หลีเป๊ะ 3 : มุ่งหน้าสู่ปากบารา


เจ็ดโมงเช้า เสียงฝีเท้านรกของอีเด่น ก็ปลุกอิชั้นจากห้วงนิทรา
อาบน้ำ แต่งตัว อย่างว่อง เพราะเรานัดรถตู้มารับตอนแปดโมง

ลงมาถึง รถตู้มาจอดรออยู่แล้ว แต่เรายังชิว
ก็แหม ร้านหัวมุมถนน เยื้องกลับโรงแรม กิ๊บเก๋ คลาสสิกซะเหลือเกิน
ขนกระเป๋าไปใส่รถตู้เสร็จ เราก็เชิดใส่คนขับรถ
เดินมาสั่งปังโก๋ กาแฟ กินกันซะงั้น
นิสัยดีมากมนุษย์ฝูงนี้





ร้านกาแฟร้านนี้บรรยากาศแจ่มมาก พร๊อบเจ๋ง ๆ เพียบเลย
แต่ที่คลาสสิกและประทับใจที่ คือ อาม่าเจ้าของร้าน
อาม่าเจ๋งโคตร ๆ ติดตามบางส่วนได้จากบทสนทนาข้างล่างนี้

อาม่า ผมสั่งไข่ลวกไป ขอไว ๆ หน่อยนะ จะรีบไป
ไวไม่ได้ ไข่ลวกต้องลวกสามนาที ไม่ใช่ใส่น้ำแล้วสุกเลย ต้องรอ

สิ้นเสียงใส่อารมณ์ของอาม่า
น้องเม่นจึงต้องนั่งเจี๋ยมเจี้ยมรอไข่ลวกอาม่าไปอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว
ท่ามกลางสายตากดดัน จากผู้ร่วมทริปท่านอื่นที่หนังท้องตึงที่ไปนั่งรอในรถ





หลังจากเจ้าเม่นกระซวกไข่ลวกอย่างเร็วจนปากพอง ลิ้นพอง
ล้อรถตู้ก็ได้หมุนซะที เป้าหมายของเราคือ โชคดีแต่เตี้ยม
เราจะไปกินติ่มซำเป็นมื้อเช้ากัน
(ไม่รู้เหมือนกันว่าที่ยัดทะนานจากร้านอาม่าเค้าเรียกมื้ออะไร)

ไปถึงก็สั่งติ่มซำ บักกุดเต๋ มาฟาดปากดันอย่างครื้นเครง
อร่อยดี แต่อาจจะเป็นเพราะเช้าไป อิชั้นเลยไม่ค่อยเจริญอาหารเท่าไหร่
แต่ไม่เป็นไรหรอก แค่เหลือบไปเห็นเพื่อนสูบกันโครม ๆ ก็สบายใจแล้ว



จากโชคดีแต่เตี้ยม เราก็มุ่งหน้าสู่ท่าเรือปากบารา
โดยแวะตามร้านเหล้ารายทาง ตามหาบาร์คาดี้รัม
อย่างไรก็ตาม กี่ร้านต่อกี่ร้าน ก็ไม่มี
อะไรที่มันไม่ได้ ก็อย่าไปฝืนมันสินะ
คิดอย่างนั้นแล้วเราจึงตัดใจจากบาร์คาดี้ แค่เรดก็ได้วะ





ตอนรถตู้ออกจากหาดใหญ่ พวกเราใจคอไม่ค่อยดีเลย
เพราะครึ้มฟ้า ครึ้มฝนเหลือเกิน
แถมขับมาได้สักหน่อย ฝนโปรยสายมาซะงั้น
มองซ้ายขวากัน จะหาคนไปปักตระไคร้ ก็เกรงใจเทวดา
จะให้อ้อมใจไปปัก ก็เกรงว่าภาคใต้อาจจะถึงขั้นประสบภาวะแล้ง
เลยได้แต่ลุ้นกันต่อไป เทวดาว่าไง หนูว่าตามท่านค่ะ



