Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
หมายเหตุ : คุยกันก่อน
[ฟัง-คิด-ถาม-เขียน]
อ่านมา แล้ว ตัดแปะ
พูดถึงหนังสือที่อ่าน
ดูหนัง แล้ว เล่าใหม่
เล่าเรื่องตลกขำขำ
ทำนองดนตรี กับ จังหวะชีวิต
ภาพ-เล่า-เรื่อง
The Plin, :-p Theater
เรื่อย ๆ เปื่อย ๆ
-{ ส า ร บั ญ }-
<<
สิงหาคม 2549
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
8 สิงหาคม 2549
อัตนัย ปรนัย
All Blogs
ปลาในน้ำ
"ก๊าซออกซิเจน" ถูกผลิตจาก "แบคทีเรียสังเคราะห์แสง" ใน "EM Ball" จริงหรือ?
สรุปแล้ว ตำรวจในภาพนี้คือใคร ? (ถามท่านผู้อ่าน แนวหน้า และ ผู้จัดการ)
Nargis ที่ 'ไม่ใช่เพียง' พายุหมุนนาร์กิส
ไม่รับ... โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง... ไม่รับ (โว้ย)
วันแม่ (กับลูก)
เมื่อจะพูดปราศรัย ก็อย่าลืมว่าเคยพูดอะไรไว้
15 ปี พฤษภาทมิฬ :จาก พฤษภาคม 2535 ถึง กันยายน 2549 หรือว่า "สำนึก" และ "คุณค่า" ไม่เคยมีอยู่จริง
ประเด็น "พุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติ" : เหตุผลคัดค้าน และ ข้อเสนอ ของข้าพเจ้า
เครื่องรางของขลัง "ในฝัน" รุ่นโปรด..ของข้าพเจ้า
กรณีรัฐบาลปิดกั้น Youtube.com เพราะ clip หมิ่นฯ : ท่านเกิดความคิดอะไรขึ้นในใจบ้าง
ดาราถ่าย NUDE ทำบุญให้วัด กับ นางคณิกาบริจาคเงินทำบุญสร้างวัด : ความคล้ายที่แตกต่าง
"นายกต้องมาจากการเลือกตั้ง" ฟังแล้วนึกถึง "แอ๊ด คาราบาว"
ความเห็นของข้าพเจ้าต่อ "สนธิ - ผู้จัดการ" หลังจากอ่านข่าว "โพลระบุ 'ความพอเพียง' สร้างสุขคนไทย"
สนามบินสุวรรณภูมิ : ร้าว
อาลัย.. ครูจูหลิง
Merry Christmas เหรอ?
ประชาธิปไตยแบบไทย ๆ กับอคติของผม
Thousand-Hand Bodhisattva (กวนอิมพันกร)
Demagogy - วิธีการ
อัตนัย ปรนัย
การใช้กฎหมาย กับ ความตกต่ำทางศีลธรรม เหตุ? ผล?
วัฒนธรรมแกะในฝูง
สืบสานปณิธานพุทธทาส ๑๐๐ ปีชาติกาล ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๔๙
ฉีกบัตร : อริยะขัดขืน?, อยากดัง?, ขอคารวะ?, น่าด่า?, มีสติ?, ขาดสติ?, ตามกฎหมาย?, ผิดกฎหมาย? ฯลฯ
คู่มือกากบาท - ลักษณะบัตรดีและบัตรเสีย - เลือกตั้งเป็นหน้าที่นะครับ)
เกี่ยวกับคำพูดของ "สนธิ" ที่เป็นประเด็นร้อน
เราจงมาร่วมใจ "กู้ชาติ" !!!
คนที่ไม่เลือกข้างระหว่างทักษิณกับพันธมิตร คือคนที่ไม่สนใจปัญหาบ้านเมืองอย่างนั้นหรือ
อันเนื่องมาจาก"วันช้างไทย"
Doraemon โดราเอมอน และ คุณลุงโนบิ
พาเด็กมาร่วมม๊อบ
อยากให้ทักษิณ กับ สนธิ คุยกันในเวทีเดียวกันโดยเร็วที่สุด...และต้องออกโทรทัศน์แบบสด ๆ ด้วย
พรรคการเมืองไม่ส่ง สส สมัครได้ แต่..ไม่ไปเลือกตั้งเสียสิทธิ 8 ประการ
การอ้างความชอบธรรม และ ความหมายของ "ชุมนุมโดยสงบ"
คุณครับ 5 มีนาคม นี่วันอะไรครับ
สัญญาแล้วนะครับ "ถ้าไม่ถึงครึ่ง...จะไม่เป็นนายก"
ปัญหามันอยู่ที่ "เงิน" ซื่งเป็นปัจจัยที่ 5 ใช่ไหมนะ
ว่าด้วยกรณี อ.ชัยอนันต์ เสนอให้ "ขอให้ทรงใช้พระราชอำนาจตามมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ"
ช่วงนี้เหตุการณ์บ้านเมืองน่าติดตามยิ่ง
มาพลิก'รัฐธรรมนูญ' เปิดหา'มาตราที่เกี่ยวข้อง'กับเหตุการณ์ขณะนี้ดีกว่าครับ
นับถอยหลัง... ถ้ามีคนถามว่า 26 นี้ "คุณอยู่ฝ่ายไหน" คุณจะตอบว่ายังไง ?
