Don't meow over the spilt milk...

<<
พฤษภาคม 2555
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
2 พฤษภาคม 2555
 

ความฝันที่หายไป - จากเรื่อง Clem’s Dream

ความฝันที่หายไป
จากเรื่อง Clem’s Dream



เคลมตื่นขึ้นมาในห้องของเขาที่สว่างไสวด้วยแสงตะวัน แล้วก็คร่ำครวญขึ้นมาว่า
“โอ ฉันทำความฝันของฉันหายไปแล้ว ความฝันอันแสนงดงาม
ความฝันที่ขับขาน ร้องตะโกน เรืองรองและระยิบระยับ ฉันทำหายไปแล้ว
ใครบางคนฉุดดึงเอาไปจนไกลสุดเอื้อมในทันทีที่ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา”

เขาเหลียวมองไปรอบๆ มองดูเตียงนอน ของเล่น เก้าอี้และหน้าต่างที่มีแมกไม้อยู่เบื้องนอก

“คงจะมีใครปีนเข้ามาทางหน้าต่างแล้วก็ขโมยความฝันของฉันไป”

เขาจึงถามภูตรองเท้าแตะว่า “เธอเห็นใครขโมยความฝันของฉันไปหรือเปล่า”
แต่ภูตรองเท้าแตะซึ่งนอนหลับสนิทและขดตัวซุกหัวเข้าไปในรองเท้า มันจึงไม่เห็นใครเลย

เขาจึงถามภูตแปรงสีฟัน”เธอเห็นใครขโมยความฝันของฉันไปหรือเปล่า”
แต่ภูตแปรงสีฟันซึ่งยืนอยู่บนขาข้างเดียวและจ้องมองเงาตัวเองในกระจกห้องน้ำ ก็บอกว่ามันไม่เห็นอะไรเลย

เคลมจึงถามภูตผ้าเช็ดหน้า ถามภูตสบู่ ถามภูตผ้าม่าน แล้วก็ถามภูตนาฬิกา
แต่ก็ไม่มีใครเห็นคนที่ขโมยความฝันของเขาไปเลย

“ลองดูที่ใต้หมอนของนายสิ ใต้หมอน ใต้หมอนไงละ” ภูตน้ำขับรองขึ้นมา
“อ้าปาก แล้วก็มองดูในปาก ในปาก ในปากของนาย แล้วนายก็คงจะได้รู้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
เคลมจึงค้นดูที่ใต้หมอน เขาพบเหรียญเงินอันหนึ่ง
เขาปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ ส่องดูกับกระจก และอ้าปากของเขาให้กว้างที่สุดเท่าที่จะกว้างได้
แล้วเขาก็พบโพรงแห่งหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นที่อยู่ของฟัน
“ภูตฟันคงจะเข้ามาในขณะที่ฉันกำลังหลับ เอาฟันของฉันไป แล้วก็จ่ายเหรียญเงินหนึ่งอันให้ฉัน
นางคงจะต้องเอาความฝันของฉันไปด้วย แต่ว่านางไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้นเลยนี่นา”


ขณะที่กำลังรับประทานอาหารเช้า เคลมก็ถามขึ้นว่า
“ฉันจะเอาความฝันของฉันกลับคืนมาจากภูตฟันได้อย่างไร”
ภูตนมจึงบอกว่า “นางอาศัยอยู่ ณ ที่ไกลและไกลออกไป อยู่บนเกาะแห่งดวงจันทร์ ซึ่งเป็นที่ที่อยู่ในอีกฟากหนึ่งของทุกๆแห่ง”
ภูตขนมปังก็กล่าวขึ้นขึ้นว่า”นายจะต้องนำของกำนัลไปให้นาง จะต้องเป็นสิ่งที่กลมและมีสีขาว มิเช่นนั้นแล้วนางจะไม่ยอมคืนความฝันให้นายเลย”

