Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
25 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
ชาร์ลี 2 ตอน 24 ปฏิบัตการรบ


คุยกันก่อนอัพ


พ้นตอนนี้ก็เหลืออีกตอนเดียวจบเท่านั้นค่ะ
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ยังไม่ลืมชาร์ลี อาจจะทำไม่ได้ดีมากนักแต่ก็พยายามสื่อสารออกมา
ขาดตกบกพร่องไปบ้าง (ต้องมีน่ะแหละนะ) ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ...

วันนี้อัพสองตอนนะคะ คือตอน 23 และ 24

พรุ่งนี้ว่าจะไปธุระขอผลัดตอนจบไปอีกหนึ่งวันละกันเน้อ ^ ^

Ploy666.

ป.ล. ได้ยินว่าเมื่อวานเชียงใหม่แผ่นดินไหวแรงมาก
ยังไงก็อย่าให้ไทยมีปัญหาแบบญี่ปุ่นเลยนะคะ...น่ากลัวมากมายจริงๆ

**************

ชาร์ลี 2 [ภาค : มิตรสหายและศัตรู]
ตอนที่ 24 ปฏิบัติการรบ

ผู้แต่ง RED (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)



แสงสว่างที่ปรากฏขึ้น ณ เส้นขอบฟ้าทำให้ทุกอย่างหยุดชะงักราวกับตื่นตะลึงตาค้างกับภาพที่เห็น ใบเรือสีขาวมีตราสัญลักษณ์ของกษัตริย์แห่งเซไลย์เปล่งประกายเรืองรองแลเห็นได้แม้ในความมืดมิด

ชาร์ลีขนลุกต่อภาพตรงหน้า...

มนตรามหาศาลดูจะแผ่พุ่งอาบทั่วท้องน้ำแห่งทะเลอันกว้างไกล เมื่อเรือรบหลวงลำแล้วลำเล่าปรากฏขึ้นอย่างแช่มช้าราวกับความเคลื่อนไหวของสายลมอ่อนเบาที่ให้ความรู้สึกเสมือนกลายเป็นส่วนเสี้ยวสำคัญที่ทำให้ท้องทะเลดำรงคงอยู่ กำแพงแข็งแกร่งที่ประกอบด้วยเรือรบจำนวนมากมายที่ดาหน้าแล่นใกล้เข้ามาช่างน่าเกรงขามจนยากจะอธิบาย

ไม่มีความอึกทึกครึกโครม

ไม่มีเสียงประโคมกลองศึกหรือธงสะบัดไหว

ปราศจากคบไฟชูโชนโรจน์กล้าส่งสัญญาณการเคลื่อนพล

...ไร้แม้กระทั่งเสียงเครื่องเป่าประกาศศักดา...

หากแต่ในความสงบเงียบเต็มไปด้วยระบบระเบียบนั้นทุกคนย่อมตระหนักดีว่าทุกการกระทำสะกดข่มพลิกผันสถานการณ์จนแปรเปลี่ยนไปแบบคว่ำฟ้าสะเทือนผืนน้ำ!

ความรู้สึกบอกเขาว่าแสงที่เป็นกลุ่มกระจายหัวเรือคือร่างสูงสง่าของผู้ใช้เวทระดับสิบแห่งสภาสูงที่ยืนสงบนิ่งท่ามกลางเหล่านักรบผู้กล้า

อาจเป็นเพราะแรงสั่นสะเทือนเล็กๆราวระลอกคลื่นที่โอบล้อมอยู่ทำให้ชาร์ลีรับภาพที่แวบผ่านเข้ามาในห้วงความคิดได้ฉับไวปราดเปรียวท่วมท้น เป็นสิ่งที่ผสานกับกับการชี้นำของสัญชาตญาณนูฟในร่างกายซึ่งถูกรีดเร้นให้รับสาสน์ซึ่งส่งมาถึงโดยว่องไว

รัศมีที่อาบคลุมร่างกายของชาร์ลีดูจะมีผลต่อซีนายไม่มากก็น้อย วินาทีที่ปีศาจร้ายกรีดร้องอย่างเจ็บปวดร่างกายของเขาก็หดกลับลงสู่ภาพลักษณ์ของเด็กชายจากกิซาบา สติสัมปชัญญะกลับคืนมามากพอที่ซีนายจะร่ายเวทคืนสภาพแก่ตัวเองเพื่อให้เสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งจากการเปลี่ยนร่างเมื่อครู่กลับคืนมาอยู่ในเครื่องแต่งกายมิดชิดทะมัดทะแมง

รูปลักษณ์กลายเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ซีนายมีโอกาสต่อรองกับเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นเชื่อแน่ว่าบรรดาผู้ใช้เวทจากสภาสูงจะมุ่งทำร้ายเขาในวินาทีแรกที่เห็นตัว เนื่องจากการบิดเบือนเวทมนตร์สายขาวไม่เป็นที่ยอมรับกันมากนักโดยเฉพาะเจตนาปรับไปใช้ในแง่การสร้างเรื่องเลวร้ายคุกคามต่อคนอื่นๆ

“เจ้าต้องคืนร่างให้ข้า ไม่อย่างนั้นจะไม่มีการเจรจาเกิดขึ้นแล้วพวกเราจะตายหมด” วีซานด์ฉวยโอกาสบีบบังคับซีนาย

ชาร์ลีอ้าปากจะคัดค้านเมื่อรู้สึกว่าแผนการเริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางที่เขาไม่อาจควบคุม

หากซีนายตัดสินใจร่วมมือกับวีซานด์ กองเรือโจรสลัดจะกลับมาสู่ความเข้มแข็งไม่แน่ว่าอาจะประจันหน้าเสี่ยงชีวิตกับเรือรบแห่งเซไลย์ได้อย่างน่าทึ่ง ทำลายแผนการที่ชาร์ลีแอบสั่งให้ดันลานี่ไปเสาะพบเดลตามการนัดหมายวางแผนให้เคลื่อนพลมาสู้ศึก

อัสลันไวกว่าเมื่อขว้างดาบในมือไปปักตรึงเชือกเบื้องที่พื้นห่างออกไป เขากระชากปลายของมันให้สูงพอพ้นกองศพอันระเกะระกะ แล้วสะบัดข้อมือรวบรวมเรี่ยวแรงกระชากจนมันตึงและกวาดเอาวีซานด์เสียหลักล้มลง

“กระโดด!”

