ให้เขาจัดเตรียมมะลิ "เก็ดถวา" และสารภี
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2549
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
27 สิงหาคม 2549
 
All Blogs
 

ดั่งเทียนผู้ถ่องแท้แก่คน # 1



อัพบล็อกคราวนี้ แม้จะไม่ได้เขียนเรื่องของตัวเอง
แต่น้ำหวานเอาเรื่องราวของวีรบุรุษในดวงใจมาฝากให้อ่านนะคะ
“จิตร ภูมิศักดิ์”
น้ำหวานได้ขออนุญาตผู้เขียนกระทู้ในเวบบอร์ดที่น้ำหวานไปเล่นอยู่ประจำ
เพื่อขอเอามาแปะไว้ที่นี่เรียบร้อยแล้ว
น้ำหวานจะเอามาลงเป็นตอนๆ นะคะ เพราะคนเขียนเค้าเขียนทิ้งไว้เป็นตอนๆ เหมือนกัน
(เหมาะกับช่วงเวลาที่อยากอัพบล็อกแต่ไม่มีปัญญามากๆ อิอิ)
แต่ละตอนจะยาวซักหน่อยนะคะ แต่สนุก และน่าประทับใจมากๆ ค่ะ

และถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ อยากไปอ่านที่กระทู้จริง หรืออยากให้กำลังใจคนเขียน
ไปตามลิงค์นี้นะคะ..

//forum.serithai.net/index.php?topic=6257.0
.......................................................



ดั่งเทียนผู้ถ่องแท้แก่คน


"….ตอนนั้นผมเป็นเด็กเลี้ยงควายอยู่ให้เหตุการณ์ด้วย เขาดักยิงถูกขาจิตรก่อน จิตรวิ่งมาถึงใต้ต้นสะเดาที่เคยอยู่ตรงนี้ เขาตามมายิงซ้ำจนตาย ผมเห็นอีกสองคน กำลังจะข้ามเข้ามาช่วยแต่เข้ามาไม่ได้เพราะถูกยิงสกัดอยู่…. ได้เห็นสภาพศพแว่บนึงก่อนที่เขาจะเผา คอจิตรเป็นรอยเกือบขาด"
"…. ตอนเช้าพวกควายมันได้กลิ่นขี้เถ้าศพ เข้ามาเหยียบมาถ่าย พ่อผมเห็นน่าสงสารก็เลยนำกะโหลกส่วนที่เหลือจากการเผาไปฝังไว้ที่ใต้ต้นแดง…."
"….เมื่อหลายปีก่อนที่ขุดกระดูกจิตรขึ้นมาครั้งแรกๆ กระโหลกของจิตรก็ไม่มีแล้ว ผุไปหมดเหลือแต่รอยดินเป็นหลุมกระโหลกอยู่ตรงนี้…."
"….ตอนขุดกระดูกครั้งแรก เจอกระดูกไม่มากนัก อีกหลายปีต่อมาขุดครั้งที่สองตอนนั้นค่อยรวบรวมกระดูกได้มากหน่อย…."

......

เขาตายในชายป่า เลือดแดงทาดินเข็ญ ยากเย็นค่นแค้นอับจน
เขาตายในชายป่า เลือดแดงทาดินเข็ญ ยากเย็นค่นแค้นอับจน

และถึงวันพราก เขาลงมาจากยอดเขา ใต้เงามหาอินทรีย์
ล้อมยิงโดยกระหยิ่ม อิ่มในเหยื่อตัวนี้ โชคดี สี่ขั้นพันดาว

เหมือนดาวร่วงหล่น ความเป็นคนล่วงหาย ก่อนตายจะหมายสิ่งใด
แสนคนจนยาก สิบคนหากรวยหลาย อับอายแก่หล้าฟ้าดิน

เขาจึงต่อสู้อยู่ข้างคนทุกข์เข็ญ ได้เห็นได้เขียนพูดจา
คุกขังเขาได้แต่หัวใจอย่าปรารถนา เกิดมาเข่นฆ่าอธรรม

แล้วอำนาจเถื่อนมาบิดเบือนบังหน กี่คนย่อยยับอัปรา
สองพันห้าร้อยแปด เมฆดำปรกคลุมฟ้า ด้วยฤทธา มหาอินทรีย์

ร้างเมืองไร้บ้าน ออกทำการป่าเขา เสี่ยงเอาชีวีมลาย
พฤษภาห้าร้อยเก้า แดดลบเงาจางหาย เขาตายอยู่ข้างทางเกวียน

ศพคนนี้นี่หรือชื่อ จิตร ภูมิศักดิ์ ศพคนนี้นี่หรือคือ จิตร ภูมิศักดิ์
ตายคาหลักเขตป่ากับนาคร

เขาตายในชายป่า เลือดแดงทาดินอิสาน อีกนาน อีกนาน อีกนาน
เขาตายในชายป่า เลือดแดงทาดินอิสาน อีกนาน อีกนาน อีกนาน

เขาตายเหมือนไร้ค่า แต่ต้องมาก้องนาม ผู้คนไถ่ถามอยากเรียน

ชื่อ จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นนักคิดนักเขียน ดั่งเทียนผู้ถ่องแท้แก่คน
ชื่อ จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นนักคิดนักเขียน ดั่งเทียนผู้ถ่องแท้แก่คน


