poivang
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




Cursors scrollbar background bullet สีfont สีlink webpage ลบกรอบ ภาพcomment
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
13 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add poivang's blog to your web]
Links
 

 
เป็นทาสของความคิด






โดยพระอาจารย์ชาญชัย เขมวโร

ความคิดนี้หนอเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในใจของทุกคน และพอที่จะรู้สึกได้ด้วยตัวเองเมื่อมีอะไรเกิดขึ้นที่ใจ ไม่ว่าเราจะคิดเรื่องอะไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นในเรื่องที่ดีหรือไม่ดี เราย่อมรับผลในทางจิตใจได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องรอในชาติหน้า ได้รับผลในชาติปัจจุบันนี้ขณะนี้เดี๋ยวนี้ทันที คิดเรื่องไม่ดีเดี๋ยวนี้ได้รับผลทันทีคือจิตใจเกิดความรุ่มร้อน คิดแต่เรื่องดีๆก็ได้รับผลทันทีคือสบายใจทันที เพราะฉะนั้นความคิดจึงให้ผลเร็วในทันที

เราอยู่กับความคิดและก็ใช้ความคิด เราไม่รู้หรอกว่าเราคิดดีหรือคิดชั่วและใช้ความคิดไปในทางที่เป็นประโยชน์อย่างสร้างสรรค์หรือไม่เป็นประโยชน์ในทางทำลาย อยู่ที่ผู้จะใช้ความคิดออกไป ถ้าใช้ความคิดเห็นผิดๆเพื่อทำลายผู้อื่นผลกรรมย่อมตกเป็นของเราก่อน เราจะร้อนใจกระวนกระวายใจเพราะความคิดที่จะทำร้ายผู้อื่น

เราอยู่กับความคิด เราวิ่งตามความคิด หรือเราอยู่เหนือความคิด ถ้าเราวิ่งตามความคิดที่มีความทะยานอยาก ความไม่พอใจ วิ่งตามเท่าไหร่ก็ไม่พอกับความต้องการในความคิด ความคิดมันก็คิดไปเรื่อยๆดูแล้วเห็นแล้วน่าอัศจรรย์ที่มันคิดไกลไปเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าความจบสิ้นในความคิดนั้นไม่มี บางครั้งก็คิดซ้ำของเก่าๆเหมือนเริ่มคิดใหม่กลับไปกลับมา

ถ้าเราสังเกตดูที่ใจของเราเรื่องที่ดีๆมันจะคิดน้อยและจบสิ้นเร็ว ถ้าหากเป็นเรื่องที่ไม่ดีมันคิดมากและก็จบสิ้นไม่เป็นชอบคิดแล้วคิดอีก คิดจนกลายเป็นทุกข์ในใจก็มี เมื่อจิตใจรับผลเป็นทุกข์ร่างกายก็เป็นไปตามจิตใจด้วย เพราะอาการเหล่านั้นมันออกจากจิตใจที่ได้รับผลจากความคิด

ถ้าเราไม่รู้จักความคิดดีพอหรือไม่ได้ฟังจากผู้เล่าที่มีประสบการณ์เรื่องโรคต่างๆที่เกิดจากใจที่คิดแล้ว มันทรมานเป็นที่สุดอย่างยิ่งในชีวิตทีเดียว ทำให้เกิดโรคที่แทรกซ้อนต่อร่างกายที่เราอาศัยอยู่ได้ง่ายๆ แล้วทำให้ร่างกายทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็วทันที เมื่อคิดมากก็ไม่รู้วิธีระงับหรือไม่รู้จักแก้ไขหรือไม่ปลงตกจากความคิดเหล่านั้น การฆ่าตัวตายย่อมมีโอกาสปรากฏขึ้นได้

ที่ไม่รู้ว่าทุกข์หมายถึงเราวิ่งตามเรื่องราวต่างๆในความคิดที่เรากำลังคิดไปเรื่อยๆ จนกลับกลายเป็นอารมณ์ผูกพันในปัญหาต่างๆที่ทำให้เกิดความวิตกกังวล หรือดูเหมือนว่าเรากำลังวิ่งไปหาความคิด ความคิดมันหลอกลวงเราให้เราหลงทางอยู่เสมอเพราะความไม่รู้เท่าทันนี้แหละ มันหลอกลวงให้คิดล่วงหน้าอยู่เสมอ หวังในความคิด เกิดความอยากในความคิด