ขณะที่อิชั้นกำลังนั่งไหล่เบียดไหล่กับผู้ชาย
ฟังเพลงเอ็มพี่สามกันหนุงหนิงในรถตู้
น้องเล็กคนขับก็จอดรถ

อ้าว เฮ๊ย ตำรวจเรียกเว๊ยเฮ๊ย

น้องเล็กหายไปนานสองนาน
กลับมาบอกว่าไม่มีอะไรพี่ ตำรวจจะเหมารถตู้เลยขอนามบัตร
สาดดดดดดดดด...ตำรวจจราจรไทย ไอเลิฟยูค่ะ

จากนั้น น้องเล็กก็ขับรถตู้ปุเลง ๆ มาส่งเราที่ปากบารา
โดยมีออฟฟิศของบันดาหยา เป็นจุดมุ่งหมาย
เราจองเรือ จองที่พักของที่นี่เอาไว้ในงานเที่ยวไทย



ตามเวลา เรือจะออกสิบเอ็ดโมง เวลายังเหลือ
ก็สั่งอาหาร (อีกแล้ว) นั่งเม้ากระจาย
และแยกย้ายกันไปกระจายรายได้ให้ชุมชน

งานนี้ พี่ปูและน้องเม่น เกี่ยวแขนกันไปช๊อป
สอยรองเท้าแตะสีชมพู สุดตอแหล มาหนึ่งคู่
หมวกอีกหนึ่งคู่ (น้องเม่นซื้อ พี่ปูซื้อด้วย จะได้คู่กัน ฮิ๊ววว)
กางเกงขาก๊วยอีกหนึ่งคู่ อันนี้ของน้องเม่นทั้งคู่
โปสการ์ดส่งถึงตัวเองอีกหนึ่งคู่
และเกือบจะได้เสื้ออีกหนึ่งคู่
ถ้าไม่เจอวาจาหมาสำรอกขี้ของคนขายซะก่อน

พี่คะ เสื้อตัวเท่าไหร่คะเนี่ย
199
สองตัวสามร้อยได้ไหมคะพี่
น้องต่อแบบนี้ พี่ให้สามตัวร้อยเลยดีกว่า


อ้าว อ้าว อีเปรต
พูดหมา ๆ แบบนี้ มึงก็ยืนขายต่อไปแล้วกัน
เสื้อน่ะ ร้านมึงมีขายร้านเดียวหรือไง อีหอยหลอด เชอะ !!!

ชอปปิ้งเสร็จสรรพ ก็ได้เวลาลงเรือล่ะ
มองนาฬิกา ปาเข้าไปเที่ยง เหอ เหอ

เดินมาถึงท่าเรือ เห็นเรือสปีทโบ๊ทลำโตแล้วสบายใจ
เหอ เหอ หารู้ไม่ว่า พาหนะลำนี้แหละ
ที่จะบ่อนทำลายความสนุกของใครหลายคน !!!






Create Date : 28 มกราคม 2552
Last Update : 29 มกราคม 2552 7:53:14 น.
Counter : 899 Pageviews.

1 comments
  
โห่..เพิ่งถึงปากบาราเองเหงออออ...
โดย: gofarfarfoot IP: 203.149.61.218 วันที่: 29 มกราคม 2552 เวลา:12:16:30 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

some dance to remember
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เนื้อหาในบล๊อกนี้เป็นความคิดส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับใคร
มีคำไม่สุภาพและติดจะหยาบคายมากมาย
ผู้ใดรับไม่ได้ก็คลิกปิดไปนะจ๊ะ


รับคอมเมนท์

รับความคิดเห็นที่แตกต่าง

แต่ไม่รับการระราน

และไม่รับคำด่าข้าง ๆ คู ๆ สิบอกหั่ย !!!

มกราคม 2552

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
25
26
29
30
31
 
All Blog