๕ พฤษภาคม ๒๕๐๙

ค่ำคืนที่ผ่านมา แผ่นดินแล้งได้รองรับฝนห่าใหญ่ ภูเขาชื้นชุ่มและท้องทุ่งเจิ่งนองน้ำ ห้วงยามเช่นนี้คนชนบทจะรู้ว่านามีกบเขียดให้หา ในป่ามีเห็ดให้เก็บ เช้าตรู่ ผู้หญิงบ้านคำบ่อที่ขึ้นภูมาหาเก็บเห็ดก็มาปะเข้ากับทับทหารป่า ทีแรกพวกนางแตกตื่นแทบสิ้นสติ เพราะความกลัวความโหดร้ายของคอมมิวนิสต์ตามที่ได้ยินคำเล่าลือกันมา แต่ครั้นได้มานั่งทำความรู้จักและพูดคุยจนเป็นที่เข้าใจกัน ท่าทีของพวกนางก็ดูเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น จนทหารป่าวางใจว่ากลุ่มผู้หญิงจะเดินกลับเข้าหมู่บ้านด้วยความรู้สึกเป็นมิตร

กระนั้นก็ตาม การที่มีคนมาพบเห็น ในทางจรยุทธถือเป็นการ เสียลับ มีกฎให้เคลื่อนย้ายที่ทันที ปล่อยผู้หญิงกลับไปแล้ว ปรีชากับพวกรีบกินอาหารที่เหลือจากเมื่อคืน แล้วเก็บข้าวของข้ามห้วยปลาหางไปอยู่อีกฟากทุ่ง ไม่ระแคะระคายใจสักนิดว่า ในกลุ่มแม่บ้านที่เจอกันเมื่อเช้า มีคนที่เป็นเมีย อส. รวมอยู่ด้วย
แดดเที่ยงไม่ทันเบี่ยงแสงลอดพุ่มไม้ สหายคนที่อยู่ยามเอ่ยกับเพื่อนว่าเขาได้ยินเสียงคน สหายอีกคนลุกไปเมียงมองสังเกตการณ์ ฉับพลันเสียงปืนก็แตกปะทุสนั่นหวั่นไหว ลูกกระสุนปักลงพื้นและปลิดขั้วใบไม้ร่วงกราว

ทหารป่า ๖ คนแตกออกเป็นสองกลุ่ม แยกกันถอยหนี ไม่มีใครทันได้หยิบเป้สัมภาระของตัวเอง สหายสวรรค์ สหายวาริช และสหายปรีชา ถอยไปด้วยกัน ตอนนั้นพวกเขาอาจคิดว่าโชคยังเข้าข้างอยู่บ้างตรงที่ฝ่ายโจมตีหันไปติดตามพวกอีก ๓ คนที่แยกหนีไปอีกทาง หรือบางทีอาจเป็นความจงใจของฟ้าดินที่เปิดให้เขาเดินไปสู่ชะตากรรมโดยสะดวก ปรีชาบอกกับเพื่อนสหายร่วมทุกข์ยากว่า เราต้องไม่ทิ้งกัน แล้วออกนำหน้าบุกป่ามุ่งไปหาบ้านคำบ่อ ที่นั่นมีแกนบ้านที่ไว้ใจพึ่งพาได้ แต่ความไม่คุ้นเคยพื้นที่ และไม่มีคนพื้นที่อยู่ในกลุ่ม ทหารป่าหนีตาย ๓ คนจึงเดินขึ้น-ลงเขาหลงป่าอยู่จนล่วงบ่าย และมาถึงท้ายหมู่บ้านเมื่อเย็นย่ำ นี่ละบ้านคำบ่อ สหายปรีชาบอกพรรคพวก พวกคุณสองคนรออยู่ที่นี่ ผมจะเข้าไปสืบสภาพ เขาหายไปชั่วครู่ก็กลับมาแจ้งกับเพื่อนว่า มีแต่บ้านหลังใหญ่ ๆ พวกเขารู้ว่านั่นไม่ใช่บ้านของคนยากจนที่ขอความช่วยเหลือได้ สหายปรีชาพาพวกวนไปซุ่มดูอีกด้านของหมู่บ้าน สักพักมีคนจูงหมูจากบ้านออกมาที่ลำห้วย ปรีชาเดินออกไปหาเขาคนเดียว

จะพาหมูไปไหน ?
เอามันไปล้างน้ำ
นี่บ้านอะไร ?
บ้านหนองกุง
บ้านคำบ่อไปทางไหน ?
ชายคนนั้นชี้บอกทาง แล้วเดินจากไป

คล้อยหลังไม่นาน หญิงชาวบ้านอีกคนเดินแบกยอกลับมาจากทางทุ่งนา ปรีชาเข้าไปถามทางไปคำบ่ออีกครั้ง นางชี้ไปทิศเดิม และชวนคนแปลกหน้าให้เข้าไปเที่ยวในหมู่บ้าน ซึ่งตอนนั้นเป็นวันงานบุญพระเวส หญิงคนนั้นเดินเข้าหมู่บ้านไปแล้ว สวรรค์เห็นปรีชายืนรีรอเหมือนกำลังงุนงง หรือครุ่นคิดอะไรสักอย่าง สุดท้ายเห็นเขาเดินออกไปกลางทุ่ง แล้วก็หายไป