อัสลันร้องและกระชากตัวชาร์ลีจนเซไปในทิศทางที่กราบเรือถูกพังเป็นช่องว่างเอาไว้

วินาทีนั้นเองที่ชาร์ลีมองเห็นว่าซีนายลิ่วมาทางนี้และไม่สนใจใยดีกับข้อเสนอของวีซานด์ และเป็นช่วงที่ท้องฟ้ามีลูกเพลิงสีรุ้งมหึมาร่วงลงมาก่อนแตกกระจายออกสะเทือนฟ้ากลายเป็นร่างแหอัคคีคลี่คลุมกองเรือสลัดทุกลำจนอลหม่าน เวทมนตร์ที่เหนือล้ำยิ่งไปกว่าที่ซีนายพยายามทำแสดงให้เห็นความเหลื่อมล้ำอันสูงส่ง เด็กชายไม่มีเวลาสนใจสิ่งใดอีกเมื่อนึกได้ว่านั่นเป็นลูกเพลิงที่อัดแน่นไปด้วยเวทมนตร์มหาศาลจากผู้ใช้เวทของเรือรบหลวงซึ่งอาจไม่รู้แน่ชัดว่าพวกเขายังคงอยู่บนเรือลำไหนได้แต่ฉวยจังหวะสะกดกั้นการโจมตีของเหล่าเรือโจรสลัดเพื่อผลการรบที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดแม้จะต้องเสี่ยงเอาชีวิตชาร์ลีและอัสลันเป็นเดิมพันก็ตามที

ร่างของลาเฟลหายลับไปจากสายตาเมื่อชาร์ลีสัมผัสได้ถึงความว่างเปล่าบนแผ่นหลังยามที่ร่วงดิ่งลงไปจากลำเรือ ผืนน้ำเย็นเฉียบโอบรัดร่างเขาและอัสลันไว้ก่อนจมดิ่งลงไปพร้อมๆกัน

ประสาทที่ไวต่อการรับสัมผัสของชาร์ลีสั่งให้เขาขยับมือและเท้าเพื่อดิ้นรนเอาชีวิตรอดเมื่อกระแสน้ำรอบตัวกดดันบีบรัดเข้ามา อากาศในปอดกำลังงวดหาย น้ำอึกแล้วอึกเล่าเริ่มถูกลืนเข้าไปแทนที่ ยังคงมีแต่มือที่แน่นเหนียวของเพื่อนสนิทชาวไฮแลนด์เท่านั้นที่รัดรอบตัวเขาพลางฉุดกระชากลากเขาฝ่าผืนน้ำอันดำมืดและน่าสะพรึงกลัว

ร่างกายของชาร์ลีถ่วงหนักราวกับถูกพันธนาการเอาไว้

คำสาปเก่าแก่หรือหลักพันธุกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปก็ตามที ที่เด็กชายชาวนูฟเพิ่งรู้แน่แก่ใจคือสิ่งที่เขาเป็นนั้นมันกำลังจะคร่าชีวิตของเขา

แวบหนึ่งที่มือของอัสลันเผยความเหนื่อยล้าอันเนื่องมาจากความบาดเจ็บที่ได้รับสะสมมาจนคลายการเกาะกุมลง และเป็นชั่วพริบตาเดียวที่แขนอีกข้างของชาร์ลีโดนกระชากรุนแรงจนเจ็บปวดทำให้ร่างเขาผละจากสหายสนิท ถูกฉุดดึงไปอีกทาง

สติของชาร์ลีวูบดับลงเมื่อความอดทนบรรลุถึงขีดสุด...



กองเรือสองฝั่งที่ตั้งประจันหน้ากันใต้แสงจันทร์แลดูไม่ต่างจากภาพวาดอลังการ หากไม่เพราะการเปิดฉากโจมตีครั้งแรกของกองเรือรบหลวงแห่งเซไลย์ทำให้เกิดเป็นลูกเพลิงยักษ์พุ่งไปยังเรือลำกลางอันเป็นสถานที่บัญชาการรบของกลุ่มคนนอกกฎหมาย ก่อนจะแตกเป็นลูกไฟแยกย่อยน่าตื่นตาคลี่กระจายครอบคลุมจนสร้างความเสียหายทุกทิศทุกทาง

ชีฟอดีตประธานสภาสูงที่ยืนดูผลงานอยู่หัวเรือเคียงข้างกับเดลพ่อมดผู้รักษา มีสีหน้าพึงพอใจในความระส่ำระสายที่ปรากฏของคู่ศึก เมื่อเรือบัญชาการที่มีธงของวีซานด์โบกสะบัดได้เต็มไปด้วยไฟลุกท่วมใบเรือเสากระโดงที่หักโค่นลงมานั้นทำให้เรือใหญ่เกิดอาการลาดอียงจนเรือลำข้างเคียงต่างก็ผละถอยกลับลำเพิ่มระยะห่างกันอลหม่านป้องกันความสูญเสียจากผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

บัดนี้ต่อให้วีซานด์ยังคงอยู่ก็หมดอำนาจควบคุมบังคับเรือลำอื่นๆซึ่งแต่เดิมก็ต่างที่มา แม้ว่ากัปตันเรือทั้งสี่จะติดตามข้างกายจอมโจรลือชื่อเมื่อนึกว่าป่านนี้อาจบาดเจ็บล้มตายอยู่ไหนสักแห่งบนเรือนั่นก็ทำให้รองกับตันเรือที่รักษาการเอาใจออกห่างและต่างคนต่างหมดกำลังใจต่อสู้ ยิ่งเมื่อประเมินว่ากองเรือรบหลวงมีมากกว่าตนเองเป็นเท่าตัวการแยกย้ายหนีไปกบดานเป็นหนทางที่น่าจะกระทำได้มากที่สุดขบวนที่ตั้งไว้เป็นปีกซ้ายขวาจึงเริ่มรวนเรสับสน

“ส่งสัญญาณจัดทัพเป็นหัวธนู เราจะพุ่งเข้าไปตรงกลางยิงลูกเพลิงใส่เรือทั้งสองด้านเมื่อโผล่ไปอีกด้านให้ตั้งขบวนเรือเป็นแนวป้องกันเกาะเมิร์ฟเนียเอาไว้ แบ่งกำลังเรืออีกสองลำด้านนอกสุดวนกลับมาขนาบข้างสร้างความเสียหายกับเรือโจรสลัดให้ถึงที่สุด!” ชีฟประกาศกลศึกอันชาญฉลาด

การทะลวงเข้าไปนอกจากสร้างความเสียขวัญแก่ศัตรูยังสร้างความฮึกเหิมแก่ทหารและอัศวินจำนวนมากบนเรือรบหลวงที่ออกศึกแล้ว เมื่อทั้งหมดเข้าไปยึดพื้นที่ตั้งแนวป้องกันโอบล้อมเกาะเมิร์ฟเนียจะทำให้พวกนั้นไม่กล้ารุกคืบไปสร้างความเสียหายให้กับเกาะได้อีก ทั้งยังป้องกันไม่ให้เรือโจรสลัดลำใดแล่นเรือเข้าไปเทียบที่เกาะเพื่อใช้คนบนเกาะเป็นเสมือนตัวประกันอีกด้วย

แผนการครั้งนี้นับเป็นภูมิปัญญาที่อิงอาศัยกับสภาพการณ์ โดยฉกฉวยเอาจังหวะที่ลูกเพลิงเวทมนตร์หนแรกนั้นก่อกวนอีกฝ่ายจนแทบคลั่งได้แต่หนีตายทั่วกันตามประสาพวกที่รักชีวิต

เดลพยักหน้าอนุมัติคำสั่ง เขาทอดสายตาไกลออกไป

“ท่านว่าชาร์ลีจะปลอดภัยไหม”

“ภาวนาให้เขามีโชคดี...ข้าไม่แน่ใจนักว่าถ้าเป็นตัวเองจะเอาชีวิตรอดไปจากการเป็นเชลยของโจรสลัดได้ยังไงในเวลาสั้นๆ” ชีฟทอดถอนใจ

เขาหวังในแง่ดีว่านูฟยังคงเจ้าคิดชอบวางแผนการอย่างที่ควรจะเป็น แม้ระยะหนึ่งปีหลังนับจากเซไลย์เปลือกนอกค่อนข้างสงบลงพอสมควรจนชาร์ลีไม่มีโอกาสได้ลับสมองเท่าไหร่นักก็ตามที

จะอย่างไรเด็กชายวัยสิบสี่ก็มีค่าควรแก่การไว้วางใจในสายตาเขาเองที่ผ่านโลกมามากมาย...

