|
清东陵 สุสานราชวงศ์ชิงตะวันออก (ชิงตงหลิง)
ครั้งนี้จะพาทุกท่านไปเที่ยวสุสานราชวงศ์ชิงตะวันออกกันนะค๊า ทริปนี้ไปมาเมื่อปลายปี เดือนธค. 2011 อากาศติดลบห้าองศา โอยยยย หนาวมว๊ากกกกก แต่ก็คุ้มค่า เพราะได้สูดกลิ่นไอสถานที่ประวัติศาสตร์ที่ยังถือได้ว่าสมบูรณ์ดีอยู่มาก
แต่ขอ ออกตัวก่อนว่าฝีมือถ่ายภาพของข้าพเจ้านั้นช่างด้อยนัก สมัยเรียนได้เกรด D วิชาถ่ายภาพ 555 
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักสุสานราชวงศ์ชิงกันโดยย่อก่อนดีกว่าค่ะ
สุสานราชวงศ์ชิงนั้น มีอยู่สองแห่ง คือ สุสานราชวงศ์ชิงตะวันออก (ชิงตงหลิง) และ สุสานราชวงศ์ชิงตะวันตก (ชิงซีหลิง)
--สุสานราชวงศ์ชิงตะวันออก (ชิงตงหลิง)-- อยู่ห่างจากปักกิ่งไปทางตะวันออก 125 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่เมืองจวินฮว่า มณฑลเหอเป่ย เป็นสถานที่ฝังพระศพของฮ่องเต้ราชวงศ์ชิง 5 พระองค์ คือ ฮ่องเต้ซุ่นจื้อ คังซี เฉียนหลง เสียนเฟิง และถงจื้อ ยังมีพระศพของซูสีไทเฮา ฉืออันไทเฮา และเสี้ยวจวงไทเฮา (พระมารดาของฮ่องเต้ซุ่นจื้อ) องค์ชายอีก 3 องค์ พระสนมอีกกว่า 136 และองค์หญิงอีก 2 องค์ (ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ฉงเหยา นำไปแต่งเป็นเรื่ององค์หญิงกำมะลอ เพราะองค์หญิงราชวงศ์ชิงนั้นมีนับร้อย แต่สององค์ที่ได้รับการฝังในสุสานราชวงศ์เช่นนี้ แสดงว่าต้องมีความสำคัญมาก)
แผนผังบริเวณสุสานตะวันออกจะเป็นในลักษณะคล้ายจำลองพระตำหนักในกู้กงเป็นหย่อมๆ คือสร้างห่างๆ เว้นระยะกันไป ตามรูปข้างล่างนี้ค่ะ
-แผนผังบริเวณสุสานชิงตะวันออก-
วิธีการเดินทางนั้นไปได้สามวิธี 1. เหมา taxi 2. ขึ้นรถบัสนักท่องเที่ยว (แต่จะวิ่งแค่เดือน เม.ย.-ต.ค) 3. ใช้บริการทัวร์ท้องถิ่น มีไกด์ให้พร้อม
ตอนแรกกลุ่มข้าพเจ้ากะว่าจะเหมาแท็กซี่ไป เพราะช่วงที่ไปนั้นเป็นเดือนธ.ค. ซึ่งรถบัสหยุดวิ่งแล้ว แต่เพราะเป็นการเที่ยวเมืองจีนครั้งแรก แม้จะได้ภาษา แต่กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย สุดท้ายเลยลงมติใช้บริการทัวร์ท้องถิ่นดีกว่า จองไว้ตั้งแต่ก่อนไปเดือนหนึ่ง พอถึงวัน ไกด์โทรขึ้นมาตามถึงห้องพักเลย อิอิ เลทไปครึ่งชม.
