สู่นรกภูมิ Inferno # แดน บราวน์
ผู้แปล อรดี สุวรรณโกมล
สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์
พิมพ์ครั้งที่ 4 มีนาคม 2557
จำนวนหน้า 551 หน้า ราคา 425 บาท
คำโปรย...
สถานที่อันมืดมนที่สุดในนรก สงวนไว้สำหรับผู้ที่ธำรงความเป็นกลางในโมงยามแห่งวิกฤตทางศีลธรรม
'โรเบิร์ต แลงดอน' ศาสตราจารย์วิชาสัญลักษณ์วิทยาแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ตื่นขึ้นในโรงพยาบาลตอนกลางดึก ในสภาพสับสนงุนงงและได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ
เขาจำสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสามสิบหกชั่วโมงที่ผ่านมาไม่ได้เลย รวมทั้งเรื่องที่ว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร...
หรือที่มาของวัตถุประหลาดน่ากลัวที่แพทย์พบซ่อนอยู่ท่ามกลางข้าวของของเขา
จากนั้นโลกของแลงดอนแปรเปลี่ยนเป็นความสับสนอลหม่านอย่างรวดเร็ว
เขาต้องพยายามหนีเอาชีวิตรอดในฟลอเรนซ์กับหญิงสาวผู้เข้มแข็งนาม
'เซียนนา บรูคส์' ซึ่งช่วยชีวิตเขาไว้ได้อย่างชาญฉลาด
ในเวลาไม่นานแลงดอนก็ตระหนักว่าเขาครอบครองรหัสชุดหนึ่ง
ที่สร้างขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ผู้ปราดเปรื่องคนหนึ่ง ซึ่งเป็นอัจฉริยะที่หมกมุ่นกับเรื่องจุดจบของโลก
พอๆ กับคลั่งไคล้วรรณกรรมที่ทรงอิทธิพลที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่เคยมีการเขียนขึ้นมา
นั่นคือ "อินแฟร์โน" ภาคหนึ่งของ "เดอะดิไวน์คอเมดี้" ของดันเต อาลกีเอรี
แลงดอนต้องเดินทางไปทั่วฟลอเรนซ์ เวนิส และท้ายสุดไปยังนครอันเป็นที่บรรจบของโลกตะวันออกกับตะวันตก
เพื่อพยายามกอบกู้โลกให้พ้นจากหายนภัยฝีมือนักวิทยาศาสตร์ผู้นั้น
ก่อนที่จะสายเกินไป...
ใกล้เคียงกับภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดช่วงซัมเมอร์เท่าที่หนังสือจะทำได้... บราวน์สร้างตัวละครสนับสนุนที่เข้มแข็งที่สุดเท่าที่เขาเคยเขียนมา - ยูเอสเอทูเดย์
รวดเร็ว เฉลียวฉลาด เพียบด้วยข้อมูล... แดน บราวน์ นับเป็ฯเจ้าแห่งเรื่องตื่นเต้นระทึกขวัญที่ต้องใช้สติปัญญา - เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล
บราวน์เก่งที่สุดเวลาที่ทำให้ผู้อ่านเชื่อว่าหนังสือฝุ่นเขรอะกับทางเดินอับๆ เป็นเพียงสิ่งปกปิดแผนสมคบคิดแต่ครั้งโบราณกาล - เดอะวอชิงตันโพสต์
################
เพิ่มเติม...
