25_[ผักชี@ปทุมธานี] : สุนัขป่วย เท้าบวม แมลงกัดต่อย ไปหาหมอมาค่ะ   ก่อนหน้า / สารบัญ / ถัดไป   อัพบล็อกวันนี้เนื่องมาจาก ความดื้อ ความซน ความบังเอิญ หรือจะเพราะเกิดจากความซวย ของหมาน้อย 1 ขวบ 3 เดือน อย่างผักชีก็ตามแต่   ผักชีที่เป็นหมากลัวหมอขั้นหนักหนาสาหัส ก็จำเป็นต้องโดนหอบหิ้ว ลากไปพบคุณหมอที่คลินิกช่วงหัวค่ำอีกครั้ง   ตัวสั่นหงึกๆทันทีที่เห็นว่ารถยนต์จอดหน้าคลินิก ผักชีกระเถิบไปสุดเบาะอีกด้าน ไม่ยอมให้อ้วนอ๋องดึงลง ดิ้นกระจาย สู้ทุกทาง แม้กระทั่งทิ้งตัวนอนหมอบ สุดท้ายก็พ่ายแพ้อยู่ดี ^ ^"   แปะรูปพอเป็นพิธี หมายเหตุนิดนึงว่ารูปช่วงก่อนหาหมอมีไม่เยอะ และอาจไม่ชัดนะคะ   ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือแทบทั้งหมดเพราะรีบค่ะ กะเอาไว้เปรียบเทียบระหว่างการรักษา  เพื่อเราจะได้เช็คดูว่าสุนัขอาการดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนในแต่ละช่วงเวลา       เริ่มต้นด้วยเมื่อหลายวันก่อน ตอนเอาผักชีเข้ามานอนชิลในบ้านช่วงค่ำ ตามเวลาปกติก่อนพาหมาเข้ากรงนอน ชีก็เลียๆเท้า งับๆแง้บๆขนตามตัวบ้าง   ซึ่งตามปกติเราก็นึกว่ามันคันนิดๆ หรือไม่ก็แต่งขนเสริมสวย (ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เธอทำเป็นครั้งคราว)   ช่วงนั้นเราก็สำรวจหมาไปด้วยในจุดที่มันเลียๆ ว่ามีแผลอะไรหรือเปล่า พบว่าในซอกนิ้วเท้า (นิ้วกลางๆ) ขาขวาหน้า มีรอยแดงนิดๆ เปียกหน่อยๆเพราะหมาเลียมาเมื่อครู่นี้   ก็อืมๆ จำไว้ แต่ก็ดูไม่ใช่แผลร้ายแรงอะไร แค่แฉะๆแดงจางๆ คิดว่าคงหายเอง   ผ่านมาอีก 2-3 วัน เวลาประมาณเดิม เมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านมาพอเอาสุนัขเข้าบ้าน รู้สึกว่าพฤติกรรมแปลก   คือเธอเลียแล้วเลียอีก แบบเน้นๆ จนขาหน้าข้างเดิมนั้นเปียกแฉะไปหมด และไม่มีทีท่าว่าจะเลิกทำ พลอยเลยไปง้างดูอีกครั้ง   พบตามรูปประกอบค่ะ        แดงแปร้ดเลยค่ะ แถมบวมตุ่ยออกมาข้างๆเป็นลูกกลมๆอีกเต็มๆ   (ปกตินิ้วเท้าสุนัขจะเรียงชิดกัน จะเห็นว่าผักชีมีอาการบวมจนดันนิ้ว แยกห่างกันเล็กน้อย)   ลักษณะแผลคือ แฉะ เปื่อยๆนิดหน่อยที่ผิว บวม แดง และจากการเลียซ้ำๆของหมา