แต่อยากบอกว่าไกด์น่ารักมาก ตอนแรกเธอคิดว่าพวกเราพูดจีนไม่ได้ ไกด์เธอพูดอังกฤษได้ดีและชัดแจ๋วมากๆ คุยกันไปมา เธอเห็นเราพูดจีนปน เลยถามว่า อ้าวพูดจีนได้หรอคะ เราบอกว่าใช่ พอพูดได้บ้าง แต่ไม่กล้าไปเองเพราะสุสานนี้อยู่ไกล แล้วก็อยากได้ความรู้เพิ่มเติมด้วย เธอพยักหน้าหงึกๆ เอ่ยปากชมว่า "ไม่แปลกเลยที่คุณจะกลัวว่าไม่ปลอดภัย เพราะคุณสวยมาก" เอาล่ะสิ ชมกันงี้ ทำเอาอิชั้นยิ้มจนหน้าที่บานอยู่แล้ว ยิ่งบานเข้าไปอีก 555
ทริปนี้ใช้เวลาเกือบทั้งวันค่ะ ใครอยากมาต้องจัดเวลาให้ดีๆ ออกแต่เช้า กลับถึงปักกิ่งก็ค่ำแล้ว แต่ไกด์แนะนำว่าถ้าจะเที่ยวให้ทั่วทุกสุสานรวมถึงบริเวณน้ำตกป่าเขาโดยรอบนั้น ใช้เวลา 2 วันกำลังดี แถบนั้นมีโรงแรมที่พักอยู่พอสมควรจ้า (แต่พักใกล้สุสานนี่น่ากลัวง่ะ แหะๆ  )
เรามาเริ่มกันที่ทางเข้าสุสาน ตรงบริเวณนี้จะเรียกว่าทางเดินศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งยาวมากกกกกกกกกกก ลักษณะจะเป็นทางเดินที่ทอดยาว มีรูปปั้นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ จำพวกกิเลน มังกร ราชสีห์ เปรียบเสมือนว่ากำลังยืนเฝ้ารับเสด็จฮ่องเต้และเชื้อพระวงศ์อยู่ข้างทาง ถัดจากสัตว์เหล่านี้เข้าไปก็จะเป็นรูปปั้นบรรดาขุนนาง ขันที ที่มาเฝ้ารับเสด็จอยู่เช่นกัน
-ทางเดินศักดิ์สิทธิ์ ที่มีรูปปั้นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์และขุนนางขันทียืนเฝ้ารับเสด็จฮ่องเต้และเชื้อพระวงศ์-
ผ่านทางเดินศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว ก็จะมาถึงทางเข้าด้านหน้าสุดซึ่งเราต้องมาซื้อตั๋วกันที่นี่ค่ะ จะเห็นได้ว่าเป็นการจำลองกู้กงมาส่วนหนึ่ง สภาพโบราณสถานยังถือว่าดีอยู่มาก มีผุพังบ้างไปตามกาลเวลา ไกด์เล่าว่าที่นี่ไม่ค่อยได้รับการบูรณะมากเท่ากู้กงหรือหอเทียนถานซึ่งคนนิยมไปกันมาก แต่เพราะที่นี่อยู่ไกล นักท่องเที่ยวน้อยกว่า เลยไม่ค่อยได้รับความเสียหายจากการถูกเหยียบย่ำ ก็เลยไม่จำเป็นต้องบูรณะอะไรมาก รัฐบาลพยายามคงให้อยู่ในสภาพเดิมมากที่สุด
-ทางเข้าด้านหน้า บริเวณที่ต้องมาซื้อตั๋วเข้าชมสุสาน-
ตอนนี้เราเดินเข้ามาในบริเวณสุสานแล้วค่ะ ไกด์เล่าถึงที่มาที่ไปของการก่อสร้างสุสานว่า มีครั้งหนึ่งที่ฮ่องเต้ซุ่นจื้อเสด็จออกประพาสล่าสัตว์ จนมาถึงบริเวณนี้ พระองค์ทอดพระเนตรเห็นหุบเขาเขียวขจีที่เงียบสงบสวยงาม เลยประทับใจมาก ทรงโยนกระดูกสัตว์ออกไป และบอกกับองครักษ์ที่ตามเสด็จว่า "กระดูกตกไปตรงบริเวณไหน ตรงนั้นจะใช้เป็นที่ตั้งสุสานของข้า"
