Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
25 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
เงาบรรณ 10


คุยกันก่อนอัพ


มาดูมุขหารายได้ค่าขนมของพรรณรังสีกันค่ะ
แต่นี่ยังจิ๊บๆ...
นอกจากค่าขนมแล้ว ต่อไปยังต้องหาค่าข้าว ค่าน้ำ ค่าเช่าบ้าน ฯลฯ

รายนี้ต้องขอยืมคอมเม้นท์นักอ่านมาแปะว่า
คุณหนิงเธอ...คิดการใหญ่...จริงๆค่ะ

^ ^
นักเขียนหนีไปงีบก่อนนะคะ


Ploy666.




**************

เงาบรรณ 10
ผู้แต่ง ploy666 (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)



...ก็แค่ความฝันเลื่อนเปื้อนเพราะพิษไข้

พรรณรังสีบิดกายไล่ความเมื่อยขบหลังจากนอนพักฟื้นมาเสียหลายวัน ข้อดีของการเป็นไข้ก็คืออาทิตย์ไม่โผล่มายุ่งวุ่นวายพูดจาเสียดสีให้รกหูเพราะสายใจห้ามลูกชายแบบเสียงแข็ง ส่วนหาญก็กลับไปนอนที่หอพักในมหาวิทยาลัยตั้งแต่หลายวันก่อน ช่วงนี้ฝึกซ้อมกีฬาอย่างหนักคงปลีกตัวไม่ได้ไปอีกพักใหญ่ทีเดียว

แต่ข้อเสียคือยามที่หญิงสาวก้มลงมองบิลบนตักด้วยความเบื่อหน่าย

ค่าโทรศัพท์...จะเก็บทำซากอะไรกันทุกเดือนนะ ไม่ได้โทรออกมากมายแต่ก็จำเป็นต้องมีไว้เดี๋ยวใครต่อใครหาว่าอยู่บ้านป่าเมืองเถื่อน

จะให้โทรหาใครกัน พรรณรังสีแน่ใจว่าแจกเบอร์ไปเป็นร้อยหนแล้วมั้งแต่ไม่เคยมีคนสนใจอยากคบหล่อนจริงจังขนาดจะโทรพูดคุยสักที มีแต่หล่อนนี่แหละที่ต้องพยายามนับครั้งไม่ถ้วนเพื่อทิ้งคำทักทายใครต่อใครไปทางจอสนทนาทุกๆวันเพื่อว่าเขาจะเกรงใจทักกลับมาเสียบ้าง

แต่อินเตอร์เน็ตก็ใช่ว่าจะไม่เสียเงิน...ใกล้ถึงเวลาจ่ายค่าเว็บโฮสต์เต็มที...

คอมพิวเตอร์ที่เปิดทิ้งค้างไว้ตั้งแต่ตื่นมา ส่งแถบสีส้มกะพริบเรียกเร้าให้ก้าวไปหาเหมือนต้องมนต์สะกด

ยามใช้แขนดึงพนักเก้าอี้เลื่อนออกนั่ง ความเจ็บระบมที่ข้อมือยังทำให้ต้องนิ่วหน้า

คืนที่หล่อนไข้ขึ้นสูง พรรณรังสีจำไม่ได้ว่าทำอะไรลงไปบ้าง

...สงสัยมือจะค้ำกับพนักเก้าอี้แบบนี้ตอนกำลังจะลุกไปปิดหน้าต่างเข้านอนหรือยังไงนี่แหละ แต่ฤทธิ์ไอร้อนในร่างกายซึ่งทำให้มึนศีรษะ จึงทรงตัวไม่อยู่พลาดล้มลง มือปัดไปโดนแจกันเปล่าที่ตั้งบนโต๊ะใกล้ประตูตก ล้มลงไปพร้อมๆกันจนมีเศษแจกันบาดข้อมือ

ไม่ใช่แผลใหญ่ที่ต่างไปจากรอยขูดขีดจางๆ หากก็ทำให้แสบๆคันๆได้ดีทีเดียว

แต่มันดันไปปนกับฝันร้ายอันยุ่งเหยิงจนหล่อนไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเรื่องไหนเกิดจริงเรื่องไหนแค่แต่งเติมเอาเอง...

