พฤศจิกายน 2559

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
22
23
24
26
27
28
29
30
 
 
ลุย! ล่า! ท้าเขียน! :: Tokyo !!




ลุย 2 :: โจทย์ต่างประเทศที่คุณประทับใจ


การไปต่างประเทศที่เราประทับใจที่สุด คือตอนไปโตเกียวกับน้องสาวและพี่ที่ทำงานด้วยกัน

ทริปสามสาวสามวัยสะพายเป้เที่ยวโตเกียว 30 เมษา 59 - 8 พ.ค. 59

นี่เป็นการเที่ยวต่างประเทศเองโดยไม่มีไกด์เป็นครั้งแรกของเรา ก็ตื่นเต้นดี



แผนการเที่ยวของพวกเราก็จัดกันแบบตามใจ อยากไปไหนก็ใส่ๆ มาในโปรแกรม แล้วก็มีการปรับเปลี่ยนบ้างตามแต่สภาพอากาศ


เราตั้งเป้าหมายหลักในการเที่ยวครั้งนี้ไว้ The must คือ


1. ต้องได้ใช้บริการรถไฟฟ้า ที่มีเครือข่ายมากมายยิ่งกว่าใยแมงมุม อยากลองดูว่าไปขี้นที่สถานีโตเกียวแล้วจะหลงไปไหนไหม 55555


2. ชินกันเซ็น shinkansen อยากลองนั่งรถไฟความเร็วสูง ที่เขาว่าวิ่งด้วยความเร็ว 240–320 กม./ชั่วโมง


3. ภูเขาไฟฟูจิ อยากเห็น Fuji-san ตอนที่มีหิมะปกคลุมยอด เหมือนสวมหมวกขาว


4. Ishiran ramen หรือ ราเมนข้อสอบ ที่ตอนนั้นดังมากทีเดียว เลยอยากลองกินกะเขาบ้าง



... ซึ่งในทริปนี้ก็ประสบความสำเร็จ ได้ตามเป้าหมายทุกอย่าง อากาศก็ดีตลอด มีฝนตกบ้างแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรกับการเที่ยวนัก



สิ่งที่พบและประทับใจมาก จากทริปนี้คือ คนญี่ปุ่นใจดี มีระเบียบวินัย บ้านเมืองสะอาด ระบบขนส่งสาธารณะดีเยี่ยม ไปตอนเดือนพ.ค. อากาศกำลังเย็นสบายด้วย ดีมาก


และที่สำคัญคือเพื่อนร่วมทริปที่น่ารักมาก ไปกันสามคนก็อายุอานามไม่น้อยแล้ว แต่ยังเดินกันได้ทั้งวัน ไอ้เรื่องตื่นเช้าไม่ต้องห่วง ...​ทำไม่ได้เลย ตอนแรกกลัวว่าไปเที่ยวเองจะลำบาก แต่ปรากฏว่าสบายมาก เรื่องอาหารการกินนี่หายห่วง ได้กินครบทุกมื้อกว่าตอนอยู่ทำงานไปวันๆ ซะอีก กระเป๋าสัมภาระต่างๆ ก็สามารถฝากไว้ที่โรงแรมได้ตอนที่เราเปลี่ยนที่นอน เลือกที่พักไม่ไกลจากสถานีรถไฟก็เดินทางสะดวก มีซื้อตั๋วผิดบ้าง ลงผิดสถานีบ้าง ไปไม่ทันรถบ้าง ขึ้นรถผิดขบวนบ้าง แต่ก็ขำๆ กันไป สนุกดีค่ะ



---- ภาพตั้งแต่วันแรกที่ไป กับคำบรรยายคร่าวๆ ----

ใช้กล้องมือถือ Samsung galaxy note 5 ถ่ายธรรมดาๆ ไม่ได้ปรับแต่ง ภาพก็เลยไม่ได้สวยงามอะไรมากค่ะ ภาพมันเยอะ เลยจับมารวมๆ กัน อาจจะภาพเล็กไปนิดนึง แต่ก็อยากรวมรวมไว้เป็นภาพประทับใจของเรา







ออกเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเซีย  จากสนามบินดอนเมือง สู่สนามบินนาริตะ

ใช้บริการ N'EX   Narita Express เดินทางเข้าสู่เมืองโตเกียว  กว่าจะไปถึงก็มืดแล้วค่ะ

เข้าที่พัก Hanabi Hotel อยู่แถวๆ ชินจูกุ ลงสถานีชินโอคุโบะ เดินแระมาณ 5 นาทีก็ถึง  ห้องพักมีห้องน้ำในตัว ขนาดก็ประมาณนอนได้ 3 คนพอดี





เช้าวันแรกในโตเกียว เราเริ่มเที่ยวในเมือง  ไปที่ศาลเจ้าเมจิ

เป็นช่วงวันหยุดของชาวญี่ปุ่นด้วย เลยมีพิธีการ พิธีแต่งงานหลายคู่เลย





ออกจากศาลเจ้าเมจิเดินไปฮาราจูกุ มันอยู่ใกล้ๆกัน  ไปตรงซอยที่เขามีร้านขายของแฟชั่นวัยรุ่น ของเยอะมาก คนก็เยอะเช่นกัน  

ได้ลองเครปญี่ปุ่นด้วย … อืม! มันไม่ใช่ทางของเรา 55555

เดิน เดิน เดิน ย่านนี้ผ่านถนนหลายสาย จนเลี้ยวเข้าถนนแมว Cat street มีร้านเก๋ๆ เยอะเหมือนกัน  เดินๆไป จนไปออกชิบูย่า  แวะไปถ่ายรูปกับ 'ฮาจิโกะ'  และร่วมขบวนข้ามแยกชิบูย่า ให้คนบนร้านกาแฟสตาร์บัคได้ถ่ายรูป ฮ่าๆ  ตื่นตาตื่นใจกับเมืองใหญ่จนค่ำมืด ก็พากันกลับที่พัก   

อาหารเย็นวันแรก มาม่าต้มยำเป็นหลัก  … ของที่กินตอนกลางวันมันรู้สึกว่าไม่ใช่เราเอาซะเลย  คิดถึงอาหารไทยขึ้นมาหน่อยๆ 






วันที่สอง : โยโกฮาม่า  เมืองท่าเรือริมฝั่งมหาสมุทรแฟซิฟิก เป็นเมืองที่

ออกเดินทางด้วยรถไฟ JR  Shonan Shinjuku Line  นั่งรถไฟเที่ยวไปนี้เราออกจะงงๆ ไม่รู้ว่ามันต้องเปลี่ยนขบวนรถตอนใกล้ๆ จะถึงหรือเปล่า เพราะรถไฟมันมีตีกลับ  เลยออกจากขบวนมาก่อน มาถามคนแถวๆนั้น เขาก็ช่วยบอกให้ขึ้นรถคันที่ถูกต้องให้  ไปถึงจุดหมายได้ด้วยดี   เป็นเมืองที่อากาศดีมาก 








ตอนกลางวันไปไชน่าทาวน์โยโกฮาม่า มีร้านอาหารเยอะแยะเลย คนก็เยอะมากอีกเช่นกัน

พอบ่ายก็กลับไปที่ท่าเรือโยโกฮาม่าอีกที เพื่อขึ้นชิงช้าสวรรค์ ที่ Yokohama Cosmo World  และตอนค่ำ จะมีการแสดงแสงสีของชิงช้าสวรรค์นี้ด้วย  สวยมากๆ  จบวันกลับไปนอนที่โตเกียวที่เดิม




วันที่สาม : วัดเซนโซจิ  (Asakusa)  เป็นวัดที่คนนิยมไปมากค่ะ  แฟนอิคคิวซังก็ต้องไม่พลาด

แต่คนเยอะมากนะ  ถ้าไปวันธรรมดาที่ไม่ใช่ช่วงวันหยุดน่าจะเดินเล่นชมข้าวของและได้รับความสงบจากการไหว้พระได้มากกว่านี้

