|
ชาร์ลี 2 ตอน 21 ประจันหน้ากลางทะเล
คุยกันก่อนอัพ
อัพสองตอนเน้อจ้า..เช็คก่อนอ่านค่า พรุ่งนี้เดี๋ยวมาลงให้อีกตอนนะคะ
จวนจบแล้วล่ะ ขอบคุณที่ติดตามชาร์ลีกันมายาวนานค่ะ
Ploy666.
**************
ชาร์ลี 2 [ภาค : มิตรสหายและศัตรู] ตอนที่ 21 ประจันหน้ากลางทะเละ
ผู้แต่ง RED (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)
ชาร์ลีกัดฟันยกคันธนูขึ้นรับดาบที่ฟันลงมาเต็มแรงจนมองเห็นเป็นเพียงแสงพร่าพรายในสายตา ไม่มีริ้วรอยบุบสลายบนธนูคู่ใจตราบเท่าที่เวทมนตร์ยังคงครอบคลุมแต่เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจะดำเนินไปได้ยาวนานเพียงไหนสำหรับการรับศึกหนักที่มิใช่วิธีการใช้สอยอันแท้จริง
เด็กชายพลิกตัวออกด้านข้างเพื่อปล่อยให้อาวุธดันกันเลื่อนตกวูบไป ก่อนที่ร่างคู่ต่อสู้จะเซถลำใกล้เข้ามาในระยะที่เขาตัดสินใจกำหมัดเหวี่ยงออกไปใส่อีกฝ่ายเต็มเหนี่ยวและทำให้มันทรุดลงไปกองตัวงออยู่บนพื้นเรือ รอบตัวดูวุ่นวายสับสนเมื่อเสียงคนอื้ออึงที่กรูมาล้อมและตะโกนบอกกันต่อๆไปว่าให้จับเป็นเชลยที่หาญกล้าพยายามจะหนี
มีช่วงหนึ่งที่ชาร์ลียกแขนซับเหงื่อบนหน้าอย่างรวดเร็วและมองเลยไปเห็นสายตายิ้มเยาะของซีนายที่ยืนมองอยู่ไกลๆราวกับเห็นว่านี่คือฉากการแสดงอันตื่นตาชวนบันเทิงใจ...
มันน่าจะเป็นอย่างนั้น หากไม่เพราะอัสลันที่กำลังต่อสู้ยิบตาอย่างอลหม่านกับคนจำนวนมากมายที่เทียวกลุ้มรุมมาแบบไม่หยุดยั้ง พลองในมืออัศวินหนุ่มถูกฟาดฟันไปเพื่อปกป้องตัวเองและเพื่อนแต่ยังไม่สามารถเปิดทางไปยังบันไดเชือกที่ผูกทิ้งไว้กราบเรืออันเป็นเป้าหมายซึ่งนัดแนะกันไว้
ชาร์ลีพยายามเอาตัวรอดอย่างลำบากในการต่อสู้ประชิดตัว แม้จะไม่ตัวโตเท่าเหล่าสมุนโจรสลัดแต่เขาก็มีความปราดเปรียวมากกว่า
อย่างน้อยการที่ใช้เวลากับอัสลันบ่อยๆทำให้ชาร์ลีพอได้เรียนรู้ทักษะการป้องกันตัวติดมาบ้าง จังหวะหนึ่งที่เขาตวัดขาเอียงกายเตะไปยังใครบางคนที่พลาดเข้ามาในระยะประชิด เด็กชายก็มองเห็นช่องทางหนีที่ชัดเจนขึ้นเมื่อเขาก้มลำตัวท่อนบนลงเก็บเอาดาบจากหลายคนที่นอนกองกับพื้นสลบเหมือนนั้นมาสำหรับตัวเองและอัสลัน
อัสลัน! รับไป!
เด็กชายตะโกนก้องด้วยความฮึกเหิมและโยนอาวุธส่งให้อีกฝ่ายอย่างแม่นยำ ขณะที่ตัวเองก็เก็บเอาคันศรสะพายเฉียงและใช้ดาบต่อสู้แทน
อัสลันทำท่าลิงโลดเมื่อได้สิ่งที่เหมาะมือพอจะสามารถแสดงศักยภาพของตนได้อย่างชัดเจน
ชาร์ลีไม่ได้สนใจอีก เขารู้แต่ว่าตัวเองเหวี่ยงดาบฟาดลงไปครั้งแล้วครั้งเล่าจนไหล่ล้า...ทว่าการต่อสู้ตรงหน้าก็เป็นเหมือนภาพที่หมุนวนกลับมา พอคนหนึ่งล้มทรุดอีกคนก็โผล่เข้ามาแทนที่ทันควัน ชาร์ลีเริ่มหวั่นวิตกเมื่อเห็นว่าจำนวนพลที่ซีนายบัญชาการอยู่นั้นมากมายเกินกว่าเขากับอัสลันจะฝ่าออกไปได้ง่ายดังที่คิด ทว่าอัสลันกลับหัวเราะอย่างเบิกบานราวกับการศึกเบื้องหน้าเป็นเพียงภาพมายาที่เขาโปรดปราน
สำหรับนักรบอย่างอัสลัน สิ่งเหล่านี้คือสถานที่อันคุ้นเคย...