ค่าไฟยังรอถึงสิ้นเดือนที่พ่อแม่โอนเข้าบัญชีให้ได้อยู่หรอก สายใจดู ‘งก’ ในสายตาพรรณรังสีที่สุดก็ตอนที่สั่งติดมิเตอร์ไฟแยกเฉพาะในห้องนี้หลังจากเห็นว่าผู้ใช้ห้องเล่นอินเตอร์เน็ตทั้งวันทั้งคืน

พรรณรังสีไม่เคยหยุดคิดเลยว่าตนเองทำให้เจ้าของบ้านเพิ่มค่าใช้จ่ายอันไม่จำเป็นมามากมายแค่ไหน

หล่อนอยากได้...อยากมี...ไม่ต่างจากคนทั่วไป

แต่ไม่เคยหาหนทางที่จะได้มาอย่างถูกทำนองครองธรรมสักครั้งเดียว!

ทว่าตอนนี้หล่อนไม่มีเงินติดตัวสักบาท สงสัยคงได้เวลาใช้วิธีเดิมๆกระมัง...

“เว็บไซต์พี่เปิดใหม่แล้ว ลงอัพนิยายได้หรือยังต้นกล้า...ต้องสมัครก่อนนะ เบื่อพวกจะเข้าไปอ่านเว็บไซต์ของพี่แต่ไม่ยอมสมัครนี่แหละ ขนาดว็บไซต์ก็ไม่ได้เก็บค่าสมาชิกหรือทำหวังเอากำไรอะไรแท้ๆยังขี้เกียจเป็นสมัครกันอีก”

“ผมอัพนิยายไปสองตอนแล้วครับพี่”

“ดีแล้ว เดี๋ยวเอาไว้พี่จะไปดูแล้วคอมเม้นท์ทิ้งไว้ให้”

“ขอบคุณครับ” ต้นกล้ารับคำอย่างเชื่อใจในศักยภาพของอีกฝ่าย ก่อนจะถามแบบเกรงใจต่อว่า “ที่พี่หนิงขอให้ผมดึงเพื่อนมาคุยน่ะ ผมไปถามให้แล้วนะครับ เขาบอกว่าไม่มีปัญหาแต่ไม่ค่อยได้ออนไลน์บ่อยเท่าไหร่ ถ้าขอแอดไปแล้วรับช้าพี่หนิงก็ไม่ต้องแปลกใจนะครับ”

“เพื่อนเรานี่มีนิยายตีพิมพ์แล้วใช่ไหม” พรรณรังสีหยั่งเชิง

อย่างน้อยหล่อนก็เลือกคนที่จะมาลงนิยายในระดับหนึ่ง

ระดับซึ่งหล่อนโอ้อวดในภายหลังว่า ‘คัดมา’ เพราะมีผลงานตีพิมพ์แล้ว เรื่องหนึ่งซึ่งหลายคนไม่รู้ คือบางผลงานนั้นเคยเป็นนิยายซึ่งหล่อนเหยียบย่ำด้วยคมปากก่อนรู้จักเจ้าของผลงานเสียด้วยซ้ำ

เด็กหนุ่มไม่ลังเลที่จะอวดรายละเอียด หากแต่ปิดท้ายว่า “แต่ที่เขาพิมพ์ให้ราคาเหมาจ่าย”

“โอ้ย! เหมาจ่ายมันเอาเปรียบชัดๆ บอกเลยว่ามาลงเว็บไซต์พี่หนิงแล้วอีกหน่อยจะมีบรรณาธิการแวะมาดู ถ้าเข้าตากรรมการนะ รับรองได้สัญญาดีๆแบบสิบเปอร์เซ็นตามยอดพิมพ์เชียวแหละ”

หล่อนพูดอย่างนี้ไปกี่ครั้งกี่หนแล้วนะ

...จำไม่ได้เหมือนกัน

แต่จะหลอกล่อนักเขียนใหม่มันก็ต้องอาศัยลูกไม้นี้ทั้งนั้น

ใครกันจะไม่อยากได้เงินดีๆ หรือบางทีก็ต้องกล่อมให้เข้าใจว่าสำนักพิมพ์ใหญ่โตย่อมส่งให้นักเขียนมือใหม่บินไปได้ไกลกว่าที่เล็กๆถึงจะยอมมา

ส่วนเรื่องจะมีบรรณาธิการจากไหนมาดูน่ะเหรอ

...ความลับที่หล่อนจะไม่มีทางแย้มพรายบอกออกไป...

