เมษายน 2552

 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
2 เมษายน 2552
All Blog
+++++ ก้านกล้วย 2 ++++++




เมื่อวานผมมีโอกาสได้พาลูกเมียไปดูหนังanimationภาคต่อเรื่องดัง "ก้านกล้วย2" เพราะลูกสาว"น้องพลอย"อยากไปดูมาก

ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษ ที่นานๆทีจะมีซักครั้งที่ได้ไปดูหนังกับคุณนายจอม นานไม่นานก็คิดดูละกัน เพราะ หนสุดท้ายที่ได้ไปดูหนังในโรงด้วยกันนี่คือเรื่อง "Titanic" !!!! นานมั้ยล่ะ

จำได้ว่าครั้งนั้นกำลังจีบกันใหม่ๆ เราก็เลยอยากพาไปดูหนังรักโรแมนติกที่เขาว่าดีนักดีหนา เพื่อเพิ่มความสวีทหวานแหวว ปรากฎว่า ดูๆกันไปได้แค่ครึ่งเรื่อง สาวจอมก็หลับปุ๋ยไปซะงั้น โอ้!แม่เจ้า

ไอ้เราก็คิดว่า เฮ้ย!ไม่เป็นไร เธออาจจะเหนื่อยๆเพลียๆจากการทำงาน ก็เลยเผลอหลับไป เลยขอแก้ตัวพาไปดูใหม่อีกรอบ ได้ผลครับ คราวนี้คุณเธอเล่นหลับตั้งแต่ต้นเรื่องเลย !!!! ปล่อยให้เราดูอยู่คนเดียวจนจบ โรแมนติกมากกกกกกกกกก

หลังจากนั้น ผมก็ไม่ชวนเธอไปดูหนังในโรงหนังที่ไหนอีกเลย!!!!!

ครั้งนี้มาแปลกที่คุณนายจอมเป็นคนชวนไปดูหนังเอง คงเพราะเห็นว่าลูกๆปิดเทอม และ ลูกๆชอบก้านกล้วยภาคแรกกันมาก เลยอยากไปดูหนังกันแบบทั้งครอบครัว

ตอนแรกผมเองก็หวั่นๆ ขอไม่ไปดูหนังในโรงนะ เพราะ รู้สึกว่าหนังภาคต่อส่วนมากมักจะทำได้ไม่ค่อยดีอย่างที่คาดหวัง เหตุผลอาจจะเป็นเพราะว่า หนังภาคต่อแทบทุกเรื่อง มักจะต้องแบกความคาดหวังจากคนดูค่อนข้างมาก ยิ่งเป็นหนังที่ทำเอาไว้ดีมากๆตั้งแต่ภาคแรก พอทำภาคสองมามักจะอย่างเก่งก็แค่เสมอตัว ส่วนใหญ่มักจะโดนวิจารณ์เสียๆหายๆซะเยอะ

หนังที่เข้าข่ายว่าภาคต่อดีกว่าภาคแรกชัดเจนมีแค่ไม่กี่เรื่องหรอกครับ ยกตัวอย่างหนังที่เรารู้จักกันดีก็เช่น คนเหล็กภาค 2, Toy story2 , Aliens 2, Starwars : The Empire strike back และ Before sunset นอกนั้นส่วนมากมักจะ"เละ"

ตอนแรกก็ว่าจะพาเจ้าเพชรมาดูด้วยกัน แต่ผมขอเบรคเอาไว้ก่อน เพราะ เจ้าเพชรยังเล็กอยู่มาก อายุแค่ 3 ขวบ กลัวว่าเดี๋ยวจะตกใจกลัวจนขอกลับบ้านซะก่อน รอแผ่น DVDออกค่อยซื้อกลับไปให้ดูที่บ้านน่าจะดีกว่า






มาเข้าเรื่องตัวหนังกันดีกว่า ขอเล่าเรื่องย่อๆก่อนนะครับ

หลังจากเสร็จศึกยุทธหัตถีในภาคแรก ก้านกล้วยก็ได้อยู่กินกับชบาแก้ว และ มีลูกช้างฝาแฝด "ต้นอ้อกับกอแก้ว" ขณะเดียวกัน ก้านกล้วยก็มีอีกบทบาทในการเป็นเจ้าพระยาปราบหงสาช้างศึกของพระองค์ดำ มีหน้าที่ต้องรับใช้ชาติ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาให้ชบาแก้วซักเท่าไหร่ เล่นเอาชบาแก้วงอนตุ๊ปั๊ดตุ๊ป่องไปเลย

