1 2 3 4 5
6 7 8 9 10 11 12
13 14 15 16 17 18 19
20 21 22 23 24 25 26
27 28 29 30 31
ดั่งเทียนผู้ถ่องแท้แก่คน # 1
อัพบล็อกคราวนี้ แม้จะไม่ได้เขียนเรื่องของตัวเอง แต่น้ำหวานเอาเรื่องราวของวีรบุรุษในดวงใจมาฝากให้อ่านนะคะ จิตร ภูมิศักดิ์ น้ำหวานได้ขออนุญาตผู้เขียนกระทู้ในเวบบอร์ดที่น้ำหวานไปเล่นอยู่ประจำ เพื่อขอเอามาแปะไว้ที่นี่เรียบร้อยแล้ว น้ำหวานจะเอามาลงเป็นตอนๆ นะคะ เพราะคนเขียนเค้าเขียนทิ้งไว้เป็นตอนๆ เหมือนกัน (เหมาะกับช่วงเวลาที่อยากอัพบล็อกแต่ไม่มีปัญญามากๆ อิอิ) แต่ละตอนจะยาวซักหน่อยนะคะ แต่สนุก และน่าประทับใจมากๆ ค่ะ และถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ อยากไปอ่านที่กระทู้จริง หรืออยากให้กำลังใจคนเขียน ไปตามลิงค์นี้นะคะ.. //forum.serithai.net/index.php?topic=6257.0 .......................................................ดั่งเทียนผู้ถ่องแท้แก่คน "
.ตอนนั้นผมเป็นเด็กเลี้ยงควายอยู่ให้เหตุการณ์ด้วย เขาดักยิงถูกขาจิตรก่อน จิตรวิ่งมาถึงใต้ต้นสะเดาที่เคยอยู่ตรงนี้ เขาตามมายิงซ้ำจนตาย ผมเห็นอีกสองคน กำลังจะข้ามเข้ามาช่วยแต่เข้ามาไม่ได้เพราะถูกยิงสกัดอยู่
. ได้เห็นสภาพศพแว่บนึงก่อนที่เขาจะเผา คอจิตรเป็นรอยเกือบขาด" "
. ตอนเช้าพวกควายมันได้กลิ่นขี้เถ้าศพ เข้ามาเหยียบมาถ่าย พ่อผมเห็นน่าสงสารก็เลยนำกะโหลกส่วนที่เหลือจากการเผาไปฝังไว้ที่ใต้ต้นแดง
." "
.เมื่อหลายปีก่อนที่ขุดกระดูกจิตรขึ้นมาครั้งแรกๆ กระโหลกของจิตรก็ไม่มีแล้ว ผุไปหมดเหลือแต่รอยดินเป็นหลุมกระโหลกอยู่ตรงนี้
." "
.ตอนขุดกระดูกครั้งแรก เจอกระดูกไม่มากนัก อีกหลายปีต่อมาขุดครั้งที่สองตอนนั้นค่อยรวบรวมกระดูกได้มากหน่อย
." ...... เขาตายในชายป่า เลือดแดงทาดินเข็ญ ยากเย็นค่นแค้นอับจน เขาตายในชายป่า เลือดแดงทาดินเข็ญ ยากเย็นค่นแค้นอับจน และถึงวันพราก เขาลงมาจากยอดเขา ใต้เงามหาอินทรีย์ ล้อมยิงโดยกระหยิ่ม อิ่มในเหยื่อตัวนี้ โชคดี สี่ขั้นพันดาว เหมือนดาวร่วงหล่น ความเป็นคนล่วงหาย ก่อนตายจะหมายสิ่งใด แสนคนจนยาก สิบคนหากรวยหลาย อับอายแก่หล้าฟ้าดิน เขาจึงต่อสู้อยู่ข้างคนทุกข์เข็ญ ได้เห็นได้เขียนพูดจา คุกขังเขาได้แต่หัวใจอย่าปรารถนา เกิดมาเข่นฆ่าอธรรม แล้วอำนาจเถื่อนมาบิดเบือนบังหน กี่คนย่อยยับอัปรา สองพันห้าร้อยแปด เมฆดำปรกคลุมฟ้า ด้วยฤทธา มหาอินทรีย์ ร้างเมืองไร้บ้าน ออกทำการป่าเขา เสี่ยงเอาชีวีมลาย พฤษภาห้าร้อยเก้า แดดลบเงาจางหาย เขาตายอยู่ข้างทางเกวียน ศพคนนี้นี่หรือชื่อ จิตร ภูมิศักดิ์ ศพคนนี้นี่หรือคือ จิตร ภูมิศักดิ์ ตายคาหลักเขตป่ากับนาคร เขาตายในชายป่า เลือดแดงทาดินอิสาน อีกนาน อีกนาน อีกนาน เขาตายในชายป่า เลือดแดงทาดินอิสาน อีกนาน