แต่กับชาร์ลี...ความรู้สึกในยามที่คมดาบบาดลึกลงไปในผิวเนื้ออีกฝ่ายนั้นมันเหมือนกับมีบางเสี้ยวแห่งจิตใจเขาเองที่ถูกเชือดเฉือนปลิดปลิวไปด้วยจนใจวูบหาย
ระวังล้มด้วย! อัสลันร้องเตือนเมื่อขยับชิดเข้ามาก่อนจะถลาออกไปจัดการกับคนนอกกฎหมายตรงหน้าอีกครั้ง
เลือดที่นองลื่นแฉะอยู่บนพื้นนั้นทำให้ชาร์ลีรับรู้ได้ว่าบัดนี้สองมือของเขาชโลมชุ่มโชกไปด้วยสิ่งใด
เขาไม่อยากฆ่าใครทว่ารอยแผลลึกหลายแห่งตามร่างกายบีบบังคับให้เขาจำเป็นต้องปกป้องตนเองจนมายืนอยู่ ณ จุดนี้
เด็กชายเริ่มทบทวนความทรงจำอีกครั้งว่าเขาพลาดไปตรงไหนกันในระหว่างการหลบหนี
เปล่าเลย...ชาร์ลีไม่ได้ผิดพลาด
หากเป็นเพราะว่าซีนายฉลาดเท่าทันต่างหาก เมื่อชาร์ลีและอัสลันหนีมาถึงดาดฟ้าเรือได้โดยอาศัยจังหวะชุลมุนจากไฟไหม้นั้นก็พบว่าปีศาจจากเวทมนตร์หลายสิบตัวยืนจังก้ารอคอยอยู่เบื้องหน้าและพร้อมจะพุ่มเข้ามาใส่เพื่อถ่วงเวลาตามเงื่อนไขคาถาที่ซีนายกำกับไว้
สาบานได้เลยว่าตอนที่เขาใช้ธนูยิงเข้าใส่ปีศาจไร้ชีวิตพวกนั้น จิตใจของเขาไม่ได้แกว่งไกวเท่าตอนจับอาวุธประหัตประหารใครต่อใครที่มีเลือดมีเนื้อแบบขณะนี้...ชาร์ลีคิดอย่างสะเทือนอารมณ์
เสี้ยววินาทีแห่งการร่ำไห้จากความรู้สึกอ่อนไหวที่แวบผ่านมากระทบทำให้ชาร์ลีเผลอตัวและถูกเจ้ายักษ์ตัวโตอีกคนใช้ด้ามดาบกระแทกลงมาที่ข้อมือจนอาวุธของเขาร่วงหล่น คมดาบที่ชูขึ้นเหนือศีรษะและใบหน้าแสยะยิ้มนั้นทำให้ชาร์ลีรับรู้เพียงความว่างเปล่าในสมองตนเอง
ไม่มีการช่วยเหลือจากอัสลันซึ่งกำลังติดพันกับคู่ต่อสู้ถึงสามคน
ชาร์ลียอมรับชะตากรรมที่กำลังจะมาถึงโดยไม่โทษใคร...
กระทั่งแสงเจิดจ้าของลูกไฟที่พุ่งตรงเข้ามาจนกลายเป็นไอร้อนวูบผ่านใบหน้าเขาและโค้งขึ้นไปซัดดาบในมือที่มุ่งร้ายนั่นจนกระเด็นราวปลิดผลไม้ออกจากขั้ว จะต่างกันก็ตรงที่ความเร็วของมันมากพอจะเด็ดเอาข้อมือพร้อมศีรษะคนถือดาบขาดกระเด็นหายวับไปกับตา เลือดที่พุ่งกระฉูดทะลักทลายออกมาราวน้ำพุอันสวยงามแต่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวคลุ้งอาบทั่วร่างชาร์ลีที่เบิ่งตาค้างตะลึงมองตัวชาดิก
ซีนาย! เจ้ามันอสุรกายจากไหนกัน! วินาทีที่สติสัมปชัญญะกลับคืนมาอีกครั้งทำให้ชาร์ลีหันไปตะโกนอย่างกราดเกรี้ยวจนกายสั่นเทิ้ม
ผู้ที่อยู่รายรอบตัวเด็กชายผงะถอยอย่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ชาร์ลีอยากร้องไห้ให้กับความวินาศทั้งมวลที่บังเกิดในวินาทีนี้ แต่ดวงตาเขากลับแห้งผาก...
เบื้องหน้าของเขาคือเส้นทางที่กำลังเปิดออกเพื่อให้ซีนายเดินเข้ามาอย่างช้าๆพร้อมรอยยิ้มเยือกเย็นอันน่าสะพรึงกลัว
การต่อสู้ทุกอย่างยุติลง อัสลันขยับถอยกลับมายืนเคียงข้างชาร์ลีอย่างระมัดระวังอีกหนแม้เด็กหนุ่มจะเหนื่อยหอบจนตัวโยนจากการออกแรงหนักกว่าปกติ แต่ดวงตาสีฟ้าของอัสลันก็ยังทอประกายกล้าแข็งพอจะสะกดให้ซีนายหยุดเท้าลงก่อนเข้ามาถึงตัวชาร์ลี
แสงสีน้ำเงินจากคบไฟที่วูบไหวตามแรงลมยามดึกเป็นกระกายเจิดจ้าในเงื้อมเงาแห่งรัตติกาล...ชาร์ลีได้ยินเสียงลมหวีดกรีดผ่านข้างหูเมื่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆบนเรือนิ่งสนิทลง
เลยออกไปจากร่างของซีนาย เป็นวีซานด์ที่ยืนรอคอยพร้อมบริวารอารักขาแน่นหนา
ชาร์ลีไม่แน่ใจว่าที่วีซานด์ไม่ลงมาร่วมวงศึกนั้นเป็นเพราะว่าอาจมีผลต่อเวทมนตร์ของซีนายที่จะใช้ออกมาหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ...หากจอมโจรสลัดผู้ลือชื่อเป็นเพียงใครสักคนที่ซีนายอุปโลกน์มาใช้งาน มันก็ทำหน้าของตนเองได้ตามสภาพเท่านั้น ที่จะให้สำแดงอาการเหมือนวีซานด์อันดุดันห้าวหาญจนน่าพรั่นคงเป็นเรื่องรองลงไปจากการที่มีหน้าตาละม้ายเหมือน...