“ท่านยาริสให้มารายงานว่าพวกท่านควรหยุดยิงเพราะมันทำให้ท้องเขาปั่นป่วนครับ” อัศวินรายหนึ่งเดินมารายงานด้วยสีหน้ายิ้มๆ

เดลกับชีฟหันไปมองหน้ากันเหมือนพูดไม่ออก

“บอกเขาก็แล้วกันว่าถ้าอยากให้หยุดยิงประธานสภาสูงก็ต้องมาสั่งการเอง” เดลบอกอย่างเหนื่อยใจ เดาได้เลยว่าป่านนี้ยาริสคงเต้นไปมาอย่างตื่นตระหนกในห้องพักหรูหราที่ท้องเรือ นี่อาจเป็นสัมภาระที่ไร้ประโยชน์ที่สุดสำหรับการเดินทางครั้งนี้

อัศวินหนุ่มรายนั้นโค้งศีรษะและถอยจากไปเมื่อรับคำสั่งแล้ว

เรือรบหลวงประกอบด้วยผู้คนในชุดคลุมสีน้ำเงินเข้มยืนประจำอยู่บนดาดฟ้าเรือ ไม่ต้องบอกก็เดาได้ว่าลูกเพลิงขนาดใหญ่กว่าที่เคยพบเห็นมานั้นก่อเกิดด้วยแรงผลักดันของการรวมกลุ่มเวทที่ผสานเสริมจากหลายฝ่ายโดยมีเดลเป็นศูนย์กลาง

พ่อมดหนุ่มขยับแว่นสายตาก่อนเพ่งมองกองเรือโจรสลัดที่เริ่มกระจัดกระจายออกจาการกันอย่างไร้ระบบ เพิ่มความเชื่อมั่นต่อวิจารณญาณของชีฟที่เขาเองเป็นผู้ยื่นคำร้องพิเศษต่อกษัตริย์คาลอสให้อดีตประธานสภาสูงเข้าร่วมวางแผนการรบด้วย นี่อาจจะเป็นการทดสอบที่ดีเลิศสำหรับกองทัพเรือซึ่งชาร์ลีริเริ่มก่อตั้ง น่าเสียดายที่เด็กชายไม่อาจมายืนเคียงข้างเพื่อดูผลงานอันยิ่งใหญ่มีคุณอเนกอนันต์ของตนเอง

“ถ่วงน้ำหนักที่กราบซ้ายเรือ!” เดลตะโกนก้องท้องน้ำโดยใช้ควบคู่ไปกับเวทควบคุมเสียงทันทีที่มองเห็นช่องว่างขนาดใหญ่สำหรับแผนที่ตระเตรียมไว้ “เราจะพุ่งเข้าไปและหักเลี้ยวออกขวาตั้งลำเรือขนานเพื่อหนุนยิงลูกเพลิงเสริมซ้ำ พลธนูทั้งสองฝั่งเตรียมอาวุธไว้รอจังหวะที่เข้าใกล้เรืออื่นแล้วโจมตีได้”

คำสั่งที่ห้าวหาญนั้นทำให้คู่ต่อสู้ยิ่งมองเห็นวาระสุดท้ายของตนชัดเจนและเสียขบวนไปคนละทิศละทาง

กองทัพเรือเคลื่อนขบวนกลางเป็นดั่งลูกศรที่พุ่งผงาดออกไปอย่างรวดเร็ว ไอเวทมนตร์ที่เคลือบแฝงทั้งลำเรือเปล่งประกายเรืองรองระยับจับตา ชั่ววินาทีที่พุ่งผ่านข้างเรือบัญชาการของกองโจรสลัดซึ่งกำลังลุกไหม้ เดลก็ส่งสัญญาณเรียกรวมพลผู้ใช้เวทผสานเสริมโจมตีซ้ำอีกครั้งอย่างดุร้ายจนกระทั่งเรือลำนั้นพังทลายแทบกลายเป็นเพียงเศษซากไม้ลอยน้ำ

ความรวดเร็วอันน่าพิศวงมาจากการดัดแปลงตัวเรือให้เพรียวเหมาะแก่การโลดแล่นไปตามกระแสน้ำและยังไม่เป็นปัญหาแม้เมื่อทวนน้ำทำให้ทัพเรือบุกฝ่าไปพร้อมสร้างความเสียหายแก่เรือโจรสลัดที่อยู่ใกล้อีกหลายลำ

เมื่ออีกฝ่ายไร้ลูกเพลิงเวทมีเพียงการยิงระเบิดเชื้อไฟธรรมดาก็ไม่อาจลิดรอนอำนาจเรือรบหลวงที่ทวีถึงขีดสุดลงไปได้...

เดลโบกแขนไปด้านหนึ่งซึ่งเป็นสัญญาณที่ทราบกันดีกว่าให้แปรขบวนจัดทัพป้องกันแนวเกาะเอาไว้ ทุกอย่างดูน่าตื่นตาเมื่อเรือรบจำนวนหลายสิบลำทำขบวนคลี่กางออกประดุจพัดที่สยายแข็งแรงมั่นคง

ยาริสพาร่างก้าวขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ ขยับปากเหมือนจะโวยวายแต่ดันเป็นจังหวะเดียวกับที่เรือเอียงลำหมุนไปครึ่งวงกลมเพื่อรักษาตำแหน่งพร้อมจู่โจมด้วยเครื่องยิงลูกเพลิงด้านข้างได้ทันท่วงที มีผลให้ร่างประธานสภาสูงคนปัจจุบันที่ยังไม่ทันเตรียมรับสถานการณ์เซแซ่ดๆเสียหลักกลิ้งกระเด็นกระดอนไปยังกราบเรืออีกด้านดูน่าขบขันแกมสมเพชในที

ถึงอย่างนั้นก็ยังอุตส่าห์มานะพยายามตะโกนฝ่าเสียงระเบิดอึกทึกครึกโครมและเสียงเฮลั่นของบรรดาอัศวินบนเรือเมื่อเป้าหมายโดนโจมตีแม่นยำ ร้องลั่นๆหน้าแดงก่ำว่า

“ท้องไส้ข้าปั่นป่วนไปหมดแล้วเดล เมื่อไหร่พวกเจ้าจะจมเรือพวกนั้นให้หมดๆเสียที!”

