะว่าเขาไม่มีขาข้างหนึ่งนะเหรอไม่ใช่สิ ขาข้างหนึ่งเขาหายไป ก็ความหมายเดียวกันนี่หว่า

อรอุมาด้วยความสับสน ขณะที่ปราณสวมขาเทียมเสร็จก็ยืดตัวขึ้นตรง เขาดูสีหน้าของอรอุมาก็พอรับรู้ว่าบางทีหล่อนอาจจะรับไม่ได้กับสิ่งที่เห็นในตอนนี้

“ขาผมถูกตัดไปตั้งแต่ตอนที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อ 5 ปีก่อนแล้วครับ”

เขาบอกในสิ่งที่เป็นความจริง

“ไม่ทราบว่าคุณอรจะรังเกียจเจ้านายที่พิการอย่างผมหรือเปล่าครับ”

ถามไปก็นึกลุ้นว่าเขาคนตรงหน้าจะมีความรู้สึกยังไง

“อร..”

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรครับ”

“เดี๋ยวก่อนสิคะ อรต้องการทำงานนะคะ และอรก็คิดว่า เรื่องขาของคุณไม่ใช่ปัญหาของอรนะคะ ใช่ไหมคะ คุณต้องการผู้ช่วยเพราะเหตุนี้เอง อรรู้ก็จะได้เข้าใจ และปรับตัวด้วยไงคะ อีกอย่าง ตอนนี้อรก็ตกงานด้วย ไปหางานทำแต่ละแห่งกว่าจะได้ให้อรทำงานที่นี่นะคะ”

คำพูดแบบนี้ ของอรอุมาทำให้เขายิ้มออกมาได้

“ขอบคุณครับ”

ชายหนุ่มพยายามเดินตัวตรงไม่ยอมใช้ไม้เท้าพยุงออกมาด้านนอก โดยมีอรอุมาก้าวตามหลัง ด้วยความกลัวว่าเขาจะล้มหากแต่ก็ไม่ล้ม

“นั่นโต๊ะทำงานของคุณ ถ้าต้องการคอมพิวเตอร์ ผมจะให้วี่จัดการ ซื้อมาให้คุณใหม่ดีไหมครับ”

“คะ”

“ด้านหลังเป็นห้องครัวและห้องน้ำ คุณสามารถไปใช้ได้ที่นั่น ส่วนเรื่องอาหารจะโทรสั่งก็มีร้านอาหารเอามาส่งให้ครับ”

เขาอธิบายอะไรอีกยืดยาวขณะที่อรอุมาฟังบ้างไม่ฟังบ้างเพราะหล่อนกำลังชั่งใจอยู่ว่าหล่อนกำลังทำงานกับ ผู้ชายพิการ ไม่มีขาหนึ่งข้าง แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรเลย

“เอาวะอรอุมา ทำงานดูสักพักให้พอมีเงินตั้งหลักได้ แล้วค่อย ๆ ขยับขยายไปทีหลัง”

อรอุมาบอกตัวเองหน้ากระจกในห้องน้ำ ห้องน้ำที่นี่ก็สวยเสียเหลือเกิน คงไว้ใช้
รับแขกด้วย หล่อนเพิ่งรู้ว่า ปราณ อยู่ที่นี่คนเดียวและมีคนมาทำความสะอาดให้ในทุก ๆ เช้า ภายในบ้านหลังนี้มีเครื่องอำนวยความสะดวกได้ทุกอย่างด้านหน้าเป็นห้องรับแขก ที่ ๆ เขาใช้ชีวิตทำงานอยู่ที่นั่นเป็นส่วนใหญ่ ห้องกลางนี่เหมือนห้องเอนกประสงค์ ด้านซ้ายมือน่าจะเป็นห้องนอนของเขา มีด้านขวา เป็นห้องว่างที่น่าจะเป็นห้องเก่าของบิดามารดาของชายหนุ่มที่เสียไปเมื่อปีก่อน ส่วนด้านหลัง เป็นครัวสำเร็จรูป และห้องน้ำแสนสวยห้องนี้

ความจริงให้หล่อนใช้ชีวิตอยู่ที่นี่หล่อนก็ยอมนะ ดีกว่าห้องเช่าที่คับแคบที่อยู่ในปัจจุบัน

“คนพิการมักจะเหงา”

ดุษฏี เพื่อนสนิทที่อรอุมาแว้บหาหลังจากเลิกงานวันแรกเอ่ยขึ้น

“เขาไม่มีใครแน่หรือเปล่า แก”

“แน่สิอยู่คนเดียว ทำแต่งาน แกคิดว่าไง”