อีกนาน อีกนาน เขาตายเหมือนไร้ค่า แต่ต้องมาก้องนาม ผู้คนไถ่ถามอยากเรียน ชื่อ จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นนักคิดนักเขียน ดั่งเทียนผู้ถ่องแท้แก่คน ชื่อ จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นนักคิดนักเขียน ดั่งเทียนผู้ถ่องแท้แก่คน๕ พฤษภาคม ๒๕๐๙ ค่ำคืนที่ผ่านมา แผ่นดินแล้งได้รองรับฝนห่าใหญ่ ภูเขาชื้นชุ่มและท้องทุ่งเจิ่งนองน้ำ ห้วงยามเช่นนี้คนชนบทจะรู้ว่านามีกบเขียดให้หา ในป่ามีเห็ดให้เก็บ เช้าตรู่ ผู้หญิงบ้านคำบ่อที่ขึ้นภูมาหาเก็บเห็ดก็มาปะเข้ากับทับทหารป่า ทีแรกพวกนางแตกตื่นแทบสิ้นสติ เพราะความกลัวความโหดร้ายของคอมมิวนิสต์ตามที่ได้ยินคำเล่าลือกันมา แต่ครั้นได้มานั่งทำความรู้จักและพูดคุยจนเป็นที่เข้าใจกัน ท่าทีของพวกนางก็ดูเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น จนทหารป่าวางใจว่ากลุ่มผู้หญิงจะเดินกลับเข้าหมู่บ้านด้วยความรู้สึกเป็นมิตร กระนั้นก็ตาม การที่มีคนมาพบเห็น ในทางจรยุทธถือเป็นการ เสียลับ มีกฎให้เคลื่อนย้ายที่ทันที ปล่อยผู้หญิงกลับไปแล้ว ปรีชากับพวกรีบกินอาหารที่เหลือจากเมื่อคืน แล้วเก็บข้าวของข้ามห้วยปลาหางไปอยู่อีกฟากทุ่ง ไม่ระแคะระคายใจสักนิดว่า ในกลุ่มแม่บ้านที่เจอกันเมื่อเช้า มีคนที่เป็นเมีย อส. รวมอยู่ด้วย แดดเที่ยงไม่ทันเบี่ยงแสงลอดพุ่มไม้ สหายคนที่อยู่ยามเอ่ยกับเพื่อนว่าเขาได้ยินเสียงคน สหายอีกคนลุกไปเมียงมองสังเกตการณ์ ฉับพลันเสียงปืนก็แตกปะทุสนั่นหวั่นไหว ลูกกระสุนปักลงพื้นและปลิดขั้วใบไม้ร่วงกราว ทหารป่า ๖ คนแตกออกเป็นสองกลุ่ม แยกกันถอยหนี ไม่มีใครทันได้หยิบเป้สัมภาระของตัวเอง สหายสวรรค์ สหายวาริช และสหายปรีชา ถอยไปด้วยกัน ตอนนั้นพวกเขาอาจคิดว่าโชคยังเข้าข้างอยู่บ้างตรงที่ฝ่ายโจมตีหันไปติดตามพวกอีก ๓ คนที่แยกหนีไปอีกทาง หรือบางทีอาจเป็นความจงใจของฟ้าดินที่เปิดให้เขาเดินไปสู่ชะตากรรมโดยสะดวก ปรีชาบอกกับเพื่อนสหายร่วมทุกข์ยากว่า เราต้องไม่ทิ้งกัน แล้วออกนำหน้าบุกป่ามุ่งไปหาบ้านคำบ่อ ที่นั่นมีแกนบ้านที่ไว้ใจพึ่งพาได้ แต่ความไม่คุ้นเคยพื้นที่ และไม่มีคนพื้นที่อยู่ในกลุ่ม ทหารป่าหนีตาย ๓ คนจึงเดินขึ้น-ลงเขาหลงป่าอยู่จนล่วงบ่าย และมาถึงท้ายหมู่บ้านเมื่อเย็นย่ำ นี่ละบ้านคำบ่อ สหายปรีชาบอกพรรคพวก พวกคุณสองคนรออยู่ที่นี่ ผมจะเข้าไปสืบสภาพ เขาหายไปชั่วครู่ก็กลับมาแจ้งกับเพื่อนว่า มีแต่บ้านหลังใหญ่ ๆ พวกเขารู้ว่านั่นไม่ใช่บ้านของคนยากจนที่ขอความช่วยเหลือได้ สหายปรีชาพาพวกวนไปซุ่มดูอีกด้านของหมู่บ้าน สักพักมีคนจูงหมูจากบ้านออกมาที่ลำห้วย ปรีชาเดินออกไปหาเขาคนเดียว จะพาหมูไปไหน ? เอามันไปล้างน้ำ นี่บ้านอะไร ? บ้านหนองกุง บ้านคำบ่อไปทางไหน ? ชายคนนั้นชี้บอกทาง แล้วเดินจากไป คล้อยหลังไม่นาน หญิงชาวบ้านอีกคนเดินแบกยอกลับมาจากทางทุ่งนา ปรีชาเข้าไปถามทางไปคำบ่ออีกครั้ง นางชี้ไปทิศเดิม และชวนคนแปลกหน้าให้เข้าไปเที่ยวในหมู่บ้าน ซึ่งตอนนั้นเป็นวันงานบุญพระเวส หญิงคนนั้นเดินเข้าหมู่บ้านไปแล้ว สวรรค์เห็นปรีชายืนรีรอเหมือนกำลังงุนงง หรือครุ่นคิดอะไรสักอย่าง สุดท้ายเห็นเขาเดินออกไปกลางทุ่ง แล้วก็หายไป สหายที่ซุ่มอยู่ข้างทางแน่ใจว่าปรีชาต้องเดินย้อนเข้าหมู่บ้านไปแล้ว โดยเขาทั้งสองคนไม่ทันเห็น เด็กชายยก หลานกำนันแหลม เพิ่งต้อนควายจากทุ่งนากลับมาถึงบ้าน เห็นชายร่างผอมสวมแว่น ท่าทางอ่อนล้า เดินออกมาจากทางเดินท้ายหมู่บ้าน ไม่พูดไม่จากับใคร บอกแต่เพียงว่าขอข้าวสักปั้น แม่ของเด็กชายและทุกคนในหมู่บ้านรู้ในทันทีว่า ชายแปลกหน้าเป็นพวกที่ถูกตีแตกมาจากในป่า เสียงปืนที่ดังอยู่บนภูเขาเมื่อกลางวันไม่ได้ไกลเกินได้ยินมาถึงหมู่บ้าน ทั้งยังเพิ่งถูกกำชับมาจากกำนัน-ผู้เป็นพี่ชายของนางว่า ถ้าเห็นใครเห็นคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้านให้มาแจ้ง ไม่อย่างนั้นจะเป็นโทษหนัก เด็กชายได้ยินแม่ตอบชายผู้หิวโซคนนั้นไปว่า ข้าวเหนียวกำลังนึ่ง ยังไม่สุก ให้ขึ้นมานั่งรอบนเรือนก่อน ชายแปลกหน้าปฏิเสธ เขายืนรออยู่หน้าบ้านจนได้รับห่อข้าว แล้วเดินออกจากหมู่บ้านไปตามทางเดิมที่เขาเข้ามา แดดผีตากผ้าอ้อมฉาบบนทิวไม้สองข้างทางเหลืองเรืองไปทั้งป่า แมลงในพงหญ้าเริ่มกรีดปีกบรรเลงรอการมาของราตรี ปั้นข้าวเหนียวที่หญิงชาวบ้านคนนั้นให้มาอ่อนอุ่นอยู่ในห่อ หิวจนแสบท้องแต่เขายังไม่ยอมแกะห่อออกกิน เพื่อนอีกสองคนซุ่มรออยู่ที่ชายป่า พวกเขาก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกัน ก่อนแดดวันนี้จะสิ้นแสงทุกคนคงได้อิ่มท้อง เขาจ้ำเท้าอย่างรีบเร่งและมีความหวัง เสียงอึกทึกของฝ่าเท้าคนจำนวนมากทำเอาแมลงไพรตกตื่นผวา บ้างแตกหนีลงรูดิน ทางเดินในหมู่บ้านตกอยู่ในความสงัด พอเขาเดินออกมาถึงกลางทุ่งโล่งที่คั่นระหว่างชายป่ากับหมู่บ้าน เสียงปืนก็แตกก้องฟ้า กระสุนสาดมาเป็นห่าฝน นัดหนึ่งเจาะเข้าที่โคนขาคนถือห่อข้าว เขาชักปืนสั้นวอลเทอร์ยิงตอบโต้กลับไปบ้าง พลางหนีกระเสือกกระสนไปล้มลงที่โคนไม้ริมชายป่า ได้ยินเสียงปืนชุดแรก สวรรค์กับวาริชจะหนุนเข้าไปช่วยปรีชา ตามยุทธวิธีที่ฝึกมา แต่ห่ากระสุนของฝ่ายผู้ล่าหนักหน่วงเกินต้าน จำต้องชวนกันถอยขึ้นไปรออยู่ในดงลึก หลังฟ้าค่ำไปพักใหญ่ สวรรค์ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกนัด แล้วป่าทั้งป่าก็คืนสู่ความเงียบงัน สวรรค์รู้ว่า ปรีชาเสียสละชีวิตแน่แล้ว เขาด้นป่าฝ่าความมืดไปหาบ้านคำบ่อ สั่งความให้ทหารบ้านมาสืบข่าวการล้อมยิงทหารป่าที่บ้านหนองกุง การพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ศพนิรนามในชุดเสื้อผ้ามัวมอที่ทอดร่างอยู่บนกองเลือดของตัวเอง ริมชายป่าหมู่บ้านหนองกุง อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร เป็นชายไทยเจ้าของบัตรประชาชนเลขที่ ๕๙๘๓๙/๒๔๙๖ ชื่อนายจิตร ภูมิศักดิ์ "เพื่อลบรอยคราบน้ำตาประชาราษฎร์ สักพันชาติจักสู้ม้วยด้วยหฤหรรษ์ แม้นชีพใหม่มีเหมือนหวังอีกครั้งครัน จักน้อมพลีชีพนั้นเพื่อมวลชน" .......... จิตร ภูมิศักดิ์ เป็นปราชญ์ของไทยอย่างแท้จริง วันนี้หากเขายังมีชีวิตอยู่ เขาจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับอาจารย์ ส. ศิวลักษณ์ เรื่องราวของจิตร ภูมิศักดิ์ มีคนเขียนเอาไว้เยอะมาก ผมคิดจะเขียนเรื่องราวของวีรบุรุษท่านนี้นานมาแล้ว เพียงแต่ไม่มีโอกาสเหมาะที่จะเขียนขึ้น และสืบเนื่องมาจากการที่มีคนเขียนเอาไว้เยอะ ทำให้การเขียนของผมยากลำบาก เพราะไม่ต้องการให้เนื้อหาซ้ำกับผู้เขียนท่านอื่นมากจนเกินไป แต่ในความยากก็มีความง่ายเพราะการหาข้อมูลสามารถทำได้ง่าย อีกเพียงเดือนกว่า ๆ ก็จะครบรอบวันคล้ายวันเกิดในปีที่ 76 ของวีรชนท่านนี้ ผมจึงมีความปราถนาอย่างแรงกล้าที่จะเผยแพร่เรื่องราวของท่านให้เพื่อน ๆ ได้เรียนรู้กัน งานเขียนของผมอ้างอิงจากหลายแหล่ง หลายเว็บไซต์มาก เพื่อไม่ให้ผู้อ่านต้องสะดุดในการอ้างอิงที่มาของงานเขียน ผมจะขอสรุปแหล่งอ้างอิงในตอนท้ายสุดของบทความ ซึ่งน่าจะเป็นซีรี่ย์ที่ยาว และใช้เวลาเขียนนาน ผมคาดว่าผมน่าจะจบซีรี่ย์นี้ได้ก่อนวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดของท่าน ผมเปิดตัวโหมโรงบทความด้วยเรื่องราวการตายของจิตร ภูมิศักดิ ซึ่งผมคัดลอกมาจากเว็บนิตยสารสารคดี ส่วนหนึ่ง และ บทบันทึกงานรำลึก 36 ปี การจากไปของ "จิตร ภูมิศักดิ์" อีกส่วนหนึ่ง เนื่องจากผมเห็นว่าเป็นส่วนที่สมบูรณ์ในตัวเองอยู่แล้วจึงไม่ได้เขียนขึ้นใหม่ ผมเปิดตัวด้วยเรื่องราวการตายของท่าน ด้วยเหตุที่เรื่องราวที่ผมจะเขียนในตอนต่อ ๆ ไป ผมจะไม่เขียนถึงการตายของท่านอีก ผมเคยดูภาพยนต์เรื่อง The last Samurai ผมประทับใจตอนที่องค์จักรพรรดิเมจิถาม นาธาน อัลเกรนถึงการตายของคัทสึโมโต้ Emperor Meiji: Tell me how he died. Algren: I will tell you how he lived. เป็นประโยคที่กินใจผมมาก แน่นอนครับ ผมจะไม่เล่าเรื่องของจิตร ภูมิศักดิ์ ว่าเขาตายอย่างไร แต่ผมจะเล่าเรื่องของจิตร ภูมิศักดิ์ ว่าเขาใช้ชีวิตอย่างไร!!! .............................................ขอบพระคุณท่านลุงอึ้งเอี๊ยะซือของหนูเป็นอย่างมากค่ะ ที่กรุณาช่วยหาดอกไอรีส
Create Date : 27 สิงหาคม 2549
37 comments
Last Update : 9 กันยายน 2549 14:17:30 น.
