Little Miss Sunshine เป็นหนังชีวิต ตลก(ปนขมขื่นนิดๆ)  แนวๆ เดินทางหาประสบการณ์ หรือ  Road Movie ตอนแรกคิดว่ามันจะเป็นตลกร้ายหน้าตาย ที่ต้อง คิดลึก(ซึ้ง)แต่พอดูไปเรื่อยๆ เออ....สนุกดี ขำๆ ไม่หนักสมองจนเกินไป  พอดูจบแล้วชอบมาาาก   
                  หนังเป็นเรื่องราวของครอบครัวฮูเวอร์  ที่ดูจะขาดๆเกินๆ ครอบครัวนี้มีด้วยกัน 5 ชีวิต เริ่มจาก ริชาร์ด (เกร็ก คินเนียร์) พ่อบ้านที่กำลังจะล้มละลายแต่มีความทะเยอทะยานสูงเค้าเชื่อในทฤษฎีที่ว่าโลกนี้มีคนอยู่  2 แบบ คือ ‘ผู้ชนะ’ และ ‘พวกขี้แพ้’ ริชาร์ดแต่งหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ และหวังจะทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ(แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าคิดไว้เลย  คนที่สอง คือ เชอรีล (โทนี่ คอลเลต) แม่บ้าน ที่พยายามจะทานความคิด คนเจ้าทฤษฎีของสามี และพยายามทำหน้าที่ แม่ที่เข้าใจลูกๆ(กำลังโต)เสมอ  คนถัดมา คือ เอ็ดวิน (อลัน อาร์กิน) คุณปู่จอมซ่าพ่อริชาร์ด ที่ท่าทางจะเป็นจิ๊กโก๋เก่า ขนาดแก่แล้วคุณปู่แกยังแอบอัพยา แถมยังชอบสอนหลานให้ทำในเรื่องแสบๆเสมอ

                 อีกสองคนคือลูกชายและลูกสาว ของ ริชาร์ด และ  เชอรีล  ลูกชายคนโต เดเวย์น (พอล ดาโน) เป็นเด็กวัยรุ่นที่ดูจะมีความเป็นส่วนตัวสูง(มาก) เค้าตั้งปฏิญาณไว้ว่าจะไม่พูดกับใครจนกว่าจะเข้าเรียนโรงเรียนนักบินได้ และทุกคนในบ้านก็ไม่ได้ยินเสียงของเค้ามา 9 เดือนแล้ว  ส่วนคนเล็ก โอลีฟ (อบิเกล เบรสลิน) เป็นเด็กสาวที่มีความฝันอยากเป็นนางงาม และ วันๆเธอจะฝึกซ้อมยิ้ม  ซ้อมแสดงอาการดีใจเวลาได้มงกุฏ ..(ตามวิดีโอประกวดนางงาม) 

                อยู่มาวันหนึ่ง เชอรีล ไปรับน้องชาย คือ แฟรงก์ (สตีฟ คาร์เรล) จากโรงพยาบาลเพื่อมาพักฟื้นที่บ้าน  จากการพยายามฆ่าตัวตาย  เพราะอกหักจาก ผู้ชายที่หลงรัก(ใช่แล้วแฟรงค์เป็นเกย์จิตตก)  หมอบอกเชอรีลว่าอย่าให้เค้าอยู่คนเดียวและออกห่างจากของมีคมทุกชนิด เพราะสภาพจิตใจยังแย่อยู่  แต่พอแฟรงค์มาเจอสมาชิกในครอบครัวในวันแรก ....ในใจแฟรงค์คงคิดว่า ตูน่าจะตายไปเลยดีกว่า(ดูจากสีหน้าแล้ว)  เพราะแต่ละคนในบ้านนี่สิสุดๆ... ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ จอมทฤษฎี ที่ดูจะพร่ำบอกทฤษฎีบ้าๆบอๆ แล้วก็ หลานชายที่ดูจะเบื่อโลกและไม่สนใจใคร  คุณปู่ที่พูดจาขวานผ่าซาก เก๋าแบบไม่เกรงใจใคร  หลานสาวที่อยากเป็นนางงาม ทั้งๆที่หน้าตาและรูปร่างห่างไกลกับคำว่านางงามอยู่ลิบลับ(ประมาณว่าไม่เจียม Bodyซะเลย)  พี่สาวที่ดูจะพยายามควบคุมทุกอย่างให้ดีตลอดเวลา

