|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
กับหนัง 4 เรื่องที่ได้ดู
สวัสดีครับ
หลังจากไม่ได้เข้าเน็ตซักช่วงหนึ่งเนื่องจากติดภาระกิจ จนมีหนังค้างสต็อกที่ยังไม่ได้พูดถึงถึง 4 เรื่อง เลยขึ้นหน้าใหม่เลยดีกว่า
จากการเขียนบล็อกมาเกือบปี บางครั้งก็รู้สึกว่าตัวเองเขียนเอง เออเองคนเดียวหรือเปล่านี่ เพราะไม่ค่อยเห็นมีรีพลายเท่าไร นอกจากของตัวเอง แต่ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็เหมือนการบันทึกของตัวเอง ซึ่งบางทีกลับมาอ่านก็ตลกดี (ซึ่งปกติจะขี้เกียจเขียนไดอารี่มากครับ ในบล็อกนี่คือการเขียนต่อกันนานที่สุดเท่าที่เคยเขียนแล้ว) ก็มีเพื่อนๆบางคนหลังไมค์มาแนะนำ เช่นให้อัพบล็อกบ่อยๆเวลาเขียนถึงหนังเรื่องใหม่ หรือให้มีรูป มีสีสันมากขึ้น
เรื่องอัพบล็อก คงไม่ดีกว่าครับ เพราะตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าจะอัพเฉพาะมีเรื่องเยอะๆ หรือเวลาที่อยากเรียบเรียงอะไรบางอย่าง แล้วถ้าอัพแล้วมันแค่เล็กๆน้อยๆ ก็เกรงใจคนที่อุตส่าห์เข้ามาดู และพบว่าไม่เห็นมีอะไรเลย ส่วนเรื่องรูปรับไว้พิจารณาแล้วกัน แต่ปัญหาคือความขี้เกียจ แล้วส่วนตัวก็ไม่ค่อยเก็บรูป เซฟรูปอะไรเท่าไร และจริงๆคนที่เข้ามาอ่านบล็อกนี้ก็คงรู้ว่าผมจะชอบเน้นตัวหนังสือ(เยอะๆ) มากกว่าเน้นเทคนิค หรือความตื่นตาตื่นใจ
######## Update ล่าสุด ########
wu's Thai Film Awards 2007 update 31 ธันวาคม 2550
สยาม ฤดูร้อนยาวนาน และบ้านปลายฟ้า Update 20 ธันวาคม 2550
Lust, Caution: เร้นรัก-ราคะร้อนupdate 2 พฤษจิกายน 2550
#########################
หนังที่ได้ดูในช่วงที่ผ่านมา
The Kingdom หนังท่าดี และทีเกือบเหลว เปิดตัวด้วยความตื่นตาตื่นใจ และกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของคนดูได้อย่างรวดเร็วสไตล์ 24 ก่อนจะไปสู่การดำเนินเรื่องแนว CSI แถมด้วยการเสียดสี ความแตกต่างทางวัฒนธรรม และปิดท้ายด้วยฉากบู๊ระห่ำ ระเบิดภูเขา เผากระท่อม (แค่เปรียบเปรย เพราะทั้งเรื่องไม่มีทั้งภูเขาและกระท่อม) และบทส่งท้ายที่แทบจะไม่เหลือความหวังใดๆให้คนดู
หนังแนวแอ็กชั่นการเมือง และบรรยากาศการก่อวินาศกรรมที่ครุกรุ่นอย่างนี้ ดูจะเป็นแนวหนังแนวใหม่ที่เห็นมากขึ้นเรื่อยๆทั้งนิยาย (เช่นนิยายของทอม แคลนซี่) ซีรีย์ (เช่น 24 ) และภาพยนตร์ (โดยหลายๆเรื่อง และมีมาก่อนเหตุการณ์ 911 เสียอีก โดยเรื่องที่อยากแนะนำมากคือ The peacemaker) โดยจุดร่วม คือฉากการก่อการร้ายที่อาจลุกลามให้เลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่ ฝ่ายพระเอกที่มักเป็นอเมริกัน ฝ่ายผู้ร้ายซึ่งมักเป็นประเทศมุสลิม และมุมกล้องที่สั่นไหว ไร้ทิศทาง เพื่อสร้างบรรยากาศความสมจริง ซึ่ง The Kingdom มีครบถ้วน สิ่งที่น่าเสียดายคือจากประเด็นใหญ่โตที่หนังปูทางไว้ อุปสรรค์ที่มากีดขวาง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนาอย่างหนักแน่น แต่พอไปถึงช่วงคลี่คลาย หนังกลับไม่สามารถทำให้คนดูรู้สึก กระทบใจกับประเด็นที่หนังต้องการสื่อ หรือพึงพอใจกับบทสรุปเท่าที่ควร หนังจึงเป็นได้แค่หนังแอ็กชั่นที่ดูสนุกเท่านั้น (ปัญหาใกล้เคียงกับ The DaVinci Code ฉบับภาพยนตร์)
Pleasure Factory ส่วนตัวไม่เข้าใจ และเข้าไม่ถึงกับประเด็นที่หนังต้องการนำเสนอ รวมไปถึงสไตล์ของหนังที่รวมหลากหลายสไตล์ไว้ด้วยกัน (สารคดี แนวสมจริง suspense จนถึงดราม่า) ถ้าจะว่าหนังต้องการถ่ายทอดวิถีชีวิตอันหลากหลายของคนย่านนี้ในคืนหนึ่ง จุดที่เลือกมาก็ไม่ชัดเจน รวมถึงไม่อาจเป็นตัวแทนของย่านนี้ได้ชัดเจน ส่วนของเนื้อเรื่องที่จับต้องได้ มีเพียงเรื่องของนักเรียนทหารถูกเพื่อนพามาขึ้นครู ในขณะที่เรื่องอื่นๆยังค่อนข้างคลุมเคลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของอนันดา ที่ใช้ดารามีชื่อเสียงมากที่สุด หนังให้เวลาและเน้นความสำคัญที่สุด แต่ผลลัพท์ที่ได้ กลับน้อยที่สุดไปด้วย