วันดีคืนร้าย ชบาแก้วและลูกๆ ถูกทหารฝั่งหงสาจับตัวไปยังกรุงหงสา ในขณะที่ก้านกล้วยกำลังติดพันศึกสงครามใหญ่ ก้านกล้วยต้องตัดสินใจเลือกระหว่างหน้าที่ต่อประเทศชาติ และหน้าที่ของ "พ่อ" ที่มีต่อครอบครัว

ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมทีมงานผู้สร้างที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจสร้าง Animation ของไทยๆ ที่เราสามารถยืดอกภูมิใจได้ว่าคุณภาพยอดเยี่ยมไม่แพ้ที่ใดๆ ทั้งๆที่งบประมาณการสร้างไม่ได้มากมายแบบHollywood หรือของญี่ปุ่นเขา แต่สำหรับเมืองไทยเราทุนสร้างระดับเป็น 100 ล้านนี่ก็มีความเสี่ยงต่อการไม่คุ้มทุนสูงมาก

ตัวภาพGraphic ในภาคนี้ถือว่าพัฒนาไปได้ไกลกว่าภาคแรกเยอะ มีความสวยงาม สมจริง และ เทคนิคการเคลื่อนไหวที่ดีขึ้นชัดเจน ดนตรีประกอบก็ฟังดูอลังการยิ่งใหญ่ และ เสริมอารมณ์และ ความต่อเนื่องของหนังได้ดีมาก

อีกทั้งเนื้อหานอกจากพูดเรื่องความรักของพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ที่มีต่อลูกหลาน และ พูดเรื่องมิตรภาพที่ไม่มีพรมแดนแล้ว ยังช่วยปลุกจิตสำนึก "ความรักชาติไทย" พอดูเสร็จแล้วจะประมาณว่าเกิดความฮึกเหิมอย่างแรงกล้า รู้สึกสำนึกบุญคุณของบรรพบุรุษเราที่ช่วยปกปักรักษาผืนแผ่นดินไทย และ ยังช่วยกระตุ้นให้เด็กๆหันมาสนใจประวัติศาสตร์ชาติไทยเราได้เป็นอย่างดี







ทีนี้ผมจะต้องออกตัวไว้ก่อนว่า ที่จะเขียนต่อไปนี้จะเป็น"ข้อติ"ที่ต้องแยกเรื่อง "ความภูมิใจในหนังไทย"ออกไปก่อน เพราะ มันเป็นคนละเรื่องกัน แม้ว่าผมจะอยากให้กำลังใจผู้สร้างหนัง Animationไทยมากมายขนาดไหนก็ตาม เพราะ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นความรู้สึกจริงๆที่ผมได้รับจากการดูหนัง และ ยังอยากให้พัฒนาให้ดีกว่านี้(จริงๆนะ) ไม่ได้เป็นเพราะ"อคติ"ต่อหนังไทยแต่อย่างใด




ข้อแรก ผมว่าภาคต่อภาคนี้ "บ้าพลัง"มากเกินไปหน่อย

สิ่งดีๆในภาคแรกที่ผมชอบ คือการเล่าเรื่องชีวิตของก้านกล้วยตั้งแต่เด็ก
โดยที่ค่อยๆ build อารมณ์เราให้ผูกพันไปกับตัวละครทีละนิดๆ ผ่านการเล่นของก้านกล้วยในวัยเด็ก มีเพื่อนๆทั้งช้าง และ เด็กที่คอยช่วยเหลือก้านกล้วย แม้กระทั่ง"น้าจิ๊ดริด"ก็เป็นตัวช่วยที่คอยหยอดมุขตลกๆ ก็มีส่วนในพัฒนาการของก้านกล้วยเรื่อยๆ จนก้านกล้วยเติบใหญ่ และ เราก็รับได้ และ เชื่ออย่างสนิทใจที่ก้านกล้วยจะกลายมาเป็นช้างศึกของพระองค์ดำใตอนท้าย

แล้วภาคนี้ล่ะ? ไม่ได้เน้นเรื่องพัฒนาการของตัวละครหลักเลย แต่ไปเน้นที่ฉากแอ็คชั่นตระการตาแทบจะทั้งเรื่อง เน้นเรื่องมิติของตัวละครน้อยมาก คือผมว่ามันอาจจะดูอลังการงานสร้างดีนะครับ ในฉากสงครามที่พยายามใส่เข้ามา แต่เชื่อมั้ยครับว่า พอผมเดินออกมาจากโรงนี่"หูอื้อ"ไปเลย เพราะ มันจะมีแต่เสียงเอฟเฟคท์ประมาณว่า "ระเบิดภูเขา เผากระท่อม"กันแทบจะตลอดเวลาที่อยู่ในโรงหนังเลย