หล่อนมีปัญญาทำได้ก็แล้วกัน!

“อีกหน่อยใครมีต้นฉบับก็บอกพี่... เรื่องฝากนิยายนี่สบายๆ พี่ฝากได้อยู่แล้ว ยังไงตอนนี้ก็มาลงโปรโมทในเว็บไซต์พี่ไปพลางๆก่อนช่วงมองหาที่ส่งใหม่นะ ถ้าต้นกล้าพูดแล้วเขาลังเลก็ขออีเมลมาเดี๋ยวพี่ไปกล่อมเอง สมัยนี้มันขายแต่ตัวงานไม่ได้หรอก มันต้องขายคนเขียนให้ดังไปด้วย”

กล่อมด้วยถ้อยคำอ่อนหวานเยินยอจนเคลิ้มฝัน

แต่ปลายลิ้นคนเดียวกันนี้เองที่วันหนึ่งจะฉุดดึงนักเขียนซึ่งตนเองไม่ชอบใจลงต่ำด้วยถ้อยคำมักง่ายที่ว่า

“ใครนะ...นักเขียนคนนั้นน่ะเหรอ จริงๆแล้วน่ะอยากดัง เนี่ยยังมาหาเรื่องโปรโมทนิยายด้วยการเอามาอัพลงเว็บไซต์ของพี่เลยคิดดูสิ!”

คำพูดจามักกลับกันทันที

ราวกับวันที่หล่อนไปงอนง้อให้ใครต่อใครเขามาลงงานเขียนนั้นไม่เคยมีปรากฏ!

แต่วันนี้ต้นกล้าคือคนสำคัญ...พรรณรังสีหยอดไปว่า

“นิยายเราน่ะวางขายแล้วนี่นา อีกไม่กี่วันคงพิมพ์ซ้ำ เขียนๆไว้นะว่าอยากให้เขาแก้ไขตรงไหนเป็นพิเศษที่พิมพ์พลาดจากรอบแรกไปไหม”

“จะได้พิมพ์ซ้ำเหรอพี่...” ต้นกล้าลังเลแต่ก็ภาคภูมิใจระคนกัน

อย่างน้อยนิยายเขาก็ถูกคาดหวังในมุมมองอันสวยงาม

“อีกหน่อยเราก็รวย อย่าลืมพี่ก็แล้วกัน”

“พี่หนิงช่วยแนะนำผมไว้ตั้งหลายอย่าง มีข่าวสารอะไรก็คอยส่งมาให้ดู ผมจะลืมได้ไงครับ” ผู้อ่อนวัยกว่าตอบตามที่ใจคิด

ข้อมูลข่าวสารวงในเหล่านั้นบ่งบอกความกว้างขวาง หรือมองอีกทาง...การสอดรู้สอดเห็นซอกแซก ทว่าพรรณรังสีกลับมองว่านั่นคือการลงแรงทำงานที่หล่อนกำลังจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้ในอนาคต

เมื่อมองเห็นช่องทางบางอย่างซึ่งกำลังมุ่งหมาย หญิงสาวจึงไม่รีรอซักขึ้น

“ถามหน่อยสิ แถวบ้านต้นกล้ามีตู้ เอ.ที.เอ็ม กดโอนเงินได้ไหม”

“ต้องออกไปหน้าปากซอยครับ ทำไมหรือครับ”

“ช่วยออกไปโอนจ่ายค่าเว็บโฮสต์ให้พี่หน่อยสิสามร้อย แถวบ้านพี่มันอยู่ไกลต้องนั่งรถเมล์ไปแน่ะ บ้านอยู่ชานเมืองก็แบบนี้แหละ”

คนถูกขอร้องหายไปจากจอพักหนึ่ง

พรรณรังสีเบ้หน้าอย่างขัดอารมณ์

...เงินแค่สามร้อยไม่มีปัญญาหรือไงนะ คลังบุ๊คส์จ่ายค่าเขียนนิยายให้ทีละตั้งครึ่งแสนนี่นา...

