۞ ArTeMiS ☭ The Goddess of the Moon and Hunting ۞
Drawing the silver bow to the full, Artemis, the goddess of the moon and hunting, is going to release a blessing arrow of light.
If you want to keep pure virginity, Come on the hill, and you can have breeze from the moonbow. If you want to have a good hunting, Come in the woods, and you can have light from the moon.
อาร์เทอมิส (Artemis)หรือในภาคโรมันคือไดอานา (Diana)คือเทพเจ้าแห่งการล่าสัตว์ เทพีแห่งดวงจันทร์ และเป็นเทพีแห่งความรักทางใจและผู้ปกป้องหญิงสาว ตำนานการกำเนิดกล่าวว่าเป็นธิดาฝาแฝดของเทพซุสกับนางอัปสรลีโต(Leto) หรือ ลาโตนา (Latona) มีพี่ชายร่วมอุทรคือ เทพอพอลโล เทพีอาร์เทมีสมีรูปลักษ ณ์เป็นหญิงสาวผู้งดงาม อยู่ในชุดล่าสัตว์ทะมัดทแมง ในมือถือคันธนู ☭
เทพฝาแฝดทั้งสองถูกปองร้ายตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา เพราะเทพีเฮราซึ่งเป็นมเหสีเอกของเทพซุสเกลียดชังชายาน้อยของสวามีจึงลามไปถึงบุตรที่เกิดจากอนุเหล่านั้นด้วย เมื่อรู้เรื่องของนางลีโต พระนางจึงสาปแช่งนางลีโตว่าจะไม่สามารถคลอดบุตรบนแผ่นดินใดได้ อีกทั้งยังส่งงูร้าย ไพธอน (Python)ตามฉกกัดนางลีโตตลอดเวลา นางลีโตประสบเคราะห์กรรมอย่างน่าสงสารเพราะไปที่ใดก็ไม่มีใครต้อนรับด้วยกลัวเกรงอาญาของเทพีเฮรา ทั้งต้องหลบหนีงูร้ายจนอยู่ไม่เป็นสุข และเทพซุสก็กลัวเทพีเฮราเกินกว่าจะช่วยเหลือนางลีโตกับบุตรในครรภ์ ☭
กระทั่งครบกำหนดครรภ์ นางลีโตเจ็บปวดทุกข์ทรมานปางตายเพราะไม่อาจคลอดบุตรได้ ทำให้เทพโพไซดอนเกิดความสงสาร จึงบันดาลเกาะดีลอส (Delos)ให้โผล่ขึ้นกลางทะเล ไม่ติดต่อกับแผ่นดินใด นางลีโตจึงพ้นคำสาป จนกระทั่งสามารถประสูติเทพฝาแฝด เทพอพอลโล และเทพีอาร์เทอมิส ออกมาอย่างปลอดภัย ทันทีที่ประสูติออกจากครรภ์ เทพอะพอลโลก็ฆ่างูไพธอนตาย จนได้นามอีกว่า ไพธูส เมื่อเทพทั้งสองประสูติ เทพบิดาซุสจึงอัญเชิญเทพทั้งสองขึ้นเป็นเทพบนเขาโอลิมปัส และคลายความหมางใจระหว่างเทพีเฮรากับเทพฝาแฝดจนเป็นผลสำเร็จ ☭
บทบาทบนเขาโอลิมปัส เทพอพอลโลถูกสถาปนาขึ้นเป็นสุริยเทพ คุมรถม้าพระอา ทิตย์รอบโลกให้แสงสว่างแก่มวลมนุษย์ในเวลากลางวัน ส่วนเทพีอาร์เทมีสถูกสถาปนาเป็นจันทราเทวี (แทนที่เทพี Selene แห่งวงศ์ Titans) คุมรถม้าเงินพระจันทร์ ให้แสงสว่างนำทางมวลมนุษย์ในยามกลางคืน ทั้งสองฝา แฝดรักใคร่กันมากและมีความชำนาญในด้านขมังธนูเช่นเดียวกัน โดยธนูของเทพอพอลโลจะแม่นยำร้อนแรงดังแสงอาทิตย์ ผิดกับเทพีอาร์เทมีสซึ่งปลิดชีพผู้ต้องศรอย่างนุ่มนวลราวแสงจันทร์ จนดูคล้ายกับคนที่นอนหลับไปเท่านั้น ☭