เคลมจึงเข้าไปในสวน แล้วเปรยขึ้นว่า
“ฉันจะหาทางไปยังเกาะแห่งดวงจันทร์ได้อย่างไร เกาะที่อยู่ ณ อีกฟากหนึ่งของทุกๆแห่ง แล้วฉันจะเอาอะไรไปให้แก่ภูตฟันเป็นของกำนัล”
“จงขึ้นไป ณ ยอดเนินเขา ยอดเนินเขา ยอดเนินเขา” ภูตหญ้าขับขานเป็นทำนองเพลง
“แล้วเอาแขนโอบรอบโขดหิน รอบโขดหิน รอบโขดหิน ซึ่งตั้งอยู่ ณ ที่นั้น
หากนายสามารถเอาปลายนิ้วของมือทั้งสองแตะกันได้ โขดหินก็จะช่วยให้ความปรารถนาของนายบรรลุจุดหมาย”
ดังนั้น เคลมจึงปีนป่ายขึ้นไปสู่ยอดเนินเขาอันเขียวชอุ่ม
ที่นั่น มีโขดหินเป็นสีเทาเก่าแก่แท่งหนึ่งซึ่งอยู่สูงพอๆกับต้นคริสต์มาสตั้งตระหง่านอยู่
เคลมพยายามที่จะเอาแขนโอบให้รอบ แต่เขาก็ไม่สามารถเอื้อมแขนเอานิ้วมือทั้งสองข้างไปแตะกันได้



“นายจะต้องโตขึ้น โตขึ้น แล้วก็โตขึ้นกว่านี้อีก” ภูตหญ้าขับร้อง
“ขอให้น้องสาวของฉันช่วยนาย ช่วยนายและช่วยนาย”
ดังนั้น เคลมจึงวิ่งกลับไปบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ
ทั้งภูตขนมปัง ภูตน้ำ ภูตนม และภูตแอปเปิ้ล จึงพากันไปที่ยอดเนินเพื่อช่วยเหลือเขา
พวกเขาดึงเคลมไปตามทางยาว แล้วก็ดึงเขาไปทางด้านข้าง พวกเขาช่วยกันดึงเรียงต่อๆกัน
พวกเขาช่วยกันดึงแล้วก็ดึงเล่า จนสามารถเอานิ้วมือจากมือทั้งสองข้างของเขาอ้อมไปแตะกันที่อีกฟากหนึ่งของแท่งหินสีเทาเก่าแก่
“เอาละ นายบอกความปรารถนาของนายได้แล้ว” ภูตโขดหินบอกกับเขา
“ฉันปรารถนาจะได้เรือสักลำ” เคลมบอกความประสงค์
“เพื่อนำฉันไปยังปราสาทของภูตฟัน บนเกาะแห่งดวงจันทร์ ซึ่งอยู่ ณ อีกฟากหนึ่งของทุกแห่งหน”
ใบลอเรลใบหนึ่งปลิวคว้างลงไปสู่ลำธาร แล้วก็ขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดเท่าลำเรือ
เคลมจึงก้าวลงไปในเรือใบไม้นั้น
“นายจงล่องลอยไป ล่องลอยไป แล้วก็ล่องลอยไป” ภูตน้ำขับขาน
แล้วเรือก็ล่องลอยไปพร้อมกับเคลม ลงไปตามลำธาร ลงไปสู่แม่น้ำ แล้วก็ลงไปสู่ทะเลอันกว้างใหญ่

ท้องทะเลล้วนแต่ประกอบขึ้นมาจากความฝัน
เมื่อก้มมองลงไป สู่ในห้วงน้ำลึก ก็สามารถมองเห็นความฝันมากมายเหลือคณา
ความฝันเหล่านั้นเรืองรองและไหวพลิ้วไปมาอยู่ใต้ท้องเรือของเขา เหมือนใบหญ้า มีทั้งสีทอง สีเขียว สีดำและสีเงิน
แต่เคลมก็ไม่พบเห็นความฝันของเขาว่าอยู่ตรงไหน ไม่ปรากฏเลยในท้องทะเลอันกว้างใหญ่
แต่เรือน้อยของเขายังคงเดินทางต่อไป วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า

ในหนทางที่ห่างไกลออกไป เคลมมองเห็นปิศาจร้ายมากมาย ทั้งปิศาจผักขม ซึ่งล้วนแต่มีสีดำอมเขียว
ปิศาจเชือกรองเท้า ซึ่งพันกันยุ่งเหยิงไปหมด ปิศาจบันได ซึ่งเป็นมุมคดเคี้ยวไปมา
ปิศาจสาหร่ายทะเล ซึ่งส่งเสียงกร็อบแกร็บ แล้วก็ปิศาจฟองน้ำ ซึ่งซับน้ำไว้จนชุ่มโชก
ในท้ายที่สุด เรือใบไม้ก็เดินทางมาถึงเกาะแห่งดวงจันทร์ ซึ่งอยู่ ณ อีกฟากหนึ่งของทุกแห่งหน