แต่พอคิดได้ว่านิยายเพิ่งวางจำหน่ายบางทีเด็กหนุ่มอาจยังไม่ได้ค่าต้นฉบับ หล่อนก็ลดความหัวเสียลงได้บ้าง ถึงอย่างไรเด็กอย่างต้นกล้าที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ตลอดวันน่าจะมีเงินใช้สอย แค่สามร้อยหล่อนคิดว่าคงไม่มากมายนัก

พรรณรังสีลืมคิดว่าที่เป็นปัญหาคือตัวคนเอ่ยยืม

ต้นกล้างุนงงไปพักใหญ่เนื่องจากหากนับความสนิทชิดเชื้อใดๆแล้ว เขากับพรรณรังสีก็คุยกันแต่เรื่องในแวดวงการเขียน แถมนี่เป็นครั้งที่สี่เองกระมังที่คุย เอ็ม.เอส.เอ็น. จู่ๆมาถูกขอให้โอนเงินให้เอาดื้อๆ ทำให้เขาจะบอกปัดก็ไม่ได้เพราะหวังพึ่งพิงกันอยู่ในที แต่ครั้นจะให้มันง่ายดายก็ดูแปลกๆจนอึดอัดใจชอบกล

“เอาไว้พี่ออกไป เอ.ที.เอ็ม. เมื่อไหร่จะรีบโอนคืนให้ก็แล้วกัน”

“งั้น...ก็ได้ครับพี่ ขอเลขบัญชีกับชื่อธนาคารด้วยครับ”

แค่นั้นก็สิ้นเรื่อง...

หญิงสาวคิดพลางถอนใจอย่างโล่งอก ได้มาสามร้อยแต่ยังมีอีกหลายบิลที่รอเรียกเก็บ



การสนทนากับต้นกล้าดูจะกร่อยไปถนัดเมื่อหญิงสาวได้สิ่งที่ต้องการ วันนี้หล่อนไม่มีอะไรที่คาดหวังกับต้นกล้าอีกนอกเหนือไปจากนี้ พรรณรังสีมองหาจอถัดไปที่เพิ่งลงทะเบียนเข้ามาในโปรแกรมเดียวกัน

พูดคุยทักทายกันไปไม่กี่คำหล่อนก็เริ่มเข้าวงจรหาได้แบบชั่วครั้งชั่วคราวว่า

“เมี่ยงออกไปโอนตังค์ค่าเว็บโฮสต์ให้พี่หน่อยสิ”

“ค่าเว็บไซต์ที่พี่หนิงทำอยู่เหรอคะ” อีกฝ่ายถามไถ่ด้วยท่าทีแปลกๆ

พรรณรังสีไม่ได้สนใจมากความ มัวแต่ยินดีกับข้อความอำลาของต้นกล้าที่บอกหล่อนว่าจะออกไปโอนเงินก่อนเดี๋ยวกลับมาใหม่

จึงพิมพ์ลงไปทันควันว่า

“นั่นแหละ เขาเรียกเก็บมาแล้วล่ะสามร้อย พี่ขี้เกียจออกจากบ้าน”

“เมี่ยงก็ต้องเฝ้าร้านกาแฟค่ะ ไม่ค่อยได้ออกไปเหมือนกัน”

เอาไงล่ะ...เผื่อไว้ก่อนก็แล้วกัน

พรรณรังสีจึงส่งหมายเลขบัญชีและชื่อธนาคารไปให้กำชับว่า “ออกไปเมื่อไหร่โอนให้พี่หน่อยนะ เอาไว้พี่ไปโอนคืนให้ทีหลัง”

“เขารีบเก็บเหรอคะพี่หนิง”