เรื่องความอยากในความคิดที่คิดไปนั้นดูเหมือนว่ารู้สึกว่ามันง่ายๆ ไม่มีอุปสรรค ถ้ามีอุปสรรค มันก็เพิ่มเติมแก้ไขเข้าไปง่ายๆ แต่พอเรากระทำออกไปจริงๆแล้วดูเหมือนว่ามันยากกว่าที่คิดเสียอีก ต้องเจออุปสรรคต่างๆนานาจนรู้สึกผิดหวังและท้อแท้อย่างยิ่ง นี่แหละความคิด ต้องหมั่นศึกษาดูจิตใจและพยายามอ่านดูใจของตัวเองไปด้วย มิฉะนั้นจะตกเป็นทาสของความคิดและทุกข์ไปโดยไม่รู้ตัว คิดไปคิดมาดูเหมือนว่าจะเป็นคนที่มีจิตใจเลื่อนลอย

ความทุกข์เกิดจากความคิดนี้แหละ ถ้าเราจะเรียนรู้ความคิดต้องค่อยๆอ่านดูจิต พยายามดูความคิดของตนเองให้ออก เพราะความคิดเราดูเหมือนอยู่เหนือเราเสียอีก มันคอยคิดแต่เรื่องที่เป็นทุกข์ให้อยู่เสมอ เมื่อเรารับฟังอะไรมาก็ตาม ความเป็นผู้ไม่มีปัญญาพิจารณาตามย่อมได้รับผลทันที รับฟังมาแล้วคิดดีก็ให้ผลดีทางใจสบายใจดีใจชื่นใจอย่างรวดเร็ว รับฟังมาแล้วคิดไม่ดีก็ได้รับผลทางใจไม่ดีทุกข์ใจร้อนใจไม่สบายใจ

ไม่รู้จักวีธีออกจากความทุกข์เพราะไม่รู้จักวิธีออกจากความคิด เราคิดเองทุกข์เองซึ่งเกิดจากการเห็นการไ ด้ยิน รับทราบมาแล้วก็นำมาคิดเองเออเอง จนกลายเป็นความทุกข์ที่เกิดขึ้นในใจ แล้วก็สร้างอารมณ์ของตนเองเป็นทุกข์แทนผู้อื่นบ้าง หรือมาจากตัวเองเป็นทุกข์ที่จิตใจแล้วกลับมาคิด หาทางออกจากทุกข์ในความรู้สึกนั้นๆที่จิตใจของตนเองไม่ได้

ก็คือไม่รู้ว่าจะเอาความคิดที่มีทุกข์ที่ใจนั้นไปไว้ไหน มักจะอมทุกข์ใจไว้กับความรู้สึกของตนเอง จนแสดงออกไปถึงใบหน้าและตา ทั้งๆที่ความทุกข์เหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ตัวเราเองนำมาคิดทั้งนั้นจนหาทางออกไม่ได้ คนเราจึงเพิ่มความทุกข์โดยไม่รู้ตัว พยายามนำไปเล่าให้คนโน้นคนนี้ฟัง ส่วนคนฟังที่ไม่รู้วิธีออกจากทุกข์ก็พลอยทุกข์ไปด้วย

ความคิดมันทำให้เราป่วยเป็นโรคทางใจและทางกายอย่างรุนแรง โรคที่เกิดจากความคิดที่เป็นทุกข์มากได้แก่ โรคไมเกรน(ปวดศีรษะข้างเดียว) โรคท้องอืด โรคความเครียดจนถึงนอนไม่หลับ จนในที่สุดอาจจะกลายเป็นโรคจิตประสาทหลอนได้

วิธีแก้ไขการออกจากความคิดที่เป็นทุกข์นั้นได้แก่

- การปล่อยวางมี “อุเบกขา” รู้อะไรเห็นอะไรรับรู้แล้ววางเฉยเสีย ซึ่งบางทีเป็นแต่เพียงความเฉยภายนอกหรือพยายามทำเป็นเฉยแต่ใจไม่เฉย อย่างนี้ไม่ถูกต้อง เฉยอย่างนี้ไม่เรียกว่าเป็นอุเบกขา ความวางเฉยนี้หมายถึงสงบเป็นกลางๆไม่เอนเอียงไปข้างหนึ่งข้างใด เฉยอย่างรู้ทันจึงเฉย ไม่ใช่เฉยเพราะไม่รู้

ท่านเปรียบความวางเฉยเหมือนการขับรถ ตอนแรกเราจะวุ่นวายเร่งเครื่องปรับอะไรต่ออะไรทุกอย่างให้เข้าที่ เมื่อพร้อมก็เดินเครื่องวิ่งเรียบสนิท เราก็เพียงแต่เป็นผู้มอง ผู้คุมระวังไว้ สภาวะเช่นนี้เรียกว่าอุเบกขาเป็นสภาพจิตที่สบาย เพราะทำทุกอย่างดีแล้วเข้ารูปของมันแล้ว