เวียตนามผลิตวัคซีนต่อไวรัส H5N1 ใช้เองได้แล้วนะครับ
สรุปผลการประชุมศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2549
ความเห็นหลังอ่านบทความแพทย์ฟ้องคนไข้
อัตนัย ปรนัย
[สารบัญ]
[อ่านบทความอื่น]
จากกรณีที่
ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) มีมติให้ใช้ข้อสอบปรนัย 100% ในการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง หรือเอเน็ต
ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา หรือแอดมิสชั่นส์ ประจำปีการศึกษา 2550 นั้น ก็ได้ก่อให้เกิดความเห็นทั้งสนับสนุน และ คัดค้านตามมาอีกมาก ทั้งจากผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง คือผู้ที่สอบ และผู้ที่เกี่ยวข้องระดับอื่น ๆ เช่น ญาติ ผู้ปกครอง บุคคลในแวดวงการศึกษา กระทรวงศึกษา ตลอดจนผู้สนใจทั่วไป
คิดว่าเรา ๆ ท่าน ๆ ที่อ่านอยู่นี้ก็คงเห็นต่าง ๆ กันไปด้วยเหมือนกัน
ประเด็นต่าง ๆ ที่ได้ถูกยกมาเป็นเหตุผลของทั้งผู้สนับสนุน และ คัดค้าน ก็เช่น การวัดความสามารถของผู้สอบ ความยุติธรรม และมาตรฐาน
แม้จะมีเหตุอื่น ๆ อีกเช่น ความพร้อม (หรือความไม่พร้อม)
แต่ผมว่าที่น่าสนใจก็คือ ความยุติธรรมและมาตรฐาน นั้นสิ มันอยู่ที่ไหน แล้วแต่ละคนตีความเหมือนกัน หรือ ต่างกันอย่างไร
จากกรณีสอบ Admissions ครั้งที่ผ่านมานั้น มีปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นมาก มากเสียจนไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ คือไม่น่าเชื่อว่าความพร้อมจะไม่มีได้ขนาดนั้น จนความเสียหายเกิดขึ้นอย่างไม่ควรให้อภัย
นั้นแหละ การที่ต้องสอบอัตนัย ก็เป็นประเด็นหนึ่งที่ถูกเพ่งเล็ง และมองว่านี่เป็นปัญหา เพราะก่อให้เกิดความไม่โปร่งใส ความไม่ยุติธรรม และ ความไม่มีมาตรฐานเกิดขึ้น
ที่จริงแล้ว เรื่องความยุติธรรมและมาตรฐานของข้อสอบนั้น
(ถ้าพูดให้กว้างกว่านี้ก็คือ "การสอบ")
ก็พูดกันมานานมากแล้ว ไม่เพียงแค่การสอบ admission นี้เท่านั้น การสอบทุกระดับไม่ว่าจะสอบ ม 1 สอบบรรจุ สอบใบอนุญาติ สอบอะไรก็แล้วแต่ ก็ล้วนแล้วแต่มีข้อครหาว่า มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้หรือไม่ มีมาตรฐานหรือไม่ และยุติธรรมแล้วหรือไม่
เราคงไม่พูดกันว่า อัตนัย หรือ ปรนัยนั้น มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพราะคิดว่า เราทุกคนก็รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วว่า อะไรเป็นอะไร
และในเมื่อทุกอย่างมีข้อดีข้อเสีย เราก็ยิ่งไม่สมควรพูดว่า วิธีการสอบแบบไหนดีกว่ากัน
และไม่ควรพูดด้วยว่า เราควรจะใช้การสอบวิธีไหนมากกว่ากันด้วย
ปัญหาก็คือ เราควรมีวิธีคิด หรือ หลักคิดอย่างไรว่า ณ เวลานี้ เราควรจะทำอย่างไรให้เหมาะสมที่สุด
สมมติว่า มีข้อดีกับข้อเสีย ในวิธีการต่าง ๆ เราควรทำให้เกิดข้อดีมากที่สุด และ ลดข้อเสียลงให้มากที่สุดใช่หรือไม่
