ตราบสิ้นแสงอัสนี เล่ม 1-2 by อสิตา
สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม
พิมพ์เมื่อ ตุลาคม 2559
จำนวนหน้า 614 หน้า ราคา 420 บาท
คำโปรย...
ชาตินี้ก็เป็นพี่ ตามน้องมา ชาติหน้า...ล้าเกินจะตามเจ้าต่อไป
ใจสั่งลาด้วยภาษากวีซึ่งแผลงมาจากวรรณกรรมโปรด
แต่เขาไม่ใช่นางเมรีผู้น่าสงสารของพระรถเสน
เขาจะไม่ตามใครและไม่ต้องการให้ใครมาตามเขา ตรีเมฆยิ้มน้อยๆ
ให้ตนเองในกระจก ความรู้สึกทะลักทลายหลั่งริน
เหมือนท่อนท้ายของบทเพลงโหมบรรเลงที่วาทยกรร่ายลีลา
เร่งเร้าให้ท่วงทำนองพุ่งกระแทกสูงขึ้นถึงขีดสุด จวนเจียนระเบิด
เกิดชาติหน้าฉันใด อย่าได้รักเธออีก
ความรักข้างเดียวตลอดเวลาอันยาวนาน มันเหงาเกินไป
เทียบกับตฤณภพ เขาได้โอกาสมากกว่า ใช้เวลากับเธอนานกว่า
แข่งขันเกมนี้เพียงลำพังมาจนสุดทางโดยไร้คู่แข่ง แต่แล้วก็ยังแพ้
สมควรยืดอกรับอย่างจนใจ
ละสู่ภพชาติใหม่ เขาไม่ขอต่อเวลา...รักเธอ!
หลังอ่าน
ตฤณภพ , ตรีเมฆ ,
พราวพิรุณ , รามสูร , มณีเมขลา , กวิน , เมฆ
พออ่านเรื่องนี้จบ ต้องร้องว้าว พล็อตดี มีการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำยุคเข้ากับเรื่องราวตำนานพื้นบ้านและตัวละครในวรรณคดี สรุปเลยเป็นนิยายรักแนวไซไฟที่มีกลิ่นอายของความโบราณ โดยเฉพาะการนำ หุ่นตัวละคร มาเป็นส่วนประกอบหลักของเรื่อง ชอบไอเดียนี้มากๆ ค่ะ
เริ่มเรื่องมาด้วยสองแสบแฝดนรก คือตอนแรกที่อ่านเราก็แอบคิดว่าใครจะเป็นพระเอกนะ อ่านไปก็เดาไปสลับกันไปมา เลือกไม่ถูกว่าจะเชียร์ฝ่ายไหนดี
แต่ใครที่อยากจะเลือกพระเอกตั้งแต่แรกๆ ... ขอบบอกเลยว่า อย่าเพิ่งค่ะ ใจเย็นๆ เดี๋ยวมันจะมีตัวละครงอกออกมาอีกเยอะเลยค่ะ ค่อยๆ เลือก #พระเอกในใจคุณกันไป
ในช่วงแรก ๆ ของเรื่อง อาจจะต้องอ่านอย่างตั้งใจเป็นพิเศษเพราะเป็นช่วงปูพื้นก่อนเรื่องราวจะเริ่มมีความพิศดาร ดังนั้นมันก็จะค่อยๆ มีจุดพลิกผัน และมีความซับซ้อนขึ้นทีละน้อย ตัวละครก็เพิ่ม ระดับความลึกล้ำของเล่ห์เหลี่ยมตัวละครก็เพิ่มขึ้น ช่วงแรกๆ เลยอ่านได้ช้า แต่พอเริ่มจับทางได้ ก็อ่านไปลุ้นไปไม่อยากวางเลยค่ะ
ชอบการบรรยายฉากพื้นหลังของเมืองใหม่ ฉากตึกต่างๆ ที่มีความอลังการ และก็ฉากรบฉากต่อสู้ที่อ่านแล้วเหมือนเราได้ดูหนังเลยค่ะ
สุดท้าย ถ้าถามเราว่าชอบตัวละครตัวไหนที่สุด เราชอบรามสูร เป็นตัวละครที่มีมิติ มีความขัดแย้งในตัวเอง มีความลับซ่อนอยู่ แต่ที่ชอบมากที่สุดคือ การรู้จักปรับตัว ดูเหมือนเป็นยักษ์ดุร้าย แต่จริงๆ แล้วก็มีด้านที่อ่อนโยน รักรามสูรค่ะ