“เฮ้! ใจเย็นๆยาริส กษัตริย์คาลอสบอกว่าใครยอมจำนนเราจะจับเป็นกลับไป” เดลค้านอย่างอ่อนใจ เขาไม่อาจละสายตาไปจากการศึกเบื้องหน้าแต่ก็ไม่สามารถจะทำเฉยชาต่อยาริสได้เพราะนั่นรังแต่จะทำเรื่องอื่นๆยุ่งเหยิงไปอีก

ยาริสเป็นตัวปัญหาตั้งแต่ก่อนเดินทางออกจากเซไลย์และไม่คิดจะสร้างปัญหาให้น้อยลง

ในที่สุดเขาก็พาตัวเองมายืนรวมกลุ่มกับเดลและชีฟได้สำเร็จแม้จะดูทุลักทุเลไปบ้างก็ตามที

“เจ้าน่าจะยอมให้ข้าพาเอาผู้ติดตามมาด้วย” ไม่วายบ่นงึมงำ

เดลหูไวทันได้ยินเข้า “มันสิ้นเปลืองพลัง เวทเคลื่อนย้ายเรือหลายลำสร้างภาระหนักพออยู่แล้ว”

“ทีเอาไอ้นกปากมานั่นมาไม่เห็นบ่น”

ชีฟซึ่งทำหูทวนลมคล้ายไม่ได้ยินมานานอดไม่ได้ต้องชำเลืองมองแล้วถอนใจอีกเฮือก ชายสูงวัยเอ่ยเสมือนปรามในทีว่า

“รอให้เสร็จจากเรื่องนี้ก่อน ถ้าเรือเทียบท่าค่อยว่ากันได้ไหมยาริส”

เพราะเคยคร้ามเกรงกันมาแต่เก่าก่อนยาริสจึงยอมหุบปากลงแม้ไม่เต็มใจนัก

ถึงชีฟจะปลดเกษียณไปแล้วแต่การมายืนอยู่ตรงนี้ตามคำสั่งกษัตริย์คาลอสก็แสดงว่ายังมีอำนาจบารมีไม่มากก็น้อย

สายตาที่เต็มไปด้วยภูมิปัญญาแห่งปราชญ์ตวัดมองสถานการณ์โดยรวมอีกครั้งจากนั้นจึงสั่งว่า

“เคลื่อนกำลังขยายแนวป้องกันออกไปอีก บีบให้พวกมันแตกแยกและฉวยโอกาสไล่ล่าเท่าที่จะทำได้ ใครยอมจำนนให้ปลดอาวุธส่งคนขึ้นยึดเรือ!”

เสียงเฮลั่นรับดังกึกก้อง

เปลวเพลิงแดงฉานลุกฮือเป็นหย่อมๆทั่วท้องทะเลออบิท เมื่อเรืออีกลำของกลุ่มโจรวาดแว้งเข้ามาคล้ายคิดทะลวงฝ่าแนวป้องกันเข้าไปยึดชัยภูมิเกาะเป็นที่กำบังเร้นกาย แต่กลับโดนเรือรบจากทางการที่อยู่ด้านหน้าแล่นลิ่วมาขัดปัดชนเอากราบเรือโจรสลัดด้านหัวเรือทะลุเป็นโพรงใหญ่เสียหายยับเยิน อัศวินต่างจับอาวุธกรูกันขึ้นไปเพื่อรบชิงชัยชนะขั้นสุดท้าย

สงครามกำลังจะได้ข้อยุติ แต่สิ่งหนึ่งที่ชีฟยังคงเป็นกังวล

ชาร์ลีและอัสลันจะปลอดภัยหรือไม่...



ลาเฟลเป็นสัญลักษณ์ของการรอดชีวิต...เมื่อชาร์ลีคิดมาถึงช่วงนี้อาการบอบช้ำก็กลับมาผจญอีกครั้งจนเผลอครางออกมา

“ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าจะรอดมาได้ ข้าเห็นเจ้าไม่หายใจไปพักหนึ่งนึกว่าตายเสียแล้ว”

คนพูดก้าวใกล้เข้ามาพลางทรุดตัวลงนั่งเคียงข้าง ยื่นใบไม้หนาที่พับรองเอาใส่น้ำจืดสะอาดส่งมาให้คล้ายระหว่างพวกตนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นให้กินแหนงแคลงใจ

บางทีชาร์ลีก็ไม่เข้าใจนักว่าจิตใจของซีนายทำด้วยอะไรจึงไม่เคยสะทกสะท้านกับการคร่าชีวิตผู้คนมากมายเพียงเพื่อสนองเป้าหมายตนเอง ขนาดเขาที่พลั้งมือฆ่าไปเพียงเพราะถูกทำร้ายก่อนและพยายามจะป้องกันตัวแต่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ยังนึกกระอักกระอ่วนใจทุกครั้งที่กระหวัดนึกถึง

ซีนายยังคงดันจอกน้ำให้อีกหนเชิงเร่งในที

“เจ้าต้องกินลงไปบ้าง...มันช่วยได้เยอะนะ”

“ข้าไม่อยากรอดเพื่อมาเป็นเครื่องมือของเจ้า” น้ำเสียงราบเรียบของชาร์ลีและอาการควบคุมอารมณ์ได้อย่างดี

หากเป็นคนอื่นในตอนนี้อาจโวยวายลั่นๆหรือพยายามหลบหนี แต่ชาร์ลีรู้ดีว่าเขาทำไม่ได้เมื่อเด็กชายชาวนูฟเลื่อนสายตาไปจับที่กอหญ้าห่างออกไปซึ่งขยับไหวพอเห็น

“เอาไปให้รูดี้ดื่มก่อน”

ซีนายไหวไหล่คล้ายนึกเบื่อหน่ายอยู่บ้างแต่ไม่ประสงค์จะต่อปากต่อคำในเวลานี้

แสงแดดยามรุ่งอรุณส่องแทรกไอหมอกลงมา แม้ไม่ช่วยให้ความชื่นสลายจามไปแต่ก็นับว่ามีผลต่อจิตใจชาร์ลีไม่น้อย

ถึงยังไงก็น่าจะดีกว่าการจมอยู่ในความมืดตลอดคืนที่ผ่านมา...

ตอนแรกเขาไม่ค่อยแน่ใจนักว่าซีนายพาขึ้นเกาะด้านไหน แต่เมื่อมองเห็นยอดเขาคู่อยู่ไม่ไกลก็รู้ว่าซีนายใช้เวทเคลื่อนย้ายพามาไกลถึงอีกฟากเกาะเมิร์ฟเนีย แม้อาณาเขตเวทมนตร์ด้านนี้จะยุติลงเมื่อสินสุดผืนดิน แต่การมาตกใกล้ฝั่งก็ยังประโยชน์มากมายสำหรับการใช้เวลาที่เหลือกอบกู้ชีวิตชาร์ลีที่สลบไสลไม่ได้สติให้รอดปลอดภัยต่อลมหายใจคืนมาอีกครั้ง ก่อนที่จะกลับไปยังผืนน้ำเพื่อร่ายเวทบางอย่างนำเอารูดี้กลายมาเป็นตัวประกันแบบที่เห็น

“นั่นมันสร้อยของข้า!” รูดี้โวยวายขึ้น

ซีนายปลดเอาสร้อยที่ห้อยข้างเอวโยนส่งให้เจ้าโกลบตัวจ้อยคืบคลานไปตามเก็บกำไว้ในมือแม้แขนจะยังถูกมัดกับลำตัวด้วยเถาวัลย์แน่นหนาและขาทั้งสองก็โดนยึดติดกันไว้ก็ตามที