ออกจากวัดก็ไปตามหาร้านดองกี้  ที่มีคนฝากซื้อของ  สาขานี้อยู่ใกล้ๆ กับวัดเลยค่ะ  แต่เราไม่รู้ทางก็เดินวนไปวนมาอยู่พักใหญ่กว่าจะเจอ





ออกจากวัดก็บ่ายแล้ว   พวกเรายังมีแรงดี (แต่ขาไม่ค่อยจะสามัคคีกันแล้วนะ) ก็เลยขอไปต่อที่ 'โอไดบะ' เมืองใหม่ที่เกิดจากการถมทะเล  ตอนแรกจะไปตามที่เขาบอกกันมาคือถ่ายรูปกันเทพีเสรีภาพ … แต่ไปถึงก็จะมืดแล้วเลยไม่ได้ไปตามหาเทพีเลย  แต่ได้ภาพกันดั้มแบบกลางวัน-กลางคืนมาด้วย ดีใจๆ  

ก่อนกลับก็ไปชมวิวสะพานสายรุ้ง … ยามค่ำคืน... ตัวสะพานน่ะไม่เท่าไหร่  ไอ้ที่เรียกความสนใจคือคู่รักวัยรุ่นที่ทำเอาป้าๆ ตาร้อนเป็นไฟ  เลยอยู่ได้ไม่นานก็กลับ ฮ่าๆ





วันที่สี่ : โตเกียวสกายทรี 

วันนี้เป็นวันที่ฝนตกตอนเช้าตรู่ พวกเราเลยตื่นสาย โอ้เอ้จนสิบโมงค่อยออกจากที่พัก  ไปชมวิวริมแม่น้ำสุมิดะ  และก็สถาปัตยกรรมบนยอดตึกอาซาฮี (ที่เขาว่าเหมือนฟองเบียร์?) กับโตเกียวสกายทรี  เดินเล่นสักพัก ก็ตั้งใจจะไปต่อคิวขึ้นบนโตเกียวสกายทรี  แต่พอไปถึง คนเยอะ แถมเขายังต้องปิดบริการเพราะลมแรงมาก เราเลยได้เดินเล่นที่ห้าง TOKYO SOLAMACHI  ได้ของน่ารักๆ ติดไม้ติดมือมา 

ไหนๆ ก็ช้อปแล้ว เลยไปต่อที่ตลาด Ameyoko เดินเล่นๆ ไม่ได้ของอะไร

แล้วตอนเย็นก็ได้กินราเมนข้อสอบ  ที่สาขาตรงสถานีรถไฟอุเอโนะ (โปรดอย่าถามว่าไปถึงนั่นได้ยังไง เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน) มันน่าจะไม่ไกลจากตลาดอาเมะโยโกะนะ จำได้ว่าเดินๆ ไปก็ถึงเอง





วันที่ห้า : ไปชมฟูจิซัง 

เช้านี้เก็บข้าวของเข็คเอ้าท์จากโรงแรมเดิม แต่ฝากของเอาไว้ก่อน แล้วเดินทางสู่ คาวากูชิโกะ  โดยรถไฟ JR เหมือนเดิมแต่เปลี่ยนขบวน  ไปเช้ามาก ตอนแรกหาทางไปขึ้นรถไฟที่เราต้องการไม่เจอ ยืนงงๆ กันอยู่ก็มีลูกพี่แอนเดอะแก๊งชาวญี่ปุ่นท่าทางน่ากลัวหน่อยๆ เดินมาถามและให้ความช่วยเหลือพวกเรา  ถึงท่าทางเหมือนจิ๊กโก๋แต่พี่ก็ใจดีมากค่ะ  

รถไฟสายที่จะไปสถานีคาวากูชิโกะน่ารักมาก  ไปถึงก็จัดการอาหารเช้าที่สถานี บรรยากาศดี

เป็นวันที่อากาศดีปลอดโปร่ง  เห็นฟูจิซังสวยงามมากเลยค่ะ  ประทับใจจริงๆ






นั่งรถเมล์เพื่อชมฟูจิซังตามจุดต่างๆ รอบทะเลสาปคาวากูชิโกะ

ก็ถ่ายภาพมาได้พอประมาณ แล้วก็ต้องปลงว่า ถ้าจะให้หน้าคนชัดก็จะไม่เห็นฟูจิซัง  ต้องเน้นวิวมากกว่าเน้นคน