Counter : 900 Pageviews.
โดย: หัวหน้าแดน IP: 58.147.12.115 27 สิงหาคม 2549 15:32:31 น.
โดย: คนหลังเขา IP: 61.7.128.85 27 สิงหาคม 2549 15:49:50 น.
โดย: พุกไม้ 27 สิงหาคม 2549 16:08:34 น.
โดย: พี่โม IP: 203.170.228.172 27 สิงหาคม 2549 17:23:14 น.
โดย: Noklek IP: 58.181.180.191 27 สิงหาคม 2549 18:43:24 น.
โดย: ภูพาน IP: 124.120.49.211 27 สิงหาคม 2549 20:09:38 น.
โดย: พุกไม้ IP: 58.9.129.209 27 สิงหาคม 2549 20:20:41 น.
โดย: ผู้ชายธรรมดาที่เทวดาอยากจะเป็น IP: 203.107.194.246 27 สิงหาคม 2549 20:44:34 น.
โดย: เทียมฟ้า (benjarong9 ) 27 สิงหาคม 2549 21:11:48 น.
โดย: อุ้มสี 27 สิงหาคม 2549 21:48:29 น.
โดย: piangdin 27 สิงหาคม 2549 21:51:09 น.
โดย: พุกไม้ (พุกไม้ ) 28 สิงหาคม 2549 0:01:57 น.
โดย: tu_bong 28 สิงหาคม 2549 8:27:38 น.
โดย: Dressy 28 สิงหาคม 2549 21:33:47 น.
โดย: น้ำหวาน IP: 61.7.129.29 28 สิงหาคม 2549 22:08:03 น.
โดย: เลเต IP: 124.121.55.72 29 สิงหาคม 2549 5:09:08 น.
โดย: อายส์. . . . . . IP: 203.130.159.2 29 สิงหาคม 2549 20:14:17 น.
โดย: เทียมฟ้า (benjarong9 ) 31 สิงหาคม 2549 0:02:05 น.
โดย: เจ้าการะเกด IP: 58.9.172.78 31 สิงหาคม 2549 14:57:41 น.
โดย: เทียมฟ้า IP: 210.86.216.219 1 กันยายน 2549 11:44:47 น.
โดย: หิ่งห้อย (ztarliners ) 3 กันยายน 2549 20:31:00 น.
โดย: piangdin 5 กันยายน 2549 11:42:34 น.
โดย: เทียมฟ้า..gunja IP: 210.86.222.57 8 กันยายน 2549 19:31:13 น.
โดย: ตุ๊กตา IP: 203.150.147.3 22 กุมภาพันธ์ 2550 13:41:13 น.
Location :
เชียงราย Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
ฉันมีแต่ความรักมีแต่ความฝัน พอจะแบ่งปันคนทุกคน ถ้าเธอจะมีรักเธอจะมีฝัน เธอจะปันให้ใครหรือเปล่า ซื้อคืนฟ้าพราวแสงดาวแสนงามจับดวงตา ถักทอให้เป็นเช่นรองเท้ามาให้ฉัน แล้วจะใส่ไปหาโลกในนิทราของเธอ แต่งเติมความฝันแสนดีให้มีสองเรานิรันดร์