เด็กชายจากกิซาบาย่อกายลงนั่งยองๆส่งน้ำให้มันดื่มอย่างกระแทกกระทั้นแล้วรีบถอนจอกออกมาเพื่อกันส่วนที่เหลือไว้ให้ชาร์ลีตามตกลง

“อย่าบ่นนักเลย เจ้าชื่ออะไรนะ อ้อ...รูดี้” ซีนายหัวเราะหึๆอย่างเบิกบาน “สร้อยนี่ข้าแค่สั่งให้คนไปขอยืมมาไม่กี่วันเท่านั้นเอง ได้ข่าวว่าเจ้าทะเลาะกับเพื่อนใหญ่โตเลยใช่ไหม...ขอโทษที แต่ถ้าไม่มีสร้อยเส้นนี้ข้าก็ใช้เวทเรียกเอาเจ้ามาที่นี่เพื่อเป็นตัวประกันไม่ได้ ชาร์ลีเองก็จะไม่พาข้าไปหามาธาเกียร์ด้วยสิ”

คำว่า ‘ขอยืม’ ไม่อาจตีความเป็นอื่นไปได้นอกจาก ‘ขโมย’ เพราะเจ้าของสร้อยไม่เคยยินยอมอนุญาตหรือรับทราบการหยิบยืมนั้น

ทางหนีทีไล่ถูกเตรียมไว้มากมายจนน่าทึ่ง

ชาร์ลีได้แต่มองตามร่างของอดีตสหายที่พาตัวกลับมายื่นน้ำดื่มให้เขาคล้ายปรารถนาจะเอาใจชาร์ลีเป็นพิเศษ หากนั่นก็ไม่ช่วยให้กลบฝังความจริงที่ว่าซีนายก่อเรื่องร้ายแรงเอาไว้มากมายเพียงใดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

“เจ้ายังจะต้องการมาธาเกียร์ไปเพื่ออะไรซีนาย”

ประโยคแรกหลังได้น้ำดื่มเรียกเอาเรี่ยวแรงคืนมา ชาร์ลีก็ไม่ลังเลที่จะพุ่งเข้าหาจุดหมายที่ต้องการ

คู่สนทนาดูไม่ไยดีกับท่าทางของชาร์ลีตอนอธิบายต่อว่า “ใช่สิ...ก็แค่ข้าจะสร้างใครสักคนที่มีอำนาจในเซไลย์ ตอนนี้ข้านึกเลยไปไกลถึงอำนาจที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าสภาสูง”

“กษัตริย์คาลอส!”

มีเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถกุมอำนาจไว้ในมือได้โดยชอบธรรม เมื่อเวลาแห่งการแทรกแซงแบบชาญฉลาดนั้นมาถึงซีนายจะก้าวล้ำโดดเด่นกว่าใคร

ไม่มีผู้เฉลียวใจคิด...ไยจะเกิดผู้ต่อต้าน

แผนการนี้ของซีนายหากมองว่าใหญ่เกินตัวมันก็เป็นแผนที่น่ากลัวและเป็นไปได้เมื่อคิดทบทวนถึงทุกอย่างที่เด็กชายกำพร้าไร้ญาติมิตรได้เคยเผชิญมา!

“เจ้ามันบ้าระห่ำเกินไปแล้วซีนาย...” ชาร์ลีสูดลมหายใจลึกยาว ตระหนักชัดว่าเรื่องราวจะกลายเป็นปัญหาทับซ้อนยุ่งเหยิงหากปล่อยให้อีกฝ่ายได้ในสิ่งที่ต้องการ

ความทะเยอะทะยานของซีนายไม่เคยมีที่สิ้นสุด

ซีนายคล้ายจะนำความฝันมาสร้างเป็นเกมท้าทายตัวเองที่ไม่มีวันจบสิ้น และสิ่งที่ใฝ่ฝันก็ยิ่งใหญ่จนชาร์ลีเกือบนับถือหากไม่ติดที่ว่ามันจะนำหายนะมาสู่แผ่นดินผืนน้ำ...

จุดอ่อนเดียวคือซีนายยังคงคาดหวังว่าสักวันหนึ่งข้างหน้าชาร์ลีจะเปิดใจรับเขาไปเป็นเพื่อนพ้อง

“วันหนึ่งเจ้าจะต้องมายืนอยู่ข้างเดียวกับข้า” ซีนายจับจ้องราวกับเจตนาย้ำคำ

“ไม่มีทาง”

“ข้าไม่ได้พูดเล่นนะชาร์ลี เจ้ามีในหลายสิ่งที่ข้าถูกใจแค่เราร่วมมือกันรับรองว่าใครก็ขัดขวางเราสองคนไม่ได้ แล้วตอนนั้นอย่างว่าแต่เรือสักลำที่จะแล่นไกลไปในทะเลนอกออบิท ต่อให้เจ้าต้องการอะไรเจ้าก็จะได้มันมาแน่นอน”

เป็นความเชื่อมั่นในตนเองที่น่ากลัวนัก เมื่อคนคิดการณ์ใหญ่เป็นแค่เด็กชายที่แสนโดดเดี่ยว

แต่ย่างก้าวของซีนายเท่าที่ชาร์ลีมองตามมานั้นมันทำให้รู้สึกว่าทุกสิ่งที่พร่ำพูดมาอาจเป็นจริงเข้าสักวัน ความฉลาดที่ยากคนเปรียบนั้นถูกเกื้อหนุนไปด้วยพลังเวทที่มากมาย แม้จะยังมีจุดบกพร่องตามแบบของผู้ที่ฝึกฝนตนเองโดยไร้คำแนะนำ แต่ซีนายก็พลิกแพลงดัดแปลงจนเข้ากับสภาพการณ์กลายเป็นจุดเด่นที่เปลี่ยนผันได้ทุกขณะ ไม่ถูกสอนให้ยึดติดกับสิ่งใด

ชาร์ลีระงับอารมณ์และตั้งสติมั่นคงตอนถามเอาจริงเอาจังว่า

“เจ้าจะให้ข้าพาไปที่ถ้ำมาธาเกียร์จริงๆใช่ไหม แต่ถ้ามาธาเกียร์ให้ในสิ่งที่เจ้าต้องการไม่ได้ล่ะ”

“ข้าคิดว่ามาธาเกียร์คือคำตอบของทุกอย่างที่ข้าค้นหา ชาร์ลี...อย่าคิดว่าข้าเอาตำราพหูสูตไปแล้วไม่ค่อยได้เปิดมันบ่อยครั้งแปลว่าข้าไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย มาธาเกียร์เป็นมารดาผู้ให้กำเนิดข้าคิดว่ามันคือสิ่งเดียวกับตำราพหูสูต เมื่อมันทั้งคู่ถูกสร้างมาด้วยเวทมนตร์แสดงว่ามีองค์ประกอบความเป็นเงื่อนไขที่ผู้ใช้เวทเท่านั้นจะพึงรู้ สิ่งที่มาธาเกียร์สร้างขึ้นเป็นตัวตนคล้ายกับปีศาจมายาที่ข้าสร้างเป็นกองทัพส่วนตัวหรือไม่ก็เหมือนกันวีซานด์แต่มีความเสถียรของเงื่อนไขที่มากกว่า วีซานด์จำลองมันแย่หน่อยตรงที่ข้าแยกระหว่างจิตใจกับร่างกายที่กลวงไม่มีการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เวทมนตร์ของข้าไม่ได้ละเอียดอ่อนขนาดนั้น”