ถ้าวันนี้การสอบอัตนัย ยังมีปัญหามาตรฐานอยู่ เช่นว่า ใครจะตรวจ เกณฑ์การให้คะแนนเหมือนกันไหมในระหว่างกรรมการคนที่ตรวจแต่ละคน ถ้าอ่านไม่เข้าใจให้เรียกมาถามได้หรือไม่ ถ้าอ่านไม่ออกล่ะทำอย่างไร
วิชาก็เรียนมาตั้งเยอะ แล้วถ้าเราจะออกอัตนัยให้ครอบคลุมวิชาให้มาก ๆ นั้นจะทำได้หรือไม่
ถ้ามีสมมติฐานว่า การสอบแบบอัตนัยจะวัดความสามารถโดยรวมได้มากกว่าแล้วล่ะก็ สมมตว่าออกข้อสอบอัตนัยน้อยข้อเกินไป หรือไม่ครอบคลุมวิชากว้างพอ
คนที่ทำข้อสอบข้อหนึ่ง ๆ ไม่ได้นั้น แปลว่าเขาไม่มีความสามารถหรือเพราะว่าคนออกข้อสอบไม่มีความสามารถที่จะออกข้อสอบได้กว้างพอ
ลองคิดดูนะครับ สมมติว่าออกข้อสอบอัตนัยเพิ่มอีกข้อ เป็นโจทย์อีกลักษณะนึงเลย เด็กคนนั้นอาจทำได้ดีมาก ๆ ก็ได้
นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์สมมติอื่น ๆ อีก เช่น ในการทำข้อสอบ physiscs เกิดสมมติว่า ทำผิดหมดเลย แต่ว่าดูแล้ว มีการให้เหตุผลดีมาก ๆ อธิบายได้ว่าทำไมถึงคิดแบบนี้ แบบนี้มีที่ให้คะแนนหรือไม่ และถ้าให้ กรรมการคนอื่นจะเห็นด้วยหรือเปล่า
ตรวจข้อสอบเป็นแสนคน กรรมการจะมาคุยกันนั้นเป็นไปได้หรือไม่
การยกประโยชน์ให้ไป จะยุติธรรมกับคนอื่นหรือเปล่า หรือถ้าให้ศูนย์ไปเลย จะยุติธรรมกับคนนั้นหรือไม่
ผมว่านะ ถ้ายังตอบเรื่องพวกนี้ไม่ได้ หรือเกรงว่าจะม่ปัญหาต่อไปในอนาคต ช่วงระยะเปลี่ยนผ่านนี้ เราควรทำให้สิ่งที่ "ไม่ดี" ที่อาจจะเกิดขึ้นนั้น เป็นศูนย์ คือให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด
ดังนั้นการติดสินใจว่าจะให้สอบปรนัย 100% นั้น
จึงควรเป็นการตัดสินใจในฐานที่ว่า
ยังไม่สามารถจัดสอบอัตนัยอย่างโปร่งใสและมีมาตรฐาน จนเกิดความยุติธรรมต่อทุกฝ่ายได้
และควรจะสำนึกอยู่ด้วยว่า การสอบปรนัยนั้น ก็ไม่ได้ว่าจะดีโดยไม่มีข้อเสีย จึงควรพัฒนาให้เกิดการสอบวิธีอื่นด้วย (เช่น อัตนัย) โดยก่อนที่จะใช้นั้น ต้องทำให้เกิดความโปร่งใส มีแผนการรองรับ เพื่อไม่ให้เกิดความสงสัยในมาตรฐาน จนเกิดปัญหาความไม่ยุติธรรมให้เป็นที่ครหาอีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
น.ร.เสียงแตกสอบ"ปรนัย"เอเน็ต100%
จากมติชน วันที่ 07 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10376
"จาตุรนต์"ย้ำเอเน็ตต้องมีอัตนัย
จากมติชน วันที่ 08 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10377
[สารบัญ]
[อ่านบทความอื่น]
[หน้าแรก Blog]
Create Date : 08 สิงหาคม 2549
Last Update : 31 สิงหาคม 2549 20:23:36 น.
6 comments
Counter : 3275 Pageviews.
Share
Tweet
เห็นด้วยครับว่ายังไม่มีมาตรฐานชัดเจนในการตรวจข้อสอบอัตนัย ทำให้การตรวจอาจจะไม่โปร่งใส และไปในทางทิศเดียวกันได้คงต้องหาหนทางแก้อีกนานเลยครับในเรื่องนี้
โดย:
เข็มขัดสั้น
วันที่: 8 สิงหาคม 2549 เวลา:16:14:28 น.
