ฮ่องกง บังเอิญได้ไป รีวิวโรงแรม Cosmopolitan จริงๆ แล้วตั้งใจจะไปล้างบ้านที่กรุงเทพช่วงวันที่ 30 เมษายนถึงวันที่ 4 พฤษภาคม แต่ดันติดเสื้อแดง คาดว่าถ้าไปกรุงเทพคงจะอยู่แต่ในบ้านกับเซ็นทรัลลาดพร้าว แล้วแม่ก็เริ่มแย็บๆ เรื่องจะเที่ยงต่างจังหวัดช่วงนั้น เก๋เลยขออนุญาตน้องสาวคนที่สามว่าถ้าไปฮ่องกงได้รึเปล่า เพราะเค้าจะเป็นคนที่ต้องอยู่โยงเฝ้าบ้านแทนเรา เค้าโอเค เลยเริ่มแพลนเรื่องไปเอาวันที่ 26 ซื้อตั๋วเครื่อง จองโรงแรมเอาวันนั้นเลย ฉุกละหุกจริงๆ คราวหลังจะไม่เอาแบบนี้แล้ว นั่งการบินไทยจากกรุงเทพวันที่ 1 กลับวันที่ 3 เพิ่งรู้ตอนถึงสนามบินว่าเค้ามีเที่ยวบินพิเศษจากไทยไปฮ่องกงฉลองครบกี่ปีการบินไทยไม่รู้ ดูหรูหราดี บนเครื่องเราเลยได้พลอยฟ้าพลอยฝนได้ของหวานเป็นทองม้วนช็อคโกแล็ตในกล่องโลหะการบินไทยเล็กๆ สวยดีค่ะ เราตั้งใจจะไปกินมาก น้องสาวหาชื่อร้านมาแล้วในเวป hongkongfanclub ตอนที่เดินแถวๆ Causeway Bay บังเอิญเดินผ่านร้านร้านนึงตอนหัวค่ำ หิวกันแล้ว ก้อย: ร้านนี่เลย Jade Dragon เรา: น่าจะใช่นะ เหมือนเค้าเคยเปิดเจอเหมือนกันง่ะ บรรดาลูกทัวร์คนอื่นๆเลยเดินตามเราขึ้นลิฟท์ไปชั้นสอง ในลิฟท์เจอสองหนุ่มใส่สูทผูกไทด์กันเรียบร้อยคอยเปิดปิดประตูให้ พอเราออกจากลิฟท์ เค้าก็ถามว่ามากินที่นี่เหรอแล้วพาเราเข้าไปนั่งที่โต๊ะ ตอนเข้าไปเราแอบเอ๋อๆ เพราะมันดูหรูหราเกินกว่าที่จะเป็นจริง ตอนนี้นั่งกันละ เรา: ก้อยแน่ใจปะว่าร้านนี้ เค้าว่ามันดูหรูอ่ะ เค้าว่าไม่แพงมะใช่เหรอ ก้อย: เหมือนร้านเพิ่งปรับปรุงใหม่เลย มีแผ่นรายการอาหารมาละ เราก็พลิกๆ ดู เรา: ไม่มีติ่มซำ!!! (เพิ่งมารู้ตอนหลังว่าคร้ายใครเค้าจะกินติ่มซำกันดึกป่านนี้) แม่: ไม่เป็นไร สั่งเลย อยากกินอะไร เข้ามาแล้วนี่ เรา: สั่งๆๆๆ พอสั่งเสร็จ เปิดดูด้านหน้าเมนู เรา: นี่มัน Jade Garden นี่นะ ไม่ใช่ Jade Dragon ซักหน่อย ผิดร้านแล้ววว แต่อาหารอร่อยทุกอย่างนะคะที่สั่งมา แถมไม่พอ เพิ่งรู้เอาวันรุ่งขึ้นตอนหาร้าน ว่าจริงๆ แล้วเราไปร้านถูกแล้ว แต่ดันจดผิด แล้วเค้าไม่มีติ่มซัมหลังเที่ยงด้วย 555 หน้าแตกยกแก้งค์ น่ากินปะ เรื่องหน้าแตกมีตั้งแต่วันแรกยันถึงเมืองไทยเลยค่ะ แต่ว่าไม่เล่าแล้วเดี๋ยวน้องรู้แล้วจะโดนมิใช่น้อย กลับมาที่เรื่องที่พัก เราไปคราวนี้เลือกโรงแรม Cosmopolitan ไว้เป็นที่ซุกหัวนอนค่ะ ตอนจองจองห้อง 3 ห้องเพราะไป 5 คน แต่พอตอนเช็คอินเค้าให้เรานอนห้อง Suit หนึ่งห้อง ห้องธรรมดาหนึ่งห้องเลยกลายเป็นการนอนห้องแบบนี้ครั้งแรกในชีวิตของเราไปเลย ห้องหรูมีห้องนอนหนึ่งห้อง ห้องนั่งเล่นกับครัวเล็กๆ หนึ่งห้อง แล้วก็ห้องน้ำในห้องนอนหนึ่งห้องค่ะ พร้อมกันรึยัง เราเปิดประตูมาจะเห็นวิวแบบนี้เลย มีเตียงเสริมหลังโซฟาหนึ่งเตียงถ้วนค่ะ ทีวีเครื่องใหญ่มี เครื่องเล่นดีวีดีด้วยแต่ไม่ได้ใช้บริการ หันหลังไปที่ประตูหน่อย ด้านขวามือของรูปเป็นกระจกเต็มตัว ซ้ายมือเป็นหลืบครัว เวลาถอยหลังแล้วมองจากโซฟาจะเป็นครัวชัดหน่อย เห็นดำๆ ทางขวามือเป็นห้องนอนนะคะ ไม่ได้เปิดไฟพอดี เอ้า ซูมครัว มีน้ำให้สามขวดทุกวันค่ะ ห้องนี้ มีน้ำแร่หนึ่งขวด น้ำแร่อัดแก๊สหนึ่งขวด แล้วก็น้ำธรรมดาหนึ่งขวด