มีความรู้สึกว่าผู้สร้างจะพยายาม"อัด"อะไรๆเข้ามาทุกอย่างในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงนี้ ทั้งอารมณ์สุข เศร้า ตื่นเต้น น่ากลัว ตลกโปกฮา ซาบซึ้ง และ actionมันส์ๆ ระเบิดระเบ้อ ผมว่านะอะไรที่มันมีเยอะๆเกินไป บางทีมันก็ดูไม่ค่อย "ทรงพลัง"เท่าไหร่ คือพอมันเยอะ และ จับฉ่ายเกินไป ก็ชักจะไม่ค่อยตื่นเต้นแล้วล่ะ เมื่อเทียบกับภาคแรกที่มีฉากสงครามแค่ตอนต้นเรื่อง กับท้ายเรื่อง แต่ดูดีมีคุณค่ากว่ากันเยอะ




ประการต่อมา ผมว่า"เนื้อหา" ในภาคนี้มันรุนแรง และ ไม่ค่อยเหมาะสมกับเด็กเท่าไหร่

คือเข้าใจว่า"ตลาด"ส่วนใหญ่ของหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นเด็ก แต่เนื้อหาในหนังค่อนข้างจะดู"หวาดเสียว"กันแบบ nonstop เลย ลูกสาวผมดูไปแทบจะเอามือปิดตาไปตลอดเวลา ด้วยความที่ยังเป็นเด็ก ฉากสู้รบที่มีกันแทบทั้งเรื่องนี่โหดๆทั้งนั้นเลย ทั้งฉากทหารไทยฟันพม่า พม่ายิงธนูทะลุอกทหารไทย ช้างเหยียบกระทืบคน ผีดิบหน้าตาน่ากลัวโคตรๆที่โดนฟันเท่าไหร่ก็ยังลุกขึ้นมาได้อีก มันดูรุนแรงไปหน่อยสำหรับเด็กๆที่มาดูนะครับ

สำหรับเด็กวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่อาจจะสะใจ และ "มันส์" ไปกับฉากเหล่านี้ และคงไม่อยากให้มีการตัด หรือ เซ็นเซอร์ฉากเหล่านี้ออกไป (ซึ่งผมเองก็ไม่ชอบการเซ็นเซอร์แบบไทยๆเราประเภทที่ว่าเอายาหม่องป้ายให้มันเบลอๆอะไรแบบนั้น) แต่ผมก็ยังยืนยันว่ามันไม่ค่อยเหมาะกับเด็กเล็กๆซักเท่าไหร่

ยังไงผู้ใหญ่ที่เข้าไปดูกับเด็กก็ควรให้คำแนะนำกับเด็กด้วยนะครับ






อีกประการนึงที่เป็นปัญหาโลกแตกของหนังไทย คือเรื่อง "บทหนัง" ที่มันมักไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่

เรื่องนี้มีการใส่ conflictของตัวละครก้านกล้วย คือ ประเด็นเรื่องบทบาทที่ต้องเลือกระหว่าง ความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นเป็นพ่อ กับ หน้าที่ความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ซึ่งก็ดูน่าสนใจติดตาม และ ฉากที่เป็นดราม่าที่ทำได้เข้มข้นกว่าภาคแรก เช่น ฉากแม่ก้านกล้วยช่วยหลานจนตัวเองต้องตาย หรือ ฉากก้านกล้วยยอมกลับมาหาพระองค์ดำทั้งๆที่รู้ว่าอาจต้องรับโทษขั้นประหารชีวิตในฐานะที่หนีทหาร

แต่ว่าผมก็ยังรู้สึกว่าบทหนังมันยังดูขาดๆเกินๆยังไงบอกไม่ถูก มีเวลาพูดถึงตัวละครแต่ละตัวค่อนข้างน้อย เราเลยไม่ค่อยผูกพัน และ มีอารมณ์ร่วมไปด้วยเท่าไหร่