เทพีอาร์เทมีสมีชีวิตโลดโผนกว่าเทพีองค์อื่น เพราะทรงโปรดการล่าสัตว์และชอบชีวิตโสด จนเทพซุสประทานนางอัปสรผู้ไม่ต้องการแต่งงานจำนวน 50 ตนให้เป็นบริวาร สาเหตุที่พระนางไม่ต้องการมีความรัก ก็เพราะมีความหลังฝังใจจากที่นางลีโตต้องทรมานกับการคลอดบุตร และในเวลาที่ประสูติเทพีอาร์เทอมิสก็ซึมซับความรู้สึกนั้นได้ พระนางจึงไม่เชื่อในความรักและไม่ต้องการคู่ครอง เทพีอาร์เทมีสวิงวอนให้เทพซุสสาบานว่าจะไม่จับคู่สมรสให้พระนางหรือให้พระนางสมรสไม่ว่ากรณีใด และให้พระนางเป็นเทพีผู้ครองพรหม จรรย์ (Maiden Goddess) ซึ่งเทพซุสก็สาบานโดยให้แม่น้ำสติกซ์ซึ่งไหลรอบนรกเป็นพยาน (การสาบานต่อแม่น้ำสติกซ์มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ผู้ใดผิดคำสาบานไม่ว่ามนุษย์หรือเทพเจ้าจะประสบเคราะห์กรรมอย่างร้ายแรง) ☭
ความรัก ตำนานความรักของเทพีอาร์เทอมิสนั้นมีอยู่สองตำนาน ตำนานแรกคือตำนานของกรีกซึ่งเกี่ยวกับกลุ่มดาวนายพรานซึ่งสุกสว่างอยู่บนท้องฟ้าในยามกลางคืน ส่วนอีกตำนานหนึ่งคือตำนานของโรมันซึ่งกล่าวถึงเอนดิเมียน ชายหนุ่มเลี้ยงแกะรูปงาม (ซึ่งบางตำนานกล่าวว่าเป็นเทพี Selene) ☭
ในตำนานของกรีกนั้นกล่าวว่าเทพีอาร์เทอมิสทรงสาบานตนเป็นเทพีพรหมจารีย์ร่วมกับอะธีน่าและเฮสเทียต่อหน้าแม่น้ำสติกซ์ นางชิงชังชีวิตสมรส ความรัก และการยุ่งเกี่ยวกับผู้ชาย แต่สิ่งหนึ่งที่เทพีอาร์เทอมิสไม่ปฏิเสธคือการมีสหายเป็นชายที่รักการล่าสัตว์เช่นเดียวกับพระนาง สหายสนิทของเทพีอาร์เทอมิสมีนามว่า โอไรออน (Orion) เขาเป็นนายพรานผู้ฉมังในการล่าสัตว์ มีสุนัขคู่ใจชื่อว่าซิริอุส ทุกๆ วันเทพีอาร์เทอมิสและสหายจะร่วมกันล่าสัตว์และพูดคุยกันอย่างสนุกสนานหลังจากล่าสัตว์เสร็จ เทพีอาร์เทอมิสหลงรักนายพรานหนุ่มและคิดที่จะสละความเป็นเทพีพรหมจารีย์เพื่อแต่งงานกับโอไรออน อพอลโล่รู้ถึงความคิดนี้เข้าและกลัวว่าอาร์เทอมิสจะต้องรับโทษจากการผิดคำสาบานต่อหน้าแม่น้ำสติกซ์ จึงวางแผนที่จะล้มเลิกความคิดของน้องสาวฝาแฝด ☭
อพอลโล่อุบายสั่งให้โอไรออนเดินลุยน้ำทะเลไปยังเกาะแห่งหนึ่งกลางทะเล และเมื่อ โอไรออน เดินไปถึงยังจุดที่ไกลจนเมื่อมองจากเกาะดีลอสแล้วจะเห็นเพียงศีรษะของโอไรออนที่มองดูเหมือนกับเกาะกลางน้ำ เทพอพอลโล่ก็ชวนเทพีฝาแฝดมาล่าสัตว์แข่งกัน และท้าพนันให้อาร์เทอมิสยิงธนูทะลุเกาะกลางทะเลที่อพอลโล่ชี้ให้ดูให้ได้ อาร์เทอมิสตกหลุมพรางของเทพฝาแฝด เหนี่ยวสายธนูเต็มแรงจนลูกธนูทะลุศีรษะของโอไรออน ถึงแก่ความตาย เมื่ออาร์เทอมิสทราบว่าตนได้ฆ่าชายที่รักลงด้วยน้ำมือของตนเองแล้ว พระนางก็ได้นำศพของโอไรออนและซิริอุสสุนัขคู่ใจขึ้นไปไว้บนท้องฟ้าในตำแหน่งของกลุ่มดาวนายพราน (กลุ่มดาวนายพรานก็คือ ดาวเต่า มี 4 ดวงใหญ่ รอบๆ) และดาวสุนัขใหญ่...รูปปั้นเทพีอาร์เทอมิส ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ในกรุงปารีส ☭
