Bloggang.com : ployberian : ปั๊ดโธ่เว่ยจะไออะไรกันนักกันหนา!!

ปั๊ดโธ่เว่ยจะไออะไรกันนักกันหนา!!

ปั๊ดโธ่เว่ยจะไออะไรกันนักกันหนา!!
เป็นอะไรมั้ยเนี่ยยยยยย...

คงเป็นคำพูดของใครบางคน
เวลาหมาน้อยข้างกายเกิดอาการไอ
ค๊อกแค๊ก โค๊กๆ

การไอของสุนัขสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายๆกรณี
เพราะเมื่อมีการระคายเคืองมากๆในลำคอ สุนัขก็จะไอ
อาจจะเกิดจากสาเหตุเล็กๆน้อยๆอย่าง
ไม่สบาย.. หรือสภาพอากาศไม่ดี

หรือร้ายกว่านั้นหน่อย ไอแล้วเอาขาหน้าเขี่ยๆ โก่งๆคอ ขัน
ก็อาจจะเพราะอะไรติดคอก็ได้..
(ซึ่งอาจต้องพาไปหาให้หมอคีบออกมา)

แต่หากเมื่อใดไอ้ตูบยอดรักไอเรื่อยๆไม่หยุดซ้ากกกที
ก็ควรตัดสินใจพาไปหาสัตวแพทย์ได้แล้วค่ะ
อย่าปล่อยให้นานไป อย่าคิดว่า เดี๋ยวมันก็หาย!!

เพราะนอกเหตุเบสิกๆข้างต้น
ที่ทำให้เกิดอาการไอได้แล้ว
อาการไออย่างผิดปกติของไอ้ตูบ
อาจจะมีจากสาเหตุอื่นๆที่ร้ายแรงกว่านั้นค่ะ

สาเหตุที่ทำให้สุนัขไอแบบผิดปกติวิสัยเกินโรคเบสิกนั่นคือ

1. การอักเสบและติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ
ในโรคปอดบวมและหลอดลมอักเสบ
อาการไอเกิดขึ้นเนื่องจากมีการสร้างของเหลวขึ้น
เพื่อลดการอักเสบของทางเดินหายใจ
ในกรณีนี้เราจะพบว่า หลังจากการไอแล้วสุนัขจะกลืน
เมือกเหลวที่ออกมาจากปอดทุกครั้ง

การอักเสบของระบบหายใจส่วนต้น
เนื่องจากโรคหลอดลมอักเสบติดต่อ (Kennel Cough)
ทำให้ไอเสียงแหบแห้งเหมือนกับอาการไอ
เนื่องจากการอักเสบ เพราะโดนปลอกคอหรือโซ่
กดรัดหลอดลม

2.เนื้องอก (หรือ มะเร็ง) ของทางเดินหายใจ
มักพบในสุนัขอายุมาก อาการไอจะเด่นชัดมาก
ในเวลากลางวัน เกิดขึ้นเนื่องจากเนื้องอกในปอด
หรือในบางส่วนของระบบทางเดินหายใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระยะแพร่กระจาย
ของมะเร็งหลายๆ ชนิด

3.โรคหัวใจล้มเหลว
โรคนี้ทำให้มีน้ำคั่งในปอดมาก
ซึ่งจะไปกระตุ้นให้สัตว์ไอ เป็นการไอที่ไม่รุนแรง
และมักเกิดขึ้นในตอนเช้ามืด

4.โรคภูมิแพ้ (Allergy)
สุนัขก็เช่นเดียวกับคน
อาการไอหรือจามเมื่ออยู่ในบรรยากาศ
ที่มีสิ่งที่ทำให้แพ้มักพบได้เสมอ

5. พยาธิในระบบทางเดินหายใจ
พยาธิใบไม้ในปอด พยาธิหัวใจ
ทำให้เกิดปฏิกริยาระคายเคือง
ซึ่งกระตุ้นให้เกิดอาการไอได้เช่นเดียวกัน

เห็นมั้ยค่ะ ว่าอาการไอไม่ได้เกิดจากหวัดอย่างเดียว
แต่กลับมีหลายๆสาเหตุ
ซึ่งบางครั้งอาจร้ายแรงกว่าที่เราคิดมากเลยนะคะ
ดังนั้นถ้าหมาน้อยที่บ้านมีอาการไอผิดปกติ
หรือ มีการไอในลักษณะตรงกับที่กล่าวมาข้างต้นก็เลิกบ่นว่า

ปั๊ดโธ่เว่ยจะไออะไรกันนักกันหนา!!
หรือ คิดว่ามันจะหายไปเองได้นะคะ

ควรพาไปพบคุณหมอหมาโดยไวก่อนที่จะสายเกินไปนะคะ

ข้อมูลจาก หนังสือ หมอหมา

Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2552

Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2552 15:52:03 น.

0 comments

Counter : 869 Pageviews.