ใจเย็นๆชาร์ลี... อัสลันกระซิบเตือนและเอื้อมมือมาบีบบ่า
คนถูกเตือนจึงยกหลังมือเช็ดน้ำตาพลางจ้องตรงไปที่ซีนายอย่างชิงชัง
เขาบอกออกมาแต่ละคำราวกับเจตนาจะย้ำชัด ซีนาย...เจ้าเห็นชีวิตคนอื่นเป็นของเล่น เจ้าจะไม่มีวันได้ในสิ่งที่ต้องการ
ข้าไม่สนใจ! อีกฝ่ายตะโกนสวนกึกก้อง บ่งบอกถึงความดื้อดึงที่มีมากมาย พวกเจ้าก็ดีแต่ย้ำว่าข้าทำอะไรไม่ได้นั่นแหละ แต่ไม่เคยมองว่าข้าเองก็เหมือนคนอื่นๆซ้ำมีหลายเรื่องที่ข้าทำได้ดีกว่า เจ้าไม่รู้หรอกชาร์ลีว่ากว่าจะมายืนอยู่ตรงนี้ข้าผ่านอะไรมาบ้าง ไม่ใช่แค่พวกแม่มดเท่านั้นที่ถูกมองว่าแปลกประหลาด ในบ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ข้าโตมาการเป็นคนเดียวที่ใช้เวทมนตร์ได้ก็ทำให้ข้าเป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับคนธรรมดาเหมือนกัน
น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความคับแค้นใจเอ่อท้นออกมา
แววตาเจ็บปวดของซีนายไม่เท่าหัวใจที่บอบช้ำ แต่เวลานี้ชาร์ลีไม่รู้สึกอีกแล้วว่าควรจะสงสาร...แวบหนึ่งที่เขานึกถึงเจ้าชายฆัวเน่ซึ่งเคยใช้อดีตของตนเองมาเป็นข้ออ้างในการแย่งชิงมงกุฎราชันกับกษัตริย์คาลอสแต่พ่ายแพ้ไปในที่สุด...
ข้าถูกรับตัวมาที่นี่ก็ไม่ได้ดีไปกว่าที่เดิมตรงไหน ทุกคนอยากใช้ข้าเหมือนใช้อาวุธอย่างหนึ่ง พอข้าทำพลาดก็ไม่เคยมีใครเลยที่ออกมาปกป้องข้า...ปกป้องด้วยความบริสุทธิ์ใจ มีแต่เจ้าคนเดียวเท่านั้นนะชาร์ลีที่ข้าไว้ใจ สุดท้ายเจ้าก็มองไม่เห็นว่าการเป็นเพื่อนกับข้ามันจะทำให้เราทั้งคู่ยิ่งใหญ่ เจ้าเลือกอัสลันกับเจ้าหญิงมีนาร์ ประโยคท้ายแผ่วโหยลงทีละน้อย
ไม่เลยซีนาย... ชาร์ลีส่ายหน้าช้าๆพลางถอยหลังไปอีกก้าวและดันเอาอัสลันจำเป็นต้องถอยไปชิดกราบเรือด้วยกัน ชะตากรรมต่างหากที่เลือกพวกเรามาตั้งแต่แรก เขาเลือกให้พวกเราทุกคนมาเจอกัน แต่ตัวเจ้าเองนั่นแหละที่ใช้วิธีการที่ข้ารับไม่ได้ในการผูกมิตร ถ้าเจ้าจะพยายามสักนิด...พยายามที่จะมองเห็นค่าของคนอื่นๆไม่ใช่เห็นแค่สิ่งที่เจ้าต้องการให้เป็น บงการชักเชิดจนทุกอย่างวุ่นวายไปทั่วออบิทแบบนี้ บางทีพวกเราทั้งหมดอาจเป็นเพื่อนกันได้ไม่ยาก
คนฟังแสยะยิ้มน่าเกลียด ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธและผิดหวังจากสิ่งที่ได้ยิน
สุดท้ายทุกคนก็โทษข้าเหมือนเดิมนั่นแหละ...พอกันที!
สิ้นเสียงสุดท้ายซีนายก็เริ่มร่ายเวทอีกครั้ง หากคราวนี้พลังเวทมนตร์เริ่มมั่นคงอย่างคนตัดสินใจเด็ดขาดลงได้ ประกายแสงที่ก่อตัวขึ้นช้าๆมารวมกันเป็นลูกเพลิงที่ฝ่ามือราวกับกำลังเผาไหม้จากส่วนที่ลึกสุดแห่งจิตใจอันร้ายกาจของเด็กชายจากกิซาบา
ลองเลือกดูสิว่าข้าควรจัดการใครก่อนดี
ถ้าเจ้าทำร้ายชาร์ลี เจ้าจะไม่มีวันได้มาธาเกียร์ไป! อัสลันขยับเหมือนจะเข้ามาบังทว่ากลับถูกชาร์ลีเอื้อมมือไปกดให้หยุดนิ่งเอาไว้
กลุ่มคนที่รุมรอดูวาระสุดท้ายของผู้ที่เป็นเป้าหมายซีนายต่างมีความกระตือรือร้นมากพอที่จะระงับจิตใจไม่ให้โห่ร้องออกมา
ชาร์ลีจ้องเข้าไปในดวงตาสีเทาหม่นของซีนายอย่างสะท้อนใจ
หยุดเถอะซีนาย...อย่าถลำลึกไปมากกว่านี้ ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังควบคุมทุกอย่างที่เจ้าสร้างขึ้นไม่ได้ มันทำให้เจ้างุ่นง่านพยายามหาทางออกแต่ก็เหมือนถูกกดให้จมลงไปในน้ำทะเลลึกทุกที
เจ้าไม่รู้หรอกว่าข้าทำอะไร
ข้ารู้สิ! ข้ารู้ว่าทำไมเจ้าต้องการมาธาเกียร์มากขนาดนั้น ทำไมกันซีนาย...ทำไมเจ้าไม่แสวงหาความยิ่งใหญ่ด้วยตัวเองแทนที่จะช่วงชิงมันมาจากคนอื่น เจ้าทำลายชีวิตคนไปมากแค่ไหนแล้ว กลางคืนเจ้านอนหลับตาลงได้ยังไง ข้าสงสัยไม่เคยหยุดเลยตั้งแต่เริ่มคิดออกว่าเจ้าทำเรื่องพวกนี้ขึ้นมาด้วยวิธีไหนกัน
ซีนายดูเหม่อลอยไปชั่วขณะ มันจำเป็น...