“ก็น่าจับ เอาชนะใจคนพิการไม่ยากหรอกแก จับไปเลยแกจะได้สบาย ฉันว่าเขา
คงมีเงินเยอะอยู่แหละจะใช้อะไรแกไปอยู่ก็ดูสวัสดิภาพทางการเงินดูสิว่า จะพอตั้งตัวได้ไหม ถ้าแกทำให้เขาชอบแกได้ทุกอย่างก็ง่าย”

“เหรอ แต่ขาเขา ขาดเหนือเข่า”

อรอุมาทำหน้าตากังวล จนดุษฏีหัวเราะ

“แกกลัวเรื่องนั้นด้วยเหรอวะ”

“นี่..มันก็สำคัญไม่ใช่เหรอยะ จะมีใครสักคนทั้งที นอกจากพิการแล้วถ้าจะใช้งาน
ไม่ได้ก็ไม่ไหวถึงจะรวยมีเงินเป็นเจ้าของไร่ก็เถอะ มันต้องคิดให้รอบคอบ”

“จริงของแก”

“งั้นก็ดู ๆ ไปก่อนอย่าเพิ่งอะไรมากมาย”

ดุษฏีสรุปง่าย ๆ

“แต่เทคโนโลยีสมัยนี้มันดีหลายอย่างนะแก อย่างน้อย ขาเทียมนั่นก็ทำให้เขา
เดินเหินเหมือนเป็นคนปกติไม่ใช่เหรอถ้าไม่สังเกตก็ไม่รู้ ยังไงมันก็เหมือนขาจริง ๆ นะแหละฉันว่านะ”

“ไม่รู้สิ”

นั่นเป็นปัญหาที่อรอุมาต้องคิด แต่ความอยากสบายทำให้หล่อนต้องคิดหนักมาก ๆ และการได้ทำงานกับ ปราณ สองต่อสองนั้นเป็นโอกาสให้หล่อนมากเท่าทวีคูณเชียวละ



เด็กผู้ชายที่กระโดดลงจากรถโฟวิลด์คันสูงนั้นทำให้สันติเพ่งมองด้วยความสนใจ

..นั่นลูกชายของเขา..

มีหลายอย่างในตัวเด็กชายที่มีเค้าเหมือนเขา ใบหน้าสดชื่นใสสะอาด ไร้เดียงสา ทำให้เขานึกรู้ว่า หล่อนสามารถเลี้ยงดูเจ้าซันได้ดีโดยไม่จำเป็นต้องมีเขา และดีมากอย่างที่เขาคาดไม่ถึงซะด้วย

วิกันดาเดินมาจะปิดประตูรั้วหากต้องตกใจเมื่อเห็นสันติเดินเข้ามา

“คุณ”

ดวงตาของหล่อนวาวโรจน์โกรธแค้นขึ้นมาอีกแล้ว

“ผมมาหาลูก”

“ไม่จำเป็น”

“ผมต้องการกราบพ่อแม่ของคุณด้วย”

“นั่นยิ่งไม่จำเป็นอย่างยิ่ง”

“มันจำเป็นมาก ๆ”

เขาเดินเลี่ยงเข้ามาอย่างไม่สนใจหล่อน ใบหน้าสวยขมวดคิ้วเข้าหากันไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนแค่ที่แน่ ๆ หล่อนวางใจเขาไม่ได้เลยดูไม่น่าไว้วางใจ ยังไงก็ไม่รู้

ทุกคนนิ่งเงียบมองดูสันติที่เพิ่งเดินเข้ามานั่งในห้องรับแขกและพนมมือไหว้ รวมถึงเจ้าซันด้วยที่จ้องหน้าเขาอย่างไม่วางตา วิกันดาเดินตามเข้ามาและคิดเดาได้ว่าบิดามารดาของหล่อนรู้สึกอย่างไร

“คุณสันติคะพ่อแม่ จำเขาได้ไหมคะ”

เสียงหล่อนเรียบเย็นสะกดอารมณ์เอาไว้แน่นในอก มันไม่ใช่ความรักหรอกที่หลงเหลืออยู่ตรงหน้าคือความแค้น แค้นที่เขาทิ้งหล่อน แค้นที่เขาเห็นผู้หญิงคนอื่นดีกว่าเมียและลูก แค้นที่แม้เวลาผ่านมาเนิ่นนานก็ยังไม่ยอมปล่อยให้หล่อนเป็นอิสระ

“เจ้าซันมาหาพ่อสิครับ”