“เจ้าคิดว่ามาธาเกียร์สร้างชาวเมิร์ฟเนียมาโดยแบ่งส่วนผสมระหว่างสภาพจิตใจกับร่างกายคนได้ชัดเจนกว่างั้นสิ”

ชาร์ลีพยายามจะตามให้ทันสิ่งที่อีกฝ่ายยกมากล่าวอ้าง ทว่ามันช่างยากเย็นแสนเข็ญไม่น้อยสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับเวทมนตร์ใดๆอย่างเขา

ซีนายพยักหน้ารับ สายตามีวี่แววคาดหวังเปล่งประกายวิบวับ ขณะที่ใบหน้าคมคายยังเกลี่ยด้วยยิ้มสดใสชวนมอง

“คิดว่าน่าจะเป็นแบบนั้น ที่ข้าต้องการก็คือให้มาธาเกียร์สร้างร่างของกษัตริย์คาลอสโดยไม่ต้องใส่เงื่อนไขเกี่ยวกับจิตใจและปล่อยให้เวทมนตร์ของข้าแทรกแซงเข้าไปสั่งการเหมือนตอนที่ข้าใช้ทดลองกับเจ้าตอนกลายสภาพนั้นไงล่ะ”

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าชาร์ลีสังหรณ์ใจได้ถูกต้อง

การที่ซีนายถือโอกาสเข้าไปในช่วงภาวะจิตใจของเขาอ่อนแอถึงขีดสุดไม่ได้มีความหวังดีมากเท่าไหร่นัก แม้จะมีบางส่วนที่เด็กชายจากกิซาบากลัวว่าเขาจะไม่กลับคืนมาแบบปกติ แต่ส่วนใหญ่ซีนายให้เวทมนตร์แฝงตัวเข้าไปเพียงเพราะต้องการศึกษาร่างกายของชาร์ลีที่กลายเป็นอาวุธทำลายได้ และฉวยจังหวะนั้นตีโจทย์ที่เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงในระยะหลังๆของวีซานด์ตัวปลอมที่ตนเองสร้างขึ้น

เนื่องจากตอนดำเนินการแม้ชาร์ลีจะอยู่ที่เกาะนี้ก็จริง แต่ซีนายอยู่ห่างไกลและอาจแฝงบางส่วนเข้ามาตั้งแต่ตอนที่ผละจากเรือโดยสารไปแล้ว ทำให้เวทมนตร์ซุกซ่อนอยู่และไม่อาจถูกผลักไสด้วยเงื่อนไขที่เกาะนี้มีอยู่แต่เดิม

“ข้าจะพาเจ้าไปหามาธาเกียร์ แต่อยากให้ปล่อยรูดี้ไปก่อนได้ไหม”

“เสียใจนะชาร์ลี ข้าเองก็อยากปล่อยเจ้าโกลบตัวอ้วนนี่ไปเหมือนกันเพราะมันเกะกะ แต่ข้าไม่แน่ใจว่าถ้ามันหลุดไปแล้วมันจะไปร้องบอกใครมาวุ่นวายกับเราหรือเปล่านี่สิ”

“ป่านนี้กองทัพเรือรบเซไลย์คงเทียบท่า พวกเขาจะขึ้นมาค้นทั้งเกาะในไม่ช้า” ชาร์ลีเตือนเคร่งขรึม

เสียงหัวเราะเบาๆของซีนายแสดงความใส่ใจน้อยเต็มที

“แล้วพวกเขาจะทำอะไรข้าได้ในเมื่อตอนนี้ข้าแค่ตวัดมือนิดเดียวเจ้าก็จะตายใต้ใต้คมมีดนี่”

จบคำพูดซีนายก็พลิกข้อมือให้เห็นประกายมีดพับคมวับที่น่ากลัว บ่งบอกถึงความแคล่วคล่องจัดเจนและเป็นเหตูผลที่ชาร์ลีไม่อาจคัดค้านใดๆได้อีก

“ไม่เอาน่า...” ซีนายบอกสุ้มเสียงอ่อนโยนยิ่งนัก “เจ้าเองแค่ยืนก็แทบกระอักแล้วนี่นา จะเอาแรงที่ไหนมาช่วยเจ้าโกลบนี่ไปด้วยได้ แค่ข้าเดินยังเร็วกว่าเจ้าวิ่งหนีอีกนะชาร์ลี แล้วพนันได้เลยว่ารูดี้นี่มันกลัวจนก้าวขาไม่ออกแล้วล่ะ ข้ารู้ว่าถึงข้าใช้เวทมนตร์ไม่ได้ดังใจนึกบนเกาะนี้แต่โกลบก็เป็นสัตว์เวทที่สัมผัสพลังงานได้ดีกว่าใคร ถ้าเจ้าอยากให้รูดี้จมอยู่กลับความกลัวว่าข้าจะตามไปล้างแค้นมันตลอดชีวิตก็เอา”

ประโยคนั้นทำให้ชาร์ลีหันไปมองรูดี้ที่ปากคอสั่นระริกอย่างหวาดกลัวจับใจ แววตาของซีนายยังคงแฝงไปด้วยกลิ่นไอชั่วร้ายของเวทมนตร์ขาวที่ถูกดัดแปลงจนกลายเป็นเรื่องชั่วร้ายยิ่งกว่ามนตร์ดำ

เขารู้ว่าซีนายไม่ได้แค่ขู่

หากวันหนึ่งที่พวกเขาไม่อาจจัดการเด็กชายจากกิซาบาได้โดยเด็ดขาด ซีนายจะกลับมาพร้อมอันตรายอีกทบทวี!

“เดินเลียบหาดไปต่อ...ใกล้ถึงทางเลี้ยวข้าจะบอกอีกที” ชาร์ลีเอ่ยขึ้นอย่างจนทางในท้ายที่สุด

ซีนายยิ้มอย่างยินดี



เหมือนเส้นด้ายแห่งชะตากรรมชักนำพวกเขามาจนสุดทาง...

ชาร์ลีก้าวเข้าไปในถ้ำที่อาบไปด้วยแสงสีชมพูอ่อนเพริศพราวงดงามจับตา ขณะที่รูดี้ถูกผลักเข้ามาด้วยเท้าหนักๆของซีนายที่ไร้ปราณี เจ้าโกลบตัวป้อมร้องไห้กระซิกๆตั้งแต่ตอนถูกลากให้ข้ามสะพานแขวนนั่นแล้ว มันสั่นกลัวจนซีนายหัวเสียและชาร์ลีต้องรับอาสาเดินไปจูงมันมาพร้อมกัน ท่อนไม้ยาวที่ปลายสองข้างทำที่รั้งกับราวสะพานสองฝั่งนั้นยังคงใช้การได้ดี

เพจพูดถูกที่ว่าสะพานข้ามมาถ้ำฝั่งนี้ได้รับการดูแลซ่อมแซมสม่ำเสมอและมั่นคงแข็งแรง

ส่วนซีนายนั้นการทรงตัวบนสิ่งที่แกว่งไกวไม่ได้ต่างไปจากครั้งที่เขายังอาศัยปะปนอยู่กับโจรสลัดบนเรือโคลงไปมาเพราะคลื่นลม นอกจากไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วยเหลือแล้วยังอารมณ์ดีขึ้นพอจะฮัมเพลงในลำคอกระทั่งเข้ามาถึงถ้ำแห่งนี้