สหายที่ซุ่มอยู่ข้างทางแน่ใจว่าปรีชาต้องเดินย้อนเข้าหมู่บ้านไปแล้ว โดยเขาทั้งสองคนไม่ทันเห็น เด็กชายยก หลานกำนันแหลม เพิ่งต้อนควายจากทุ่งนากลับมาถึงบ้าน เห็นชายร่างผอมสวมแว่น ท่าทางอ่อนล้า เดินออกมาจากทางเดินท้ายหมู่บ้าน ไม่พูดไม่จากับใคร บอกแต่เพียงว่าขอข้าวสักปั้น แม่ของเด็กชายและทุกคนในหมู่บ้านรู้ในทันทีว่า ชายแปลกหน้าเป็นพวกที่ถูกตีแตกมาจากในป่า เสียงปืนที่ดังอยู่บนภูเขาเมื่อกลางวันไม่ได้ไกลเกินได้ยินมาถึงหมู่บ้าน ทั้งยังเพิ่งถูกกำชับมาจากกำนัน-ผู้เป็นพี่ชายของนางว่า ถ้าเห็นใครเห็นคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้านให้มาแจ้ง ไม่อย่างนั้นจะเป็นโทษหนัก เด็กชายได้ยินแม่ตอบชายผู้หิวโซคนนั้นไปว่า ข้าวเหนียวกำลังนึ่ง ยังไม่สุก ให้ขึ้นมานั่งรอบนเรือนก่อน ชายแปลกหน้าปฏิเสธ

เขายืนรออยู่หน้าบ้านจนได้รับห่อข้าว แล้วเดินออกจากหมู่บ้านไปตามทางเดิมที่เขาเข้ามา แดดผีตากผ้าอ้อมฉาบบนทิวไม้สองข้างทางเหลืองเรืองไปทั้งป่า แมลงในพงหญ้าเริ่มกรีดปีกบรรเลงรอการมาของราตรี ปั้นข้าวเหนียวที่หญิงชาวบ้านคนนั้นให้มาอ่อนอุ่นอยู่ในห่อ หิวจนแสบท้องแต่เขายังไม่ยอมแกะห่อออกกิน เพื่อนอีกสองคนซุ่มรออยู่ที่ชายป่า พวกเขาก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกัน ก่อนแดดวันนี้จะสิ้นแสงทุกคนคงได้อิ่มท้อง เขาจ้ำเท้าอย่างรีบเร่งและมีความหวัง

เสียงอึกทึกของฝ่าเท้าคนจำนวนมากทำเอาแมลงไพรตกตื่นผวา บ้างแตกหนีลงรูดิน ทางเดินในหมู่บ้านตกอยู่ในความสงัด พอเขาเดินออกมาถึงกลางทุ่งโล่งที่คั่นระหว่างชายป่ากับหมู่บ้าน เสียงปืนก็แตกก้องฟ้า กระสุนสาดมาเป็นห่าฝน นัดหนึ่งเจาะเข้าที่โคนขาคนถือห่อข้าว เขาชักปืนสั้นวอลเทอร์ยิงตอบโต้กลับไปบ้าง พลางหนีกระเสือกกระสนไปล้มลงที่โคนไม้ริมชายป่า ได้ยินเสียงปืนชุดแรก สวรรค์กับวาริชจะหนุนเข้าไปช่วยปรีชา ตามยุทธวิธีที่ฝึกมา แต่ห่ากระสุนของฝ่ายผู้ล่าหนักหน่วงเกินต้าน จำต้องชวนกันถอยขึ้นไปรออยู่ในดงลึก หลังฟ้าค่ำไปพักใหญ่ สวรรค์ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกนัด แล้วป่าทั้งป่าก็คืนสู่ความเงียบงัน

สวรรค์รู้ว่า ปรีชาเสียสละชีวิตแน่แล้ว เขาด้นป่าฝ่าความมืดไปหาบ้านคำบ่อ สั่งความให้ทหารบ้านมาสืบข่าวการล้อมยิงทหารป่าที่บ้านหนองกุง การพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ศพนิรนามในชุดเสื้อผ้ามัวมอที่ทอดร่างอยู่บนกองเลือดของตัวเอง ริมชายป่าหมู่บ้านหนองกุง อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร เป็นชายไทยเจ้าของบัตรประชาชนเลขที่ ๕๙๘๓๙/๒๔๙๖
ชื่อนายจิตร ภูมิศักดิ์




"เพื่อลบรอยคราบน้ำตาประชาราษฎร์
สักพันชาติจักสู้ม้วยด้วยหฤหรรษ์
แม้นชีพใหม่มีเหมือนหวังอีกครั้งครัน
จักน้อมพลีชีพนั้นเพื่อมวลชน"

..........


จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นปราชญ์ของไทยอย่างแท้จริง วันนี้หากเขายังมีชีวิตอยู่ เขาจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับอาจารย์ ส. ศิวลักษณ์ เรื่องราวของจิตร ภูมิศักดิ์ มีคนเขียนเอาไว้เยอะมาก ผมคิดจะเขียนเรื่องราวของวีรบุรุษท่านนี้นานมาแล้ว เพียงแต่ไม่มีโอกาสเหมาะที่จะเขียนขึ้น และสืบเนื่องมาจากการที่มีคนเขียนเอาไว้เยอะ ทำให้การเขียนของผมยากลำบาก เพราะไม่ต้องการให้เนื้อหาซ้ำกับผู้เขียนท่านอื่นมากจนเกินไป แต่ในความยากก็มีความง่ายเพราะการหาข้อมูลสามารถทำได้ง่าย

อีกเพียงเดือนกว่า ๆ ก็จะครบรอบวันคล้ายวันเกิดในปีที่ 76 ของวีรชนท่านนี้ ผมจึงมีความปราถนาอย่างแรงกล้าที่จะเผยแพร่เรื่องราวของท่านให้เพื่อน ๆ ได้เรียนรู้กัน งานเขียนของผมอ้างอิงจากหลายแหล่ง หลายเว็บไซต์มาก เพื่อไม่ให้ผู้อ่านต้องสะดุดในการอ้างอิงที่มาของงานเขียน ผมจะขอสรุปแหล่งอ้างอิงในตอนท้ายสุดของบทความ ซึ่งน่าจะเป็นซีรี่ย์ที่ยาว และใช้เวลาเขียนนาน ผมคาดว่าผมน่าจะจบซีรี่ย์นี้ได้ก่อนวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดของท่าน

ผมเปิดตัวโหมโรงบทความด้วยเรื่องราวการตายของจิตร ภูมิศักดิ ซึ่งผมคัดลอกมาจากเว็บนิตยสารสารคดี ส่วนหนึ่ง และ บทบันทึกงานรำลึก 36 ปี การจากไปของ "จิตร ภูมิศักดิ์" อีกส่วนหนึ่ง เนื่องจากผมเห็นว่าเป็นส่วนที่สมบูรณ์ในตัวเองอยู่แล้วจึงไม่ได้เขียนขึ้นใหม่ ผมเปิดตัวด้วยเรื่องราวการตายของท่าน ด้วยเหตุที่เรื่องราวที่ผมจะเขียนในตอนต่อ ๆ ไป ผมจะไม่เขียนถึงการตายของท่านอีก ผมเคยดูภาพยนต์เรื่อง The last Samurai ผมประทับใจตอนที่องค์จักรพรรดิเมจิถาม นาธาน อัลเกรนถึงการตายของคัทสึโมโต้

Emperor Meiji: Tell me how he died.
Algren: I will tell you how he lived.

เป็นประโยคที่กินใจผมมาก แน่นอนครับ ผมจะไม่เล่าเรื่องของจิตร ภูมิศักดิ์ ว่าเขาตายอย่างไร แต่ผมจะเล่าเรื่องของจิตร ภูมิศักดิ์ ว่าเขาใช้ชีวิตอย่างไร!!!




.............................................

ขอบพระคุณท่านลุงอึ้งเอี๊ยะซือของหนูเป็นอย่างมากค่ะ ที่กรุณาช่วยหาดอกไอรีส




 

Create Date : 27 สิงหาคม 2549
37 comments
Last Update : 9 กันยายน 2549 14:17:30 น.
Counter : 900 Pageviews.

 

ดีมั๊กลำเพา เทอทำได้ดีมั๊ก อะตังส์หนึ่งบาทรางวัล วันหลังขยัน ๆ นะ

 

โดย: หัวหน้าแดน IP: 58.147.12.115 27 สิงหาคม 2549 15:32:31 น.  

 

เขาตายเหมือนไร้ค่า แต่ต้องมาก้องนาม ผู้คนไถ่ถามอยากเรียน
ชอบวรรคนี้มากที่สุด เพราะบางครั้งการเป็นที่จะทำให้คึนอื่นมองเห็นว่ามีค่าอาจจะต้องใช้เวลาช่วงชีวิตของคนเราก็ได้
ขออย่าท้อแท้ในการทำความดี แม้ว่าเราตายไปแล้วความดีก็ยังคงอยู่
เหมือนกับความชั่ว แม้ว่าเราตายแล้ว ก็ยังจะมีคนจำได้ เรานอนในดินแล้วก็ยังจะสะดุ้งเมื่อมีคนพูดถึง
"ความดีทำยาก แต่ต้องทำเพราะไม่อย่างนั้นความชั่วที่ทำได้ง่ายก็จะเข้ามา"

 

โดย: คนหลังเขา IP: 61.7.128.85 27 สิงหาคม 2549 15:49:50 น.  

 

แวะมาเก็บเกี่ยว...
ตามคำเชื้อเชิญ
เลยเอาเพลงมาฝากนะ
...............................
ใบไม้ร่วงหนึ่งใบในราวป่า
ยังดีกว่าใบไม้เหลืองในเมืองหลวง
ที่รอปลิดหล่นเปล่าประโยชน์ปวง
เป็นด่างดวงดำเปื้อนในป่าคน

ใบไม้ป่าร่วงแล้วได้เลี้ยงป่า
ทิ้งลงมาเลี้ยงรากเลี้ยงลำต้น
เหมือนแม่ให้นมลูกปลูกฝังจน
ลูกเติบตนโตแทนเต็มแผ่นดิน

เมื่อเมืองคนคั่งคับด้วยคนป่า
คนดีก็ด้อยค่าเหมือนกรวดหิน
เมื่อสัตว์ป่าสร้างป่าไว้หากิน
สัตว์เมืองก็ต้องสิ้นวิสัยเมือง