เขาพยายามยิ้มให้กว้างที่สุดอ้าแขนเพื่อรอให้ลูกชายเดินเข้ามาหา หากเด็กชายเดินถอยหลังไปกอดผู้เป็นยายแน่น จ้องหน้าชายตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ

วิกันดาเดินเลี่ยงเข้าไปด้านใน

“เดี๋ยวก่อนสิวี่ผมมีเรื่องจะคุยกับวี่”

“วี่ไม่มีอะไรจะคุยกับคุณคะ มีเรื่องเดียวที่จะคุยก็คือคุณพร้อมจะไปอำเภอกับวี่ตอนไหน ช่วยทำทุกอย่างให้มันจบด้วยนะคะเพราะว่ามันผ่านมานานแล้ว”

หล่อนเดินหายเข้าไปแล้วขณะที่สันตินั่งนิ่งทุกคนกำลังมองเขาด้วยแววตาที่แปลกออกไป หากแต่เมื่อเขามาถึงนี่แล้วเขาก็ไม่ยอมถอยเหมือนกัน

“ผม ตั้งใจจะมารับวี่และลูกไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมครับ ที่ผ่านมาผมรู้ว่าผมผิด ผิดมากจนเกินให้อภัย แต่ผม ยังรักวี่และห่วงลูกเหมือนเดิมครับ และผมจะไม่มีวันหย่ากับวี่เด็ดขาด”

เสียงเขาหนักแน่นจนคนชราทั้งคู่ต้องถอนใจออกมา

“ให้โอกาสผมด้วยนะครับพ่อแม่ เจ้าซันควรจะมีพ่อแม่ครบบริบูรณ์ใช่ไหมครับ ไม่ควรจะเป็นลูกที่มีแม่แต่ห่างพ่อ ควรจะได้รับครอบครัวที่อบอุ่นและมีพร้อมหน้าพร้อมตากัน”

“ผมรักลูกมากนะครับไม่อย่างนั้นคงไม่มา”

อีกครั้งที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย แล้วเจ้าซันก็วิ่งเข้าไปด้านในหายไปด้วยอีกคน

“พ่อแม่ครับ ผม..”

“คุณมาสายเกินไปหรือเปล่า”

บิดาของวิกันดาเอ่ยขึ้นเป็นคำแรก

“คุณควรจะมาตั้งแต่ วันแรกที่วี่หอบลูกกลับมาที่นี่แล้ว เพราะวันนั้นเขายังรอคุณ รอว่าคุณจะสำนึกได้ รอว่าคุณจะมีความคิดแบบที่คุณพูดมา รอจนเขารู้ว่ามันไม่มีวันเป็นไปได้ ฉันว่า..มันสายไปแล้วละ”

“แต่วี่ก็ยังไม่มีใครเราเริ่มต้นใหม่ได้นี่ครับ”

“คุณสันติ”

มารดาของวิกันดาเรียกอดีตลูกเขยด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น

“กลับไปเถอะ พวกเรามีความสุขกันดีอยู่แล้ว นะฉันขอร้อง”

“ไม่ครับ”

ทว่าเสียงเขาหนักแน่นกว่า

“ผมจะมารับเมียและลูกของผมไปอยู่ด้วยและผมจะอยู่จนกว่าวี่จะใจอ่อน ผมไม่กลับไปง่าย ๆ หรอกครับ คุณแม่เห็นไหมครับลูกผมน่ารักขนาดไหน ฉลาดขนาดไหนแล้วจะให้ผมทิ้งแกลงได้ยังไง”

“คุณควรจะคิดแบบนี้ได้ตั้งแต่ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว คุณสันติ”

บิดาของหญิงสาวย้ำอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นพากันเดินออกไปทิ้งให้สันตินั่งนิ่งอยู่
คนเดียว

..ไม่หรอก เขายังไม่ยอมแพ้..





ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ

เร่งติกันหน่อยนะคะ




 

Create Date : 09 มิถุนายน 2554
7 comments
Last Update : 9 มิถุนายน 2554 9:09:07 น.
Counter : 636 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะคุณเล็กแม่น้องเดียว..

สบายดีไหมค่ะ..อยู่ทางโน้นง่ะ...?

ฝนตกทุกวันหรือเปล่า ?

ที่กทม.ตกทุกวันเลยค่ะโดยเฉพาะตอนกลางคืน

 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ 9 มิถุนายน 2554 13:32:45 น.  

 

สวัสดีค่ะ ติดตามอ่านมาสักระยะหนึ่ง อยากรู้จักเป็นการส่วนตัวน่ะค่ะ เป็นคนเวียงสระ แต่ว่ามาอยู่ต่างประเทศ

 

โดย: sornbkk@yahoo.com IP: 121.55.252.49 9 มิถุนายน 2554 16:39:59 น.  