“ยังหรอก อีกหลายวัน”

“อ้าว! ถ้าอย่างนั้นพี่หนิงจะต้องให้เมี่ยงไปโอนให้เขา แล้วพี่หนิงค่อยโอนคืนให้เมี่ยงอีกทำไมล่ะคะ ถ้าเขาไม่รีบพี่หนิงก็รอสะดวกไปโอนจ่ายค่าเว็บโฮสต์เองเสียทีเดียวไม่ดีกว่าเหรอคะ”

วาจายืดยาวประโยคนั้นทำให้พรรณรังสีได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน

นักเขียนสำนักพิมพ์นี้ชักจะฉลาดมากไปแล้วกระมัง...

“พี่แค่ขี้เกียจไป เอ.ที.เอ็ม.”

“เมี่ยงก็ขี้เกียจเหมือนกันค่ะพี่”

“งั้นก็ช่างเถอะ เมี่ยงดูร้านไปก็แล้วกัน พี่ไปธุระเดี๋ยวมาคุยต่อแต่เปิดจอไว้แบบนี้แหละนะ”

“ยังไงก็ได้ค่ะ”

เมี่ยงคำจะทำหน้าอย่างไรอยู่หลังจอคอมพิวเตอร์ พรรณรังสีไม่ได้อยากรู้ ที่แน่ๆเงินสามร้อยที่ได้จากต้นกล้านั้นไม่มีวันคืนต่อให้เจอหน้ากันจังๆ

เด็กนั่นจะคิดอะไรได้นอกจากปล่อยๆไปเหมือนน้ำท่วมปาก...แค่สามร้อยเองนี่นา

ทวงหล่อนได้ก็น่าเกลียดตายล่ะ

ส่วนจะสามร้อยบาท ‘กี่คน’ พรรณรังสีต้องทำให้มั่นใจว่าพวกนักเขียนออนไลน์ที่หล่อนเลือกให้เป็นหมูในอวยจะไม่รู้เรื่องของกันและกัน!

หล่อนหันไปพิมพ์ข้อความอีกจอสนทนาทันควัน

“หนูวัน...ช่วยพี่หน่อยสิ พี่จะขอยืมค่าโทรศัพท์ก่อน ช่วยออกไปโอนให้หน่อยได้ไหมล่ะ วันนี้ขี้เกียจออกจากบ้านจัง”

เปลี่ยนคน เปลี่ยนหัวข้อหยิบยืมเงินซะ

ถูกขอเอาดื้อๆจังๆแบบนี้ส่วนมากมักตั้งตัวไม่ทันและเสร็จหล่อนล่ะเยอะ

แค่นี้เงินก็เข้าบัญชีมาพอถูไถไปได้อีกเดือนละน่า...ใครกันมันจะมารู้มาเห็น

แต่ยังหรอกนะ นี่มันแค่รายได้กระจอกๆเท่านั้น หล่อนมีช่องทางทำเงินอยู่ที่เว็บไซต์ต่างหาก และตอนนี้พรรณรังสีแค่รอและคาดหวังว่าผู้ชายคนนั้นจะตอบกลับมา

แสนยากร...นักเขียนที่จะทำให้เว็บไซต์หล่อนดังจนมี ‘ราคา’

การแทรกซึมอย่างช้าๆแต่มั่นคงนั่นล่ะที่พรรณรังสีต้องการ!



น่านฟ้าไม่ได้แปลกใจที่เห็นเพื่อนของน้องสาวนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่างภายในบ้านเขา มิรันตีสนิทกับครอบครัวจนเกินกว่าจะคิดว่าเป็นคนอื่น วันนี้หล่อนมาทั้งชุดนักศึกษาอย่างเคย คงตรงมาหลังจากหมดวิชาเรียนในชั้นพร้อมกับทรายขวัญ

ชายหนุ่มเอื้อมรับน้ำดื่มเย็นจัดในแก้วทรงสูงที่คนรับใช้ยกใส่ถาดส่งให้อย่างรู้งานก่อนหล่อนถอยลับออกพ้นห้องไป ก่อนที่จะเดินไปนั่งใกล้ๆมิรันตีและถามไถ่ว่า