ใบไม้ป่าชื่อจิตร ภูมิศักดิ์
ได้ร่วงแล้วเป็นหลักให้โลกเลื่อง
ดั่งเทียนป่าปลุกแสงขึ้นแรงเรือง
ไม่เปล่าเปลืองลมปราณที่ต้านลม

ลมประสานเสียงแคนว่าแค่นแค้น
เปิบข้าวทุกคราวแค่นความขื่นขม
เหงื่อกูรินตากูแล้งน้ำแห้งตรม
ร่างกูซมซมซานไข้จนเขียวคาว

เสียงปืนดังเปรี้ยงกว่าเสียงปาก
ก็ปิดฉากชีวิตมืดมิดหนาว
แต่วิญญาณคือทิพย์ที่ยืนยาว
ดังดวงดาวยิ่งดึกยิ่งดื่นตา

กาลเวลาฆ่าจิตร ภูมิศักดิ์
กาลเวลาก็ตระหนักประจักษ์ค่า
กาลเวลาฆ่าคนดีทุกทีมา
แต่เวลาก็ทูนเทิดเชิดคนดี

ใบไม้ร่วงหนึ่งใบในราวป่า
เพื่อแตกมาเป็นใบใหม่ในทุกที่
จิตรหนึ่งดวงดับไปในวันนี้
เพื่อจะมีจิตรใหม่มากมายดวง

ถ้าสัตว์เมืองสร้างเมืองเป็นป่าได้
เราก็เหมือนใบไม่เหลืองในเมืองหลวง
ที่โหยหาป่าเขาเปลี่ยวเปล่าปวง
จิตรจะร่วงลงทั้งป่าเข้ามาเมือง

ใบไม้ป่า
(เนื่องในวันตายของ จิตร ภูมิศักดิ์ 5 พฤษภาคม)
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
วงต้นกล้า ร้อง/บรรเลง





 

โดย: พุกไม้ 27 สิงหาคม 2549 16:08:34 น.  

 

ยังไม่มีเวลาอ่านจ้า
แต่ดีใจที่เห็นกลับมาอัพบล็อกนะคะ

 

โดย: พี่โม IP: 203.170.228.172 27 สิงหาคม 2549 17:23:14 น.  

 

ขอบพระคุณค่ะหัวหน้าแดน ที่มาเจิมเป็นเกียรติ 555

---------

ขอบคุณมากๆ ค่ะ คนหลังเขา แวะมาอ่านอีกนะคะ
อีกไม่กี่ตอนก็จบค่ะ อิอิ

---------

คุณลุงพุกไม้ขา..
ขอบพระคุณมากๆ ค่ะสำหรับเพลง
และเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่แวะมาอ่านค่ะ

----------

พี่โมขา..
ขอบพระุคุณมากๆ ค่ะ ที่แวะมาเฝ้าบล็อคให้หนูเรื่อยๆ
อย่าลืมกลับมาอ่านให้นะคะ อิอิ สนุกค่ะ

 

โดย: ลั่นทมสีแสด 27 สิงหาคม 2549 18:09:31 น.  

 

แวะมาเยี่ยมค่ะ...จะแวะมาบ่อยๆนะคะ..

"เพื่อลบรอยคราบน้ำตาประชาราษฎร์
สักพันชาติจักสู้ม้วยด้วยหฤหรรษ์
แม้นชีพใหม่มีเหมือนหวังอีกครั้งครัน
จักน้อมพลีชีพนั้นเพื่อมวลชน"

 

โดย: แดดร่มลมโชย 27 สิงหาคม 2549 18:36:00 น.  

 

อูย! ขอโทษอย่างแรงเลยค่ะ ยังไม่มีตังค์เปลี่ยนคีย์บอร์ด แข็งมาก กดจึ๊กเดียวไปเลย ตัว n ขึ้นไปตัวเดียวอ่ะ

คนที่ชีวิตหาไม่แล้ว แต่คนยังรำลึกถึงนี่หายากนะ ตอนนี้ถ้ามองไปรอบ ๆ ตัวที่ทำงานเรานะ ปัจเจกชนเยอะมาก แต่ไม่ได้มีความหมายในแง่สร้างสรรค์นะ แต่เป็นปัจเจกยุคใหม่ที่คิดถึงตัวเองเป็นใหญ่ ว่าไปแล้วพออ่านเรื่องคุณจิตร ภูมิศักดิ์ เราก็ต้องถามตัวเองว่า...จะสร้างผู้คนที่คิด หรือทำอะไรแบบจิตอาสา (จิตสาธารณะ)ได้ยังไง ...ก็ต้องเริ่มที่ตัวเองใช่มะ

 

โดย: Noklek IP: 58.181.180.191 27 สิงหาคม 2549 18:43:24 น.  

 

ไม่รู้เป็นไง เมื่อเอ่ยถึงเรื่องราวของท่านผู้นี้ เราไม่มีคำพูด หรือคำบรรยายใดๆ จะกล่าวถึงจริงๆ

 

โดย: ผู้ ญ ธรรมดา ที่นางฟ้าอยากเป็น 27 สิงหาคม 2549 18:58:56 น.  

