Trying to Conceive Chapter 2: Unexplained infertility เมื่อเจอกับภาวะมีบุตรยาก (แบบหาสาเหตุไม่ได้)
Tryingto Conceive Chapter 2: Unexplainedinfertility เจอกับภาวะมีบุตรยาก (แบบหาสาเหตุไม่ได้) เข้าอย่างจัง เวลาผ่านไปหนึ่งปีหลังจากผ่าตัดซีสต์ (ไวเหมือนโกหก) เรากับสามีก็ยังคว้าน้ำเหลวเรื่องทำลูกเหอๆ ไปฉีดสีดูท่อนำไข่ว่าตันป่าว ก็ไม่ตัน ลองทานยากระตุ้นไข่ 3 เดือน ทั้ง Clomid ทั้ง Letrozol แล้วจัดการลงมือทำการบ้านกันเองก็ยังไม่เห็นผล แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเราสองคนถึงยังไม่ประสบความสำเร็จเรื่องทายาทกันสักที เวลาก็ล่วงเลย เราก็แก่ตัวขึ้นทุกวัน ช่วงสิงหาคม 2011ก็เลยตัดสินใจจูงมือเข้าไปปรึกษาหมอ (Reproductive Endocrinology) ที่ Fertility Clinic ก็เล่าให้หมอฟังทุกอย่างว่าทำอะไรยังไงกันมากบ้างเราสองคนตรวจร่างกายขั้นต้นกันมาจนครบครัน จนหมอสรุปได้ว่าเราสองคนเป็นประเภท Unexplained infertility คือหาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้ ว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไร ตรวจหาต้นเหตุของปัญหานั้นยาก แต่มีวิธีแก้มากมาย...หมอว่าอย่างนั้น วิธีแก้มีง่ายๆ คือการพึ่งขั้นตอนการผลิตลูกทางวิทยาศาสตร์ วันนี้คุณหมอก็ทำหน้าที่ประหนึ่งพ่อค้านำเสนอเมนูทำลูกให้เราและสามีได้เลือกซื้อว่าจะเลือกไปทำขั้นตอนไหน เปอร์เซ็นต์ความสำเร็จมีเท่าไหร่โอกาสจะได้ลูกแฝดหรือมากกว่าแฝดมีแค่ไหน บลาๆ วิธีการก็มีตั้งแต่ฉีดชื้อ (IUI) แบบทานยา หรือแบบยาฉีด รวมทั้ง การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF - in vitro fertilization) ง่ายๆ หมอให้เราเลือกเองเลย ตามกำลังทรัพย์ของพวกเราคือให้ตัดสินใจเองว่าจะเลือกวิธีไหน พวกเราเลยขอคุณหมอเก็บไปคิดเป็นการบ้านแล้วค่อยโทรไปบอกมาวันหลัง และด้วยที่เราและสามีอาจจะต้องย้ายงานไปอยู่ที่อื่น แล้วคลีนิคแห่งนี้ (Duke Fertility center) ก็มีเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จของเด็กหลอดแก้วที่สูงมาก คือประมาณ 60% และเราเองก็อายุ 34 ปีแล้ว (แอบแก่) แน่นอนว่าสามีเลยเลือกข้ามขั้นไปที่ IVF เลย ไม่ลอง IUI ให้เสียเวลา เสียเงินแบบเปล่าๆ ตอนนั้น เราเองก็แบบ เอ่อ แล้วถ้าเกิดว่าแค่ IUI ก็สำเร็จแล้วเราไม่ต้องเสียเงิน $15000 เหรียญไปเปล่าๆ หรือ แต่สามีก็ยังมีข้ออ้างทางสถิติต่างๆ นานา มาโต้เถียง จนเราต้องยอมเห็นด้วยไปเขา สรุป เราก็โทรไปบอกทางคลีนิควันรุ่งขึ้น ว่าเลือกทำ IVF เลยและได้ประสานงานคุยกับ IVF nurse ซึ่งรับผิดชอบดูแลคนไข้ประเภทนี้ว่าขั้นตอนเป็นยังไง เริ่มต้นกันยังไง การทำเด็กหลอดแก้วเป็นการปฏิสนธินอกร่างกาย โดยการนำไข่และอสุจิมาผสมรวมกันในหลอดแก้วทดลองแล้วเกิดการปฏิสนธิในห้องปฏิบัติการ ภายหลังจากการเกิดการปฏิสนธิแล้ว ไข่ที่ถูกผสม จะเจริญเติบโตและแบ่งตัวเป็นตัวอ่อนเมื่อตัวอ่อนเจริญเติบโตได้ 3-5 วัน จากนั้นจะทำการย้าย ตัวอ่อนใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิง ก่อนจะเริ่มกระบวนการ เราสองคนต้องไปตรวจเลือดกันอีกครั้งตรวจทั้งพวกโรคติดต่อทั้งหลาย และภูมิโรคต่างๆ สำหรับหญิงเตรียมตัวตั้งครรภ์รวมทั้งตรวจมะเร็งปากมดลูก ที่สำคัญ ตรวจค่าฮอร์โมนเพศหญิงต่างๆ เช่น FSH LH ทั้งหลาย และอัลตร้าซาวน์ตรวจดูมดลูกรังไข่สารพัด ส่วนสามีก็โดนตรวจเชื้อซ้ำ (Semen Analysis) อีกหน ปรากฏว่าผลครั้งนี้ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร คือเชื้อพี่ท่านไม่ค่อยวิ่ง แป่ววว แล้วที่ตรวจไปคราวก่อนงะตกลงค่าของอันไหนที่ค่าที่ถูกต้องกันแน่ ก็คุยกับหมอหมอบอกว่าค่าพวกนี้มันคลาดเคลื่อนกันได้ ถ้าให้แน่ก็ต้องตรวจซ้ำอีกครั้ง แต่หมอก็บอกว่าไม่จำเป็น เพราะเราสามารถเลือกทำ ICSI (intracytoplasmic sperm injection) (คือการจับตัวอสุจิจิ้มเข้าไปผสมกับไข่เลย) เพิ่มเข้าไป ก็จะแก้ปัญหาพวกนี้ได้แล้ว เสียตังค์เพิ่มอีก เหอๆ
สรุปพวกเราเลยต้องทำ IVF/ICSI และเริ่มต้นด้วยการไปเข้าคลาสสอนฉีดยา ก่อนเริ่มกระบวนการ เหอๆเราก็กลัวนะ เพราะต้องฉีดยาทุกวัน แต่เพื่อลูกน้อยกลอยใจแล้ว ก็ต้องสู้ๆ ผลเป็นยังไง ติดตามบล็อคหน้าจ้าา
Create Date : 17 สิงหาคม 2555 |
Last Update : 17 สิงหาคม 2555 7:38:28 น. |
|
2 comments
|
Counter : 3364 Pageviews. |
|
|