ตอนบ่ายไปที่ Music forest museum วิวสวยดอกไม้สวย แต่เขาว่าถ้าไปหน้ากุหลาบจะสวยกว่านี้มาก  มีโชว์น้ำพุเต้นระบำ  ข้างในมีกิจกรรมเยอะอยู่นะ ถ้าจะดูให้ละเอียดเต็มๆ ก็คงใช้เวลานานเหมือนกัน  เราอยู่ได้ไม่นานก็ต้องออกมาเพื่อเดินทางเข้าที่พัก




Mizuno Hotel  มีวิวเห็นฟูจิซังจากระเบียง  มีออนเซ็น  ห้องอาหารมีให้สั่งเป็นเซ็ตทั้งเช้าและเย็น มีรถไปส่งที่สถานีรถไฟเป็นรอบๆ ตอนเช้า  ไปพักหนึ่งคืน บริการดีค่ะ  






วันที่หก : เจดีย์ซุเรโตะ  Chureito Pagoda 

เรานั่งรถไปจากสถานีคาวากูชิโกะ ไปยังสถานี  Shimoyoshida แล้วเดินไปตามทางจะมีป้ายลูกศรเป็นระยะ ไม่ไกลก็ถึงทางขึ้นเขาไปยังเจดีย์ 

เป็นเจดีย์บนยอดเขาที่ต้องเดินขึ้นบันไดประมาณสี่ร้อยขั้น แต่วิวสวยมากค่ะ คุ้มกับความเหนื่อยจริงๆ 

(เจอนักท่องเที่ยวชาวไทยเยอะมาก  ป้ายบอกทางบอกสถานียังมีภาษาไทยเลยค่ะ)





ชมวิวอยู่บนเขาสักพักเห็นเมฆเริ่มก่อตัวหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ เลยรีบพากันเดินกลับ  แล้วก็มีฝนโปรยปรายไม่หนักนักค่ะ  เรากลับถึงสถานีรถไฟทันพอดี  ได้ฝากท้องไว้กับร้านที่สถานี  ร้านน่ารัก อาหารเป็นราเมนที่หน้าตาและรสชาติดีมากค่ะ  

เราออกจากที่นี่มุ่งหน้ากลับโตเกียว  กลับไปพักที่เดิมค่ะ  โรงแรมที่เช็คเอ้าท์ไปเมื่อวานที่ฝากกระเป๋าเอาไว้นั่นแหละ  ดีนะ ไม่ต้องขนย้ายของไปมาด้วย

แล้วก็ยังเร็วไปที่จะนอน เลยออกไปเดินเล่นแถวๆ สถานีชินจูกุ  เพื่อนๆ ที่เคยมามักจะบอกว่าให้กินขนมนะ  ขนมอร่อยเยอะแยะ  พอถามว่าขนมอะไร ก็มักจะตอบกันไม่ได้ บอกแต่อร่อยทั้งนั้น  … ทีนี้เราเลยเจอขนมวาฟเฟิลที่กลิ่นหอมชวนน้ำลายสอ  เลยชิมซะหน่อย  อร่อยจริงๆแฮะ  มันอร่อยกว่าที่เคยกินที่บ้านเราอะ  


คืนนี้เดินกลับค่ะ … จากสถานีชินจูกุ ไปสถานีชินโอคุโบะ … ถ้านั่งรถไฟก็แค่ 1 สถานี  แต่ทีนี้เกิดอยากลองเดินชมบ้านเมืองเขายามค่ำคืนค่ะ  เดินลัดเลาะกันไป ในที่สุดก็ถึงโรงแรม … ขาลากเลยค่ะ  แนะนำว่านั่งรถไฟเถอะ