“คู่หูเราไปไหนล่ะ”

“ขึ้นไปที่ห้องนอนค่ะ บอกว่าจะไปดูอีเมลตอบกลับจากสำนักพิมพ์อีกที”

“ไหนบอกว่าสามสี่เดือนถึงจะส่งมาให้ไง”

มิรันตียิ้มนิดๆ กดรีโมทปิดโทรทัศน์ที่ดูอยู่และหันมาอธิบายว่า

“ไม่ได้รอพิจารณาตามที่ส่งนิยายไปทีแรกหรอกค่ะ พอดีเอาไปลงเว็บไซต์แล้วมีคนอ่านทักท้วงเรื่องข้อมูลนิดหน่อย แต่ขวัญกังวลมาก ฝ้ายก็เลยบอกว่าถ้าทำให้เครียดก็ถอนออกมาแก้ไขปรับปรุงก่อนสำนักพิมพ์คงไม่ว่าอะไร”

“สรุปว่าติดต่อรอถอนเรื่องไปสินะ” เขาพยักหน้าอย่างเข้าใจ

“ค่ะ...จริงๆก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะคะ ปกติเขาก็แค่แจ้งว่ารับทราบ หนหน้าส่งใหม่เผื่อว่าจะได้ร่วมงาน หรือตอบอะไรสั้นๆทำนองก็หมดเรื่องกันไปน่ะค่ะ”

น่านฟ้าอดถามไม่ได้ว่า

“เคยขอถอนมาแล้วเหรอ”

“เพื่อนนักเขียนเยอะแยะที่รู้จักกันเขาบอกมาค่ะ วงการนี้อันที่จริงมันไม่ได้ต่างคนต่างอยู่อย่างที่ใครต่อใครคิดนะคะพี่นอต”

คำยืนยันของมิรันตีทำให้น่านฟ้าเพิ่งรู้ว่าสิ่งที่เขาคิดเกี่ยวกับนักเขียนออนไลน์ทุกวันนี้ผิดพลาดไปมากมาย ชายหนุ่มก็เหมือนใครอีกหลายคนที่คิดว่าพวกที่ใช้โลกไซเบอร์เชื่อมต่อทักทาย มีความสัมพันธ์ในระยะห่างๆอย่างฉาบฉวยเต็มที

ทว่าคำของมิรันตีทำให้เขารู้ว่ามีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารในแวดวงเฉพาะ

“ไม่ได้เป็นนักเขียนสังกัดเดียวกันใช่ไหมคนที่ให้ข้อมูลมา”

“ไม่ต่างกันหรอกค่ะพี่นอต” แววตาของนักเขียนมือใหม่มีความมั่นอกมั่นใจอยู่นั้น “จะอยู่ที่ไหนพวกเราก็เป็นนักเขียนรุ่นใหม่เหมือนๆกัน ฝ้ายเข้าใจนะคะว่าในสายตาพวกพี่นอต นักเขียนรุ่นปัจจุบันก็เหมือนพวกเด็กๆที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวริจะมาจับปากกา”

“มันทำให้อะไรต่างไปไหม”

...สิ่งที่ผู้ใหญ่อย่างเขาคิดและในสิ่งที่ ‘เด็กๆ’ จากมุมมองของเขากำลังทำ...

น่านฟ้าไม่ได้ปฏิเสธความจริงว่าเขามีศรัทธาน้อยมากในฝีมือและเนื้อหาที่นิยายหลายเรื่องเดี๋ยวนี้วางจำหน่าย ใจส่วนลึกแม้เขาจะนึกชื่นชมความพยายามของนักเขียนรุ่นใหม่แบบนั้นแต่ยังไงเขาก็ยังยืนยันว่างานนักเขียนรุ่นใหญ่อย่างป้าอ้นจะง่ายกว่าที่จะถูกหยิบซื้อหรือเอ่ยถึง