เกาะแห่งดวงจันทร์กลมเหมือนกงล้อ ชายหาดที่เป็นโขดหินเต็มไปด้วยหอยกับอิฐหินสีดำที่มีขนาดเท่าๆกับผลแอปเปิ้ล และสูงขึ้นไปก็เป็นหน้าผาสีขาวอันสูงตระหง่าน
และบนยอดหน้าผาที่สูงที่สุด ก็เป็นที่ตั้งปราสาทของภูตฟัน ซึ่งสร้างจากฟันจำนวนมากมาย

“ฉันจะปีนขึ้นไปยังยอดหน้าผานั่นได้อย่างไรกัน” เคลมเอ่ยถามขึ้นมา
“และฉันจะเอาอะไรไปกำนัลแก่ภูตฟัน เพื่อว่านางจะได้ให้ความฝันของฉันกลับคืนมา”
“ขับร้องบทเพลงให้พวกหอยบนชายหาดฟังสิ” ภูตน้ำบอกวิธี “พวกเขาชื่นชมกับบทเพลงมาก”

“ฟากฟ้าราตรีกาล
เคลื่อนคล้อยผ่านไป
ฉันจะขึ้นไปสู่ยอดผาได้ไฉน
ลำแสงแห่งดวงจันทร์
ความเรืองรองของดวงดาว
ฉันจะไปหาความฝันของฉันได้อย่างไร”

บรรดาหอยทั้งหมดที่อยู่บนชายหาดพากันถอนใจด้วยความชื่นชมยินดี แล้วก็กางเปลือกของตนออกเพื่อฟังบทเพลงของเคลม
กษัตริย์ของพวกหอยจึงกล่าวขึ้นว่า
“ก้มลงมาสิเคลม เอานิ้วคลำดูในเปลือกหอยของฉัน แล้วนายจะพบไข่มุก นำไปให้กับภูตฟัน แล้วบางทีนางอาจจะยอมคืนความฝันให้กับนาย”
เคลมจึงก้มลงไป เอานิ้วมือคลำดูภายในเปลือกหอยตัวใหญ่อย่างนุ่มนวล แล้วเขาก็พบไข่มุกเม็ดโตเท่าๆกับผลพลัมอยู่ข้างใน เป็นไข่มุกที่มีขนาดพอเหมาะพอดีกับฝ่ามือของเขา แล้วเขาก็หยิบเอาหินสีดำก้อนกลมอีกก้อนหนึ่งขึ้นมาจากชายหาด
“ขอบคุณ” เขากล่าวกับกษัตริย์ของพวกหอย “นายช่างใจดีเหลือเกิน ฉันจะเอาไข่มุกเม็ดงามนี้ไปให้กับภูตฟัน
แล้วบางทีนางอาจจะยอมคืนความฝันให้ฉัน ว่าแต่ว่าฉันจะปีนขึ้นไปยังยอดผานั่นได้อย่างไรกันละ”
“ขับขานบทเพลงของนายอีกครั้ง อีกครั้ง อีกครั้ง” ภูตน้ำขับร้องขึ้นมา “แล้วบางที อาจจะมีใครมาช่วยนาย”

“ราตรีกาล หลับใหล
ในห้วงสมุทรลึก
ฉันจะขึ้นไปยังยอดผาได้หรือไฉน
สายฝน อันหม่นมัว
หิมะ อันหนาวสั่น
ฉันจะพบความฝันได้อย่างไร”



แล้วเกล็ดละอองหิมะก็โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า ทับถมกันเป็นขั้นบันไดสีขาวให้กับเคลม
ขั้นบันไดที่คดเคี้ยวขวักไขว้ไปมาตลอดทางจนขึ้นไปถึงยอดผา
ดังนั้นเคลมจึงสมารถปีนป่ายขึ้นไปทีละขั้นๆ ขั้นแล้วขั้นเล่า จนกระทั่งขึ้นมาถึงยอดสูงซึ่งตั้งเป็นปราสาทของภูตฟัน
ประตูปราสาททำด้วยเศษไม้ที่ลอยมาตามสายน้ำ สีขาวราวกับกระดาษ
เคลมใช้ก้อนหินสีดำเคาะประตู เมื่อเขาเขย่าก้อนหิน ก็มีเสียงสั่นรัว ราวกับว่ามีฟันโยกคลอนอยู่ภายใน
เคลมเคาะประตูหนึ่งครั้ง สองครั้ง แล้วก็สามครั้ง
“ใครมาเคาะประตูของฉัน” เสียงอันโกรธเกรี้ยวสียงหนึ่งร้องถามขึ้นมา
“ฉันเอง ฉันชื่อเคลม ฉันมาตามหาความฝันของฉัน”
บานประตูค่อยๆเปิดออกมาอย่างช้าๆ แล้วภูตฟันก็ชะแง้ออกมา