คาดว่ามันคงพยายามระงับความเจ็บอยู่นั่นเอง T^T   ส่วนด้านล่าง ตรงอุ้งเท้าจะปูดออกมาแบบชัดเจน เวลาเดินคงต้องมีเจ็บบ้างพอสมควร       เลยตัดสินใจว่า หอบหมาไปหาหมอกันเต๊อะ ^ ^   ไปถึงก็ชั่งน้ำหนัก ระยะ 3-4 เดือนหลังมานี่ ผักชีน้ำหนักตัวไม่ขยับเลยค่ะ อยู่ที่ 12.65 หรือใกล้เคียงกันประมาณนี้   จากนั้นรอคิวเรียกเข้าพบสัตวแพทย์ ใส่ที่ครอบปากไว้ก่อน หมาไม่ดุ แต่มันกลัวมากจนประสาทเสีย เพือ่ความปลอดภัยของผู้รักษาต้องระมัดระวังนะคะ   คุณหมอรับฟังอาการ ตรวจๆ แล้วบีบให้ดูว่า ด้านในมีหนองแล้วนิดหน่อยนะ เป็นน้ำหนองใสๆ (ตอนบีบปนเลือดจางๆนิดเดียวค่ะ ผักชีไม่ร้อง แต่หมาดูเครียดสูงมาก)   มีรอยตุ่มเล็กด้านในซอกนิ้ว ที่น่าจะมาจากโดนแมลงบางอย่างกัดต่อย   ซึ่งเราก็แจ้งไปว่าผักชีชอบขุดดิน ก็เลยมีความเป็นไปได้ตามนั้น -"-   คุณหมออธิบายว่า ในน้ำลายสุนัขมีพวกเชื้อโรคอย่างแบททีเรีย ฯลฯ พอเลียแผลเลยเกิดอาการติดเชื้อพวกนี้ แผลเลยลาม ถ้ามีแผลควรป้องกันไม่ให้สุนัขเลีย     จากนั้นก็เริ่มกระบวนการทำแผล เอาหนองออก เช็ดๆถูๆ แล้วใส่เบตาดีน ผักชีเครียดจนน้ำลายไหลเยิ้มออกมา   (เธอเคยเครียดมากเวลาได้กลิ่นหมาใหญ่ตัวอื่นจากล้อรถ หรือไปต่างถิ่น ถ้าเป็นหนักจะถึงขั้นน้ำลายแตกฟองเต็มปากเลยค่ะ ควรรีบหาวิธีคลายเครียดให้สุนัข ระวังมันช็อกนะคะ)   แผลลักษณะนี้คุณหมอบอกว่าไม่ต้องพันผ้า ปล่อยไว้ให้แห้งจะหายเร็วแต่ต้องทายา   โดนฉีดยาไป 1 เข็ม ลืมถามว่ายาแก้ปวดหรืออะไร เจ้าของสัพเพร่าเอง ยอมรับแต่โดยดี   จากนั้นคุณหมอถามหาคอลล่าร์ ครอบหัวกันเลียยาที่ทาแผลไว้ ด้วยความที่คิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่า เลยหอบใส่รถมาจากบ้านด้วย เป็นอันที่ซื้อใส่ตอนทำหมันนั่นแหละค่ะ ประหยัดไปอีกร้อยกว่าบาทเนอะ ^ ^   รับยากลับบ้าน     1. ลดบวม 2. ลดอักเสบ , ลดปวด (มีจำนวนเม็ดน้อยสุดค่ะ) 3. ฆ่าเชื้อ   ยากิน 3 อย่าง ต้องกินหลังอาหาร เช้า และเย็น   ลำบากมาก เพราะผักชีกินข้าวเย็นมื้อเดียวมานานแล้ว กลับบ้านเราเลยต้องมาครีเอท หาของคลุกหลอกล่อให้ผักชียอมกินมื้อเช้ารองท้อง แต่ให้กินไม่เยอะนะคะ แค่พอกินยาตามได้   