ไม่มีอะไรจำเป็นต่างหาก แค่เจ้าหยุดและล้มแผนการทั้งหมดนี่ทุกอย่างก็จะจบลง...เราจะเป็นเพื่อนกัน เชื่อข้าสิซีนาย
วูบหนึ่งที่ดวงตาของซีนายคล้ายมีความหวังจุดประกาย แต่แล้วมันก็ดับวับหายไปในทันควันเมื่อนึกได้
เจ้าไม่เลือกข้าหรอกชาร์ลี ยิ่งเจ้ารู้ว่าข้าทำอะไรมามากแค่ไหนเจ้าก็คงเกลียดข้าเต็มหัวใจไปแล้ว
ชาร์ลีพูดไม่ออกกับประโยคตัดพ้อนั้น
ใช่...เขาไม่อาจปฏิเสธความเกลียดที่มีต่อซีนายได้เมื่อสิ่งที่มองเห็นตรงหน้าคือศพเกลื่อนตา คนที่เขาลงมือฆ่าฟันเพียงเพื่อจะให้ตัวเองรอดปลอดภัย และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะซีนายบีบบังคับสร้างสถานการณ์ทั้งปวง
แต่ที่ร้ายไปกว่านั้น...
ชาร์ลีเกลียดตัวเองที่ฆ่าคน!
พลังเวทมนตร์ที่มือของซีนายดับลงเมื่อเจ้าตัวเอียงคอมองมาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
ไหนๆข้าก็มีเวลาถมเถไปที่จะฆ่าใครสักคน ก่อนเวลานั้นมาถึงพวกเราจะได้ดูโชว์ชุดพิเศษไปพร้อมๆกัน ยิ้มที่จุดพรายบนริมฝีปากไม่ชวนให้ไว้วางใจได้เลย
ซีนายลดมือไปไพล่หลังก่อนหันไปทางวีซานด์และบอกว่า
จะว่าอะไรไหมครับ ถ้าข้าจะให้พวกเขาอยู่รอดูการถล่มเกาะเมิร์ฟเนียที่เราเตรียมการกันเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
วีซานด์กระพริบตางุนงง สติดูจะลอยคว้างยิ่งกว่าทุกทีจนผิดสังเกต หากสุดท้ายก็ยังพยักหน้าเชิงอนุญาตตามคำร้องขอนั้น
เตรียมอาวุธยิงลูกเพลิงทุกกระบอก ส่งสัญญาณให้เรือทุกลำทางปีกขวาแล่นแนวขวางหันกระบอกเพลิงไปทางเกาะเมิร์ฟเนีย ส่วนเรือที่อยู่ทางปีกซ้ายลอยลำนิ่งไว้จนกว่าจะถึงเวลาโจมตีซ้ำ
ซีนาย! ชาร์ลีหน้าซีดเผือดเมื่อได้ยินคำสั่งการฉะฉานนั้น
เด็กชายชาวนูฟหันขวับไปยังทิศทางอันเป็นที่ตั้งของเกาะซึ่งมองดูเห็นเพียงความมืดดำที่เกือบจะกลืนไปกับสีพื้นของท้องฟ้ายามราตรี ต่างกันก็แต่ว่าบัดนี้ท้องฟ้าโปร่งปราศจากเมฆและมีแสงจันทร์สุกสว่างพร่างตา จนมองเห็นแนวทิวเขาที่กระจายโอบเป็นรูปร่างได้รำไรให้เงาแสงดวงดาวที่กระพริบพราวราวกับจะประดับเด่นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนหายนะจะมาเยี่ยมเยือน
มือที่เกาะกราบเรือนั้นจิกแน่นอย่างร้อนใจ
ชาร์ลีได้แต่ภาวนาให้สิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้สัมฤทธิ์ผล...
หนึ่งเดียวที่หัวใจของเขาร่ำหาในเวลานี้คือชื่อของเด็กหญิงตัวน้อยที่ป่านนี้คงลอยเรือนิ่งอยู่ที่ใดสักแห่งกลางทะเลเบื้องหน้าตามแผนที่ตกลงกันไว้
แต่ชาร์ลีจะไม่มีวันแน่ใจเลยว่าเธอจะปลอดภัยตราบเท่าที่เขาไม่ได้แลเห็นบางอย่างด้วยตัวเอง...