กำลังคิดถึงเรื่องมาตรฐานการตรวจข้อสอบอัตนัยอยู่พอดี
ก็ยากเหมือนกันที่จะคุมความคิดและลักษณะการให้คะแนน
ของผู้ตรวจทั้งหมดได้ในทิศทางเดียวกัน
อย่างการตรวจข้อสอบของนิสิต-นักศึกษา 50-60 คน
สำหรับอาจารย์คนเดียวยังยากเลย
ถ้าไม่มีความชำนาญ และความเชี่ยวชาญเพียงพอ
คิดว่าสำหรับการออกข้อสอบให้นักเรียนมัธยม
เพื่อวัดผลความรู้ทั่วไป และที่เรียนมาทั้งหมด
นอกจากออกข้อสอบอัตนัยเก่งจริง ๆ
ที่โยงใยเชื่อมโยงความรู้ทั้งหมดได้แล้ว
เห็นว่าการออกข้อสอบปรนัย
จะให้ความหลากหลายและครอบคลุมมากกว่า
ซึ่งถ้าจะบอกว่า อยากให้เด็กเก่ง
รู้จักเขียน รู้สึกเรียบเรียงความคิดออกมา
ให้ได้เป็นเรียงความ บทความแล้ว
ก็ขอแนะนำให้เด็ก ๆ มีเรียงความที่ต้องทำ
มากกว่าแค่ในวิชาภาษาไทยแบบนาน ๆ ที
โดย: หมาเลี้ยงแกะ IP: 124.120.16.235 วันที่: 8 สิงหาคม 2549 เวลา:20:04:14 น.
ถ้าหามาตรฐานไม่ได้
ก็ต้อง "ปรนัย" แหละครับ
โดย:
นายกาเมศ
วันที่: 8 สิงหาคม 2549 เวลา:22:40:52 น.
แวะมาอ่านครับ
โดย:
Bluejade
วันที่: 9 สิงหาคม 2549 เวลา:6:18:45 น.
อันที่จริงก็ต้องบอกว่า
โดยทฤษฎีแล้ว ข้อสอบ choice นี่ มั่วได้ก็จริง แต่ไม่มีทางมั่วได้ถูกหมดหรอก
แม้แต่มั่วให้ผิดหมดยังทำไม่ได้เลย
สมมติว่าข้อสอบมี choice 5 ตัวเลือก และมี 100 ข้อ ถ้าไม่รู้คำตอบและพยายามจะเดา โอกาสถูกในข้อนั้นคือ 1/5 หรือ 20% โอกาสผิดมี 4/5 หรือ 80% หรือโอกาสผิดมี 4 เท่าของโอกาสถูก
ถ้ามั่วหมด 100 ข้อ ก็จะมีโอกาสถูก 20% คือ 20 คะแนน โอกาสผิดหมด 80%
จะเห็นว่า ไม่มีทางผิดหมด และไม่ทางถูกหมด
การที่มีการตัด choice ได้ ก็แปลว่า คนออกข้อสอบนั้น ออกไม่เป็นเอง
โดย: Plin, :-p ตัวจริง ไม่ได้ login IP: 202.28.62.245 วันที่: 9 สิงหาคม 2549 เวลา:13:12:06 น.
การถอดร่าง 1.ทำหลังเที่ยงคืนเท่านั้น 2.จุดธูปไว้หัวนอน3ดอก 3.นอนหลับตาแล้วตั้งสมาธิให้ดี 4.นึกถึงที่ๆเราจะไปเปนอันดับแรก 5.กลั้นหายใจ10วินาที 6.จาดนั้นคุณก้อจะไปในที่ที่คุณต้องการ 7.เมื่อคุณรูสึกว่ากลิ่นธูปเริ่มหายไปให้มองหาแสงสีขาวแล้วเดินเข้าไป 8.ถ้าคุณกลับไปไม่ทันคุณจะกลับไปไม่ได้อีกเลย 9.ถ้าทำเกิน2ครั้งอายุของคุณจะสั้นครั้งละไป99วัน ใครที่อ่านแล้วคิดดูให้ดีน่ะถ้าอยากจะสนุกก้อต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนและนั่นก้อหมายถึงชีวิตของคุณเองนั้นแหละได้มาจากคัมภีย์เขมรโบราณ คำเตือน ผู้ใดที่อ่านแล้วต้องนำไปโพสต่ออีก5ครั้งไม่งั้นอีก7วันต่อไปคุณจะมีอันเป็นไปมีเรื่องของการถอดวิญญาณเพื่อออกจากร่างและคุณจะไปได้ทุกที่ๆต้องการ ....ขอโทษนะ คือเราไปอ่านกระทู้มา เจอแล้วกลัวอ่ะ ใครที่อ่านก็ขอโทษด้วยนะ
โดย: patoo IP: 118.172.225.147 วันที่: 24 กรกฎาคม 2552 เวลา:9:25:53 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Plin, :-p
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [
?
]
Tweets by @paul_lin
บันทึก ท่องเที่ยว เวียดนาม
e-mail :
rethinker@hotmail.com
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add Plin, :-p's blog to your web]
Links
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
Project Gutenberg
New England Journal of Medicine
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.