ถ้าจัดเต็ม เธอจะอิ่ม และมื้อเย็นจะเมิน ก็ยุ่งยากได้อีกตามประสาหมาน้อย -"-   มาว่ากันต่อเรื่องทำแผลเองค่ะ คุณหมอให้ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด แล้วทาเบตาดีน แต่ว่าเบตาดีน ต้องระวังไม่ให้สัตว์เลี้ยงเลียเข้าไป มันอันตราย   คุณหมอเลยจ่ายยาพ่น เป็นสเปร์ย นาโน มาให้ ใช้พ่นแผลแทนเบตาดีน แต่ปลอดภัยหากมีการเลียเกิดขึ้นบ้าง  (ไม่เลียจะดีกว่านะ 55+)   พ่นยา 2 ครั้งต่อวันเป็นอย่างน้อย เช้า และเย็น แต่หากสะดวก มีคนดูแลก็พ่นเพิ่มรอบกลางวันด้วยเลย   หน้าตายาทั้งหมดเลยเป็นแบบนี้ค่ะ     จบไหม... เอิ่ม... เหมือนจะจบค่ะ   แต่ช้าก่อนค่ะ!!! สำหรับการเลี้ยงผักชีมันมิง่ายปานนั้น (ร้องไห้แป๊บ T^T)   วันแรกเอากลับบ้าน   สุนัขประสาทเสีย เครียดจากการโดนฉีดยาและไปหาหมอมากๆ แถมโดนคอลล่าร์ครอบหัวกลับมา มองเห็นจำกัด แม้จะไม่โวยวาย พยายามเอาออกเท่าตอนทำหมัน คือพอชินนิดหน่อย   แต่ผักชีก็ร้องเรียกหาคนตลอดเวลา ถ้าไม่มีคนมาหา จะยืนนิ่ง หางตก หูลู่แบบเครียดจัด วิตกจริตมาก จะยืนอยู่แบบนั้นไม่ยอมนั่งค่ะ   คืนนั้นเราเลยยอมให้ผักชีนอนในบ้าน เหมอืนเวลาเอามานอนกลางวัน   แต่ทั้งคืน พลอยที่ลากฟูกมาปูนอนใกล้ แทบไม่ได้นอนเลย เช้ามาข้าเจ้ากลายเป็นซอมบี้ค่ะ...   ลองคิดดูว่าใต้แสงสลัวๆ รุสึกว่ามีสายตาจับจ้องเราในความมืด พอลืมตาขึ้นมาก็เจอหมาตัวทะมึนยืนแถวๆหัวนอนจ้องมองมาในคอลล่าร์สีขาว ...ผักชีหลอนได้อีก   ชีต้องการอะไรน่ะเหรอคะ ชีต้องการพนักงาน นวดสะโพกและเกาพุงค่ะ TOT   ชีจะยืนหางตก หน้าตาเครียดจนกว่าเราจะตื่นมานวดให้เธอ พอเราเอื้อมมือไปวางแปะบนสะโพก (ขาหลัง) ผักชีจะเดินวนกลับตัว เอาก้นมาแหมะลงตรงที่เราอยู่ จากนั้นก็ค่อยๆนั่งลงและยอมนอน   ถ้าหยุด เอามือออก ชีจะยกหัวเหลียวมามองอย่างรวดเร็วได้อีก -"- บางรอบเลยต้องนวดปาไปครึ่งค่อนชั่วโมง   กะว่าผักชีเคลิ้มหลับ เราจะนอนบ้าง ชีก็เริมสเต็ป ลุกมายืนจ้องหน้าเราในความมืดอีกครั้ง   เป็นการป่วยที่ทรมานคนเลี้ยงได้อีกแน่ะ!   