-ทางเดินและสิ่งก่อสร้างส่วนหนึ่งในบริเวณสุสาน-
สุสานแรกที่เราเข้าชม คือสุสานของซูสีไทเฮาและฉืออันไทเฮา (ทั้งสองพระองค์ช่วยฮ่องเต้ที่ยังทรงพระเยาว์ โดยออกว่าราชการอยู่หลังม่าน ก่อนที่ฉืออันไทเฮาจะสวรรคต ตามด้วยเสียงเล่าลือกันว่าโดนซูสีไทเฮาลอบวางยาพิษ) โดยด้านหน้าก่อนที่จะลงไปสุสานที่อยู่ด้านหลังนั้น เป็นห้องโถงที่คล้ายกับจำลองมาจากในวัง มีตู้กระจกเล็กๆจำนวนมาก เล่าประวัติความเป็นมาของซูสีไทเฮา
-ห้องโถงจำลองด้านในของสุสานซูสีไทเฮา-
ถัดมาจากด้านหน้าที่เป็นห้องโถง ก็มาถึงด้านหลังที่เป็นสุสานจริงๆ ข้าพเจ้าค่อยๆก้าวลงไปด้านล่าง รู้สึกหนาววูบไปทั้งตัว ไม่รู้เพราะอากาศหนาวหรือกลัวผีหว่า 555 ลงไปปุ๊บก็เห็นเลยค่ะ โลงศพของพระนางซูสีไทเฮา บรื๋ออออออ
จริงๆสุสานของซูสีไทเฮาเคยโดนบุกปล้นมาแล้วครั้งหนึ่ง นายพลซุนเตี้ยนอิง แห่งพรรคกว๋อหมินตั่ง(กั๊วะหมินตั่ง) สั่งให้ลูกน้องเข้ามาบุกปล้นสุสาน ชิงทรัพย์สินมีค่าไปทั้งหมด รวมถึงไข่มุกเม็ดเบ้อเริ่มที่ซูสีไทเฮาอมไว้ แล้วเหวี่ยงพระศพที่ยังไม่แห้งสนิทดีนักออกไปนอกโลง ถือเป็นการกระทำที่หมิ่นพระเกียรติเอามากๆเลย (เขาทำแบบนี้กับสุสานฮ่องเต้เฉียนหลงด้วย)
-สุสานซูสีไทเฮา ที่ครั้งหนึ่งเคยโดนบุกปล้นมาแล้ว-
จากนั้น เราจะไปสุสานฮ่องเต้เฉียนหลงกันค่ะ
-ทางผ่านระหว่างทางไปสุสานฮ่องเต้เฉียนหลง-
เอาล่ะ มาถึงแล้วค่ะ สุสานของฮ่องเต้เฉียนหลง สุสานของพระองค์นอกจากพระศพของพระองค์เองแล้ว ยังมีพระศพของฮองเฮาและพระสนมอีกสององค์ที่ฝังอยู่ในห้องเดียวกัน (คงจะทรงโปรดมาก) และอย่างที่บอกคือ สุสานนี้ก็เคยโดนปล้นเช่นเดียวกัน แต่ที่เลวร้ายยิ่งกว่า คือพระศพ(กระดูก)ของทั้งสี่พระองค์ถูกเหวี่ยงกระจัดกระจายไปคนละทิศ กระดูกไหนเป็นใคร จนป่านนี้ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้เลย เฮ้อ แย่จริงๆ
-สุสานฮ่องเต้เฉียนหลง ฮองเฮา และพระสนมอีก 2 พระองค์ ที่ฝังไว้ห้องเดียวกัน-
บริเวณบันไดที่ทอดยาวไปห้องฝังพระศพ จะมีประติมากรรมนูนต่ำพระพุทธองค์อยู่ด้วย
-ประติมากรรมนูนต่ำในสุสานฮ่องเต้เฉียนหลง-
