Group Blog
 
<<
มีนาคม 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
5 มีนาคม 2549
 
All Blogs
 

Fearless (霍元甲) ฮั่วหยวนเจี่ย กลัวหรือไม่กลัวอะไร



สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมา spoil (เอ... หรือเปล่า เอาว่าไม่อุบไต๋ใด ๆ ทั้งสิ้น) เรื่อง Fearless กันนะครับ

อืม สำหรับคุณผู้อ่านที่เข้ามาครั้งแรก อย่าเข้าใจผิดว่านี่เป็นการ review หนังอย่างละเอียด หรือ spoil ทุกซอกมุมนะครับ ผมแค่อยากพูดถึงอะไรบางอย่าง แล้วบังเอิญหนังภาพยนตร์เกิดพ้องกับสิ่งที่ผมคิดอยู่เท่านั้นเองครับ




ภาพยนตร์ที่นำแสดงโดย หลี่เหลียนเจี๋ย (李连杰) เรื่อง Fearless นั้น ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงใช้ชื่อภาพยนตร์ว่า Fearless เพราะชื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เป็นตัวอักษรจีนสามตัวก็คือ 霍元甲 อ่านว่า ฮั่วหยวนเจี่ย



ซึ่งเป็นชื่อของตัวเอกของเรื่อง Fearless นั่นเอง

บางทีอาจเป็นเพราะอาจารย์มวยที่เป็นตำนานมีหลายท่าน และจะตั้งว่า Once upon a time in China ก็คงไม่ได้ เพราะชื่อนี้ให้ไว้กับเรื่อง หวงเฟยหง แล้ว

หลังจากดูจนจบ ผมเองก็ไม่แน่ใจว่า Fearless จะเหมาะสมหรือเปล่า แต่การตั้งชื่อภาษาต่างประเทศให้เป็นสากลนี้ คงผ่านการประชุมมาแล้วจนได้ชื่อที่ทางทีมงานคิดว่าเหมาะสม

Fearless = Courageous ก็คือกล้าหาญนั่นเอง เป็นผู้กล้า อืมถ้างั้น ควรจะใช้ว่า Brave หรือเปล่านะ

แต่ดู ๆ ไปแล้ว ผมคิดว่าบางที Fearless ก็อาจจะเหมาะสมในแง่ เป็นการเล่นคำ และมองเห็นถึงพัฒนาการด้วย คือจะ fearless ได้ คงต้อง fear มาก่อน ว่าแต่... ฮั่วหยวนเจี่ย กลัว (fear) อะไรล่ะ

สกุลฮั่ว 霍 เป็นสำนักมวยในเทียนจิน พ่อของฮั่วหยวนเจี่ยซึ่งเป็นครูมวยไม่ยอมสอนศิลปะการต่อสู้ให้



เหตุผลกลใดมิอาจทราบได้ว่า เกี่ยวกับสุขภาพไม่ดีจริง หรือบิดาไม่ต้องการให้ฮั่วหยวนเจี่ยเดินเข้าสู่สนามนักสู้ เพราะรู้ว่าสังคมกำลังจะเปลี่ยนไป หรือไม่

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานั้น สังคมยังตัดสินอะไรหลายอย่างด้วยกำลังกันอยู่ ผู้ชนะในการประลองเป็นที่นับหน้าถือตา แม้จีนจะมีทั้งข้าราชการสาย บุ๋น และ บู๊ ให้เลือกเติบโตได้ แต่คนจำนวนมากก็ยังนิยมความรุนแรงอยู่ เป็นแบบนี้นับพันปี

และด้วยเงื่อนไขการตัดสินคุณค่าของคนในสมัยนั้น ความกลัวน่าจะบังเกิดขึ้นแก่ฮั่วหยวนเจี่ย ซึ่งบิดาไม่ยอมสอนวิชาป้องกันตัวให้เลย



ด้วยความที่เป็นเด็ก ไม่เข้าใจเรื่องต่าง ๆ อีกมาก แค่มองเห็นบิดาแพ้การประลองตามกติกา แต่มิอาจเห็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของบิดา ความกลัวว่าบิดาก็อาจจะปกป้องเขาไม่ได้จากโลกอันโหดร้ายจึงอาจเกิดขึ้น ยิ่งตัวฮั่วหยวนเจี่ยเองสู้กับคนอื่นก็แพ้ ความมุมานะที่จะต้องฝึกวิชาให้แข็งแกร่งจึงค่อย ๆ เร่มก่อตัวขึ้น