อย่างอื่นก็เหมือนกับ motel ในนิวซีแลนด์ ดูวิวจากห้องหรู สวยมากมาย กลางคืน กลางวัน กระเถิบมาที่โต๊ะกินข้าวข้างเตียงเสริม ไม่ได้ใช้งานโต๊ะเลย เอาไว้ตั้งของนิดหน่อยเอง เปิดไฟห้องนอนแล้ว ตามมาเลยค่ะ ถ่ายเตียงจากประตูห้องน้ำ ประตูเข้าห้องนอนอยู่ทางขวามือของภาพ เนื่องจากห้องในโรงแรมของฮ่องกงมักจะเล็ก มันเลยได้มุมเช่นนี้ ถ่ายจากฝั่งตรงข้ามห้องน้ำมั่ง เห็นที่วางกระเป๋ารึเปล่าคะ เพิ่งรู้ว่ามันที่วางกระเป๋าไม่นานมานี่เอง แต่ก่อนนึกว่าเป็นเก้าอี้ หัวเตียงเป็นกระจกสุดหรู ท้ายเตียงมีโต๊ะทำงาน กับทีวีเครื่องเล็กๆ อ้อมี ipod dock ด้วย อันนี้ค่ะ ไม่ได้ใช้เพราะไม่นึกว่าจะมีให้ใช้ เตียงเต็มๆ เข้ามาดูห้องน้ำนะคะ ห้องใหญ่ ห้องน้ำก็ใหญ่ตามค่ะ ซ้าย ขวา หรูหราน่าใช้เป็นอย่างยิ่ง คราวนี้มาดูรูหนูที่เก๋กับน้องสาวคนรองใช้เป็นที่ซุกหัวนอนนะคะ เป็นห้องธรรมด้า ธรรมดา อยู่ด้านหลังตึก ไม่มีวิวให้ดู ไม่ใช่ไร ถึงให้ดูก็ไม่อยากดูค่ะ เพราะมันเป็นวิวป่าช้าค่ะพี่น้อง ทางนๆ มาปิดทับกระจกเช่นนี้โรงแรมเค้าปิดไม่ให้ใครดูโดยเอาสติกเกอร์ขุ่โชคดีที่เราสองคนไม่ถือเลยนอนหลับอุตุอย่างสบายทั้งสองคืน ไม่มีใคร อะไรมารบกวนการนอน สงสัยเราสองคนเหนื่อยจากการออกกำลังกายเดินตลอดทั้งวันก็ได้นะคะ You are here!!! เตียงคล้ายๆ กับห้องไฮโซ หัวเตียงไม่มีกระจกบานใหญ่แต่มีหมอนเล็กๆ ใช้แทนหมอนข้างได้ค่ะ (สงสัยหลับสบายเพราะหมอนนี้แน่เลย) มีที่ตั้งกระเป๋าขนาดเล็กกว่าครึ่งนึงแล้วก็กระจกเต็มตัว ทีวีจอแบนเหมือนกันค่ะ มาดูห้องน้ำรูหนู จริงๆ แล้วขนาดมันก็มาตรฐานอะนะ แต่ดันไปเปรียบเทียบกับห้องใหญ่ มันเลยรู้สึกด้วยประการฉะนี้ น้ำแรงดีค่ะ เวลาสระผมสะใจเลย เปรียบเทียบรองเท้าแตะไฮโซกับรองเท้าแตะโลโซ โรงแรมมี shuttle bus รับส่งแขกระหว่างสถานีรถไฟ Central มายังโรงแรมเป็นรอบๆ แล้วก็มีสายที่พาแขกไปลงยังจุดต่างๆ แบบ Time Square อะไรแบบนั้นด้วย มีป้ายแจ้งอยู่ที่ lobby แล้วก็แผ่นพับในห้องแต่ละห้อง พนักงานด้านล่างดีมากๆ และก็ปริมาณมากๆ เวลาเห็นเรายืนงงๆ ก็จะมาถาม บางคนภาษาอังกฤษดีมาก แต่โชคดีทื่เก๋ได้ทั้งสองภาษายกเว้นกวางตุ้งเลยค่อนข้างสบายค่ะ เที่ยวเหมือนอยู่เมืองไทยเลย ไม่เหนื่อยเหมือนอยู่นิวซีแลนด์เพราะบางคำภาษาจีนเราได้แต่ภาษาอังกฤษเราดันไม่รู้ คนก็อัธยาศัยดีค่ะ อ้อเน็ตที่ Lobby ฟรี แต่บนห้องไม่ฟรีนะคะ เห็นคนลงมาใช้เน็ตฟรีด้านล่างแยะเลย รวมทั้งน้องสาวของเก๋ด้วย ไม่ได้กินอาหารเช้าของโรงแรมค่ะ เราออกไปกิน Jade Garden อีกสาขาทุกเช้าเดินจากโรงแรมประมาณ 15 นาทีเอง วันแรกเดินงมๆ หน่อยเพราะยังคงนึกว่ามันเป็นชื่อ Jade Dragon จนน้องสาวคนที่สองต้องใช้ iphone ที่ติดตัวแฮ๊บเน็ตของใครไม่รู้แถวนั้นเป็ดเวปยืนยันชื่อกันทีเดียว ร้านอยู่ติดกับสตาร์บัคเลย เดินขึ้นไปชั้นสามจะเป็นชั้นติ่มซำตอนเช้า เป็นคนละสาขากับที่กินมื้อแรก อร่อยแถมไม่แพงอย่างที่คนอื่นเค้าเล่าจริงๆ ค่ะ แถมพนักงานก็น่ารักชวนเราคุยเรื่อยๆ ทั้งจีนกลางทั้งอังกฤษเลย   Create Date : 01 มิถุนายน 2553 7 comments Last Update : 1 มิถุนายน 2553 21:26:43 น. Counter : 3213 Pageviews. Share Tweet