ร่างของเด็กหญิงยังคงโดดเด่นในเงาจันทร์สลัวราง...ประกายน้ำที่วาวระยับจับตาโอบล้อมเรือลำเล็กเอาไว้อย่างเงียบเชียบ
รูดี้ซุกตัวขดกลมเบียดแนบกายเจ้าหญิงมีนาร์ แม้เจ้าโกลบขนฟูจะขยับไหวบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อขับไล่ความเมื่อยขบแต่กระนั้นมันก็ยังไม่อาจกวัดไกวเอาความกระวนกระวายในดวงตาที่ทอดมองไปยังแสงไฟวูบไหวสะท้อนพื้นน้ำจากเรือลำใหญ่หลายลำที่อยู่ไกลๆให้จางหายไป
เจ้าหญิงมีนาร์หันไปยิ้มบางๆราวกับจะปลอบประโลมจิตใจสับสนว้าวุ่นของฝีพายผู้ไม่ได้เต็มใจมาด้วยที่ท้ายเรือซึ่งนั่งกอดพายนิ่ง
เธอเอ่ยวาจาเพียงได้ยินละม้ายกับว่าเสียงสดใสนั้นลอยแว่วมาตามสายลมยามดึกมากกว่า
มันจะผ่านไปด้วยดีเพจ...ชาร์ลีไม่เคยทำผิดพลาด
เพจยิ้มรับเจื่อนจาง
อย่างน้อยนั่นคือศรัทธาอันแน่วแน่ที่ย้ำแก่ทุกคน
ไม่ว่าจะเป็นเช่นไรเจ้าหญิงมีนาร์จะไม่ถ่ายถอนเอาความคิดสนับสนุนชาร์ลีให้กลายเป็นอื่นไปได้ น่าแปลกที่ความรู้สึกเหล่านี้ห่อหุ้มจิตวิญญาณของแด็กหญิงเอาไว้อย่างมั่นคง หลังจากที่ครั้งหนึ่งมันเคยถูกโยกคลอนอย่างรุนแรงด้วยน้ำมือของคนที่ได้มอบความไว้วางใจให้
บัดนี้เจ้าหญิงตัวน้อยก่อเกิดความรู้สึกที่มากยิ่งไปกว่าการมองชาร์ลีเป็นภาพฝันอันงดงามเหมือนครั้งก่อนๆ
เขามีภาระในอุ้งมือที่ต้องสะสางจนต้องปล่อยวางความรู้สึกส่วนตัวในบางครั้งคราว
เธอจะยืนอยู่เคียงข้างเขาได้อย่างไรหากไม่เข้าใจจุดนี้
หน้าที่ควรมาก่อนสิ่งใด...
เจ้าหญิงมีนาร์ตระหนักชัดในหัวใจตน เธอจะเสริมส่งกระทั่งชาร์ลีไปสู่จุดหมายปลายทางและละวางทุกความคาดหวังต่อสิ่งที่จะได้รับกลับมาตอบแทน!
จู่ๆแสงไฟอันริบหรี่รางเลือนก็เจิดจ้าทั่วท้องน้ำ เจ้าหญิงมีนาร์ขยับลุกขึ้นยืนเบิ่งตามองอย่างสมใจ
มันเริ่มขึ้นแล้ว...
นั่นไฟไหม้เรือนี่ครับเจ้าหญิง ท่านชาร์ลีกับท่านอัสลันจะเป็นอะไรหรือเปล่า รูดี้กระวนกระวาย
แม้จะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับอัศวินแห่งไฮแลนด์แต่ลึกลงไปนั้นต่างก็รู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกันจนไม่อาจเมินเฉยเมื่ออีกฝ่ายตกอยู่ในอันตราย
เฮ้! รูดี้ ถ้าเจ้ายังไม่อยู่นิ่งๆเจ้าอาจทำเราร่วงลงน้ำนะ เพจเอ็ดอย่างกังวล
เจ้าหญิงมีนาร์ยังคงทรงตัวให้มั่นขณะที่กระแสคลื่นซัดหนุนเรือสูงขึ้นเป็นระยะๆจากความวุ่นวายที่ไกลออกไปจากแถบชายฝั่ง
เสียงระเบิดดังกึกก้องแว่วลอยมาตามลมก่อนที่เปลวไฟหลายจุดบนเรือจะปรวนแปรจากการขยับเคลื่อนของเรือ เด็กหญิงเผลอยกมือแตะที่หัวใจอันลุ้นระทึกถึงสิ่งที่จะตามมาซึ่งเธอถูกกันให้อยู่ห่างไกลเกินกว่าจะรับรู้ได้ ริมฝีปากบางขบเม้มอย่างว้าวุ่นเล็กน้อยก่อนจะค่อยสะกดข่มเอาความเป็นห่วงและคลายความกังวลให้สลายไปอย่างรวดเร็วเมื่อตั้งสติได้
ข้าจะสร้างกำแพงเวทตรึงอาณาเขตมนตราครอบเกาะเมิร์ฟเนียเอาไว้ ทุกคนอยู่นิ่งๆด้วย! คำสั่งการเฉียบขาดเกินวัย
เพจอ้าปากค้างขณะมองเบื้องหลังร่างโปร่งบางที่ยืนหยัดอย่างองอาจตัดกับแสงสว่างจากภาพกองเรือโจรสลัดที่อยู่ห่างออกไป
กระนั้นก็ยังคงบอกได้ว่าพลังงานบางอย่างรินไหลรอบกายของเจ้าหญิงมีนาร์ทีละน้อยจนกลายเป็นกระแสไอพร่ามัวที่น่าตื่นตาและชวนให้พรั่นพรึง
เวทมนตร์แห่งแม่มดอันเกรียงไกรจะประจักษ์เบื้องหน้าโดยไม่เคยคาดหวังมาก่อนเลยในชีวิต!
ไหวหรือครับ พื้นที่มันไม่ใช้น้อยๆเลย รูดี้ที่คุ้นเคยกันดีกลับเป็นฝ่ายโพล่งออกมา
มันไม่ได้เจตนาตัดรอนกำลังใจแต่เพราะความห่วงว่าเจ้าหญิงมีนาร์จะไม่สามารถควบคุมเวทมนตร์มหึมาที่ไหลบ่าออกมาด้วยความรวดเร็วเหล่านั้นได้ต่างหาก ถ้าเกาะทั้งเกาะเป็นจุลไปต่อหน้าต่อตารูดี้เองก็คงสะเทือนใจไม่มากก็น้อย
ดูเอาเถอะ...เพียงแค่เธอเอ่ยปากเกริ่นว่าจะใช้มนตรา พวกมันก็มาออทั่วร่างราวกับปรีเปรมกระเหี้ยนกระหือรือที่จะทะลักล้นออกมาจากที่กักขังจนสัมผัสได้แม้มองด้วยตาเปล่าในบัดนี้
รูดี้ไม่อยากจะนึกว่าหากเจ้าหญิงมีนาร์ไร้การควบคุมแล้ว เวทมนตร์เหล่านั้นจะปั่นป่วนสร้างความผันผวนเพียงไรต่อท้องทะเลออบิท
เพียงแค่ขณะนี้ที่พลังเวทบางสายไหลรินจากปลายมือไปแตะยังผิวน้ำก็ยังเกิดคลื่นเล็กๆสั่นสะท้านจนเจ้าโกลบที่ชะโงกลงไปมองดูต้องขยับผงะหนีเข้ามาด้านในเรือยิ่งกว่าเดิมด้วยความรู้สึกขนลุกอย่างหวาดหวั่น จะอย่างไรเสียพลังงานที่เจ้าหญิงมีนาร์มีก็มิได้สวยงามเฉกเช่นเวทมนตร์ของเดลและผู้ใช้เวทคนอื่นๆที่ถูกกลั่นกรองมาแล้วให้กลายเป็นเวทสายขาว
สิ่งที่บริสุทธิ์มักไม่ถูกเคลือบย้อม...