จนกระทั่ง ฝีมือกล้าแข็งขึ้น ฮั่วหยวนเจี่ยต้องการเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในเทียนจิน เขาชนะมาตลอด ไม่เคยแพ้ เขาไม่กลัวใครมารังแกอีกแล้ว



กลัวก็แต่ว่า... จะยังมีคนเก่งกว่าอยู่อีก

ความรู้สึกแบบนี้ รังแต่จะทำให้มีความหลง มีความทะยาน อยากจะเอาชนะ เมื่อหาเหตุผลในการจะประมือประลองกันไม่ได้ ก็พยายามหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองหาเรื่องเขา หาความชอบธรรมให้ตัวเอง โดยไม่ไตร่ตรองก่อน

คิดว่าจะแก้แค้นในศิษย์โดยไม่ไต่สวนความถูกผิดเสียก่อน ในใจคือกลัวว่าจะไม่เก่งกว่า ต้องหาเรื่องสู้กันให้ได้ แม้ไม่รู้ตัว แต่จิตใต้สำนึกคงรู้อยู่





ชนะ !!! ชนะแล้วได้อะไรนะ ฮั่วหยวนเจี่ยไม่ต้องกลัวใครอีกแล้วใช่หรือไม่ เขาเก่งที่สุดในเทียนจินแล้ว

แต่ทว่า ความแค้นไม่เข้าใครออกใคร เขาจึงถูกแก้แค้นด้วยชีวิต แม้แม่คนเดียว ฮั่วหยวนเจี่ย ก็ปกป้องไม่ได้



ฮั่วหยวนเจี่ยเร่งฝึกวิชา เพราะกลัวเหลือเกินที่จะถูกทำร้าย กลัวเหลือเกินที่พ่อเขาจะปกป้องเขาไม่ได้ มาวันนี้ฮั่วหยวนเจี่ยก็ปกป้องลูกสาวคนเดียวไม่ได้เช่นกัน

ทั้ง ๆ ที่คิดว่าการจะชนะทุกอย่างทำให้เขาอยู่เหนือความกลัวได้ ตอนนี้สับสนเหลือเกิน นี่เขาเรียกกรรมตามสนองใช่หรือไม่

ฮั่วหยวนเจี่ยฆ่าพ่อคนอื่นตาย (จากการประลอง) แม่และลูกเขาก็เลยต้องตาย (จากการแก้แค้น) ครั้นคิดจะไปแก้แค้นบ้าง เขาก็ทำไม่ลง เขากลัวบาปใช่หรือไม่ อันที่จริงฮั่วหยวนเจี่ยอาจไม่ได้กลัวบาป แต่กลัวว่าการกระทำที่ไม่สง่างามนี้จะมีผลลูกโซ่อะไรต่อมาบ้าง เขาอาจถูกตามล่า อาจมีคนมาแก้แค้น

สับสนเหลือเกิน เป็นคุณ คุณจะทำอย่างไร

ผมมองว่าการที่ฮั่วหยวนเจี่ย หนี่ไปให้ไกลนั้น นอกจากกลัวอดีตที่จะมาหลอกหลอนแล้ว จะเปรียบได้กับ "การออกบวช"

ท่านอาจารย์พุทธทาสเคยสอนไว้ในหน้งสือชื่อ "บวชทำไม" ว่า การบวชก็คือการหนี หนีไปให้พ้นจากสภาพนึง สภาพที่ทำให้จิตไม่สงบ ที่ทำให้ไม่บรรลุ การบวชของคนไทยกลุ่มนึง จึงเป็นการหนีไปจากความจริงโลกียะ ไปหาแสงสว่าง เพื่อให้ได้ข้อสรุปแบบโลกุตระ

และก็จะได้ความสงบ พอที่จะมาต่อสู้กับโลกียะที่เป็นจริงอีกครั้ง

ผมถือว่าการที่ฮั่วหยวนเจี่ยมาอยู่ในดินแดนที่แตกต่างออกไป ก็ได้ชำระจิตใจ และคิดอะไรได้บางอย่าง เหมือนบรรลุธรรมระหว่างออกบวช