สุดท้ายข้าพเจ้าเดินผ่านบริเวณสุสานขององค์หญิงสองพระองค์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ฉงเหยานำไปสร้างเป็นเรื่ององค์หญิงกำมะลอ แต่ไม่ได้เข้า เพราะเขาปิด  และได้เดินผ่านกำแพงที่จำลองคล้ายกำแพงในกู้กงด้วย
-บริเวณสุสานองค์หญิง และกำแพงรอบสุสาน-
ครั้งนี้น่าเสียดายมาก เพราะสุสานปิดหลายที่ ทั้งสุสานองค์หญิง สุสานฮ่องเต้คังซี สุสานไทเฮาเสี้ยวจวงก็ปิด อดเข้าเลย 
ในตอนต้นได้พูดถึง สุสานราชวงศ์ชิงตะวันตก (ชิงซีหลิง) แต่ทริปนี้เวลาไม่พอค่ะ เลยไม่ได้ไป ทั้งที่อยากไปไม่แพ้กัน เพราะสุสานตะวันตกนี้เป็นที่ฝังพระศพของฮ่องเต้หย่งเจิ้ง เจี่ยชิ่ง เต้ากวง กวงซวี่ รวมถึงองค์ชายและพระสนมอีกยุ่บยั่บไม่แพ้สุสานตะวันออกเลย
มีเรื่องเล่าว่าหย่งเจิ้งฮ่องเต้ตัดสินพระทัยใช้พื้นที่ฝั่งตะวันตก ก็เพราะกลัวว่าเมื่อเสด็จไปยังปรโลกแล้วจะโดนเสด็จพ่อคังซีกริ้วที่ปลอมแปลงราชโองการขึ้นครองราชย์แทนน้องสิบสี่ เลยไม่ใช้พื้นที่สุสานตะวันออกเป็นที่ฝัง แต่บ้างก็ว่าเพราะพระองค์เห็นว่าฝั่งตะวันออกนั้นพื้นดินไม่ดี โดนน้ำท่วมง่าย เอ้า ก็ว่ากันไปค่ะ เพราะไม่รู้ว่าจะไปถามใครได้นิ เสด็จไปปรโลกกันหมดแล้ว 
ส่วนฮ่องเต้ปูยี จากจักรพรรดิสู่สามัญชนองค์สุดท้ายนั้น ได้รับความช่วยเหลือจากนักธุรกิจชาวจีน นำอัฐิไปฝังสร้างเป็นสุสานอยู่ใกล้กับสุสานชิงตะวันตก (ไม่ได้อยู่ในอาณาบริเวณสุสานราชวงศ์ตะวันตก แต่ก็นับว่าสมความปรารถนาล่ะนะ)
ครั้งนี้ยังถือว่าไม่เต็มอิ่มสมใจอยากเท่าไหร่ เอาไว้จะไปสุสานตะวันออกอีกครั้ง แล้วก็สุสานตะวันตกนี้ต้องไปให้ได้แน่นอน 
ปล. สุสานราชวงศ์ชิงนี้ตั้งอยู่คนละที่กับสุสานราชวงศ์หมิงนะคะ ไม่ได้อยู่ใกล้กันเลย สุสานชิงนี้อยู่ไกลจากปักกิ่งมาก แต่สุสานหมิงนั้นอยู่ใกล้ปักกิ่งนิดเดียว แถมกำลังมีการก่อสร้างรถไฟใต้ดินที่ผ่านสุสานหมิงอีกด้วย (ส่วนใหญ่จะมีทัวร์ควบรวมสุสานหมิง-กำแพงเมืองจีนเข้าด้วยกันในวันเดียว) สุสานชิงนี้ ระยะทางก็เทียบได้จาก กทมไปอรัญประเทศ ประมาณนั้นค่า 
| Create Date : 16 มิถุนายน 2555 |
|
17 comments |
| Last Update : 1 ตุลาคม 2555 8:41:33 น. |
| Counter : 23137 Pageviews. |
|
 |
|
)
และได้เดินผ่านกำแพงที่จำลองคล้ายกำแพงในกู้กงด้วย
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [
ไหนๆ คนก็ตายแล้ว ไม่น่าไปเหวี่ยงศพเขาออกจากโลงเลย
ขอบคุณมากค่ะ ^^