มีทำโมเสกด้วยอ่ะ 5555   โดย: นู๋แอม IP: 118.173.157.226 1 มิถุนายน 2553 21:57:47 น.

อยากไปอีกอ่า   โดย: ก้อยอี้คนสวย IP: 118.173.157.226 1 มิถุนายน 2553 22:08:36 น.

กลัวคนรู้จักก้อยจำได้อะดิ เดี๋ยวมีเคืองเค้าขึ้นมาแล้วแย่เรย   โดย: pocha_t 1 มิถุนายน 2553 22:17:08 น.

55+ ไม่โกดหรอก เค้าเปนคนดีน่ะ =)   โดย: ก้อยอี้คนสวย IP: 118.173.157.226 1 มิถุนายน 2553 22:36:43 น.

งั้นเดี๋ยวเค้าเอาโมเสกออกนะ   โดย: pocha_t 1 มิถุนายน 2553 22:52:48 น.

โมเสกอ่ะดีแล้วววว -*-   โดย: ก้อยอี้คนสวย IP: 118.173.157.226 1 มิถุนายน 2553 23:04:32 น.

เคยแต่ผ่านรร.นี้ ดีนะคะเค้าอัพห้องให้ด้วยอ้ะ ชอบๆ เจดการ์เด้นเป็นร้านที่เราชอบมากร้านหนึ่งค่ะ คิดถึงอาหารฮ่องกงจังน่อ   โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 5 มิถุนายน 2553 16:48:49 น.