หางเสียงของมิรันตีฟังขมขื่นเมื่อเอ่ยว่า

“มันทำให้คนที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่กว่าอีกหลายคนมักจะคอยเหยียบย่ำหรือตั้งคำถามกับเราว่ามีปัญญาเอาอะไรที่ไหนมาเขียนให้อ่านกัน ผิดพลาดอะไรมาเมื่อไหร่เขาก็คงหัวเราะกันว่าไม่เจียมตัว”

คนเหล่านั้นเลือกที่จะซ้ำเติม

...แทนที่จะชี้นำหรือปกป้อง

“พวกผู้ใหญ่ไม่รู้หรอกค่ะว่าทุกวันนี้พวกเราดูแลกันเองได้ดีขนาดไหน!”

เหมือนวันนี้ที่มิรันตีเป็นเสมือนพี่เลี้ยงให้แก่ทรายขวัญที่เพิ่งเดินเตาะแตะเข้ามาในโลกแห่งการเขียน การแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นไปอย่างเงียบๆอยู่ข้างหลัง แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่หล่อนยังไม่ได้บอกเล่าสู่เพื่อนสาวเพราะยังไม่เห็นสมควรแก่เวลา

กระทั่งมิรันตีและน่านฟ้าหันไปมองเห็นร่างของทรายขวัญที่ก้าวฉับๆลงบันไดมาพร้อมสีหน้าเผือดซีดและกระดาษในมือซึ่งกำแน่น บอกให้รู้ว่าบางครั้งการระมัดระวังป้องกัน ก็ไม่อาจสู้ความทารุณร้ายกาจของโลกแห่งความจริงได้เลย





Create Date : 25 มิถุนายน 2552
Last Update : 10 มีนาคม 2559 20:08:02 น. 7 comments
Counter : 679 Pageviews.

 
ตามมาอ่านจนทันแล้วพลอย สนุกดี
โทษทีที่ไม่ได้ล็อกอิน ขี้เกียจเข้าบล็อกตัวเองอ่ะ


โดย: อ้อ IP: 203.150.210.151 วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:8:44:14 น.  

 
ไปหางานทำง่ายกว่าไหมพรรณรังสี...


โดย: อะเดล (adel_ew ) วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:10:33:32 น.  

 
ไม่ต้องล็อกอินก็ได้ค่ะอ้อ
บล็อกนี้เน้นสบายๆ (คือไม่เคยเน้นอะไรเลย 55+)

************

น่าจะหางานทำยากอยู่นะคะพี่อะเดล
คนแบบนี้น่ะ
เหอๆ


โดย: ploy666 IP: 124.157.207.220 วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:15:23:59 น.  

 
หง่ะ ขอกันหน้าด้านๆเลยเนอะ


โดย: fiona IP: 203.171.196.55 วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:20:06:30 น.  

 
คนถูกขอก็ยังคง งงๆ มึนๆ อยู่เหมือนกันค่ะคุณฟิโอน่า
อาจจะเป็นมุขง่ายๆที่มีแนวโน้มสำเร็จเหมือนกันนะนี่

^ ^


โดย: ploy666 IP: 124.157.207.220 วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:6:48:05 น.  

 
น่ารังเกียจเกินบรรยายค่ะ ยัยพรรณรังสีคนนี้

อุตส่าห์ดีใจว่าตายๆไปซะได้ ก็ดันเป็นแค่ฝัน เง้อ ผิดหวังค่ะ พลอย

ดอกรัก..กลิ่นซากุระตอนที่ 16 มาแล้วค่ะ แต่ตอนนี้ต้องค่อยๆอ่าน และเป็นกำลังใจให้หนูนามากๆนะคะ


โดย: Tukta21 วันที่: 27 มิถุนายน 2552 เวลา:1:32:32 น.  

 
55+
พรรณรังสีตายเดี๋ยวเรื่องจบไวไปนะคะมอลลี่
ขอบคุณที่ติดตามต่อเนื่องจ้า

เดี๋ยวจะแวะไปให้กำลังใจ หนูนา เซกิ (บวก นาไก)


โดย: ploy666 IP: 124.157.237.104 วันที่: 27 มิถุนายน 2552 เวลา:5:45:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.