เสียแผ่นหินเลื่อนปิดปากถ้าไม่ได้ทำให้อาคันตุกะจากเรือโจรสลัดตกใจ ตรงกันข้ามซีนายกลับผลักชาร์ลีพ้นทางไปเมื่อเดินถึงเบื้องหน้ามาธาเกียร์

เปลือกตาที่พริ้มหลับของใบหน้านูนต่ำค่อยเผยอขึ้นทีละน้อยราวกับล่วงรู้ว่าการมาเยือนครั้งนี้แตกต่างออกไปจากทุกที

“เจ้าพาใครมาด้วย...ชาร์ลี” คำเรียกขานอ่อนหวานราวกับมิสำเหนียกถึงอันตรายที่กำลังกรายใกล้

ชาร์ลีรู้ดีว่าซีนายจะไม่ปล่อยใครจากไป ไม่ว่าจะเป็นรูดี้ที่รู้เรื่องราวสำคัญที่น่าสะเทือนบัลลังก์เซไลย์หรือมาธาเกียร์ที่อาจหมดประโยชน์ไปเมื่อได้ให้ในสิ่งที่ซีนายต้องประสงค์ ทว่าเด็กชายชาวนูฟยังไม่อาจคาดเดาชะตากรรมของตนเองออก บางครั้งซีนายก็คล้ายแล้งน้ำใจแต่บางทีก็ทำราวกับว่าลึกลงไปนั้นถือเอาเขาเป็นมิตรที่ไม่สามารถตัดรอนได้

ความผันผวนทางอารมณ์ของผู้ใช้เวทวัยเยาว์ทำให้ชาร์ลีไม่อาจคาดเดาทุกอย่างเหมือนที่เคยเป็น

สายตาคมกริบของชาร์ลีผนวกกับความคุ้นเคยสถานที่ทำให้เด็กชายรู้สึกได้ถึงแสงสว่างอันคลุมเครือแลดูลึกลับผิดธรรมดา มันกระตุ้นให้ชาร์ลีตื่นตัวขึ้นมาในฉับพลัน

ดวงตาสีเขียวมรกตที่เคยอ่อนล้าเหมือนถูกเติมแสงจุดแต้มกระจ่างขึ้นมาอีกครั้ง

“ซีนาย...ล้มเลิกแผนการของเจ้าซะเถอะ มันไม่สำเร็จหรอก” อีกครั้งที่เขากล่าวเตือน

ทว่าน้ำเสียงคราวนี้กลับเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นและเปี่ยมล้นไปด้วยพลังแห่งชีวิต

ซีนายเองก็ดูจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับชาร์ลี แต่เมื่อกวาดตามองไม่พบว่ามีอะไรแปลกปลอมเข้ามาภายในถ้ำอันเงียบสงบนั่นเขาก็ทำท่าขุ่นเคือง

“เจ้าเลิกทำเหมือนข้าเป็นเด็กเสียทีได้ไหมชาร์ลี ข้าโตแล้ว...คิดเองได้!”

นั่นเป็นประโยคเดียวกับที่ชาร์ลีเคยบอกใส่หน้าอัสลัน และเขาก็เริ่มตระหนักแล้วว่าซีนายกำลังหลงทางเช่นเดียวกับตัวเขาที่เคยถือดีดื้อรั้นเพียงเพราะอยากพิสูจน์ตัวเองต่อใครสักคน

ชาร์ลีส่ายหน้าช้าๆและถอยห่างออกมาอย่างระมัดระวัง พาเอาตัวกันรูดี้ไปไว้เบื้องหลังในลักษณะของการปกป้อง

“ข้าก็เคยคิดแบบเจ้าเหมือนกัน ข้าคิดว่าตัวเองทำถูก คิดว่าทุกอย่างที่ตัดสินใจไม่เคยผิดพลาด...แต่ข้าเปล่า ข้าไม่ได้ทำถูก ไม่ได้วิเศษไปกว่าใครๆ ข้าไม่จำเป็นต้องทำเรื่องยิ่งใหญ่เพื่อพิสูจน์ให้ใครสักคนยอมรับข้าเป็นเพื่อน แค่เราพยายามเป็นตัวของตัวเองและทำเรื่องดีๆนั่นก็มากพอที่จะให้ทุกคนรอบตัวยอมรับแล้วล่ะ”

“หวังว่าเจ้าจะเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย เพราะข้าไม่อยากฆ่าเจ้า” แวบหนึ่งที่ท่าทีของซีนายห่างเหิน เขาหันขวับไปทางมาธาเกียร์อย่างมุ่งร้าย “มาดูซิว่าข้าจะไขความลับคำสั่งนั่นออกได้ยังไงกัน บางทีข้าน่าจะเริ่มจากการเลาะเปลือกนอกเจ้าออกดูนะมาธาเกียร์ว่าข้างในนั้นห่อหุ้มด้วยเวทมนตร์แบบไหน”

เด็กชายจากเรือโจรสลัดคว้าเอามาธาเกียร์ยึดไว้มั่น ขณะที่ดวงตาของเธอเบิกโพลงตื่นตระหนก

ก่อนที่ทุกอย่างจะล่วงเลยไปจนยากแก้ไขวาจาเฉียบขาดของใครอีกคนก็ดังก้องถ้ำ

“ซีนาย! ปล่อยเธอซะ ไม่อย่างนั้นเจ้าจะไม่รอดออกไปจากที่นี่” คนพูดก้าวออกมาจากมุมมืดหลังเหลือบหินแกะสลักข้างทางเข้า

ร่างของอัศวินหนุ่มแห่งไฮแลนด์ดูสง่างามยามวาดดาบในมือเป็นวงโค้งตระเตรียมจู่โจมไม่ยั้งมือ

“เจ้า...”

ซีนายตกตะลึงเมื่อพบว่ามีใครอีกหลายคนเดินตามอัสลันออกมาด้วย แม้ไม่คุ้นหน้าค่าตามาก่อนแต่จากอาภรณ์นักปราชญ์สีแดงและชุดคลุมสีฟ้าแถบน้ำเงินของสภาสูงแห่งเซไลย์ก็มากพอที่จะข่มขวัญให้วูบลับดับหายทันที

“อัสลัน! เดล! ชีฟ!” ชาร์ลีเรียกอย่างตื่นเต้นยินดี

เขาดูไม่ผิดว่าทุกอย่างที่จัดเตรียมไว้สามารถกลับมาดำเนินการตามแผนได้ในช่วงจังหวะสุดท้าย

อัสลันหัวเราะลั่นขณะบอกอย่างชื่นชม

“ให้ตายสิชาร์ลี! ไม่น่าเชื่อว่าไอ้คำประหลาดๆที่เจ้าเขียนใส่กระดาษไว้ที่เรือพายนั่นจะเป็นไปได้”

“คำประหลาดที่ไหนกัน นั่นมันภาษานูฟต่างหาก” ชาร์ลีอดเถียงกลับไม่ได้

“นั่นแหละ โชคดีที่ลาเฟลเก็บไปให้เดลแปลออกนะ ไม่งั้นป่านนี้มาธาเกียร์คงไม่ยอมให้พวกเราเข้ามาดักจับตัวซีนายแบบนี้ ไม่ยักรู้ว่าเจ้ากับมาธาเกียร์จะใช้คำพวกนี้แสดงตัวเพื่อผ่านเข้าออกสำหรับเวลาแบบนี้”

ซีนายถอยไปอีกทาง ดวงตาสาดแสงแรงกล้าอาฆาตมาดร้ายแต่กลับแฝงไว้ด้วยความผิดหวังล้ำลึก

“เจ้าไม่น่าทำกับข้าแบบนี้เลยชาร์ลี เสียแรงที่ข้าคิดว่าเจ้าเป็นเพื่อนคนเดียวที่ข้ามี...”