 

เรื่่องลูกนี่
ผมจัดลำดับความสำคัญมากกว่าเรื่องของตัวเองอีกครับ


 

โดย: กะว่าก๋า 9 มิถุนายน 2554 20:17:37 น.  

 


เขียนต่อๆ ไปเน๊าะคุณเล็ก
แวะมาอ่านไปฝนตกไปค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 9 มิถุนายน 2554 20:33:47 น.  

 

ชะแว๊บควงคู่คนเปื่อยมาส่งสุดหล่อเข้านอน แหะๆๆ
กลายเป็นว่าได้อ่านนิยายก่อนนอนซะงั้น อิอิ
สงสัยจะติดหนึบซะแล้วสิเรา เหอๆๆ
รีบๆคลอดตอนต่อไปน๊า รออ่านอยู่เน้อ..
แบบลุ้นๆๆๆๆ อ่าน๊า คริๆๆ

คืนนี้ฝันดีกันทั้งครอบครัวนะค๊าาาาา
ฝากจุ๊บๆๆสุดหล่อด้วยยยย
ส่วนจะจุ๊บตรงไหนเนี่ยตามสะดวกเรยยยยค้าาาา เอิ๊กๆๆ

ปล..ส่วนคนเปื่อยบ้านโน้นหมดสภาพไปแร้ววว หุหุหุ

 

โดย: น้ำค้างบนยอดหญ้า IP: 111.84.235.252 9 มิถุนายน 2554 20:35:38 น.  

 

โหะ โหะ ตอนที่ 4 แล้ว 1-3 พี่ยังไม่ได้ควานหาเลยนะนี่

ของพี่อย่างเก่งสุด ที่เคยลงตีพิมพ์ 3 ตอน นับว่าหนาหนาแล้ว ชอบแบบม้วนเดียวจบมากกว่า แต่ชนิด 8 ตอนขึ้นไป ก็มีนะ และจบไว้แค่นั้น ไม่ได้แต่งต่อ กระดาษที่พิมพ์ป่านฉะนี้เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีส้มแล้วมั้ง

คนที่แต่งเรื่องสั้น แต่ไม่ได้ต่อเนื่อง แล้วมาเกี่ยวโยงได้ไปเรื่อย ๆ ยามที่อยากเขียน พี่ชมว่าเป็นคนเก่งทุกคน

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 9 มิถุนายน 2554 21:00:15 น.  

 

ว้าววว เก่งจังเลย ลองเอาไปลงที่ แว้บบแจ่มใสดูไหม เผื่อโดนใจคนออ่านอ่ะ

เผลอๆ ได้ตีพิมพ์รวมเล่มนะเออ

 

โดย: Always & Forever 9 มิถุนายน 2554 22:12:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ปันฝัน
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ตัวเล็ก เป็นแม่ของอาเดียวคะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เป็นแม่ที่ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ แต่มีความตั้งใจ ที่จะเลี้ยงดูลูกชายคนเดียว ที่เกิดจากความรักของคนสองคน แม้ว่าหัวใจคนอีกคนจะสั้นนักก็ตาม

ลูกไม่ใช่ภาระ ลูกคือความสวยงาม เป็นสิ่งที่แสนดี ชีวิตเราในขณะนี้ ลูกคือทุกอย่าง

มาเอาใจช่วยแม่ตัวเล็กพาอาเดียวไปตลอดรอดฝั่งด้่วยนะคะ

เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่ง่ายเลย ใครอย่ามาเลียนแบบนะ บอกเอาไว้ก่อน มันลำบากมากจริง ๆ โดยเฉพาะในวันที่ลูกป่วยและเราตัวคนเดียว


**ลูกโตขึ้นทุกวัน เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ทุกวัน กับโลกว้าง สู้ ๆ เค้านะูลูก

แม่ไม่หวังอะไรปมากกว่าการเห็นลูกเติบโตขึ้นมาเ็ป็นลูกที่น่ารักและเป็นคนดีของสังคม..**
แล็กกราวน์ กล่องเมนท์ กลุ่องเมนท์ กล่องเมนท์ เฟชบุ้ค Mommy's A Deaw

คลิกหาอาเดียวในเฟชบุ๊ค

หน้าอาเดียว

A DEAW

ตามไปกดไลท์ที่เพจของอาเดียวได้ครับ

เพจเอสโอเอส

SOS ANIMALS Thailand

รับปรึกษาและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยง/a>
New Comments
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2554
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
9 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปันฝัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.