|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
++..มาตรฐานสายพันธุ์บางแก้ว..++
มาตรฐานสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว ถิ่นกำเนิด : ประเทศไทย การประใช้ประโยชน์ : เลี้ยงเป็นเพื่อน การจัดกลุ่มของ เค ซี ที : กลุ่ม 5 สปิทซ์ และพันธุ์พื้นเมือง ส่วน 5 เอเชี่ยนสปิทซ์ และเครือ ญาติ ยกเว้นการทดสอบใช้งาน
ประวัติโดยย่อ เป็นสุนัขไทยพันธุ์หนึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่หมู่บ้านบางแก้ว ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัด พิษณุโลก ประเทศไทยที่มาของสายพันธุ์นั้นเกิดจากความบังเอิญที่สุนัขเพศเมียสีขาวดำของท่านเจ้าอาวาสวัดบางแก้วได้ไปผสมพันธุ์กับสุนัขป่า และได้ให้กำเนิดลูกสุนัขครอกหนึ่งซึ่งถือเป็นต้นตระกูลของสุนัขพันธุ์บางแก้วในปัจจุบัน ปี พ.ศ. 2500 ได้มีการร่วมกันพัฒนาและกำหนดมาตรฐานแห่งสายพันธุ์ขึ้น เพื่อจะให้มีลักษณะประจำพันธุ์เป็นเอกลักษณ์ที่แน่นอน อันเป็นที่มาแห่งสายพันธุ์บริสุทธิ์ในปัจจุบันสุนัขพันธุ์บางแก้วถือว่าเป็นมรดกอันล้ำค่าของจังหวัดพิษณุโลก ชาวบ้านนิยมเลี้ยงกันแทบจะทุกครัวเรือน ปัจจุบันมีผู้นิยมนำไปเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายทั่วทุกภาคของประเทศ
ลักษณะทั่วไป : เป็นสุนัขขนาดกลาง โครงสร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีสัดส่วนที่กลมกลืน ประกอบด้วยกล้ามเนื้อที่สมบูรณ์ แข็งแรง มีการเลื่อนไหวที่คล่องแคล่ว สัดส่วนที่สำคัญ ความยาวของลำตัว : ความสูงที่ไหล่ = 1: 1 ความลึกของหน้าอก : ความสูงที่ไหล่ = 1: 2 พฤติกรรม / อารมณ์ ตื่นตัว ร่าเริง รักเจ้าของ เชื่อมั่นในตัวเอง จิตประสาทมั่นคง ไม่ขลาดกลัว ซื่อสัตย์ หวงแหนทรัพย์สิน ฉลาดปราดเปรียว กล้าหาญ สามารถฝึกใช้งานได้ หัว ส่วนหัว กะโหลก : ค่อนข้างใหญ่ ได้สัดส่วนกับลำตัว สต็อป : มีมุมหักเล็กน้อย ส่วนใบหน้า จมูก : สีดำ ขนาดได้สัดส่วนกับปาก สันจมูก : ตรงและยาวพอสมควร กรวยปาก : ยาวปานกลาง โคนปากใหญ่เรียวจรดปลายจมูก ริมฝีปาก : แนบสนิท มีสีเข้ม ปาก : มีสีขาวรอบกรวยปาก (เรียกว่า ปากคาบแก้ว) เป็นที่พึงประสงค์ ขากรรไกร: ขบกันแนบสนิทแบบกรรไกร (Scissor Bite) โดยปลายฟันหน้าด้านล่างแตะโคนด้านในของฟันบน อนุโลม ให้ฟันๆ ขบ เสมอกันพอดี (Level Bite) ฟัน : เล็ก และแหลมคม สุนัขโตควรมีฟันครบ 42 ซี่ ตา : เล็กคล้ายเมล็ดอัลมอนด์ (Almond) มีสีดำและสีน้ำตาล หู : เป็นรูปสามเหลี่ยม มีขนาดเล็กได้สัดส่วนกับหัว ตั้งป้องไปข้างหน้า มีขนอ่อนที่กกหูและหลังใบหู คอ : ใหญ่ ล่ำสัน รับกับหัว และช่วงไหล่มีแผงขนยาวรอบคอ ลำตัว หลัง : เส้นหลังตรง เอว : แข็งแรงและกว้าง บั้นท้าย : ใหญ่และแข็งแรง ส่วนหลังมีขนยาวลามมาจนถึงข้อขาหลังท่อนบน อก : กว้าง และลึกได้ระดับเดียวกับข้อศอก โครงกระดูกหน้าอกมีลักษณะเป็นรูปวงรี เส้นล่าง : ท้องเว้าไม่มาก หาง : โคนหางใหญ่ ขนหางเป็นพวง ปลายโค้งเข้าหาเส้นหลัง ขา ช่วงหน้า ไหล่ : ลาดเอียงพอประมาณและมีกล้ามเนื้อแข็งแรง ขาหน้า : ใหญ่กว่าขาหลัง เวลายืนเหยียดตรง และขนานกัน หลังขามีขนยาว ลักษณะคล้ายแข้งสิงห์ ข้อขาหน้า : ข้อเท้าสั้นทำมุมเฉียงเล็กน้อย เท้า : อุ้งเท้ากลมคล้ายอุ้งเท้าแมว มีขนยาวคลุมนิ้วเท้า ช่วงหลัง ขาหลัง : เล็กกว่าขาหน้า เวลายืนทำมุมพอเหมาะ ข้อเท้า : ทำมุมพอเหมาะกับหัวเข่า ข้อขาหลัง : ตั้งได้ฉากกับพื้น มองทางด้านหลัง ขนานกัน เท้า : อุ้งเท้ากลมคล้ายอุ้งเท้าแมว มีขนยาวคลุมนิ้วเท้า การย่างก้าว : คล่องแคล่วและทรงพลัง มองด้านข้าง ขาหน้าและหลังสอดประสานอย่างกลมกลืนเส้นหลังตรงระนาบ หัวและหางชู ขึ้นอย่าสวยงาม มองทางด้านหน้า ขาหน้าและขาหลังไม่แสดงอาการปัดหรือแกว่ง ขนและสี ขน : ยาวปานกลาง มี 2 ชั้นๆในละเอียดนุ่ม ชั้นนอกเส้นใหญ่เหยียดตรง ยาวคลุมบริเวณแผ่นหลัง สี : ขาว น้ำตาล, ขาว ดำ, ขาว เทา ขนาด : ความสูงที่เหมาะสม วัดที่ไหล่ : เพศผู้ 19-21 นิ้ว (46-56 ซม) : เพศเมีย 17-19 นิ้ว (41-51 ซม) อนุโลมให้ขาด-เกินได้ หนึ่งนิ้ว (2.5 เซนติเมตร)
ข้อบกพร่อง - ตา หรือ จมูกมีสีอ่อน - หางไพล่ - ไม่มีแผงขนรอบคอ - ไม่มีแข้งสิงห์ - หูใหญ่ - ปากใหญ่ - ตากลมโต - หลังโก่ง - หลังแอ่น - ขนาดใหญ่ เล็ก เกินกว่ามาตรฐานกำหนด
ความบกพร่องที่ต้องคัดออก - ขนสั้นเกรียน - หางกุด - หูไม่ตั้ง - ฟันบนยื่นล้ำฟันล่าง (Overshot), ฟันล่างยื่นล้ำฟันบน (Undershot) - ฟันขาดเกิน 3 ซี่ - หางม้วนงอ - หางไม่เป็นพวง - ความผิดปกติทางจิตประสาท หมายเหตุ : สุนัขเพศผู้ควรมีลูกอัณฑะครบสองลูกอยู่ในถุงอัณฑะ
Create Date : 28 มีนาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 14 สิงหาคม 2552 0:34:07 น. |
Counter : 906 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|