             เหตุการณ์สนุกๆเริ่มขึ้นเมื่อ มีข้อความจากเครื่องตอบรับว่า จะมีการประกวด Little Miss Sunshine ระดับรัฐขึ้น ซึ่งโอลีฟเคยได้ที่สองจากการประกวดระดับภูมิภาค และคนที่ได้ที่หนึ่งดันโดนยึดมงกุฎ(สาเหตุฮามาก..เพราะเด็กคนนั้นใช้ยาลดความอ้วน ...โห..เด็กนะนั่น) และนั่นหมายความว่าโอลีฟเธอจะมีสิทธิเข้าประกวด Little Miss Sunshine ระดับรัฐทันที พอโอลีฟได้ยินเท่านั้นแหละ โอลีฟ กรี๊ด บ้านแทบแตกไปเลย
            ริชาร์ด และเชอรีล  สาระวนกับการวางแผนเดินทางพาโอรีฟไปประกวด(รวมทั้งเรื่องเงิน)  คุณปู่ขอเดินทางไปด้วย (โดยอ้างว่าตนเป็นคนฝึกสอน โอลีฟมาตลอดต้องไปดูแล)  ส่วนแฟรงค์กับเดเวย์น เชอรีลก็ไม่ยอมปล่อยไว้ที่บ้านเพียงลำพังอยู่แล้ว ถึงแม้ทั้งคู่จะไม่อยากไปก็ตามที(ก็แหงแหละ คนอยากตายกับเด็กที่ไม่สนใจใครเลยอยู่ด้วยกันมีหวัง.....เกิดโศกนาฎกรรม) สรุปทุกคนต้องเดินทางไปด้วยกัน

           จริงๆแล้วดูจากบุคลิกของตัวละคร ที่ดูแล้ว น่าจะเกิดเรื่องราวที่ชวนปวดหัว ดราม่าซีเรียส เวลามารวมตัวกัน  แต่แปลกมากที่ พอทั้ง 6 ชีวิต ขึ้นรถตู้(ที่จะพังแหล่มิพังแหล่)ไปด้วยกัน มัน สนุกสนานอย่างน่าอัศจรรย์ การผจญภัย ระหว่างทางที่มีทั้งเรื่องที่ชวนขำปนขมขื่นคละเคล้ากัน  (ชอบฉากที่ทุกคนต้องวิ่งขึ้นรถ เพราะคัทเสีย เห็นทีไรฮาทุกที )ระหว่างการเดินทางมีเรื่องราวต่างๆมากมาย (ไม่ขอเปิดเผย ณ.ที่นี้เกรงจะหมดอรรถรส ยามที่ไปชมกัน)
           สาระของหนังมีให้เราได้เห็นว่า  การพาโอลีฟไปแข่งขัน ในเวทีประกวด(ที่เด็กคู่แข่งแต่ล่ะคนล้วนแล้วแต่เฟค จริตจก้าน กันสุดๆ)  คิดๆดูแล้ว ไม่รู้ว่าจะเป็นการพาเธอไปลงนรกหรือเปล่า เพราะการที่ทำให้เธอคาดหวังว่าต้องเป็นผู้ชนะ(เพราะถูกบ่มเพาะความคิดว่าต้องชนะมาตลอด)ถ้าเธอแพ้ล่ะ ถ้าเธอถูกโห่ บนเวทีให้อายล่ะ  โอลีฟจะยอมรับมันได้ไหม มันจะเป็นแผลในใจของเด็กน้อยตลอดไปหรือไม่ นี่คือคำถามที่อยู่ในใจ(ที่คนในครอบครัวคงจะรู้อยู่แก่ใจ) หนังตั้งคำถามให้เราได้คิดว่า" ถ้าเราไม่มีหวัง ที่จะชนะเลย เราจะทำยังไง?" ถ้าเป็นผู้ใหญ่เองมันคงทำใจและยอมรับง่าย แต่ถ้าเป็นเด็ก(ซื่อใสไร้เดียงสา ที่คิดว่าการประกวดมันคือทั้งชีวิตของเค้า)จะยอมรับได้ยังไง.... และเด็กอย่างโอลีฟ ที่ทุกคนในครอบครัวต่างตั้งความหวัง  และผลักดัน ให้เธอทำในสิ่งที่เธอเฝ้าฝัน(ที่เป็นจริงยากมาก)........ชะตากรรมจะเป็นอย่างไร              

                มีตัวละครหนึ่งในหนังได้พูดไว้ว่า “ชีวิตก็เหมือนการประกวด Little Miss Sunshine อยู่แล้ว  แข่งเรียน  แข่งกันเข้ามหา’ลัย  แข่งกันในที่ทำงาน  เพราะฉะนั้นจะไปสนอะไร กับการประกวด Little Miss Sunshine ” .....หนังเรื่องนี้สอนให้เรารู้จักประมาณตนเรียนรู้ที่จะเป็นผู้แพ้ โอลีฟโชคดีที่ มีครอบครัวที่น่ารัก (ตอนจบคุณจะได้เห็นการปกป้องกันและกันอย่างน่ารักของคนในครอบครัว) และทฤษฎี ที่ว่า โลกนี้มีคนแค่ 2 ประเภท มันก็คงใช้ไม่ได้อีกต่อไปสำหรับ ริชาร์ด..   

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2550 21:17:26 น.		3 comments
Counter : 1200 Pageviews.
Share Tweet