Day 10: Shopping and Dining at Reykjavik, The Pearl, Blue lagoon

วันนี้จะกลับออกจาก Iceland แล้วใจหายจริงๆ หลงรักประเทศนี้ไปแล้วสิ

ออกมาจาททีพัก จะกลับเรคยาวิค เจอพี่ม้า  แวะทักทายซะหน่อย

รู้ยัง ทำไมเค๊าเรียกทรงผมหน้าม้า 555

โบสถ์เมือง Akranes  กำลังจะลงไปเห็นมีพิธีและนักข่าวเพียบเลย เลยไปดีกว่า

ประภาคารของเมือง Akranes

บ้านบุคคลสำคัญซึ่งเป็นใครไม่รู้ มันจอดรถไม่ได้ เลยได้แต่ผ่านชมบนรถ

ไม่มีไรทำ แวะช๊อปปิ้งที่ Kronan เล่นๆแล้วกลับ Rekyavik มันเป็นประมาณ Hypermart ฆ่าเวลาได้ดี

The Pearl

กับ Bronze น่ารักๆ ข้างตึก

นาฬิกาแดดด้านบนกะวิวเมืองเรคยาวิค  เห็นโบสถ์ไกลๆ

ชั้นบนของโดมไข่มุก เป็นร้านอาหาร :-( และร้านขายของ souvenier ขอบอก ;-(  ไอติมพอได้ แนะนำว่าขึ้นไปดูวิวเฉยๆ กะเข้าห้องน้ำ 5555

กลับมาที่เดิม โบสถ์  กับฝนตกพรำๆ นัดเพื่อนไว้ 5 โมง รีบไปกินอาหารเย็นกะช๊อปปิ้งก่อนนะ

ไปช๊อปกลางเมืองกันต่อ

พี่ท่านอยากกินช๊อกโกแลตอีกครั้งก่อนกลับ ในที่สุดก็ไปจัด 66°NORTH  เครื่องใช้กันหนาวแบรนด์ของ iceland เค๊า อุดหนุนเค๊านิดนึง

ยังอยากไปเลคและเดินเก็บรายละเอียดของเมืองอีกรอบ

วิวมัน Le Lert (เลอเลิศ)มาก  ต้องเขียนให้ดูเป็นฝรั่งเศสหน่อย จะได้ดูเหมาะสม 555

โบสถ์ข้าง City Hall  ที่หันรีหันขวาง ไม่สนผังเมืองใดๆ

Opera House

ที่โบสถ์กะเพื่อนอีกรอบก่อนกลับ

The Blue Lagoon

จองไว้ 1 ทุ่ม แต่ไปถึงตั้งแต่ 6 โมงกว่า ตัดสินใจเดินเข้าไปเลย เค๊าก็ไม่เห็นว่าอะไรนะ  ค่าเข้ามีหลายแบบหลายราคา เลือกได้ตาม package ที่ต้องการ เข้าไปดูที่เวปไซต์แล้วจองได้ผ่านเวปของ Bluelagoon เลยค่ะ

น้ำสีสวยๆตามทางเดิน  เห็นแล้วรู้สึกอยากกินไอติม Vanilla - soda หรือพวกเยลลี่ ไรทำนองนั้น

จริงๆเราสามารถมองเห็นสีน้ำฟ้าๆนี้ได้เป็นวงกว้างตั้งแต่ขับรถเข้ามาจากด้านนอก

อ่านให้ดี ก่อนจะหาว่าไม่เตือน 5555

ใครจะมาที่นี่ขอบอกว่าให้มัดผมขึ้นไปให้หมด หรือใส่หมวกคลุมอาบน้ำด้วยจะดีมาก เพราะเมื่อใดที่น้ำของที่นี่โดนผม มันจะแข็งและกระด้างไปหลายสัปดาห์ แทบจะไม่ฟื้นคืนชีพกันเลยทีเดียว  อย่าไปเชื่อเจ้าหน้าที่ว่าให้ใส่ครีมนวดหมักเอาไว้  แล้วไม่เป็นไร  สิบล้านชนิดครีมนวดก็เอาไม่อยู่ค่ะขอบอกอีน้ำที่นี่ แล้วก่อนไปฝันไว้อย่างดีว่ามันจะต้องอาบแล้วผิวนุ่มเหมือนไปออนเซนดีๆที่ญี่ปุ่น ขอบอกเลยค่ะ อี Thermal Pool น้ำธรรมดาของไอซ์แลน์ซึ่งเป็นน้ำแร่เทพของเรายังดีซะกว่า คือว่าผิวก็ไม่ได้กระด้างมากนะคะ เพราะว่าได้รับสารพัดครีมทั้งพอกทั้งขัด มันก็นิ่มบ้างแต่ที่คิดๆไว้ว่าตรูจะแพ้ไหม ปรากฏว่ารอดค่าาาาได้ไม่เป็นผื่นแพ้ที่ผิวหนัง แต่กลับมาได้วัน 2 วันสิวขึ้นเพียบเลย ไม่รู้ไปกระตุ้นมันให้ออกมาพร้อมๆกันหรืออย่างไร สรุปเฉยๆอะ แถมห้องอาบน้ำก็อย่างกะสงคราม ยัยพลอยว่าเราไปที่ Lagoon เล็กๆน่าจะดีกว่า ที่ขับรถมาตลอดทางเห็นมีเพียบเลยแต่ไม่ได้แวะ เพราะคิดว่า Blue Lagoon นางจะต้องดีเลิศสะแมนแตนที่สุด หารู้ไม่ คนเยอะมาก สงครามชัดๆ หาความสงบไม่ได้เลย  แล้วแถมบ่อบางส่วนปิด renovate เลยทำให้บ่อแคบลงอีก แต่ว่า ต่อให้กว้างกว่านี้ยังไงใครจะเดินออกไปที่ไกลๆอะ (แบบไกลๆอะนะคงเข้าใจ  คือในรูปด้านบนแบบสุดตายังไม่ไกลพอกับที่พูดถึงนะคะ) เพราะเวลาจะกลับทีต้องเดินกลับมาอะ  ไม่อยากบอก 🤐 ว่าไม่ค่อยฟินอะ ไม่ใช่อย่างที่คิดอะ ก่อนไปคิดว่าสปาดีจะรออยู่ แต่ 🤐  เห็นหลายคนบอกดีนักดีหนา ถ้าไปเคยไปออนที่ญี่ปุ่นแล้ว จะลืมที่ญี่ปุ่นไปเลย Argggg เห็นทีจะไม่จริงสินะ  ถ้าเคยไปออนน้ำแร่ของญี่ปุ่นที่ดีๆ ขอบอกที่นี่เทียบไม่ติดฝุ่นอะ