ภูตฟันเป็นภูตที่แก่ที่สุดในโลก ก่อนที่มังกรตัวสุดท้ายจะกลายเป็นหิน นางกำลังสร้างปราสาทของนาง
และนางจะลงมือสร้างปราสาทก็ต่อเมื่อเมล็ดจากต้นธิสเทิลสุดท้ายจะปลิวคว้างขึ้นไปในอวกาศ
ดวงตาของนางเหมือนลุกบอลหิมะ มือทั้งสองของนางเหมือนแท่งน้ำแข็ง
“เจ้าเป็นใคร” ภูตฟันถามขึ้น “ทำไมเจ้าบังอาจมาเคาะประตูของฉัน ฉันไม่เคยให้ฟันคืนกับใคร ไม่เคยเลย”
“ฉันชื่อเคลม ฉันไม่ได้ต้องการฟันของฉันคืนหรอก ฉันต้องการความฝันของฉันคืน”
ภูตฟันมองเคลมด้วยแววตาที่มีเลศนัย
“เจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าฉันเก็บความฝันของเจ้าเอาไว้”
“ฉันแน่ใจ” เคลมตอบ
“และหากว่าฉันเก็บเอาไว้ในปราสาทนี้ แล้วเจ้าจะค้นพบได้อย่างไร”
“ฉันจะรู้ถ้าฉันได้เห็น”
“ตกลง ก็ได้ เจ้าเข้ามาค้นหาดูได้ แต่ว่าเจ้ามีเวลาอยู่ได้นานเพียงเจ็ดนาทีเท่านั้นนะ”
ดังนั้น เคลมจึงเข้าไปในปราสาทของภูตฟัน เข้าไปตามห้องโถงที่กว้างขวาง แล้วก็เข้าไปในห้องอันใหญ่โต
ภูตฟันปิดประตูเมื่อเขาเข้าไปในปราสาท แล้วก็ใส่กลอนประตูที่ทำด้วยเขี้ยวงูพิษ

เคลมตระเวนไปทั่วทั้งปราสาท ขึ้นไปตามบันไดที่เลี้ยววกวนและตามทางเดินที่วกเวียนไปมา
ผ่านเข้าไปตามห้องต่างๆที่ขึ้นไปชั้นบนสุดของหอคอย ออกไปตามเฉลียง ลงไปในห้องใต้ดิน ตามซุ้มประตู แล้วก็สนาม
ทุกๆสิ่งล้วนแต่เป็นสีขาว แต่ก็ปราศจากสุ้มเสียงใดๆ แม้แต่เสียงของหนู หรือว่าเสียงของนก
เขาเริ่มรู้สึกหวาดหวั่นว่าจะไม่มีทางพบความฝันของเขา
“เจ้าใช้เวลาไปหกนาทีแล้ว” ภูตฟันร้องบอก
เสียงของนางดังก้องราวกับเสียงระฆังภายในปราสาทอันว่างเปล่า