 

หวัดดีค่ะน้องแดดร่มฯ คนสวย
ขอบคุณมากๆ ค่ะที่แวะมา
น้องแดดร่มฯ ชอบบทนั้นเหรอคะ

--------

อาจารย์นกเล็กที่รัก
ขอบพระคุณค่ะที่แวะมา
อีก 2-3 วันจะเอาตอนต่อไปมาลงนะคะ
แวะมาอีกนะคะอาจารย์พี่นกเล็ก อิอิ

 

โดย: ลั่นทมสีแสด 27 สิงหาคม 2549 19:03:11 น.  

 

อ้าววว... อ้อที่รัก มาตอนเรากำลังแปะเมนต์เมื่อกี๊
พูดไม่ออก งั้่นมาอ่านอีกนะเพื่อน อิอิ
ขอบคุณที่แวะมาจ้ะ

 

โดย: ลั่นทมสีแสด 27 สิงหาคม 2549 19:05:27 น.  

 

....อีกสักกี่คนที่ต้องสูญเสีย
....อีกกี่น้ำตาที่หยาดหยด
....คนจนคนอยากไร้ ...จะมีอยู่มีกิน
....สังคมจะอยู่กัน ...อย่างสันติ
....หรือว่าวันนั้น...มันแค่อยู่ใน "ความฝัน"

 

โดย: ภูพาน IP: 124.120.49.211 27 สิงหาคม 2549 20:09:38 น.  

 

เพื่อขจัดคราบน้ำตาประชาราษฎร์
ถึงชีวาตม์สิ้นพันครั้งยังหรรษา
แม้นตนกูเกิดได้อีกสักครา
จักอุทิศชีวาเพื่อมวลชน
...............................................
"โยธิน มหายุธนา " เป็นบุคคลแรกที่แปล
บทกวี "เพื่อลบรอยฯ" และ จิตร ได้ยกย่องว่า
แปลได้กระชับดีมาก
และอีกบทหนึ่ง ซึ่ง โยธิน ได้ยกย่อง จิตร
ด้วยบทกวีของเขาเองที่ว่า
คารวะนอบน้อม แด่สหาย
ผู้อุทิศชีพถวาย ต่อสู้
เพื่อประชายอมตาย เสียสละ ชีพนา
มวลชนต่างรับรู้ ซาบซึ้ง ความดี
หนทางท่านเบิกไว้ เราเดิน
ความดีจักสรรเสริญ เชิดป้าย
ภารกิจจักดำเนิน สืบทอด
ชัยชนะบั้นท้าย แน่แท้ เราครอง

 

โดย: พุกไม้ IP: 58.9.129.209 27 สิงหาคม 2549 20:20:41 น.  

 

พี่ภูพานขา ขอบพระคุณที่แวะมาค่ะ
เราคงต้องช่วยกัน ไม่ให้วันนั้นมันอยู่แค่ฝันนะคะ

--------

คุณลุงพุกไม้ขา
กราบขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ
สำหรับข้อมูลที่กรุณาเอามาฝาก
น้ำหวานอยากชวนไปที่เสรีไทยเวบบอร์ดจังเลย
ไปตามลิงค์ข้างบนน่ะค่ะ.. ถ้าสะดวกตามไปนะคะ

 

โดย: ลั่นทมสีแสด 27 สิงหาคม 2549 20:32:22 น.  

 

สวัสดีครับแวะเอาสิ่งดีๆมาส่งครับ


อโหใครหนอปล้นชาติไทย

อโหใครหนอปล้นชาติไทย ให้สิงคโปร์ใหญ่เหนือขวัญสยาม
ตั้งฐานทัพมหันต์ปัญญาทราม ณ สนามบินอุดรเป็นราชธานี

ซากเอกราชมีเห็บหมา กิเลสตัณหาหนาจะเป็นราชสีห์
มาฝังตัวตั้งฐานกาญจนบุรี ข่มขี่เอกราชของชาติไทย

หรือสิงคโปร์อยากเป็นจักรวรรดิ จัดเมืองไทยเป็นทาสร่วมสมัย
ถามเจ้าตากดูก่อนเป็นไร พม่าใหม่สิงคโปร์ใครดีกว่ากัน

ซุกหุ้นซุกหวยรวยบัดซบ ไม่รู้จักอัปยศอดสูมหันต์
เกิดเป็นมนุษย์เมากิเลสมัน ตัณหานั้นจะอุดตันหัวใจ

จะอยู่ค้ำฟ้าเหมือนไม้เสียบผี เป็นซากมัมมี่ผีดิบหรือไฉน
อยู่ยืนหมื่นปี[^_^][^_^] จะหลอกใครหลอกโคตรตนเอง

ไม่รู้ค่าสยามดินน้ำลมไฟ หลงอเมริกาเป็นใหญ่ขโมงโฉงเฉง
หรือจะรอสยามให้อลเวง ตามเพลงยถากรรมนำไทยไป

อย่างนี้ก้มเงยดูโลกมนุษย์ สุดอัปยศอดสูทุกสมัย
จักรวาลนี้จะดูหน้าใคร เพ่งไปก็เห็นแต่หน้าตนเอง

คงจะอยู่คู่ดินน้ำฟ้า คิดไปคิดมาก็น่าใจหาย
สติปัญญามากเหมือนเม็ดทราย บ่เห็นได้สักเม็ดเดียว

จะเหลืออยู่แต่น้ำกับฟ้า ชะเลภูผาป่าชัฒไพรเขียว
กับวกรวัดเดียวเชียว หวาดเสียววิญญาณสะท้านเอย

 

โดย: ผู้ชายธรรมดาที่เทวดาอยากจะเป็น IP: 203.107.194.246 27 สิงหาคม 2549 20:44:34 น.  