ตัวละคร"พระสุพรรณกัลยา" และ พระโอรส นี่ก็ดูจะจงใจใส่เข้ามาไปหน่อยแถมตอนท้ายก็ยังลืมไปซะเฉยๆ ไม่ได้พูดถึงชะตากรรมว่าเป็นตายร้ายดียังไง (อาจจะให้ไปคิดเอาเองว่าจะตายไหม) พระเจ้ากรุงหงสาเองก็ไม่ยอมมาออกรบทั้งๆที่มีความแค้นที่พระโอรสตายจากศึกครั้งก่อน แต่ให้หมอผีคนเดียวปลุกกองทัพซอมบี้คนและช้างมาสู้ทหารอยุธยาซะงั้น

บางฉากก็ดูไม่ค่อยเป็นเหตุเป็นผล เช่น ทหารสายลับของไทยแค่ 3 คนนี่บุกช่วยเชลยนับร้อยออกมาจากทหารหงสาทั้งกองทัพเลยนะ ในเมื่อมีทหารเก่งขนาดนี้แล้วทำไมพระองค์ดำถึงต้องเสี่ยงบุกเดี่ยวปีนหน้าผาไปจัดการหมอผีด้วยพระองค์เองด้วยล่ะ ไม่ต้องพูดถึงฉากหมอผีกับซอมบี้ที่มันดูหลุดๆไปจากโทนหนังพอสมควร ดูมันโดดๆไปหน่อยน่ะ

ตอนจบนี่ก็พอจะเดาได้ล่ะว่ามันต้องเป็นอย่างงี้ๆ เช่น เธอจะเจ็บยังไงก็ต้องไม่ตายนะ หรือ ถ้าตายเธอก็ต้องฟื้นนะ มันต้อง Happy ending อย่างงี้สิ คนดูถึงจะชอบใจ

คือก็เข้าใจนะว่ามันเป็นการ์ตูน อย่าไปเอาเหตุเอาผลอะไรกับมันมาก เดี๋ยวจะไม่สนุก แต่แหมมันก็อะนะ มันคาใจอย่างบอกไม่ถูก

ผมคิดเล่นๆนะครับว่าหากภาคนี้เน้นไปที่การเติบโตของตัวละคร"ต้นอ้อ กับ กอแก้ว" มากกว่านี้ก็น่าจะดี ทั้งสองต้องโตขึ้นมาโดยที่ไม่ได้อยู่กับพ่อ แล้ววันนึงได้มาพบกับพ่อ และ ได้ไปผจญภัยด้วยกันในป่า หรือ ในเมืองมนุษย์ ความผูกพันในฐานะพ่อลูกก็คงค่อยๆพัฒนาไปอย่างงดงาม โดยที่ไม่ต้องเน้นฉากสงครามมากขนาดนั้น ซึ่งภาคแรกจะมีจุดแข็งที่เนื้อหาตรงนี้เลย พอมาภาคนี้กลับโดนละเลยไปอย่างน่าเสียดาย








อย่างไรก็ตาม ผมชอบ subplot ในเรื่องนี้นะครับ ที่พูดถึงช้างเด็กๆที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ที่กรุงหงสาด้วย มีเรื่องราวสนุกสนานเหมาะกับเด็กๆมากมาย (มุขช้างตดตอนท้ายนี่อย่างฮาเลย)

โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง"เพื่อน" ที่ "กอไผ่"ซึ่งเป็นช้างหงสา อยากเป็นเพื่อนกับกลุ่มช้างเด็กอยุธยา โดยที่"ส้มจี๊ด"บอกว่า ช้างน่ะไม่ว่าจะเป็นช้างหงสา หรือ ช้างอยุธยา เราทั้งผองก็เป็นช้างเหมือนกัน เป็นเพื่อนกันได้โดยไม่ต้องแบ่งแยก ไม่ต้องทะเลาะกันเหมือนพวกมนุษย์หรอก

ฟังดูนี่รู้สึกอะไรไหมครับว่าผู้สร้างกำลังจะประชดใครบางคนหรือเปล่า?

ไม่รู้ว่าพวกเสื้อแดง-เสื้อเหลืองเขาได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วจะอาย หรือ ได้คิดบ้างมั้ยว่า พวกคนไทยเราเนี่ย มันไม่รู้ว่าจะทะเลาะกันทำซากอ้อยอะไรนักหนา อายช้างเด็กๆกลุ่มนั้นบ้างเหอะครับ






Create Date : 02 เมษายน 2552
Last Update : 11 เมษายน 2552 7:57:16 น.
Counter : 8761 Pageviews.

