Day 7: Hvitserkur
เช้ามาฝนเริ่มปรอยปราย ขอบันทึกภาพกับ Akureyri ก่อนจากกัน
ไปแวะที่ Botanical garden ที่จะไปมะวาน แต่วันนี้ฝนตกเฉยเลย ไปถึงต้องกลับออกมา หนาวมากด้วย
ใบไม้สีสวยๆ
ในสวนมีบทกวี อยู่ทั่วไป
บทกลอนทั่วๆ
ด้านหลังโบสถ์ เราจะออกจากเมืองกันแล๊วว
โรงภาพยนตร์ของเมือง
ที่ขึ้นเรือไปชมปลาวาฬ
Hof เป็นArena ของเมือง ประมาณที่จัดประชุม หรือ convention Hall
ระหว่างทางแวะหาพี่หมู Bonus หน่อย
เมื่อออกมาจากเมืองที่กลางสี่แยก เราพบชาย หญิงคู่หนึ่งยืนโบกรถอยู่ข้างทาง เลยให้ติดรถไปด้วย ฮีบอกว่าจะกลับ เรคยาวิควันนี้ เพราะพรุ่งนี้ต้องทำงาน ฮีเป็นคนPoland มาทำงานที่นี่ เป็นพนักงานอาหารเช้าอยู่ในโรงแรม และเพื่อนผญ. เพิ่งบินมาหาเลยมาเที่ยวกัน ขอติดรถไปด้วยนะ เราบอกคุณไปได้ถึง Hvitserkur แล้วไปโบกต่อไปข้างหน้าเอาระกัน เราไปไม่ถึง เรคยาวิค
เมื่อได้เวลาถึงทางแยกที่เราจะไปเที่ยวที่ Hvitserkur เราก็ปล่อยฮีลงไปเผชิญชะตาชีวิตต่อไป แล้วเราก็ต้องไปเผชิญชะตาชีวิของเรา กะทางอันขรุขระบ้าบอรอบๆเส้นสีเหลืองนี้
ทางเข้า เยี่ยงนี้ จริงๆไมใช่แค่ทางเข้า มันตลอดทางเลยหล่ะ ถนนทางเข้าไปนี่ ไม่แน่ใจว่า F Road หรือเปล่าแต่มันเป็นหลุมบ่อยิ่งกว่าถนนแย่ๆในเมืองไทยซะอีก คือกระเด้งไปจนถึงที่เที่ยว และกระเด้งไปจนออกสุดทาง เราก็เลยพูดกันว่า F Road มันย่อมาจาก Fc_uk Road เปล่าฟระ ถึงได้ นรกเช่นนี้
เดินออกไปจากรถตัวแทบปลิว จากที่จอดรถน่าจะ 100 เมตรได้
เราก็พบสิ่งนี้ Hvitserkur!! ตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเล
ด้านข้างๆที่ยืนเป็นจุดชมวิวถ่ายรูป มีน้ำตกเล็กๆ เสียดายน้ำอันบริสุทธ์นี้ฉมัด
กลับออก ขับตาม loop วงกลม เพื่อไปแวะ Hvammstangi
เมื่อขับไประหว่างทางมีม้าครองถนน ขับต่อไม่ได้
จอดอยู่สักพักเราก็โดนม้า Attack
มันกินไม้ปัดน้ำฝน ทำไงดีฟระ เราเลยบอกถอยรถๆๆ เร็ว มันเคี้ยวทุกสิ่ง
มันก็ หล่อนะ เจ้าม้า แต่กรี๊ดมากกก กระจาย เมื่อมันมาติดกระจกรถเลย หัวใจเต้นตุ๊ปตับ
แต่เมื่อมันเข้ามาใกล้ ก็สยองเหมือนกันแฮะ
พี่แกะก็มี ริมทาง สลับกะพี่ม้า
น่ารักเชียว
ยังไม่ทันเดินไป มันก็วิ่งหนีทุกตัว ไม่รู้มันใจฝ่ออะไรนักหนา
ลมแรงมาก ก้นพี่แกะกระเจิง
วิวก่อนเข้าเมือง Hvammstangi
จะมาดูแมวน้ำ แต่เมื่อถึงจุดดู กลับไม่มีเงาแมวน้ำสักตัว
แวะเมือง Hvammstangi เพื่อไป Museum ปรากฏปิดค่ะ
เลยไปเดินริมทะเลแทน
แดดแรง หนาวมากและลมแรงมาากกกจนจะยืนไม่อยู่ น้ำตาไหลพรากๆ
ที่พื้นมีสาหร่ายถูกพัดมาติดกองอยู่มากมาย มันทั้งหนาและแข็ง
กลับเข้าที่พัก ... ที่บ้านทุ่งของเรามีสัตว์มากมาย เลยรีบกลับก่อนมืดค่ำ
พี่แกะ
ได้อยู่ใกล้ซะที พี่แกะอยู่ข้างๆห้อง มีเฉพาะเจ้า 2 ตัวนี้ที่ไม่หนี ตัวอื่นอย่าว่าแต่ใกล้ หรือยังไม่ทันไร มันก็วิ่งเตลิดเปิดเปิง แค่เริ่มขยับตัวก็วิ่งจู๊ดเลย ไม่รู้จะป๊อดอะไรนักหนา อยากได้รูปแกะดำมากกก มันน่ารักมากเลย ก้อนๆดำๆ วิ่งจู๊ดด... ถ่ายไม่ได้ซักที
ฮีกำลังชิว แอบย่องเข้าไปใกล้
พี่ม้าอยู่ในคอก เลยถ่ายรูปพี่แพะมาแทน
คุณลุงแพะ
แพะวัยเอ๊าะ เจ้าแพะก็พอกัน แต่ยังไม่ป๊อดเท่าพี่แกะ พอเดินไปใกล้จู๊ดกลับเข้าคอกหมดเรียบเลย
ลมแรงฝุดๆ ยืนแทบไม่อยู่ ภาพถ่ายข้างน้ำตก
น้ำตกเล็กๆ หลังบ้าน ตามที่เจ้าของบ้านบอก แต่มันไม่เล็กเท่าไหร่นะเอาจริง ดีงามอยู่หลังบ้านเลย น้ำที่ใช้ในบ้านนี้ก็มาจากน้ำตกนี่หล่ะ
เราขับไปอีก 5นาที ก็มีอีกน้ำตก Kolugju'fur ใกล้บ้าน
สวยงามมาก เป็นแอ่งลงไป ดูเหมือนว่าเป็นช่องเขาที่แยกออกจากกัน
ที่นี่สวยมาก สามารถปีนลงไปนั่งชมด้านล่างได้เลยค่ะ ถ้าสังเกตดีๆ มีชายหญิงคู่นึงกำลังพลอดรักกันอยู่ข้างล่าง ลงไปซะไกลเลย พยายามมาก ส่วนอิฉันขอชมด้านบน ให้กำลังใจอยู่ห่างๆ เพราะถ้าปีนลงไปได้ แต่ขาขึ้นอาจไม่รอด 5555
อีกฟากของสะพาน
บนสะพาน เมื่อข้ามสะพานไปมีโต๊ะสำหรับนั่งปิคนิคได้ แต่บรืออออ หนาวมาก ขอบาย
อ้อลืมรายงาน ออกมาดูแสงเหนือทุกวัน แต่ไม่เคยเห็นสักวัน วันนี้ตั้งใจนอนที่กลางทุ่งขนาดนี้ แต่วันนี้อากาศปิด หมอกลงจัดมาก
มีต่อที่ Iceland Day 8 นะคะ
Ploy Journey Journal