แต่ใครกันจะรับรองได้ว่ามันไม่อันตรายยิ่งกว่า!
ชู่...เงียบได้แล้วรูดี้ เจ้าหญิงมีนาร์เตือนแทบเป็นกระซิบ ข้าต้องใช้สมาธินับจากนี้ ระวังตัวกันด้วย
รูดี้เงียบกริบและเลือกที่จะกระถดถอยห่างเจ้าหญิงมีนาร์ไปนั่งเบียดกับเพจที่ตัวสั่นระรัวไม่แพ้กัน ทั้งสองมองเห็นร่างของแม่มดที่ถูกกล่าวขานว่ากำลังจะกลายเป็นตำนานบทใหม่แห่งยุคสมัยดูเอิบอาบเรืองรองไปด้วยประกายผุดผ่องที่งามจับตา พลังเวทมนตร์อันไร้ที่มาค่อยๆเพิ่มทวีจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนี้ร่างของเจ้าหญิงมีนาร์ก็ราวกับจะพร่าเลือนหายไปต่อหน้าต่อตาเมื่อกระแสอากาศถูกบิดเบือนอย่างฉับพลัน
พลังเวทที่ทวีสูงขึ้นทุกขณะก่อเกิดความเย็นเฉียบจนหนาวสั่น เพจกอดรูดี้แน่นไว้ขณะที่เรือกำลังถูกน้ำทะเลเบื้องล่างกระแทกกระทั้นโดยแรงผิดปกติ
เพจ! เรือรับแรงกระแทกไม่ไหว ข้าสร้างกำแพงเวทไม่ได้ถ้าเรือยังสั่นอยู่แบบนี้
เสียงร้องของเจ้าหญิงมีนาร์เตือนสติเพจให้ผลักรูดี้กลิ้งขลุกไปนอนแผ่กับท้องเรือทำตาปริบๆ ขณะที่ชาวเมิร์ฟเนียเพียงหนึ่งเดียวในเรือแทบจะผวาไปหยิบพายมาคัดท้ายสู้กระแสคลื่นแต่ไม่สำเร็จ
พื้นที่รอบลำเรือส่วนหนึ่งบัดนี้ราวกลับกลายเป็นศูนย์กลางแห่งพายุร้ายอันเตรียมจะโถมกระหน่ำให้เรือน้อยล่มลงได้ในพริบตาหากไม่เพราะว่าเพจทุ่มเทสุดกำลังเพื่อทำให้เรือยังคงลอยลำอยู่ได้ ไม่มีใครสนใจว่าท้องทะเลไกลออกไปจากรัศมีที่เจ้าหญิงมีนาร์กำลังสะสมเวทมนตร์อยู่นั้นยังคงราบเรียบและนิ่งสนิทใต้เงื้อมเงาแห่งราตรีอันสับสนวุ่นวายใจของเหล่ามนุษย์
ข้าทานคลื่นไม่ไหวแม่หนู เพจสำลักน้ำทะเลที่สาดโครมมาสู่เรืออย่างไม่ทันตั้งตัว
รูดี้เงยมองเจ้าหญิงมีนาร์ที่บัดนี้ถูกกระแสคลื่นอันเกรี้ยวกราดทำเอาเปียกโชกไปครึ่งร่าง ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงกัดฟันยืนหยัดอย่างน่าประทับใจเจ้าโกลบตัวจ้อยอยู่ดี
รูดี้! เจ้าบ้าเอ๊ย! ทำอะไรสักอย่างสิ ไม่ใช่ลุกมานั่งมองทำตาใสอยู่แบบนี้ เพจตวาดใส่
โกลบตัวป้อมเบิกตากว้างค้างขณะชี้มือไปทางเบื้องหลัง
เกาะ... มันควานหาเสียงตัวเองพบและชี้มือชี้ไม้ไปทางเบื้องหลังให้วุ่นหมด
เกาะเมิร์ฟเนียยังไม่เป็นไรหรอกน่า ถ้าเจ้าจะรีบช่วยข้าวักน้ำออกจากเรือน่ะ คราวนี้โทสะที่แล่นเข้ามาในวินาทีฉุกละหุกทำให้เพจไม่อดออมถ้อยคำต่อไปอีก
ทว่าสิ่งที่รูดี้ทำคือการพยักหน้าติดๆกัน ก่อนจะนึกได้และรีบส่ายหน้ารัวเร็วและบอกซ้ำอีกครั้ง
เกาะ...เรือใหญ่ สุดท้ายมันกระโดดเข้าไปกอดเพจให้ล้มหงายเงยไปทางเบื้องหลัง
เพจชะงักงันด้วยสิ่งที่เหลือเชื่อขณะมองตามเงามหึมาซึ่งค่อยๆบดบังท้องฟ้าเอาไว้ บันไดเชือกถูกหย่อนลงมาให้พร้อมเสียงตะโกนที่ชัดถ้อยชัดคำ
พาเจ้าหญิงมีนาร์ขึ้นมาใช้เวทมนตร์บนนี้กันได้แล้ว พวกเราทุกคนตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีการทะเลาะกันอีก และก็ไม่มีใครหนีจากเรื่องร้ายๆไปหลบซ่อน แต่เราจะช่วยกันจนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้ายของเกาะเมิร์ฟเนีย เคลันตะโกนดังแข่งกับเสียงคลื่นลม
