ความหมายของคำว่า Demagogue - นักกวนเมือง?
[สารบัญ] [อ่านเรื่องอื่น]
นำมา(เพียงส่วนหนึ่ง)จากบทความ เรื่อง Demagogue ของ นิธิ เอียวศรีวงศ์ ตีพิมพ์ใน มติชนสุดสัปดาห์ วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 26 ฉบับที่ 1358
...น่าสนใจมากเลยครับที่ดิคชันนารี "พูดได้" ของผมแปลคำ demagogue ว่า "ผู้นำฝูงชน, ผู้ที่ตั้งตัวเป็นหัวหน้าคนโดยวิธีล่อหลอก, นักกวนเมือง, ผู้ปลุกระดม, นักการเมืองที่ปลุกปั่นประชาชน"
ไม่มีใครที่อยู่ในอำนาจจะเป็น demagogue ได้เลย แม้แต่คนที่ไม่ได้อยู่ในอำนาจแต่ได้รับการสนับสนุนจากอำนาจให้ใช้สื่อสาธารณะ เช่น คุณสมัคร สุนทรเวช ก็ดูไม่น่าจะใช่ demagogue ตามความหมายในดิคชันนารีของผม
คำนี้ไม่เคยมีในภาษาไทยและยังไม่มีจนถึงทุกวันนี้ ผมขอนิยามความหมายของ demagogy ตามสารานุกรม Wikipedia ว่า "ยุทธศาสตร์ทางการเมืองเพื่อได้อำนาจทางการเมืองโดยอาศัยอคติ, ความกลัว, ความหวังของสาธารณชน โดยทั่วไปแล้วก็ใช้วาทศิลป์และการโฆษณาชวนเชื่อ และมักมีเนื้อหาออกไปทางชาตินิยมและประชานิยม"
ตรงกันข้ามกับนิยามในดิคชันนารี "พูดได้" ของผมเลยนะครับ เพราะคนที่น่าสงสัยที่สุดว่าเป็น demagogue ก็ควรเป็นคนที่อยู่อำนาจนั่นแหละ แต่ไม่ได้ตัด "พันธมิตร" ออกไปเสียเลย อยู่หรือไม่อยู่ในอำนาจก็เป็นได้ทั้งนั้น...
...อันที่จริง demagogue ในโลกที่เป็นจริงนั้นไม่ได้ "โกหก" ตรงๆ หรอกครับ แต่ใช้กลวิธีอื่นที่ซับซ้อนกว่านั้น มีคนเขาศึกษาแล้วแยกประเภทออกมาได้หลายอย่างมาก ผมขอยกกลวิธีให้ดูเพียงไม่กี่อย่างพอให้เห็นเป็นตัวอย่างเท่านั้น
บิดเบือนหลักตรรกะที่คนมักไม่ทันคิด เช่น "คนไทยหรือเปล่า" ประหนึ่งว่าในโลกนี้มีจุดยืนอยู่เพียงสองจุดคือไทยและไม่ไทย ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว จุดยืนย่อมมีเป็นล้านจุดและคนไทยเองก็หาได้มีจุดยืนเดียวกันในทุกเรื่องไม่ และความเป็นคนไทยไม่อาจนิยามกันกันได้ด้วยจุดยืนทางการเมืองหรือเศรษฐกิจหรือสังคม แม้แต่มีเป้าหมายเพื่อชาติ" เหมือนกัน ก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิถีทางเดียวกัน
"หากจะเป็นประชาธิปไตยก็ต้องตัดสินกันที่วันเลือกตั้ง ประชาชนว่าอย่างไรก็อย่างนั้น หากยังไม่ยอมหยุดก็ต้องจัดการกันด้วยกฎหมายอย่างเด็ดขาด" นี่ก็เป็นคำกล่าวที่ไม่ถูกหลักตรรกะอีกนั่นแหละ...
...ว่ากันที่จริง ในโลกแห่งสื่อมวลชนอย่างในทุกวันนี้นักการเมืองที่ไหนๆ และทุกฝ่ายก็มีความโน้มจะเป็น demagogue กันทั้งนั้น ฉะนั้น สังคมที่จะอยู่กับการเมืองฐานมวลชนได้ โดยไม่ปล่อยให้ demagogue มาทำอันตรายสังคม จึงต้องเป็นสังคมที่รู้ทัน
สังคมที่รู้ทันในโลกสมัยปัจจุบันเกิดขึ้นได้จากสองอย่าง คือ จากสถาบันแห่งความรู้ทั้งหลาย นับตั้งแต่มหาวิทยาลัย ศูนย์วิจัย, พิพิธภัณฑ์, องค์กรทางวิชาความรู้ต่างๆ ฯลฯ ต้องผลิตความรู้ขึ้นมาตรวจสอบนักการเมือง เช่น ศึกษาวิจัยจนรู้จุดอ่อนจุดแข็งของโครงการสามสิบบาท, ธนาคารหมู่บ้าน, เอสเอมอี, โอท็อป ฯลฯ
และอย่างที่สอง ต้องมีสื่อที่เป็นอิสระและมีกึ๋น
ผมคิดว่าเราไม่มีทั้งสองอย่างข้างต้น หรือมีก็ไม่มีประสิทธิภาพนัก นักการเมืองไทยทุกพรรคจึงมีแนวโน้มที่จะเป็น demagogue ง่ายและมาก จนกระทั่งแม้แต่คำว่า "การเมือง" ในภาษาไทย ก็มีความหมายถึงอะไรที่ไม่จริง, ไม่ตรง, ไม่ซื่อสัตย์, หรือไม่น่าไว้วางใจ...
[สารบัญ] [อ่านเรื่องอื่น] [หน้าแรก Blog]
Create Date : 31 สิงหาคม 2549 |
|
0 comments |
Last Update : 31 สิงหาคม 2549 19:07:15 น. |
Counter : 1924 Pageviews. |
|
|
|