ได้เวลาแล้วไปคืนรถแล้วไปขึ้นเครื่องกันดีกว่า...

ก่อนจะกลับปัญหาก็เกิดอีกจนได้ จะจบทริปแล้วเชียว ออกมาดึกไม่มีที่เติมน้ำมันก่อนไปคืนรถ search ใน gg map บอกมีใกล้สนามบิน แต่หาไม่เจอ ลองเข้าไปในสนามบินก็ได้น่าจะมี แพงก็แพงลองดู  วนหาอยู่นานที่ gg โชว์บนหน้าจอว่ามี 2 ปั้ม มันก็มีแค่ปั้มเดียว และรับแต่บัตรเครดิตเท่านั้น เอาหล่ะสิ ตกม้าตายตอนจบ งั้ดทุกบัตรมาแล้วแต่ใช้ไม่ได้ ตู้รับรหัสแค่ 4 หลัก แต่บัตร ATM ของไทยมีเลข 6 หลัก บัตรเครดิตทุกใบก็ไม่มีจำเลขของบัตรได้เลย บัตร Citibank ready credit ที่อุตส่าห์เปิดมาใหม่ และยังไม่ได้ใช้งานจนบัดนี้ก็ใช้ไม่ได้อีก ถึงแม้ว่าจะ 4 หลักเหมือนกัน เพราะเค๊ารับแต่ Visa & Master สลดหล่ะสิ 😓  เครื่องใกล้ออกแล้วแต่ยังเติมน้ำมันไม่ได้  อิฉันตัดสินใจเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือจากพนง.ในบ.เช่ารถแถวนั้น ปรากฏเค๊ามี voucher ขาย แล้วเติมเงินเอา แล้วจะเติมเท่าไหร่ดีหล่ะทีนี้ 6000Krs ละกัน ครึ่งถังเอง ปรากฏ 5 พันก็เต็มแล้วเลยเดินเอาบัตรที่เหลือเงินไปให้พนง.คนที่ช่วย win win ละกัน

เรื่องยังไม่หมดเพียงเท่านี้ กำลังจะเดินขึ้นเครื่อง อยู่ดีๆคุณสามีก็บอกว่าเธอจองรถผิดวัน เอาอีกระ ต้องคืนวันที่ 6 แต่เธอดันเช่าไปคืนวันที่ 7 แล้วพวกเราเอารถไปจอดคืนไว้ที่ ที่จอดรถ Long term ที่พวกเค๊าให้ไปจอด รถจะต้องถูกจอดอยู่ที่นี่ 2 วัน ฉะนั้นหวังว่าบ.เช่าจะไม่คิดเงินเพิ่มค่าจอดรถ 2 วันนะ ให้เพื่อนโทรไปบอกว่าคืนรถก่อน 1 วัน และบอกว่ารถจอดอยู่ที่ไหน พร้อมขอเงิน refund ถ้าได้ก็ดี ถ้าไม่ได้ก็ทำใจ เพราะยัยพลอยผิดเอง สรุปเค๊าไม่ให้ refund ก็เลยตามเลยระกัน ทำไงได้อะ มากะอาเสี่ย 555 จ่ายแบบเกินเลยตาหลอด 55555  สรุปไปขึ้นเครื่องแบบฉิวเฉียด เพื่อไป Copenhagen

แล้วพบกันนะคะ Copenhagen  แต่ฉันตกหลุมรัก Iceland ไปแล้วหนิ ทำไงดี 😄  ยังไม่อยากจากไป

Love you,

Ploy Journey Journal

Create Date : 24 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2559 22:33:46 น.		0 comments
Counter : 928 Pageviews.
Share Tweet