เคลัน โทส มิว แล้วก็...ทุกๆคน
เสียงสูดลมหายใจลึกยาวนั้นทำให้รูดี้คิดว่าเพจกำลังจะร้องไห้โฮออกมาด้วยความตื้นตันในสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า
แสงไฟสีน้ำเงินสว่างไสวขับไล่กับความมืดรอบด้าน มีใบหน้าที่คุ้นเคยมากมายโผล่ออกมาจากดาดฟ้าเรือโบกมือทักทายพร้อมเสียงหัวเราะเริงร่า เรือบรรทุกสินค้าที่ยังว่างเปล่ากลายเป็นเรือขนเอาผู้คนที่รวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันออกมาเผชิญหน้าเพื่อต่อสู้ร่วมกัน
เจ้าหญิงมีนาร์ไม่ได้หันกลับไปมองแต่ราวกับว่าเสียงเหล่านั้นจะดังชัดเจนทุกถ้อยคำสำหรับคนที่กำลังอยู่ในอาณาเขตเวทมนตร์ เธอยิ้มกับตัวเองขณะทอดสายตามองฝ่าม่านพลังงานออกไปยังใครอีกคนที่จิตใจจดจ่อคะนึงหาโดยไม่ทราบชะตากรรมของเขาในเวลานี้
ชาร์ลี...เจ้าจะรู้ไหมว่าการที่เจ้ามาที่เกาะนี้ไม่ใช้เพียงปลูกต้นไม้ไม่กี่ต้นตามหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมาย
หัวใจของผู้ที่กำลังคิดเต็มอิ่มไปด้วยความภาคภูมิใจล้นพ้น...
บัดนี้เด็กชายชาวนูฟกำลังสร้างปาฏิหาริย์ก่อเกิดรากใบของต้นไม้แห่งความสามัคคีในหมู่คน และมันกำลังจะผลิดอกออกผลสวยงามในหัวใจ
เธอจึงบอกเพจและรูดี้ด้วยน้ำเสียงปลอดโปร่งว่า
เราจะขึ้นไปบนเรือใหญ่กันเดี๋ยวนี้!
ชาร์ลีมองตามข้างเรือรบหลายลำที่เริ่มกางใบหักเหเปลี่ยนทิศทางจนเข้าสู่มุมที่ได้รับคำสั่งจากสัญญาณเป่าเขาและคบไฟที่ชูส่องแสงเป็นจังหวะ ซีนายเพียงแต่ยืนระแวดระวังเชลยทั้งสองเอาไว้โดยไม่มีทีท่าว่าจะจัดการอะไรลงไปจนกว่าการประกาศศักดาโดยมีเกาะเมิร์ฟเนียเบื้องหน้าเป็นเหยื่อในอุ้งมือ
บรรจุลูกเพลิงลงเวทมนตร์! วีซานด์ประกาศกร้าว
ท่าทางคล้ายกลับมาสู่ความมีชีวิตชีวาอีกคำรบหนึ่ง
จนกระทั่งบัดนี้ชาร์ลียังไม่กล้าชะโงกลงไปมองว่าเรือเล็กที่พวกเขานั่งมานั้นจะยังคงอยู่พร้อมฝีพายลึกลับอย่างแมนเฟย์หรือไม่ เพราะเด็กชายเกรงว่าการเคลื่อนไหวของเขากับอัสลันจะเรียกเอาความสนใจของซีนายกลับคืนมา เมื่อนั้นชะตากรรมคงยากจะคาดเดา
ชาร์ลีแน่ใจว่าเขากวนโทสะของเด็กชายจากกิซาบาจนเกือบถึงขีดสุดความอดทนอยู่รอมมะร่อ
พวกนั้นจะทลายเกาะเมิร์ฟเนีย อัสลันครางในลำคออย่างกริ่งเกรง
สหายชาวนูฟเพียงส่ายหน้านิดๆดุจประสงค์จะเตือนให้สงวนท่าทีไว้ก่อน แม้ว่าในอกของตัวเองก็ได้ยินเสียงหัวใจเต้นกระหน่ำด้วยความหวาดหวั่นและคาดหวังระคนกันในที
ถ้ามีจังหวะรีบกระโดดลงน้ำหาทางหนีไปซะ ชาร์ลีเอียงตัวมากระซิบแผ่วเบา
อัสลันชะงัก
ข้างล่างนั่นหากแมนเฟย์ยังคงรั้งรออยู่ตามที่บอกไว้ ก็คงแอบเรือเข้าชิดในเงามืดของเรือใหญ่จนยากจะจำแนกแยกออกได้ในเวลานี้ แต่สิ่งที่อัศวินหนึ่งกังวลใจลึกล้ำก็คือปัญหาหนึ่งเดียวของชาร์ลี
นูฟจะว่ายน้ำได้ยังไงกัน!