แต่ก็มีข้อดีนะ มันทำให้เราได้ลองไปทางใหม่ แล้วก็เจอร้านรวงใหม่ๆ และได้ทราบว่าแถบที่เราไปพักนั่น เป็นย่านเกาหลีค่ะ   มีร้านอาหารเกาหลีเพียบเลย 




วันที่เจ็ด : นั่งชินกันเซ็น ไปชมดอกวิสทีเรีย ที่สวนดอกไม้อาชิคางะ จังหวัดโทชิงิ

เราไปช่วงปลายเทศกาลดอกไม้เขาแล้ว ดอกก็เริ่มโรย ราคาตั๋วเข้าชมก็ถูกลงหน่อย แต่ก็ถือว่าสวยงามประทับใจค่ะ   

ได้นั่งชินกันเซ็นแล้ว  ดีใจมาก  

ขากลับจากสวนดอกไม้ นั่งรถไฟธรรมดาจะไปขึ้นชินกันเซ็นที่ไปจองที่นั่งเอาไว้  แต่พวกเราลงรถผิดสถานี ฮ่าๆ ตลกดี  คือเราหลับ  ส่วนอีกสองคนก็ฟังชื่อสถานีผิด  เลยพากันลงไปอย่างงงๆ  แล้วพบว่าลงก่อนเป้าหมายมา 1 สถานี ต้องรอรถขบวนถัดไป ทำให้พลาดชินกันเซ็นคันที่จองเอาไว้  แต่ไม่เป็นไร เพราะเราซื้อตั๋วมาแบบใช้ได้ทุกขบวนอยู่แล้ว  (JR Wide Pass) ก็ขึ้นขบวนใหม่ ถึงไม่ได้จองที่นั่งไว้ก็ไม่มีปัญหาค่ะ ที่ว่างเพียบเลย




คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่โตเกียวแล้ว  เราจะขึ้นเครื่องกลับเช้าวันรุ่งขึ้น  เลยไปพักที่สนามบิน  ได้ยินคนเขาพูดกันถึงโรงแรมแคปซูล  ก็เลยอยากลอง  …  สรุป นอนไม่ค่อยหลับ  มันมีคนเข้าออกเรื่อยๆ นะ เลยมีเสียงตลอด ส่วนของที่นอนก็สบายพอสมควร ไม่กว้างแต่ก็ไม่ได้ถึงกับอึดอัดอะไร


เช้าวันรุ่งขึ้นก็เดินทางกลับค่ะ … พักที่สนามบินแท้ๆ  แต่ว่าไม่มีเวลาพอจะเดินเล่นช้อปขนมอะไรเลย แต่เท่าที่สะสมมาตั้งแต่วันแรกนี่ก็ทำให้มีกระเป๋างอกออกมาอีกใบแล้ว แหะๆ 


สรุปเป็นทริปที่สนุกมากค่ะ  

เป็นทริปในความทรงจำนะ  นี่ผ่านมา 6 เดือนแล้วยังจำมาเล่าได้เป็นคุ้งเป็นแคว นับว่าประทับใจจริงๆค่ะ

อยากไปอีก

เก็บตังค์ๆ หยอดกระปุกรัวๆ 

ทริปนี้ไม่ประหยัด  อย่าถามว่างบเท่าไหร่  … จงลืมมมมมันไป






Create Date : 21 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2559 22:21:53 น.
Counter : 940 Pageviews.

4 comments
  
เป็นทริปที่คุ้มค่ามากครับ
โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 23 พฤศจิกายน 2559 เวลา:15:45:43 น.
  
ประทับใจมากๆๆๆอยากไปอีกๆๆๆ..เก็บตังรอๆๆๆๆ
โดย: Kaikaew IP: 49.48.25.88 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2559 เวลา:19:11:52 น.
  
ประทับใจมากๆๆๆอยากไปอีกๆๆๆ..เก็บตังรอๆๆๆๆ
โดย: Kaikaew IP: 49.48.25.88 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2559 เวลา:19:31:17 น.
  