9 comments
  
พาหลานชายอายุ14ขวบ ไปดูมาเหมือนกันค่ะ เค้าบอกดูแล้วก็ทำให้รักชาติมากขึ้นกว่าเดิม
โดย: pet.sp วันที่: 2 เมษายน 2552 เวลา:12:53:20 น.
  
เล่าได้น่าอ่านนะคับ..ช่วยให้เข้าใจตัวหนังได้มากขึ้นอีกเยอะ

ฟังๆ ดูประมาณว่าไม่น่าจะเหมาะกับเด็กเล็กเท่าไร ดูจะรุนแรงเกินเหตุ ทั้งฉากสงครามฆ่าฟัน..แถมพระองค์ดำยังต้องรบกะหมอผี แล้วก็ซอมบี้ !! อ๊ากกสส

มันอิงประวัติศาสตร์กันตอนไหนง่ะ......

เฮ้อ... สมกับเป็นหนังไทยครบทุกรสเจงๆ
โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) วันที่: 2 เมษายน 2552 เวลา:18:43:56 น.
  
สวัสดีค่ะ

เห็นมีแต่คนพูดถึง หนังเรื่องนี้
กะว่า รอดีวีดี เหมือนกันค่ะ
แต่.. คงต้องหาภาคแรกมาดู ดีกว่าค๊า

ลูกสาวรู้จักก้านกล้วย จากกล่องไวตามิลล์ค่ะ
ยังไม่เคยดูหนังเรื่องนี้เลยค่ะ

โดย: ปลายดินสอ วันที่: 8 เมษายน 2552 เวลา:19:42:51 น.
  
คนพากค์เก่งมากๆ

ไปดูมาแล้ว
ชอบส้มจี๊ดที่สุดเลย
พากค์เก่งสุดๆ
น่ารักด้วย
โดย: คนชอบส้มจี๊ด(มากๆ-มากที่สุด) IP: 125.26.143.55 วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:15:32:29 น.
  
สนุกมากๆๆๆๆ
ต้นอ้อ และ ก่อแก้วน่ารักมากๆๆๆ
โดย: ใบหญ้า IP: 10.0.21.92, 203.146.243.12 วันที่: 7 กันยายน 2552 เวลา:14:07:09 น.
  
น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดย: เหมียว IP: 58.11.58.204 วันที่: 28 สิงหาคม 2553 เวลา:14:20:25 น.
  
สนุกมากมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
โดย: 321 IP: 125.25.193.53 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:19:17:35 น.
  
หนูชอบมากๆเลยค่ะ สุดๆอ่ะ น่ารักอ่ะ
โดย: ผักบุ็ง IP: 202.29.42.19 วันที่: 9 กรกฎาคม 2556 เวลา:9:46:42 น.
  
หนูเลิฟเลยค่ะ หนูอายุ15แล้วก็ยังดู
โดย: อีหอม IP: 202.29.42.19 วันที่: 9 กรกฎาคม 2556 เวลา:9:48:35 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ฉิกซิงแซ
Location :
นครศรีธรรมราช  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]



เกิดและโตที่กรุงเทพ
เป็นศิษย์เก่าร.ร.ใกล้บ้าน คือ วัดสุทธิ
จับพลัดจับผลู สอบติดหมอจุฬา แบบงงๆ
แล้วมาต่อเฉพาะทางด้านเด็กที่ มอ. หาดใหญ่

บังเอิญมาเจอ"จอม" ที่ต่อมากลายมาเป็นคู่ชีวิต
เลยได้มาอยู่อยู่ภาคใต้ยาวเลย
ไม่ได้กลับมาอยู่กทม.อย่างที่ตั้งใจไว้
เพราะ"คุณนาย"ไม่ชอบรถติดอย่างแรง

เป็นอาจารย์ด้านโรคหัวใจเด็กที่ มอ.ได้ไม่เท่าไหร่
ก็มาได้ข่าวดีว่าจะได้เป็นพ่อคนแล้ว

ต้องมาตัดสินใจกันอีกว่าจะไปเรียนต่อที่ ILLINOIS, USA
ดีหรือเปล่า เพราะ "ผบทบ." กลัวหนาวมาก เลยลาออกมาซะเลยดีกว่า

ตอนนี้ สบายๆกับงานที่คลินิก 2 แห่ง
ว่างๆก็เล่นกับลูกสาว(น้องพลอย)และ ลูกชาย(น้องเพชร)จอมซนน้อยๆ และ หาเรื่องไปเที่ยวกับครอบครัวบ้างตามสะดวก

New Comments