ปากไวพอกับความคิด แล้วเจ้าล่ะชาร์ลี
ข้าจะคิดหาวิธีอื่น
คนตอบคำหลุบสายตาลงมองต่ำราวกับปิดบังบางสิ่งเอาไว้
นั่นไม่อาจทำให้อัสลันตีความเป็นอื่นไปได้นอกเสียจากว่าชาร์ลีเองยังมองหาทางรอดสำหรับตัวเขาไม่เจอแต่ไม่ปรารถนาให้คนอื่นถูกผูกมัดไปกับชะตากรรมอันสิ้นหวังนี้ด้วย
ข้าไม่เคยทิ้งเพื่อน! อัสลันเน้นเสียงเครียดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ
ทำให้ซีนายคลับคล้ายคลับคลาว่าจะได้ยินบางส่วนจึงเหลียวมา แต่เมื่อไม่พบว่าทั้งสองพูดอะไรนอกจากสายตาของอัสลันที่มองจ้องกลับเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อ ซีนายจึงไหวไหล่และหันกลับไปเพื่อร่ายเวทมนตร์บางอย่างและปล่อยพลังงานเหล่านั้นกระจายไปในอากาศก่อนลอยเรี่ยลงสู่ปากกระบอกยิงลูกเพลิงราวกับถูกชักนำด้วยเส้นใยที่มองไม่เห็น...ชาร์ลีเริ่มเข้าใจแล้วว่าลูกเพลิงมหาประลัยที่ถูกยิงระดมใส่เกาะเมิร์ฟเนียทำไมจึงมีวิถีการยิงยาวไกล ซ้ำยังเกิดระเบิดสนั่นหวั่นไหวก่อนโหมลุกไหม้รวดเร็วยาวนานกว่าลูกเพลิงที่ใช้แค่เชื้อไฟปกติทั่วไป
อาวุธเหล่านี้มีกำลังเวทมนตร์ผสมผสาน
หลักการเดียวกับเมื่อครั้งที่กษัตริย์คาลอสประลองเพื่อชิงบัลลังก์และเดลแนะนำให้ใช้เวทมนตร์บังฟ้าผนึกรวมกับแรงส่งของธนูเพิ่มอานุภาพก่อการ
บางอย่างที่เคยฝากผลงานให้โลกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์กำลังถูกนำมาบิดเบี่ยงนเจตนารมณ์อย่างแยบคายจนน่ากลัว
ซีนายร้ายกาจนัก!
ชาร์ลีได้แต่เพียงย้ำกับอัสลัน
ถ้าได้โอกาสก็รีบกระโดดลงจากเรือซะ ต้องมีใครสักคนกลับไปรายงานเรื่องทั้งหมดนี้กับกษัตริย์คาลอส
นามของกษัตริย์คาลอสที่ถูกยกมากล่าวอ้างในเวลาหน้าสิ่งหน้าขวานแบบนี้เท่านั้นที่ทำให้อัสลันซึ่งถือกฎอัศวินจำเป็นต้องกระทำตามแม้ไม่ยินยอมพร้อมใจ
แต่เราจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างนะชาร์ลี ข้าจะไม่ยอมยืนมองดูเกาะเมิร์ฟเนียล่มสลายไปต่อหน้าต่อตาเฉยๆแบบนี้
เจ้าคิดจะทำบ้าอะไรกันล่ะ! ชาร์ลีเอ็ดออกมาอย่างอดไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีฮึดฮัดของอัสลัน คิดจะกระโจนเอาดาบไปฆ่าซีนายรึไง ดาบอาจจะตัดทุกอย่างได้แม้แต่เวทมนตร์...แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้ ตอนที่คนถือดาบเอาแต่โกรธจนตัวสั่น ส่วนเจ้าพ่อมดชั่วนั่นมันก็กำลังร่ายมนตราจนถึงขีดสุด ข้าพนันได้เลยว่าเจ้าจะทำอะไรซีนายไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ
ชาร์ลีพูดไม่ผิดไปจากความจริงและเตือนให้อัสลันสำนึกเสียใจในสิ่งที่เขาเกือบทำพลาดไป
ไม่มีประโยชน์ที่จะต่อสู้กับผู้ใช้เวทในขณะที่ตนเองสูญเสียสมดุลแห่งจิตใจ...
นั่นเท่ากับเรียกร้องหาความตายแบบไร้สติ!
เมิร์ฟเนียจะไม่เป็น แต่เจ้าต้องหนีกลับไปที่เกาะนั่นให้ได้...ระวังแมนเฟย์เอาไว้ด้วย ประโยคท้ายชาร์ลีเตือนก่อนสายตาจะเบนไปจับเฉพาะเหตุการณ์ร้ายแรงที่กำลังจะเกิดขึ้นเบื้องหน้า
เรือลำที่อยู่ไกลออกไปสุดปลายขบวนด้านขวาบัดนี้กลับลำได้องศาเตรียมพร้อมหันปากกระบอกสำหรับบรรจุลูกเพลิงไปยังเกาะเมิร์ฟเนียเหมือนเรือลำอื่นๆในแถว เวทมนตร์จากซีนายไหลหลั่งถ่ายเทจนเห็นไอสีขาวปนแดงหมุนพร่างจากปลายมือที่ชี้ตรงไปยังปากกระบอกอาวุธทุกชิ้นอย่างรวดเร็ว
อีกไม่ช้าทุกอย่างจะพรักพร้อม
แต่ชาร์ลีไม่แน่ใจเลยว่าทางด้านเจ้าหญิงมีนาร์จะพร้อมรับมือตามที่ตกลงไว้หรือไม่...
Create Date : 23 มีนาคม 2554 |
Last Update : 23 มีนาคม 2554 5:16:51 น. |
|
0 comments
|
Counter : 597 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
|
หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก https://ploy666.bloggang.com
ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา) นามปากกา : สิตาปางค์ ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5 ออกแบบปก : Little thing
ราคา : 850.- บาท สินค้าหมด
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28
สั่งซื้อที่ : .........
หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ
** ***********************************
ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ นามปากกา : ลายน้ำ ราคา : 259.- บาท สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)
สินค้าหมดค่ะ
****************
นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง
รอยทรายบนลายรัก ...และ... กระต่ายในใจจันทร์
***********
เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า ทนไม่ไหวแล้ว... จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ
โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด
เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
Ploy666.
************
หมายเหตุสักนิดค่ะ...
ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย
ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ
**************
เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย
|
|
|
|
|
|
|