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาทักทาย สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
โดย: nokyungnakaa วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:16:49:25 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

polyj
Location :
อุตรดิตถ์  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]



2019 Reading Challenge

2019 Reading Challenge
Polyj has read 2 books toward her goal of 200 books.
hide

2018 Reading Challenge

2018 Reading Challenge
Polyj has read 5 books toward her goal of 200 books.
hide

2017 Reading Challenge

Polyj has read 4 books toward her goal of 200 books.
hide

2016 Reading Challenge

2016 Reading Challenge
Polyj has read 0 books toward her goal of 200 books.
hide

2015 Reading Challenge

2015 Reading Challenge
Polyj has read 1 book toward her goal of 150 books.
hide

Polyj's bookshelf: read

ปะเหมาะเคราะห์รัก
liked it
คุณตั้ม ธรณ vs รับขวัญ ประทับใจคุณตั้มกับบิ๊กไบค์ของเขา เป็นพระเอกที่เท่จริงๆ ส่วนนางเอก เห็นหงิมๆ ติ๋ม ๆ อยู่ในบ้าน แต่กลางคืนนั้นเธอเริงร่าเป็นแม่สาวสวมหน้ากากผู้ลึกลับในผับบาร์นะจ๊ะ สาวสวมหน้ากากนี้ จะถูกกระชากออกมาตอนไหนน้า มาลุ้...
tagged: read-2018
ภารกิจรั่ว...ยั่วให้รัก
liked it
ราล์ฟ รวินรุตน์ vs แพนด้า ภีรดา ช่วงนี้เจอหนุ่มบิ๊กไบค์ติดๆ กันนิดนึงค่ะ พระเอกเรื่องนี้เป็นไบค์เกอร์ตัวท็อป เป็นเจ้าของโชว์รูมขายบิ๊กไบค์รายใหญ่ เลยได้เจอกับน้องแพนด้า นางเอก ซึ่งเป็นพริตตี้สาวดาวยั่ว/รั่วได้ทุกงาน จริงๆ นางสวยนะ แถมย...
tagged: read-2018
ภรรยาจำนนรัก เล่ม 1
liked it
by 莫顏
ฉู่ชิงหยาง vs มู่เซียงหนิง ปกแซ่บมาก เนื้อเรื่อง ช่วงแรกเหมือนจะดราม่า แต่จริงๆ แล้วไม่ 555 อ่านสบายๆ ค่ะ พระเอกเป็นแม่ทัพที่หยิ่งทะนง ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ พอโดนบังคับให้แต่งงานกับผู้หญิงที่ตัวเองไม่ได้ชอบก็เลยโกรธ ส่วนนางเอกรักเขามาก แ...
tagged: read-2018
ลวงล่อแม่ทัพไม่มาเยือน
liked it
ท่านแม่ทัพ เยียนชิงหลาง vs อวี้หมี่ เถ้าแก่เนี้ยร้านอาหารริมทาง เรื่องนี้อ่านไปหิวไปค่ะ เนื่องจากนางเอกเปิดร้านอาหารริมทาง เลยได้โชว์ฝีมือทำอาหารอยู่มากมาย แล้วบรรยายซะละเอียด ถึงเครื่องปรุง วิธีการปรุง ความรู้สึกที่ได้กลิ่น ได้ลิ้มรส โ...
tagged: read-2018
เจินหลง กลหมากเหนือเมฆ เล่ม 2
really liked it
อู๋หยา โผล่มาโดดเด่นในเล่มนี้ อาจารย์สวมหน้ากาก เขาคือใคร หลินอีชวนของข้ากำลังจะกลายเป็นพวกหลงนางไปซะแล้ว
tagged: read-2018
สารัตถะรัก
really liked it
โชติระเส vs ตยาวดี เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นการขยายภาพจากเรื่องพักตร์อสูร โดยเน้นที่ตัว พ่อกับแม่ คือโชติระเส กับตยาวดี ดังนั้นควรอ่านพักตร์อสูรมาก่อนนะคะ โชติระเส ในพักตร์อสูร ในสายตาเรา คือผู้ชายที่ไม่ค่อยได้เรื่องนัก ถ้าไม่มีลูกที่เก...
tagged: read-2018

goodreads.com
New Comments