ชาร์ลีถอนใจยาวเหนื่อยล้า “ข้าไม่มีวิธีอื่น เจ้าร้ายกาจมากเกินไป...เกาะเมิร์ฟเนียเป็นที่เดียวที่เจ้าจะถูกกักเวทมนตร์เอาไว้ ไม่อย่างนั้นยังไม่รู้ว่าจะมีใครอีกสักกี่คนที่ต้องล้มตายเพราะต่อสู้กับเจ้า”

“เจ้าจงใจลงจากเรือ” สีหน้าบิดเบี้ยวของซีนายบ่งบอกความเจ็บปวดรุนแรง

“ทีแรกข้าคิดแค่จะหาวิธีหลอกล่อให้เจ้าตามมาที่เกาะ แต่ทุกอย่างมันวุ่นวายผิดแผนไปหมด เจ้ากลายเป็นปีศาจจนข้าหาวิธีต่อรองอะไรด้วยไม่ได้เลย โชคดีที่อัสลันกระชากข้าหลบลูกเพลิงของกองเรือเซไลย์จนเราตกน้ำแล้วเจ้าก็เห็นเป็นจังหวะที่จะเอาตัวข้ามาบีบบังคับให้พามาที่นี่ เห็นหรือยังซีนาย...ชะตากรรมของเรามันถูกกำหนดเอาไว้ให้เป็นแบบนี้ ถึงแผนการที่ข้ามีจะไม่เป็นไปอย่างนั้นแต่ในท้ายที่สุดมันก็พาพวกเรามาอยู่ที่นี่”

หากฟ้าถล่มลงมาต่อหน่าซีนายคงไม่เกิดอาการบ้าคลั่งแบบนี้

ชาร์ลีรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่กระจายทั่วอาณาบริเวณ

“เป็นไปไม่ได้...ที่นี่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้นี่นา!” เดลอุทานออกมาก่อนจะสั่งให้ชีฟถอยไปยังที่ซ่อนเดิมเมื่อรับรู้ถึงมนตรามหาศาลที่เริ่มแตกกระจายจนเสียงลั่น แรงลมที่อื้ออึงในพื้นที่คับแคบนี้ย่อมไม่ใช่ผลงานธรรมชาติแน่แท้

“เวทมนตร์เจ้าหญิงมีนาร์...”มาธาเกียร์ร้องบอกอย่างไม่อาจปิดบังความวิตกกังวลไว้ได้อีกต่อไป “กำแพงเวทมันทำให้เงื่อนไขของเกาะนี้เปลี่ยนไป มันจะชักนำให้เกิดโพรงอากาศสำหรับการก่อตัวของมนตราที่บิดเบี้ยว”

ไม่มีใครกล้าพูดอีกแล้วว่าสิ่งที่กำเนิดจากเวทมนตร์จะให้ผลดีหรือร้าย

เวทสายขาวที่ผู้คนบอกว่าปลอดภัยนักหนากลับถูกซีนายเอามาทำให้กลายเป็นเวทมนตร์ในทางชั่วร้าย ขณะที่กำแพงเวทของเจ้าหญิงมีนาร์ซึ่งดูว่าปกป้องผู้คนก็ส่งผลกระทบที่ทุกฝ่ายคาดไม่ถึงในเวลานี้

ศูนย์กลางพายุหมุนนั้นอยู่ที่ซีนายอย่างแน่นอน เสียงร่ายมนต์ยังต่อเนื่องไม่หยุดยั้งขณะที่เด็กชายก้าวช้าๆมายังทางออกที่บัดนี้เปิดโล่ง

“อย่าให้ซีนายหนีไป!” ชาร์ลีตะโกนจนเสียงแหบแห้ง

เดลพยายามใช้ลูกไฟเข้าสกัดขัดขวางแต่ไร้ประโยชน์ พลังเวทของพ่อมดหนุ่มผู้รักษาไม่อาจใช้ออกมาได้เต็มที่เพราะเกิดการบิดเบือนเกี่ยวกับคาถาเกิดขึ้น

ทักษะของซีนายพุ่งสู่ขั้นสูงเกินกว่าที่สภาสูงจะละเลยอีกต่อไป

ชาร์ลีมองตามร่างของซีนายที่เห็นเพียงแผ่นหลังกั้นขวางเอาไว้ด้วยพายุร้ายแห่งเวทมนตร์ ก่อนที่ร่างนั้นจะก้าวออกไปพ้นประตูถ้ำที่เลื่อนออกเพราะมาธาเกียร์ไม่อาจพยุงความสมดุลเอาไว้ได้อีกเนื่องจากถูกรบกวนจนอ่อนล้า เด็กชายชาวนูฟก็ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวพุ่งตัวฝ่าสายลมรุนแรงที่ทิ่มแทงราวกับเข็มนับพันเล่มจนเขาร้องออกมา ชาร์ลีกัดฟันข่มความเจ็บปวดที่ก่อเกิดจนสุดพรรณนารวบรวมเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายคว้าไขว่เอาร่างอดีตสหายตรงหน้าล้มกลิ้งลงไปด้วยกัน

แวบหนึ่งที่สายตาของเขาปรับภาพได้ชัดเจน

ซีนายขึ้นนั่งคร่อมร่างชาร์ลีเอาไว้ด้วยดวงตาแดงก่ำอย่างคนเจ็บแค้นสุดหัวใจ มือข้างหนึ่งยึดตรึงไหล่อีกฝ่ายกดเอาไว้กับพื้นมั่นคงแข็งแรงไม่ต่างจากคีมเหล็ก ส่วนอีกมือที่เงื้อง่านั้นปรากฏลูกเพลิงหมุนคว้างรัวเร็วลุกโพลงรุนแรงแผ่ไอความร้อนจนทำให้เกิดเงาพร่ามัววูบไหว

ลูกเพลิงเวทที่อาจจะเผาผลาญร่างทั้งร่างให้มอดไหม้ในพริบตา!

ชาร์ลีปล่อยปลงความเป็นตายไว้เบื้องหน้าขณะที่เปลือกตาปิดลงอย่างล้าแรง

ทุกสรรพเสียงเงียบงันราวกับโลกทั้งใบกำลังจะหยุดเคลื่อนไหว...











Create Date : 25 มีนาคม 2554
Last Update : 25 มีนาคม 2554 8:47:54 น. 0 comments
Counter : 595 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.