ผู้กำกับเอกชัยกำลังอยู่ในช่วงหาตัวตนกับการสร้างหนัง แต่อาจหายังไม่เจอ (รวมไปถึงหนังเรื่องแรก Beautiful Boxer ซึ่งยังมองไม่เห็นลายเซนต์ หรือจุดร่วม จุดเด่นของผู้กำกับเลย) และจากการที่เขามาจากสายละครเวที การทำหนังที่ออกแนวสมจริง ไม่เน้นการแสดง ดูเหมือนจะเป็นการฉีกสไตล์ของตัวเองพอควร แต่เอกชัยยังไม่แม่นมากพอที่จะปล่อยให้หนังลื่นไหลไปอย่างสมจริง และถ่ายทอดแนวคิด การนำเสนอของผู้กำกับให้คนดูจับต้องได้ (เทียบกับงานของอภิชาติพงษ์ ซึ่งแม่นมากกว่า) ส่วนตัวยังคิดว่าเอกชัยมีฝีมือพอควร (บางฉากใน Beautiful Boxer ที่ออกแนวละครเวทีออกมาดีมากๆ) เพียงแต่หนังเรื่องนี้ ไม่น่าจะใช่แนวทางของเขา
จุดที่ผมชอบในหนังเรื่องนี้มีเพียงแค่รู้สึกว่าหนังโป๊จัง แต่พอกลับมาคิดดู เราแทบไม่ได้เห็นอะไรที่โจ่งแจ้งเลย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่ทำให้คนดูรู้สึกได้อย่างนี้
The Witnesses หนังฝรั่งเศสเรื่องนี้มีตัวละครที่เป็นชายรักชาย มีฉากเลิฟซีนของทั้งชายหญิง และชายชาย มีการพูดถึงโรคเอดส์ แต่ความรู้สึกขณะดู ไม่มีความรู้สึกว่ากำลังดูหนังเกย์สักนิด แต่เป็นการดูหนังดราม่าขายการแสดง ที่บังเอิญมีตัวละครเป็นเกย์มีบทบาทสำคัญเท่านั้น
ที่รู้สึกอย่างนี้ อย่างแรกเพราะตัวละครที่ยืนอยู่ฝั่งเดียวกับคนดู และเป็นคนชักนำอารมณ์คนดู ตัวละครที่เราได้เห็นแง่มุมต่างๆทั้งด้านมืดและสว่าง ตัวละครที่มีพัฒนาการและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตามเนื้อเรื่อง คือตัวละครผู้หญิง และความสัมพันธ์ที่เธอมีต่อตัวละครเกย์ หรือไบ ทั้ง 3 คนในเรื่อง (เอมมาดูเอล บาสซ์ให้การแสดงที่อินมากๆในหนังฝรั่งเศสที่เธอแสดงทุกเรื่อง ซึ่งเธอทำไม่ได้ในหนังฮอลลีวู๊ด พูดภาษาอังกฤษ เช่น Mission Impossible ภาคแรก) แม้ว่าตัวละครอื่นๆหนังก็ให้น้ำหนักมากไม่น้อยหน้าเธอก็ตาม แต่ความลึกของตัวละครตัวนี้ ทำให้ตามนามธรรมเธอกลายเป็นตัวละครศูนย์กลางของเรื่อง (แม้ว่าถ้าดูทางรูปธรรม ตัวละครอื่นๆที่เหลือเหมือนกับจะก้าวมาเป็นศูนย์กลางของเรื่องได้ทุกตัวด้วยซ้ำ)
จุดที่ผมชอบในหนังเรื่องนี้คือการแสดงของตัวละครทุกตัว (แม้แต่ตัวประกอบ) ที่ดูกลมกลืน ลึกซึ้ง รับส่งกันอย่างเป็นธรรมชาติ และการเล่าเรื่องที่จงใจข้ามเหตุการณ์บางอย่าง จนมีความรู้สึกเหมือนเป็นภาพของความทรงจำที่ไม่ปะติดปะต่อ และการใช้ฉากหลังเพื่อแสดงภาพสังคม เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น และไม่เน้นจนสาระของเรื่องถูกเบี่ยงเบน แต่ก็ไม่น้อยจนสงสัยว่าจะใส่มาทำไม ขอยกนิ้วให้ผู้กำกับที่คุมออกมาได้ดีมาก
Lust, Caution ขอพูดถึงหนังเรื่องนี้แค่คร่าวๆ เพราะกะจะเขียนยาวๆอีกครั้งหนึ่ง
ความรู้สึกของหนังเรื่องนี้ เหมือนกับจับเอา Black book มาผสม The Joy Luck Club มาผสม The Lovers มาผสม Brokeback Mountain นี่คือความสำเร็จที่ตามหลัง Brokeback Mountain ของอั้งลี่อย่างสวยงาม การเดินเรื่องที่ละเมียดละไมเนิบช้า การแสดงของสองดารานำที่ทั้งทุ่มเท และถ่ายทอดออกมาอย่างลึกซึ้ง ภาพและดนตรีประกอบที่ลงตัว ความสะเทือนใจกับชะตากรรมของตัวละคร และการมีอะไรตกค้างให้ได้คิดว่าใครคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคนที่ lust หรือ caution และ love มันหายไปจากชื่อเรื่องหรือเปล่า