แต่แล้วทันใดนั้น เคลมก็ได้ยินเสียงใสกังวานเล็กๆ เหมือนกับเสียงน้ำหยดลงไปในแอ่ง
“ไปดูนั่นสิ” ภูตน้ำกระซิบบอกกับเขา “ไปดู ไปดู”
เคลมจึงเข้าไปดูในหอคอยอันว่างเปล่าแห่งหนึ่ง สูงและสูงขึ้นไปเบื้องบน เขามองเห็นบางสิ่งบางอย่างที่พัดกระพือ เรื่อเรือง ระยิบระยับ สุกใสและเป็นประกาย
“นั่นไง ความฝันของฉัน” เคลมร้องตะโกนอย่างร่าเริงยินดี “โอ ความฝันอันแสนงดงามของฉัน”
จากเสียงร้องตะโกนของเขา ความฝันก็กระพือและร่อนถลาลงมาจากบนซอกสูงซึ่งเป็นที่ที่ภูตฟันเอาซุกซ่อนไว้
ความฝันของเคลมลอยละล่องลงมาเหมือนใบไม้ที่ปลิดขั้วปลิวคว้าง แล้วก็ลงมาอ้อมโอบร่างเคลมเอาไว้อย่างน่ารัก
“นี่คือความฝันของฉัน” เขาบอกกับภูตฟัน “ส่วนนี่ก็คือไข่มุก ฉันเอามากำนัลแก่นาง และฉันจะนำความฝันของฉันกลับบ้าน”
ภาพของเคลมที่กำลังกอดรัดกับความฝันอย่างร่าเริงยินดีทำให้ภูตฟันรู้สึกเศร้าโศกขึ้นมา
แล้วร่างของนางก็ค่อยๆละลายร่างของนางค่อยๆเล็กลงแล้วก็เล็กลง เหมือนกับก้อนน้ำแข็งที่อยู่กลางแสงตะวัน
“อย่า อย่า อย่าเอาความฝันของเจ้าไปเลย เคลม กรุณาให้ความฝันของเจ้าอยู่กับฉันที่นี่” นางวิงวอนขอร้อง
“นั่นเป็นสิ่งสวยงามเพียงอย่างเดียวที่ฉันมีอยู่ในท่ามกลางความขาวอันสงัดเงียบนี้
นั่นเป็นสิ่งสวยงามที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบเห็นมา หากว่าเจ้าให้ความฝันนั่นกับฉัน ฉันจะให้อายุเจ้าหนึ่งร้อยปี”
“ฉันไม่ต้องการอายุหนึ่งร้อยปี” เคลมตอบ “ฉันต้องการความฝันของฉันมากกว่า”
“ฉันจะให้รถม้ากับเจ้า แล้วเจ้าจะสามารถเดินทางได้เร็วกว่าดวงตะวัน”
“ฉันต้องการความฝันของฉันมากกว่า”
“ฉันจะให้กองไฟที่เจ้าสามารถพกไว้ในกระเป๋าได้”
“ฉันต้องการความฝันของฉันมากกว่า”
“ฉันจะให้ลำแสงที่สามารถตัดเจาะก้อนหินได้”
“ฉันต้องการความฝันของฉันมากกว่า”
“ฉันจะให้สวนที่พืชเติบโตจากข้างบนสู่ข้างล่างและเติบโตกลับหลัง”
“ฉันต้องการความฝันของฉันมากกว่า”
“ฉันจะให้ถ้อยคำที่จะคงอยู่ตลอดเวลา”
“ฉันต้องการความฝันของฉันมากกว่า”



เมื่อภูตฟันเห็นว่าเคลมมุ่งมั่นที่จะเอาความฝันของตนกลับไปจริงๆ นางก็รู้สึกทุกข์โศกยิ่งขึ้น
“ถ้าเช่นนั้น” ในท้ายที่สุดนางก็เอ่ยขึ้น “ก็เอาไข่มุกมาให้ฉัน”
แล้วนางก็ทอดถอนใจลึกและหนักหน่วง จนสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งปราสาท นางถอดกลอนประตูที่ทำจากเขี้ยวงูพิษ และเปิดประตูออก เคลมจึงก้าวเดินออกไปจากปราสาท
เมื่อเขาหันกลับไปเพื่อจะบอกคำอำลากับภูตฟัน ก็พบว่านางกำลงนั่งกอดฟันซี่หนึ่งอยู่ มองดูแล้วช่างแก่ชรา ตัวเล็ก เหี่ยวแห้งและน่าสงสารเสียจนเขาเริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจนางขึ้นมา เขาจึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ฟังนะ” หลังจากเวลาผ่านไปสักหนึ่งหรือสองนาที เขาก็เอ่ยขึ้นมา “นางอยากจะยืมความฝันของฉันมั้ยละ นางอาจจะเก็บไว้จนกระทั่งถึงเวลาที่นางจะไปเอาฟันของฉันซี่หนึ่งในคราวต่อไป นางคิดว่าเป็นอย่างไร”
“ได้ เอาสิ ตกลง” ดวงตาสีขาวของนางส่องสว่างเหมือนดวงตะเกียงขึ้นมาในทันทีทันใด
ดังนั้นเคลมจึงค่อยๆปล่อยความฝันของตนอย่างอ่อนโยนและความฝันก็ร่อนถลาจากไป กลับเข้าไปยังปราสาทของภูตฟันอีกหนหนึ่ง
“ลาก่อน ความฝัน ลาก่อนชั่วคราว” เขาร้องบอก “แล้วพบกันอีกในวันฟันหักคราวหน้า”
“รอก่อน” ภูตฟันร้องบอก “เพราว่าเจ้าช่างเมตตาอารีเหลือเกิน เคลม ฉันจึงอยากให้ไข่มุกเจ้าคืน”
“ ไม่ ไม่หรอก นางเก็บเอาไว้เถอะ ฉันจะเอาไข่มุกไปทำอะไร เอาติดไว้กับกำแพงในปราสาทของนางเถอะ”
แล้วเคลมก็วิ่งลงไปตามบันไดที่ก่อตัวขึ้นมาจากหิมะ
เรือของเขากำลังรอคอยอยู่ เขากระโดดลงไปในเรือ
แล้วมันก็รีบรุดลอยล่องไปเหนือท้องทะเล เหนือความฝันที่ไหลล่องลอยไป
ความฝันที่มีสีแดง สีดำ สีเงิน และสีเขียวเหมือนใบไม้



