Group Blog
|
Tokyo ...1. Start! บันทึกการเดินทาง... Tokyo ...1. Start! ไปโตเกียวครั้งนี้ เราไปกันเองชิลๆ ค่ะ ออกเดินทางวันที่ 30 เม.ย. 59 กลับวันที่ 8 พ.ค. 59 บันทึกนี้เขียนเพราะว่าอยากจะเก็บความทรงจำของเราไว้ ทั้งเรื่องประทับใจ เรื่องขำๆ เรื่องที่มันผิดพลาดไปบ้าง พวกข้อมูลต่างๆ ที่ลงในบล็อกนี้ อาจจะไม่ได้เป๊ะปังหรือรู้รอบด้าน แต่จะเล่าเท่าที่เจอมานะคะ แนะนำตัวกันหน่อยค่ะ สมาชิกผู้ร่วมทริป 3 สาว คนแรก น้องมัด น้องสาวเราเอง เป็นผู้นำเที่ยวหลักอย่างเป็นทางการในทริปนี้ คนที่สอง พี่ไก่ เป็นพี่ที่ทำงานของเราเอง ก็เคยไปเที่ยวเกาหลีด้วยกันครั้งหนึ่งแล้วสนุกดี คราวนี้เลยขอตามไปญี่ปุ่นด้วย ป้าบอกว่าต้องรีบไปก่อนที่จะหมดแรงไปไม่ไหว และเราเอง . จุดเริ่มต้นของทริปนี้ คือน้องมัดอยากไปญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังจากเมื่อปีที่แล้วเธอก็ไปโตเกียวนะ แต่ว่ายังเที่ยวไม่จุใจ อยากไปอีก เลยมาชวนกันไป รวบรวมสมาชิกได้ 3 หน่อตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ก็คิดว่าน่าจะมีอีกสักคนไหมไปเป็นเลขคู่มันน่าจะดูลงตัวกว่า (อันนี้คิดเอาเอง) แต่เอาเถอะ 3 คนก็ไปได้น่า . ทีนี้ก็มาถึงว่าจะไปเมื่อไหร่ดี ทุกคนหันมามองเดี๊ยนคนเดียว ทำนองว่าอินี่แหละมีปัญหาที่สุด ... ก็จริง!! ดิฉันก็เอาตารางงานแต่ละเดือนที่จัดไว้ล่วงหน้ามาดูจน ตอนแรกคิดว่าน่าจะไปเดือนมีนา พี่ไก่บ่นว่า มันจะหนาวไปไหม OK อากาศหนาวเราไม่สู้ ... ข้ามไปเมษา ช่วงสงกรานต์ คนไปเที่ยวคงจะเยอะมากๆ แถมค่าใช้จ่ายน่าจะแพงด้วย งั้นก็ขยับไปปลายเมษา ตกลงใจกันได้ก็ไปจองวันลาค่ะ กะจะลากัน 1 อาทิตย์ยาวๆ เลย แต่พอรู้ว่ารัฐบาลประกาศให้วันที่ 6 พ.ค. หยุดพิเศษเพิ่มขึ้นมา เราก็เลยลั้ลลา เปลี่ยนมาเป็นจะไปต้นเดือน พ.ค.แทน เพราะมันหยุดยาว ต้องกราบขอบพระคุณรัฐบาลไทยมา ณ โอกาสนี้ค่ะ ( สรุปออกเดินทาง เสาร์ 30 เม.ย. ถึงวันที่ 8 พ.ค. ลางาน 3 วัน ได้เที่ยว 9 วัน ช่างดีอะไรเช่นนี้) แต่เดี๋ยวก่อน ช่วงอาทิตย์แรกของเดือน พ.ค. มันเป็นวันหยุด Golden week ของชาวญี่ปุ่นเขาน่ะซี คนญี่ปุ่นเขาก็เที่ยวกันช่วงนี้ เราไปก็จะต้องเจอกับทัพนักเที่ยวท้องถิ่น และยังต้องเจอทัพนักท่องเที่ยวชาวไทยแบบเราๆ แน่ๆ (ก็หยุดเหมือนกันนี่นา) แต่ ณ ตอนนี้ เราไม่กลัวคร่าาาาา เรางกวันลามากกว่า ฮ่าๆ เอาละค่ะ นี่แค่จุดเริ่มต้นของทริปนี้ แค่ว่า จะไปเมื่อไหร่ เนี่ยแหละ ใช้เวลาตัดสินใจกัน 3 เดือนค่ะ พอได้วันแน่นอน ก็ต้องจองตั๋วเครื่องบิน .... คำถามแรก ... จะไปลงที่ไหน? ก่อนจะตอบคำถามนี้ได้ ต้องวางแผนก่อนว่า จะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เราเลยให้หัวหน้าทริปของเรา (น้องมัด) วางแผนมาคร่าวๆ ก่อนว่าไปไหนบ้าง มัดก็ลิสต์เอาที่อยากไปมา - โตเกียว (เที่ยวในเมือง) คาวากูชิโกะ (ดูฟูจิ) โยโกฮามา (อยากไปชมท่าเรือตอนกลางคืน ) เกียวโต โอซาก้า ... เยอะไปไหมเธอ ไปๆ มาๆ คิดว่าคงจะแบกกระเป๋าเปลี่ยนที่นอนกันเหนื่อยเกินไป ก็เลยตัดเกียวโตโอซากาออกไป กว่าจะตัดสินใจกำหนดพื้นที่เที่ยวได้ลงตัว .... ก็ผ่านไปอีก 1 เดือน ถึงเดือนมีนาแล้วค่ะ พอได้แผนแล้ว ก็จองตั๋วเครื่องบินได้ พวกเราเลือก เดินทางโดยสายการบินแอร์เอเซีย ขึ้นที่สนามบินดอนเมือง ในตอนเช้า (เครื่องออกประมาณสิบโมง บินตรงไปถึง สนามบิน นาริตะ ตอนประมาณเกือบๆ หนึ่งทุ่ม (เวลาที่ญี่ปุ่น) --- ลองหาข้อมูลดูหลายๆที่ บางคนก็ว่าแบบนี้จะเสียเวลาเที่ยวไปหนึ่งวัน เพราะไปถึงก็มืดแล้ว แต่เราเลือกเวลานี้เพราะอยากให้นี่เป็นทริปชิลๆ ไปถึงก็พักก่อน ค่อยออกเที่ยวกันวันรุ่งขึ้นได้ไม่มีปัญหา แต่ที่เป็นปัญหา คือ เราอยากนั่งติดกัน เลยจองตั๋วแบบล็อคที่นั่ง ทีนี้ก็ไม่รู้จะเลือกนั่งแถวไหนดี ลองหาข้อมูลในเน็ตนี่แหละ ก็ยังไม่กระจ่างว่าตรงไหนดี แต่มีความคิดว่าอยากนั่งตรงที่มันไม่มีปีกเครื่องบินมาบดบังวิวท้องฟ้าอันสวยงามที่จะได้ยล แต่สุดท้ายได้แต่เดาเอา ... และเราก็เลือกที่นั่งหมายเลข 25 ที่นั่งติดกัน 3 ที่ ริมหน้าต่างด้านขวามือ(ถ้าหันหน้าไปทางหัวเครื่องบิน) และเพื่อไม่ต้องคิดกันมากไป ก็จองที่เดียวกันทั้งขาไปขากลับ และวิวที่เราได้คือ ..... ตรงปีกเป๊ะ อร๊ากกกกกก!! ตอนจองมีที่ให้เลือกเยอะมากๆ แต่เราไม่เลือก เราเลือกเบอร์นี้ทำไม ไม่รู้เหมือนกัน แง้ แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้มีผลอะไรมากนักนะคะ เพราะว่าเขาให้ปิดหน้าต่างเกือบตลอดเวลาเพราะว่าแสงมันจ้ามาก รบกวนการนอนกลางวันของผู้โดยสาร กร๊ากกกก เราอ่านหนังสือต้องเปิดไฟส่วนตัว , ส่วนขากลับมีแดดส่องอยู่บ้างค่ะ การเดินทางโดยเครื่องบินครั้งนี้ราบรื่นดี อ่านหนังสือจบไปหนึ่งเล่ม ได้กินข้าวบนเครื่องหนึ่งม้ือ เป็นอาหารที่เราสั่งไว้ล่วงหน้าตอนซื้อตั๋วค่ะ ข้าวหน้าไก่เทอริยากิ คิดว่าประมาณนี้นะ ก็รสชาติพอใช้ได้ค่ะ แต่อยากกินมาม่ามากกว่า เห็นมีคนซื้อมาม่าต้มยำ กลิ่นแซบมาก
ในที่สุดก็ได้ขึ้นเดินทางถึงญี่ปุ่นแล้วค่ะ ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ ในเวปมากมายที่ช่วยกันให้ข้อมูลการเที่ยวญี่ปุ่นไว้หลากหลายและละเอียดมาก ทำให้เราไปเที่ยวได้อย่างสบายๆ ขอบคุณน้องมัดมากๆ ที่ศึกษาข้อมูลเป็นอย่างดี เตรียมตัวพาพี่ๆ ไปเที่ยวแบบจัดเต็มมาก มีต่อตอนหน้านะคะ ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะพี่ชมพู่
แต่ญี่ปุ่นนี่เที่ยวเองได้จริงๆ นะคะ แต่ต้องศึกษาข้อมูลไปก่อนนิดนึง กรณีนี้... หนูให้น้องเป็นคนศึกษาค่ะ เราก็ตามๆ เขาไป ฮ่าๆ โดย: polyj วันที่: 23 พฤษภาคม 2559 เวลา:2:40:22 น.
|
polyj
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?] 2019 Reading Challenge
Polyj has
read 2 books toward
her goal of
200 books.