เนื้อหาหลักของเรื่องนี้ มีที่มาจาก "อินแฟร์โน" ภาคหนึ่งของ "เดอะดิไวน์คอเมดี้"
ของ ดันเต อาลกีเอรี ซึ่งวรรณกรรมนี้ มีสามภาค ที่กล่าวถึง
สวรรค์ แดนชำระ และ นรกภูมิ หรือ Inferno ที่กล่าวถึงนรกขั้นต่างๆ
ที่ฟังดูโทษทัณฑ์ในแต่ละชั้น แต่ละบาปนี่ช่างน่ากลัวไม่แพ้นรกไทยๆที่เคยได้ยินเลย
... ตัวร้ายของเรื่องนี้ ได้ทำการบางอย่าง ที่เขาคิดว่าจะช่วยให้โลกเรารอดพ้น
การล่มสลายอันมีสาเหตุมาจากประชากรล้นโลก
โดยเขาพุ่งเป้าไปที่ ผู้อำนวยการ WHO หรือองค์การอนามัยโลกนั่นเอง
ด้วยหน้าที่ อลิซาเบ็ธ ซินสกี ผู้อำนวนการ WHO จำเป็นต้องทำทุกวิถีทางเพื่อ
ป้องกันอันตรายจากชายอัจฉริยะผู้มีความคิดผิดแปลก แต่ดูเหมือนว่ายิ่งวิ่งตามหาเท่าไหร่
เขากลับนำหน้าเธอไปทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน เหลือเพียงความหวังเดียว
คือ อาศัยความช่วยเหลือจาก โรเบิร์ต แลงดอน แต่เหตุการณ์ไม่เป็นดังคาด
เมื่ออยู่ๆ แลงดอน ก็แปลกไป
... แลงดอน ที่จำอะไรไม่ได้เลย ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากแพทย์หญิงเซียน่า บรูคส์
ทั้งคู่หลบหนีผู้ไม่หวังดีทั้งหลายไปด้วยกัน
หนึ่งวันสั้นๆ แต่มันคงยาวในความรู้สึกของคนที่ต้องเสี่ยงตายมาด้วยกัน
เมื่อถึงจุดหนึ่งซึ่งเป็นจุดที่เกิดคำถามเรื่องความไว้ใจ
... ใครที่เขาจะไว้ใจได้บ้าง ในเมื่อความทรงจำที่ลบเลือนไปไม่คืนกลับมา
จากใจ...
ศาสตราจารย์โรเบิร์ต แลงดอน ในภาคนี้เริ่มต้นด้วย ความจำเสื่อม
ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นช่วงสั้นๆ ก่อนจะเกิดการบาดเจ็บที่ศีรษะ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีภารกิจที่ต้องทำเพื่อกอบกู้โลก (ว่าไปนั่น)
แล้วคนที่จำอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวเองมาอยู่ที่ ฟลอเรนซ์ได้ยังไง
จะไปแก้ปริศนาอะไรได้ ... และที่สำคัญ จุดหมายของงานนี้คืออะไร
มันท้าทาย ชวนให้อ่านมากก็ตรงนี้ค่ะ
ทั้งลุ้นให้แลงดอนจดจำเรื่องที่ผ่านมาได้
และลุ้นไปกับการตีความสัญลักษณ์อันเป็นงานถนัดของเขาไปทีละเปลาะ
เรียกว่าเกาะติดแลงดอน กับ แพทย์หญิงบรูคส์ ไปผจญภัยในฟลอเรนซ์
ชนิดว่าไม่อยากกระพริบตาเลยค่ะ
ข้อมูลต่างๆ ยังคงเยอะเหมือนเรื่องก่อนๆ บางอย่างอ่านแล้วต้องเปิดหาดูรูปในเน็ตเป็นตัวช่วยบ้าง
แต่น่าสนุก ถึงเยอะ แต่ก็ไม่น่าเบื่อ
มีการบรรยายเหตุการณ์ต่างๆ ได้เห็นภาพ เหมือนเราหลุดเข้าไปในฉากนั้นจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปในปราสาทเก่า เข้าประตูลับ เข้าทางเดินลับ ช่องลับ ถ้ำคูหา
จนถึงทางเดินอันวกวน เรียกได้ว่าเหมือนเราตามติดเขาไปจริงๆ
แทบละสายตาไม่ได้ (ไม่งั้นหลงทางกับแลงดอนแน่ๆฮ่าๆ)
แถมภารกิจกู้โลกของแลงดอนในเล่มนี้ ก็เป็นเรื่องน่าสนใจมาก
เดาจุดจบไม่ถูก อ่านไปถึงตอนท้ายนี่แบบว่า อึ้ง!! ทึ่ง!!
สรุปชอบมากค่ะ แม้จะอ่านยาก เพราะมีคำและประโยคทับศัพท์
แต่ก็มีคำแปลทั้งจากผู้เขียนเอง และจากผู้แปลที่เสริมมาให้
ทำให้อ่านเข้าใจได้ทั้งหมด แต่เรื่องนี้สนุก น่าติดตามจริงๆ ค่ะ