- การทำสมาธิคือความตั้งมั่นหรือแน่วแน่อยู่กับสิ่งๆนั้น อย่างที่เรียกว่า “ใจอยู่กับกิจ จิตอยู่กับงาน” จิตใจที่แน่วแน่มีกำลังมาก เป็นจิตที่เหมาะสมในการใช้งาน จิตที่เป็นสมาธิดีแล้วจะไม่ซัดส่ายไปกับความคิดที่ไม่เป็นประโยชน์ และระงับยับยั้งความคิดที่เป็นโทษทุกข์นั้นได้

- สติ คือความระลึกได้เป็นเครื่องดึงจิตไว้กับตัวหรือสิ่งนั้นๆ ไม่ให้จิตฟุ้งซ่านล่องลอยไปที่อื่น

จิตใจเราเปรียบเหมือนพระจันทร์ที่สว่างสุกใส แต่ที่หม่นหมองมืดมิดไม่สว่างไสวเหมือนจันทร์แรมนั้นเพราะมีเมฆหมอกมาปิดบังไว้ เปรียบเหมือนความคิดที่ทำให้ใจนั้นทุกข์บ้างสุขบ้าง ซึ่งเกิดขึ้นแล้วตั้งอยู่ไม่ได้นาน เหมือนพระจันทร์ ที่มีข้างขึ้นข้างแรม มีมืดมีสว่าง











Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2551 18:12:08 น. 19 comments
Counter : 1261 Pageviews.

 


คิดดี ทำดี ได้ดีค่ะ อ่านแล้วได้้ทบทวน
ความคิดตัวเองดี


โดย: ลิตช์ (Litchi ) วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:09:10 น.  

 
ดีจังค่ะ
ขอบคุณนะคะ


โดย: เด็กหญิงในวันสุข วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:11:38 น.  

 
ความคิดลิขิต ชีวิตเค้าว่าไว้แบบนั้น พี่อี๊ดคิดว่าเป็นแบบนั้น ความสุข ความทุกข์ อยู่ที่ความคิด ของเรา ชอบรูปนี้จัง เข้าใจง่าย

สุขสันต์วันแห่งความรัก รักทุกวันคะ


โดย: dolores วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:30:42 น.  

 
Happy Valentine's Day
white roses


โดย: ninukka วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:3:54:15 น.  

 


โดย: ammataya วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:01:32 น.  

 


สุขสันต์วันแห่งความรักค่ะ

ขอขอบคุณสำหรับบทความดีๆ อีกเช่นเคย

ไม่ได้ทักทายกันเสียนาน
ยังคงคิดถึงเหมือนเดิมจ้า


โดย: ~Baan_Ohana~ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:01:30 น.  

 


สุขสดชื่นในวันแห่งความรักนะคะทุกๆคน


โดย: poivang วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:15:24 น.  

 


โดย: Dflatt วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:43:17 น.  

 



.... Happy Valentine's Day ​ค่ะ ​....


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:25:44 น.  

 


โดย: ใจดี (jaidee.jaidee ) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:19:29:02 น.  

 


สุข สดชื่น สมหวังในทุกสิ่งค่ะ


โดย: ทิวาจรดราตรี วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:37:57 น.  

 




ขอบคุณจ้า มีความสุขมากๆเช่นกันนะคะ
Happy Valentine's Dayค่ะ :)


โดย: ยอดสน วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:49:38 น.  

 


สวัสดีค่ะ

สุขสันต์วันวาเลนไทน์น่ะค่ะ


โดย: ดอกหญ้าเมืองเลย วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:32:38 น.  

 


แวะมาเยี่ยมคับ


โดย: maxpal วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:2:38:56 น.  

 
ความคิดเนี้ยมีอิทธิพลกับทั้งกายและใจเลยนะคะใจดีว่าอย่างนั้น

แวะมาเยี่ยมคะ แล้วก็มาส่งคุณpoivangเข้านอนด้วย ฝันดีนะคะ

MyCuteGraphics.com - Cute Glitter Graphics


โดย: ใจดี (jaidee.jaidee ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:36:42 น.  

 
แวะมารับข้อมูล ลับสมองคะ


โดย: a_mulika วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:22:15 น.  

 
มาบอกว่า อ่านอีกรอบจะได้มีสติมากกว่าเคย วันนี้สู้สู้


โดย: dolores วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:5:12:25 น.  

 
อืมม... ครับ


โดย: space time วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:18:39:29 น.  

 
สวัสดีตอนเย็นนะค่ะ แวะมาเยี่ยมค่ะ


โดย: ammataya วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:18:04:58 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.