คำถามจากคนที่รู้ว่าผมได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว คงเดาได้ โป๊ไหม เห็นมากแค่ไหน สมจริงแค่ไหน ขอบอกว่าโอกาสที่จะได้ดูหนังเรื่องนี้เต็มๆในบ้านเราตามโรงหนังรอบปกติ เกือบเป็นศูนย์ด้วยซ้ำ ฉากเลิฟซีนโจ่งแจ้ง สมจริง และแรงแทบทุกฉาก แต่ไม่ได้มีมากมายดังคำเล่าลือ เพราะกว่าจะถึงเลิฟซีนฉากแรกหนังก็เกินครึ่งเรื่องแล้ว แต่จากนั้นก็ต่อเนื่องตลอด ความแรงก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น และบางฉากอาจทำให้ตกใจได้ด้วยซ้ำ โดยคนที่มาโชว์เรือนร่างและลีลาในที่นี้ ได้แก่เฮียเหลียงและนางเอกใหม่แค่สองคน ซึ่งก็เต็มที่ทั้งสองคน และที่ชอบมากๆ คือฉากเลิฟซีนมันไม่ได้ขายแค่ sex แต่การแสดงของทั้งสองคนมันมีทั้งอารมณ์หวาดระแวง การระแวดระวัง ไม่ไว้วางใจ เล่มเกมส์ ตัณหา ความรัก ความใคร่ การเอาชนะ การปิดบัง ซึ่งขอแสดงความเสียใจล่วงหน้ากับคนที่หวังจะเห็นฉากเหล่านี้และอารมณ์เหล่านี้บนจอเมืองไทย คงแทบไม่เหลืออะไรแน่ๆ
Create Date : 01 พฤศจิกายน 2550 |
|
21 comments |
Last Update : 31 ธันวาคม 2550 1:33:08 น. |
Counter : 780 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: yuttipung IP: 58.9.26.211 10 พฤศจิกายน 2550 6:41:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: wu IP: 202.28.117.237 12 พฤศจิกายน 2550 9:08:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: wu IP: 125.26.143.68 13 พฤศจิกายน 2550 0:08:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: house pr IP: 58.8.94.96 20 พฤศจิกายน 2550 13:45:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: wu IP: 125.26.139.191 23 พฤศจิกายน 2550 0:32:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: wu IP: 125.26.139.191 23 พฤศจิกายน 2550 1:55:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: wu IP: 125.26.139.77 25 พฤศจิกายน 2550 23:27:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนที่ฝันถึง Emmet IP: 203.146.239.195 26 พฤศจิกายน 2550 13:20:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: wu IP: 202.28.117.231 27 พฤศจิกายน 2550 10:32:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: yuttipung IP: 202.44.8.100 29 พฤศจิกายน 2550 19:20:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: wu IP: 125.26.138.36 12 ธันวาคม 2550 1:07:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: Emmet IP: 203.146.239.195 13 ธันวาคม 2550 16:42:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: wu IP: 125.26.144.64 24 ธันวาคม 2550 19:48:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: Emmet IP: 203.146.239.195 26 ธันวาคม 2550 13:05:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: wu IP: 125.26.139.199 18 มกราคม 2551 0:34:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: wu IP: 125.26.147.54 3 กุมภาพันธ์ 2551 12:08:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: wu IP: 125.26.145.68 7 กุมภาพันธ์ 2551 23:06:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: zit IP: 203.144.140.250 10 กุมภาพันธ์ 2551 16:45:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: นิ้ง IP: 124.120.63.164 27 เมษายน 2551 11:19:29 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ช่วงนี้ไม่ได้ดูหนังเลยครับ
แวะมาชวนไปชิม Children Set สวยๆ อร่อยๆ ด้วยกันครับ
อยากชิม เชิญคลิกที่รูปได้เลยครับ