คืนที่สอง   แผลเริ่มลดอาการบวม แดงน้อยลงเยอะ   ใส่คอลล่าร์ แต่พาเข้านอนกรงตามเวลาเดิม เริ่มโวยวาย ไม่ยอม จะเข้าบ้าน จะหาคน   ร้องงี้ดๆ เห่า ร้องคร่ำครวญ ยันเที่ยงคืนค่ะกว่าจะหมดแรง กลัวละแวกบ้านมาต่อว่ามากๆ เกรงใจเขาสุดๆ   แถมผักชียังมีรอบเช้า เห่าเรียกพร้อมร้องเรียก ครึ่งค่อนชั่วโมงตั้งแต่เช้ามากๆ   หมายเหตุ : ทำไมไม่ตามใจ จะได้หยุดร้อง? การตามใจสุนัขไม่ใช่เรื่องดีค่ะ เพราะถ้าบางทีเราลงไปดู  ไปดุ (ตี) =ไปดู สุนัขจะเข้าใจว่านั่นคือพฤติกรรมที่เรียกร้องสำเร็จ และใช้ซ้ำอีก เพราะเจ้าของมาให้เห็นแล้วตามที่มันต้องการ     คืนที่สาม   ช่วงเย็นแง้มดูแผล ส่วนที่บวมยุบลงเยอะมาก แผลที่แฉะตลอด ก็แห้งดี มีสะเก็ดนิดๆ   ลองถอดคอลล่าร์ช่วงเย็น ผักชีแต่งขนบ้าง ไม่สนใจเลียขาเลย คงไม่เจ็บแล้ว เธอก็เลยไม่ยุ่งกับขาสักนิด   รอดูจนผักชีเริ่มง่วงตามเวลานอนปกติ ส่งเข้ากรงแบบไม่ใส่คอลล่าร์ นอนหลับอุตุ เงียบกริบยันเช้า...ปลื้มค่ะ ^o^   รอดตัวจากการถูกคนแถวนี้ด่า (55+)   เช้ามาผักชีกินข้าวกินยา ปัญหาเข้าอีกงวดค่ะ... O_o* ผักชีฉี่ราด...   สุนัข ฉี่ราด แบบไหนยังไง ต้องขอเรียบเรียบก่อนนะคะว่าพบเจอในเคสนี้มาดังนี้   ตอนเช้าผักชีวิ่งเล่นตามปกติ (โดยสวมคอลล่าร์กลับให้ตอนตื่นมา) พอเริ่มนอนกลางวัน ก็เลยพามานอนในบ้านด้วยกัน   ที่ก้นมีน้ำใสๆ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น หย่อมเล็กๆนองอยู่ค่ะ เปียกหาง ลามไปเปียกสะโพก หมารู้สึกว่าเปียก ก็ลุก เดินไปหาที่นอนใหม่ พบว่าเป็นอีก   คาวนี้เลยจับสังเกตดูจึงเห็นว่าตอนผักชีนอนหลับอยู่ดีๆ ก็มีฉี่ไหลออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็มีหยดติ๋งๆตามมาถี่ๆสักพัก   ตามเช็ดกันไปสักพัก ก็ถึงเวลาเที่ยงเลยไล่ผักชีออกไปฉี่นอกบ้าน หมาก็วิ่งปรู้ดไปเพราะเป็นเวลาปกติของเธอที่ตื่นแล้วต้องไปทำธุระ ฉี่ปกติดีค่ะ ไม่มีติดขัด ไม่ต้องเบ่ง   วิ่งเล่นกันสักพักใหญ่ ผักชีดูร่าเริงดี   พอกลับเข้าบ้าน ชีนอนลงก็มีอาการอั้นฉี่ไม่ได้ ไหลลงมาอีก ทั้งที่เพิ่งไปฉี่มาหมาดๆ   รอดูชั่วโมงนึง เช็ดไป 3 ครั้ง เลยตัดสินใจโทรกลับไปปรึกษาสัตวแพทย์ค่ะ เล่าๆอาการไป พร้อมกับที่คุณหมอเทียบรายละเอียดในประวัติผักชีไปด้วย   คุณหมอบอกว่าไม่น่าจะเป็นผลข้างเคียงของยา