۩۩ The Temple of Artemis (Diana) ۩۩ วิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพธิดาแห่งการล่าและสัตว์ป่า "Artemis" วิหารแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองEuphesus ประเทศ Turkey วิหารแห่ง artemis ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 550 BC ในสมัยของกษัตริย์ Croesus แห่ง Lydia และออกแบบโดย สถาปนิกชาวกรีก Chersiphron โดยภายในตกแต่งด้วยรูปปั้นทองแดง ซึ่งแกะสลักโดยนักแกะสลักชื่อดังในสมัยนั้นได้แก่ Pheidias, Polycleitus, Kresilas และ Phradmon โดยวิหารแห่งนี้เป็นทั้งสถานที่ชุมนุมและสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา วิหารแห่งนี้ถูกเผาโดยชายคนหนึ่งนามว่า Herostratus ซึ่งเขาต้องการจารึกชื่อของเขาในประวัติศาสตร์ ซึ่งวันวันนั้นเป็นวันเดียวกับที่ Alexander เกิด (21 กรกฎาคม 356 BC) โดยมีนักประวัติศาสตร์ชาวกรีกชื่อว่า Plutarch กล่าวว่าเทพธิดา Artemis กำลังยุ่งอยู่กับการเกิดของAlexander จึงไม่สามารถไมไปดับไฟที่วิหารได้ ซึ่งต่อมาวิหารก็ได้ถูกบูรณะขึ้นแต่หลังจากที่ศาสนาคริสต์แพร่หลายใน Euphesus ชาวเมืองก็เลิกเลื่อมใสใน เทพธิดา Artemis จึงทำให้วิหารทรุดโทรมและล่มสลายไปในที่สุด
วิหารสร้างด้วยหินอ่อนเลียบแบบศิลปะแบบกรีกเพื่อถวายเทพเจ้าอาร์เทมีส(เทพเจ้าแห่งดวงจันท์์ื์ของ กรีก) ผู้มาจากสวรรค์ ผู้ช่วยชาวเมืองให้พ้นจากหายนะและภัยพิบัติได้อยู่ในเมืองอีเฟซุสบนชายฝั่ง แห่งหนึ่ง ปัจจุบันนี้คือประเทศตุรกีในรัชสมัยของกษัตริย์อเล็กซานเดอร์ แห่งกรีก จัดเป็นวัดที่สวยงาม แห่งหนึ่งจนกลายเป็นที่รู้จักว่า เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคเก่า วิหารนี้มีเนื้อที่ถึง 54,720 ตารางฟุต ตัวอาคารมีความกว้างถึง 400 ฟุต บริเวณโดยรอบวัดแห่งนี้กิน เนื้อที่เกือบ 2 เอเคอร์ และมีเสาหินตั้งตระหง่านรอบตัวอาคารมากกว่า 100 เสาหิน แต่ละเสาหินมีเส้น ผ่านศุนย์กลาง 6 ฟุต ความสูง 60 ฟุต หลังคาปูด้วยกระเบื้องหินอ่อน ภายในโบสถ์เป็นที่ประดิษฐาน เทพเจ้าชื่อว่า อาร์ทิมีส หรืออีกชื่อหนึ่ง ว่าไดอาน่า ประชาชนจะนำสิ่งของมาสักการะบูชา ส่วนมาก เป็นสิ่งของมีค่ามากมาย หลังถูกไฟไหม้เสียหายครึ่งหนึ่งแต่ได้รับการซ่อมแซมใหม่โดยกษัตริย์อเล็กซานเดอร์ วิหารแห่งนี้ได้ ถูก ทำลายสิ้นก่อนปี ค.ศ. 262 จึงเหลือแต่ซากปรักหักพังเก็บไว้ชมอยู่ในกรุงอิสตันบลู ประเทศตุรกี ☭
PS. ❤ //www.th.wikipedia.org/wiki/อาร์เทอมีส & //nlknguyen.com/2009/01/23/kagaya-legend-of-the-goddess/ |