เมื่อเคลมเหลียวกลับไปมองทางเบื้องหลัง เขาก็เห็นความฝันของตนกำลังโบกพลิ้วสะบัด
เหมือนกับธงอยู่บนหอคอยปราสาทของภูตฟัน และไข่มุกก็ส่องเรืองรองเหมือนกับดวงตากลมอยู่บนกำแพง
“คงอีกไม่กี่เดือน นางก็จะมาพร้อมกับความฝัน” เคลมคิดอยู่ในใจ แล้วเอานิ้วล้วงเข้าไปในปากเพื่อคลำดูช่องระหว่างฟัน ซึ่งเขาสัมผัสได้ว่าฟันซี่ใหม่เริ่มจะงอกขึ้นมาแล้ว



เมื่อเขากลับถึงบ้าน ภูตขนมปัง ภูตนม และภูตแอปเปิ้ลก็กำลังรอคอยต้อนรับเขาอยู่
“ฉันให้ภูตฟันยืมความฝันไว้” เขาบอกกับพวกเหล่านั้น “คงอีไม่กี่เดือนหรอก แล้วนางก็จะนำมาคืนให้ฉัน”
เขาวิ่งขึ้นบันได ล้างหน้าล้างตา แปรงฟัน แล้วก็กระโดดขึ้นเตียงนอน
เขานำหินสีดำก้อนกลมติดตัวกลับมาด้วย ก้อนหินที่เมื่อเขย่าจะเกิดเสียงสั่นรัวเบาๆอยู่ภายใน
“ภูตฟันจะช่วยดูแลความฝันของฉัน” เขาบอกกับภูตรองเท้าแตะ กับภูตนาฬิกา
“นางจะคอยคุ้มครองดูแล” แล้วเขาก็หลับไป



ในขณะที่เคลมกำลังหลับสนิทพร้อมกับถือก้อนหินสีดำเอาไว้ในมือ บรรดาภูตทั้งหมดก็พากันเข้ามาดูเขา
“เขาไม่รู้เรื่องเลย” ภูตน้ำเอ่ยขึ้น “เขาไม่รู้เลยว่าเขาได้นำสิ่งที่มีค่าที่สุดติดตัวมา”
“หากว่าเขารู้จักวิธีเปิดหินก้อนนี้ออกมา” ภูตขนมปังกล่าวขึ้น “เขาก็จะมีอำนาจมากกว่าใครๆในหมู่พวกเรา”
“เขาจะสามารถปลูกต้นแอปเปิ้ลบนดวงจันทร์” ภูตแอปเปิ้ลบอก
“หรือว่าปลูกหญ้าบนดาวอังคาร” ภูตหญ้าบอก
“หรือไม่ก็ทำเสียงติ๊ก—ต๊อก ให้เวลาเคลื่อนถอยหลัง” ภูตนาฬิกาทำเสียงขึ้นมา
“เอาเถอะ เราก็ได้แต่หวังว่าเขาจะรู้จักใช้อย่างมีเหตุผล มีเหตุผล มีเหตุผล” ภูตสบู่บอกอย่างอ่อนโยน
“ขอให้เราหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” ภูตผ้าม่านบอก
“ขอให้เราหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” ภูตผ้าเช็ดเท้าย้ำคำ

แต่เคลมก็ยังคงหลับใหล ยิ้มละไมและกุมก้อนหินสีดำเอาไว้ในมือแน่น

แล้วเคลมก็ค่อยๆเริ่มต้นฝันอีกหนหนึ่ง




Create Date : 02 พฤษภาคม 2555
Last Update : 2 พฤษภาคม 2555 15:54:15 น. 0 comments
Counter : 2088 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

แมวดำ_โดนสาป
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add แมวดำ_โดนสาป's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com