 



ดีครับ

ชอบเพลงนี้ด้วยแหละ
ตามมาอนุรักษ์ ต้นได้วยคนนะครับ ชอบอยู่ด้วย ..

ปลูกต้นไหรดีน่า....



อิอิ

 

โดย: เทียมฟ้า (benjarong9 ) 27 สิงหาคม 2549 21:11:48 น.  

 



แวะมาเยี่ยมเยือนถึงเรือนชานน้อง
ว่าจะมาขอกาแฟเย็นดื่มอ่ะดิ !!!!
ดื่มไปร้องเพลงไป
ชอบเพลง "แสงดาวแห่งศรัทธา"
เป็นชีวิตจิตใจ

 

โดย: อุ้มสี 27 สิงหาคม 2549 21:48:29 น.  

 

ดีใจที่คุณน้ำหวาน กลับเอาความหวานมาสู่ชุมชนบล็อกครับ มาคราวนี้เรื่อง น่าอ่านเหมือนเดิมครับ

 

โดย: piangdin 27 สิงหาคม 2549 21:51:09 น.  

 

ขอบคุณ คุณผู้ชายธรรมดาที่เทวดาอยากจะเป็น มากค่ะ
เป็นอะไรกับยัยอ้อ ผู้ ญ ธรรมดาเปล่าเนี่ยคะ อิอิ

--------

ขอบคุณ คุณเทียมฟ้าที่แวะมาค่ะ
น้ำหวานชอบเรื่องกัญชาที่บล้อคคุณมากค่ะ อิอิ

--------

พี่อุ้มสีคะ ถ้าชอบ ไปฟังเพลงที่เวบเสรีไทยสิคะ
น้ำหวานเอาเพลงแนวนั้นลงไว้ที่นั่นตั้งหลายเพลงแน่ะค่ะ
ขอบพระคุณ พี่อุ้มสีที่แวะมานะคะ
เป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะ

--------

คุณเพียงดินคะ ดีใจที่ได้คุยกันอีกครั้งค่ะ
คำถามที่คุณถามน้ำหวานในบล็อคของคุณ
ขอตอบที่นี่นะคะ... กลัวฝนค่ะ

 

โดย: ลั่นทมสีแสด 27 สิงหาคม 2549 23:33:06 น.  

 

To banish the trace of a tear from your eye,
A thousand deaths would I gladly die;
If one more life were granted me,
I'd spend that life in serving thee.

Avetik Isskyan
The people's of Armenia

 

โดย: พุกไม้ (พุกไม้ ) 28 สิงหาคม 2549 0:01:57 น.  

 

รำลึกถึง จิตร ภูมิศักดิ์ ค่ะ

สวัสดีวันจันทร์นะคะ คุณน้ำหวาน

 

โดย: tu_bong 28 สิงหาคม 2549 8:27:38 น.  

 

อ่านแล้วได้สาระ รักชีวิต รักประเทศชาติไงไม่รู้

 

โดย: wanwitcha 28 สิงหาคม 2549 13:59:03 น.  

 

คุณจิตเป็นคนที่ควรจะอยู่ในสังคมไทยนานกว่านี้นะครับ น่าเสียดาย แต่ก็ไม่รู้ว่าหากท่านยังอยู่จนถึงทุกวันนี้...

ท่านจะรู้สึกว่าท่านเป็นสิ่งแปลกปลอมกับทุกอย่างรอบๆตัวรึเปล่า

 

โดย: นายเบียร์ 28 สิงหาคม 2549 21:31:03 น.  

 

ปกติชอบการอ่านค่ะ พอเจอบทความนี้ต้องวกอ่านอีกรอบ

 

โดย: Dressy 28 สิงหาคม 2549 21:33:47 น.  

 

ลุงพุกขา ขอบพระคุณมากๆ ค่ะ
สำหรับบทกวีต้นฉบับภาษาอังกฤษนะคะ

--------

สวัสดีค่ำวันจันทร์ค่ะ คุณ tu_bong
ขอบพระคุณที่แวะมานะคะ

--------

คุณ wanwitcha คะ อย่าลืมกลับมาอ่านอีกนะคะ

--------

คุณ เบียร์.. ทำไมไม่ยอมเข้าไปอ่านในเสรีไทยอ่ะ
เข้าไปอ่านสิคะ จะได้ไปแลกเปลี่ยนกันในกระทู้ อิอิ
นะ นะ นะ.. นะคุณเบียร์นะ


--------

คุณ Dressy ขา.. อย่างนี้อาจต้องวกกลับมาอีกหลายรอบนะคะ
เพราะว่ายังเหลืออีกตั้งหลายตอนแน่ะค่ะ อิอิ.. จะรอนะคะ


 

โดย: น้ำหวาน IP: 61.7.129.29 28 สิงหาคม 2549 22:08:03 น.  

 

แวะมาอ่านเรื่องราวของวีระบุรุษ ผู้อยู่ในหัวใจของคนหลายคนค่ะ

 

โดย: เลเต IP: 124.121.55.72 29 สิงหาคม 2549 5:09:08 น.  