ปกติแล้วจะเป็นในกรณีที่สุนัขยังเล็ก อาจอั้นไม่ดีมากนัก (แต่เราแจ้งว่าผักชีฉี่ตามเวลามานานแล้ว)   คือหากให้สันนิษฐานก็คงหลากหลายถ้าไม่ตรวจ แต่เนื่องจากผักชีไม่มีอาการ เกร็งในระหว่างฉี่ราด ไม่ได้ฉี่กระปริบกระปรอย ที่อาจคิดได้ว่าเป็นนิ่ว   คุณหมอจึงให้สังเกตอาการต่อไปอีกสักนิดก่อน   เมื่อพลอยบอกไปว่าแผลหายสนิทดีแล้ว มีสะเก็ดบ้างเล็กน้อย คุณหมอจึงบอกว่างั้นให้หยุดกินยาเลยก็ได้ เพื่อดูว่าสุนัขจะ โอ.เค. ขึ้นไหม   (ป.ล. พลอยจำที่คุยกันไปมาไม่ได้ทั้งหมดนะคะ แต่ก็จับใจความได้ราวๆนี้ที่เขียนเล่ามา)   พอคุณหมอไฟเขียวเรื่องหยุดยาฆ่าเชื้อที่เหลือได้ พลอยก็เลยแค่ฉีดพ่นยา   ช่วงบ่ายผักชียังมีอาการฉี่เล็ดอยู่ค่ะ เลยใส่คอลล่าร์ไว้ตลอดวัน ไม่งั้นชีก็จะพยายามเลียทำความสะอาดตลอด ไม่ดีๆ   รอง่วงจัด ค่อยถอดคอลลาร์ พร้อมไล่เข้ากรงนอน หลับสนิทดี   คืนที่สี่จึงผ่านไปได้ด้วยดี   เมื่อเช้านี้งดมื้อเช้าแล้ว กินขนมบ้าง สังเกตว่า ไม่มีรอยฉี่เวลาพามานอนในบ้าน เลยถอดคอลล่าร์ ผักชีดีใจสุดๆ 555+   ระหว่างนี้สุนัขดูร่าเริงมากค่ะ แผลที่เท้าก็เกือบหายสนิทดีแล้ว ^ ^   หากมีอะไรเพิ่มเติมจะมาอัพเดทอีกทีนะคะ   ภาพนอนกลางวันของวันนี้ค่ะ        ส่วนแผลที่เท้าก็ตามภาพด้านล่างเลยค่ะ       สรุปค่าใช้จ่ายเมื่อวันที่ 9/11/57 ของผักชี   ค่าตรวจ   80  บาท ยาฉีด     140  บาท ทำแผล   100  บาท ยากิน+ยาพ่น   460  บาท  (สเปร์ย นาโน พ่นแผล 190 บาท)   รวม 780 บาท   คอลล่าร์ ครอบหัว เอาไปเองจากบ้าน ไม่งั้นเจออีก ร้อยกว่าบาทนะ ^ ^"   พาสุนัขไปคลินิกครั้งนึงก็จ่ายมิใช่น้อย (บ่นงึมงำๆ)     หวังว่าจะจบจริงล่ะค่ะ ไม่อยากให้มีอาการป่วยอื่นต่อ 55+   ยังไงก็... รักนะ ผักชี       ** แก้ไขขนาดภาพค่ะ      ก่อนหน้า / สารบัญ / ถัดไป     Create Date : 13 พฤศจิกายน 2557 7 comments Last Update : 11 มกราคม 2565 21:28:27 น. Counter : 24539 Pageviews. Share Tweet

สวัสดีสาวน้อย เรื่องอาการกลัว การไปหาหมอ ทำไม ถึงจำได้ขึ้นใจมาก พอไปเข้าห้องตรวจวางบนโต๊ะเย็น ๆ " หาง " หาย ไปเลย 555 แข็งแรงดีแล้วนะ ผักชี   โดย: รู้นะว่าคิดถึง 18 พฤศจิกายน 2557 8:25:15 น.