2018 Reading Challenge
Polyj has
read 5 books toward
her goal of
200 books.
2017 Reading Challenge
Polyj has
read 4 books toward
her goal of
200 books.
2016 Reading Challenge
Polyj has
read 0 books toward her goal of 200 books.
Polyj's bookshelf: read
คุณตั้ม ธรณ vs รับขวัญ
ประทับใจคุณตั้มกับบิ๊กไบค์ของเขา เป็นพระเอกที่เท่จริงๆ
ส่วนนางเอก เห็นหงิมๆ ติ๋ม ๆ อยู่ในบ้าน
แต่กลางคืนนั้นเธอเริงร่าเป็นแม่สาวสวมหน้ากากผู้ลึกลับในผับบาร์นะจ๊ะ
สาวสวมหน้ากากนี้ จะถูกกระชากออกมาตอนไหนน้า มาลุ้...
ราล์ฟ รวินรุตน์ vs แพนด้า ภีรดา
ช่วงนี้เจอหนุ่มบิ๊กไบค์ติดๆ กันนิดนึงค่ะ
พระเอกเรื่องนี้เป็นไบค์เกอร์ตัวท็อป เป็นเจ้าของโชว์รูมขายบิ๊กไบค์รายใหญ่
เลยได้เจอกับน้องแพนด้า นางเอก ซึ่งเป็นพริตตี้สาวดาวยั่ว/รั่วได้ทุกงาน จริงๆ นางสวยนะ แถมย...
ฉู่ชิงหยาง vs มู่เซียงหนิง
ปกแซ่บมาก
เนื้อเรื่อง ช่วงแรกเหมือนจะดราม่า แต่จริงๆ แล้วไม่ 555
อ่านสบายๆ ค่ะ
พระเอกเป็นแม่ทัพที่หยิ่งทะนง ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ
พอโดนบังคับให้แต่งงานกับผู้หญิงที่ตัวเองไม่ได้ชอบก็เลยโกรธ
ส่วนนางเอกรักเขามาก แ...
ท่านแม่ทัพ เยียนชิงหลาง vs อวี้หมี่ เถ้าแก่เนี้ยร้านอาหารริมทาง
เรื่องนี้อ่านไปหิวไปค่ะ เนื่องจากนางเอกเปิดร้านอาหารริมทาง เลยได้โชว์ฝีมือทำอาหารอยู่มากมาย แล้วบรรยายซะละเอียด ถึงเครื่องปรุง วิธีการปรุง ความรู้สึกที่ได้กลิ่น ได้ลิ้มรส โ...
อู๋หยา โผล่มาโดดเด่นในเล่มนี้
อาจารย์สวมหน้ากาก เขาคือใคร
หลินอีชวนของข้ากำลังจะกลายเป็นพวกหลงนางไปซะแล้ว
โชติระเส vs ตยาวดี
เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นการขยายภาพจากเรื่องพักตร์อสูร
โดยเน้นที่ตัว พ่อกับแม่ คือโชติระเส กับตยาวดี
ดังนั้นควรอ่านพักตร์อสูรมาก่อนนะคะ
โชติระเส ในพักตร์อสูร ในสายตาเรา คือผู้ชายที่ไม่ค่อยได้เรื่องนัก ถ้าไม่มีลูกที่เก...
|
ทั้งๆ ที่ตัวเลือกมากมาย แต่ก็นั่นอ่ะเนาะเพราะว่า "ไม่รู้" นิคะ
อ่านแล้วก็เหนื่อยเหมือนกันนะคะสำหรับภารกิจแรกเริ่ม เหมือนจะชิลนะ
แต่ก็ต้องเหนื่อยตั้งแต่การวางแผน หาวันลา ยิ่งคนทำงานเยอะแยะและวุ่นวาย
มันยิ่งยากต้องใช้เวลา แต่จังหวะหมอคนสวยดีจริงๆ ที่ได้วันหยุดมาเพิ่ม ยาวไปค่ะ
รออ่านต่อนะคะ อ่านแล้วเหมือนได้เที่ยวแต่ดีตรงที่ว่าไม่เหนื่อยเองค่ะ (แอบสนุกละ)