 

เขียนในสโมสรริมน้ำใช่ไหมครับ หุๆๆ

ปกติผมเป็นผีสิงสภากาแฟนะครับ 555 เด่วไปอ่านครับ


ปล.รูปสัตว์เลื้อยคลานในบล๊อคผม ผมเรียกว่าตัว... "มังกรดำครับ"


จะรับเลี้ยงซักตัวไหมครับ

 

โดย: นายเบียร์ 29 สิงหาคม 2549 5:32:38 น.  

 

แวะมาทักทายครับผม

 

โดย: อายส์. . . . . . IP: 203.130.159.2 29 สิงหาคม 2549 20:14:17 น.  

 

ดีครับ คุณน้ำหวาน

ผมแอดบล๊อกคุณไม่ได้อะครับไมทราบเป็นอะไร

ฟังเพลงนี้นึกถึง..เพื่อนคนนึงครับ

ชอบกางเต้นนอน ที่ห้องอะครับ

อยากไปกางเต้น มากเลย

 

โดย: เทียมฟ้า (benjarong9 ) 31 สิงหาคม 2549 0:02:05 น.  

 

สวัสดีค่ะ

การะเกดค่ะ ยินดีกับมิตรภาพใหม่นะค่ะ

พูดถึงจิตร ภุมิศักดิ์ ก้อต้องนึกถึง "แสงดาวแห่ศรัทธา..."

*****
ทะเลชีวิต อีกหนึ่งผลงาน ที่จิตร ภูมิศักดิ์แต่งไว้..(ขอบอกว่าชอบมาก...)

ลมหวิว........
เจ้าแผ่วโชยพลิ้วมาปลอบใจข้า ยิ่งกระพือโหมไฟที่เริงร่ารนลวกอุราที่แสนสุดร้อนรน คอยหา... เฝ้ามองขอบฟ้าใยช่างมืดมน
โอ้สุดที่รักล่องลอยทุกข์ทน ฝ่าคลื่นฝืนลมว่ายวน

ดวงดาวเอ๋ย...
วอนดาวโปรดจงปราณี วานดาวชี้ทิศทางให้แก่เพื่อนใจ
จงทรงผองพลังยืนหยัดสู้ภัย ฝ่าฟันจนเขามีชัยรอดพ้นคืนมา

ความหวัง......
โปรดอย่าหักหลังลวงหลอกใจข้า ส่งที่ใฝ่ฝันจงอย่าโรยรา
บรรเจิดอยู่บนนภาดั่งแสงดาว ตราบนิรันดร.................


(ข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้)

 

โดย: เจ้าการะเกด IP: 58.9.172.78 31 สิงหาคม 2549 14:57:41 น.  

 



ดีครับ สบายดีมั้ยครับ

 

โดย: เทียมฟ้า IP: 210.86.216.219 1 กันยายน 2549 11:44:47 น.  

 

แวะมาทักทายค่ะ

ไม่ได้มานานเลย

สบายดีนะคะ

 

โดย: Batgirl 2001 3 กันยายน 2549 19:38:14 น.  

 

จ๊ะเอ๋ ....ปี้น้ำหวาน หายไปอีกแล้ว
วู้ๆๆๆๆ คิดถึง

 

โดย: หิ่งห้อย (ztarliners ) 3 กันยายน 2549 20:31:00 น.  

 

...
จิตร ภูมิศักดิ์
เกิดมาเพื่อภาคภูมิในศักดิ์ศรี
ของเขาจริงๆค่ะ

 

โดย: ระเบียงดอกไม้ 4 กันยายน 2549 21:53:07 น.  

 

ขอบคุณนะครับ คุณน้ำหวาน ที่กรุณาไปเยี่ยมและแสดงไมตรีจิตเป็นห่วง งานหนักน่ะครับ เลยไม่ค่อยได้ต้อนรับมิตรบล็อกถี่เหมือนเมื่อก่อน

คงสบายดีเช่นกันนะครับ

 

โดย: piangdin 5 กันยายน 2549 11:42:34 น.  

 



ดีคับ.. ยังมีอีกคนนะคับ ที่ผมชชอบมากเค้าเป็นรุ่นพี่.. ที่บ้านคับ กวีซีไร ที่ต้องจดจำ





กนงพง..

 

โดย: เทียมฟ้า..gunja IP: 210.86.222.57 8 กันยายน 2549 19:31:13 น.  

 

ผมชอบที่อ่านไป ชอบความคิดเห็นของหลายๆท่านด้วย

 

โดย: สายลมสีชา 9 กันยายน 2549 12:34:48 น.  

 

ความคิดเห็นของแต่ละคนมีความหมายที่แตกต่างกันไป ชอบความคิดเห็นของทุกคน

 

โดย: ตุ๊กตา IP: 203.150.147.3 22 กุมภาพันธ์ 2550 13:41:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ลั่นทมสีแสด
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ฉันมีแต่ความรักมีแต่ความฝัน
พอจะแบ่งปันคนทุกคน
ถ้าเธอจะมีรักเธอจะมีฝัน
เธอจะปันให้ใครหรือเปล่า

ซื้อคืนฟ้าพราวแสงดาวแสนงามจับดวงตา
ถักทอให้เป็นเช่นรองเท้ามาให้ฉัน

แล้วจะใส่ไปหาโลกในนิทราของเธอ
แต่งเติมความฝันแสนดีให้มีสองเรานิรันดร์
Friends' blogs
[Add ลั่นทมสีแสด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.