คุณแขคะ เจอคนที่มาหาหมอ นั่งรอใกล้ๆ เขามองผักชีแล้วพูดขึ้นว่า มันตัวสั่นใหญ่เลย ตัวสั่นหงึกๆ ขาสั่นจนเขาเห็นอ่ะค่ะ 5555+ ณ ปัจจุบัน สบายดีแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ   โดย: ploy666 IP: 27.130.58.8 18 พฤศจิกายน 2557 21:15:40 น.

สู้ๆนะผักชี   โดย: jeffry_mommy 22 พฤศจิกายน 2557 13:32:02 น.

ผักชีหายดีแล้วเฟิร์ท แต้งค์กิ้ว วันนี้พาออกไปวิ่งโชว์ตัวท่ามกลางเด็กๆในซอยมา ชีหน้าชื่นตาบานสุดๆ ^ ^ แต่ก็ยังต้องคุมใกล้ชิด เพราะเด็กบางรายผักชีก็ยังไม่สนิท เพิ่งเคยเจอหน้า ให้เล่นแบบนิดพอ เดี๋ยวเสี่ยงเกินไป 55+ เด็กๆบ้านโน้นก็คงแข็งแรงโตไวเนอะ   โดย: ploy666 IP: 171.7.70.141 24 พฤศจิกายน 2557 1:25:48 น.

สอบถามหน่อยคับ ที่เรียกว่า คอลล่าคือ ที่กันหมาเลียแผลใช่ไหมคับ ผมอยากได้ขนาดไหญ่ๆ หาชื้อได้ที่ไหนบ้างคับ @ผมยุปทุมธานีเขตตัวเมืองปทุม   โดย: แพตเธอร์ IP: 223.24.188.231 10 มีนาคม 2563 8:49:27 น.

คุณ แพตเธอร์ คอลล่า //ลำโพงกันเลีย ปกติถ้าหาอุปกรณ์พวกนี้ พลอยจะเข้าไปถามตามคลินิกเลยค่ะ ที่นึงไม่มี ก็ไปอีกที แต่เน้นคลินิกไว้ก่อน สงสัยอะไรจะได้ถามคุณหมอได้เลย คุณหมอมักรักษาสัตว์กันหลากหลาย เลยมีของหลายขนาด ก็ขอซื้อได้อยู่นะคะ ^ ^ ส่วนวิธีใช้ (มันต้องล็อกเข้ามาให้เป็นวงน่ะค่ะ ตอนซื้อมาเป็นแผ่นๆ) ก็ให้คลินิกทำให้ดูเลยจะสะดวกกว่ามาเดาๆเอาเอง ** ***ในรูปที่ผักชีใช้ ไซส์ใหญ่เกินไปหน่อยค่ะ ผักชีกินน้ำไม่ค่อยสะดวก ตอนก้มกินน้ำ ที่กันเลียแผล จะชนพื้น แล้วก้มต่อไปไม่ถึงชามน้ำค่ะ ตอนไปกินน้ำ ก็เลยต้องดูแล ถอดออกให้บ้าง หรือไม่ก็อาจต้อง ตัดรอบ นอก ออก ให้ขนาดพอดีๆอีกที ถ้าได้มาแล้ว ก็ต้องสังเกต เวลาสัตว์เลี้ยงใช้งานด้วยนะคะ เขาทำมาเป็นไซส์คร่าวๆ บางที หมาแมวในบ้างก็อยู่ระดับกำ้กึ่ง ต้องมาดัดแปลงเล็กน้อยกันเอาเอง   โดย: ploy666 22 มีนาคม 2563 16:30:30 น.

เพิ่มเติม คอลล่าอันนี้ ผักชีโดนจับใส่มาจากคลินิกตอนไปทำหมันเลยค่ะ หมอเห็นขนาดตัว ก็เลือกใส่มาให้ตามนี้ ถ้าไม่พาสุนัขไปให้ดูตัว ก็คงต้องถ่ายรูป วัดขนาดคร่าวๆ ไปให้เทียบขนาดของที่ต้องใช้งานอีกทีนะคะ   โดย: ploy666 22 มีนาคม 2563 16:36:53 น.