การที่มีประสบการณ์ในอีกโลกหนึ่ง ทำให้จิตใจสงบขึ้น มองหาสุนทรีย์อื่น ๆ ที่ละเอียดกว่าการมุ่งจะเอาชนะ



ซึ่งบัดนี้ ด้วยจิตที่สงบขึ้น การได้รับรู้ความจริงในมิติที่ละเอียดขึ้น ทำให้เขาเข้าใจ เข้าใจว่าทำไมบิดาถึงไม่ลงมือพิชิตฝ่ายตรงข้าม เข้าใจว่าชีวิตมีหลายมิติ เข้าใจความไม่เที่ยงของสรรพสิ่ง เข้าใจว่าการฝึกมวยที่แท้แล้วเพื่ออะไร และการเปรียบเทียบว่าใครดีกว่าใครเป็นแค่เรื่องสมมติเท่านั้น รวมถึงผลแพ้ชนะด้วย

เพราะไม่รู้จึงกลัว เพราะไม่เข้าใจจึงได้กลัว



ฮั่วหยวนเจี่ย รู้และเข้าใจชึวิตแล้ว เขาจึงไม่กลัวอีกต่อไป




โม้จนจบแล้วนะครับ ผมพูดถึงประเด็นว่ามีเรื่องของ fear และ fearless ในหนัง แต่ผมก็ยังมองว่า มันไม่ใช่ประเด็นหลัก และคำว่า fearless ก็ไม่น่าหนักแน่นพอที่จะแทนชื่อหนังชื่งเดิมชื่อว่า 霍元甲ได้

จุดหลักจริง ๆ น่าจะหมายถึงการใช้ความรุนแรงไปในทางที่เหมาะสม และการเอาชนะจิตใจตนเองให้ได้มากกว่า

แล้วจะใช้คำว่าอะไรกันดีล่ะ





ผู้ดูบนเวที ดูคนสู้กันเพื่อความบันเทิง ลุ้นกันว่าใครจะชนะ และยังพนันกันด้วย แต่เกียรติศักดิ์ศรีแห่งนักสู้สูงส่งกว่านั้น บนเวทีนั้น นักสู้ต้องเอาชนะให้ได้

บัดนี้ฮั่วหยวนเจี่ย ผู้ "หาญกล้า" ต่อกรกับนักสู้จากหอการค้า 4 ชาติ หากแต่จิตใจสงบอย่างยิ่ง ภายในดวงตาไร้แววคิดจ้องทำลาย

เขาสามารถเอาชนะ "ความรู้สึกอยากเอาชนะ" ของตนได้แล้ว

ชื่อหนังน่าจะเปลี่ยนเป็นความหมายของการเอาชนะมากกว่านะครับ เช่น victory, champion, hero... ตามความคิดของผม ผมก็มองไปตามประสบการณ์และความคิดของผม ซึ่งผมก็ไม่อาจทราบได้ว่า ผู้สร้าง ต้องการความหมายใจแง่ใดกันแน่




อันที่จริงที่ไปดูก็เพราะว่า อยากดูสมรักษ์ คำสิงห์ บนจอเงินบ้างน่ะครับ

สวัสดีครับแล้ววันหลังจะมาเขียนอีก

ป.ล. หรือว่า เขาอาจจะตั้งชื่อไม่ได้อยากให้เกี่ยวกับฮั่วหยวนเจี่ยก็ได้นะครับ เขาอาจจะพูดเป็นนัยว่า ตอนนี้คนจีนไม่กลัว (พวกเอ็ง) แล้ว






คุณชอบบทความ "Fearless (霍元甲) ฮั่วหยวนเจี่ย กลัวหรือไม่กลัวอะไร" ไหมครับ



ชอบมาก
ชอบ
เฉย ๆ
ไม่ชอบ
ไม่ชอบมาก



ผลการ Vote

Power by Thaimisc.com







 

Create Date : 05 มีนาคม 2549
7 comments
Last Update : 12 มีนาคม 2549 22:00:22 น.
Counter : 2292 Pageviews.

 

v_v กะจะเข้ามาอ่านค่ะ แต่เห็นเตือนว่าสปอยล์เลยยังไม่อ่านละกัน
เดี๋ยวไปลองอ่านเรื่องที่เราดูแล้ว 2 เรื่องก่อนหน้าที่คุณเขียนถึง

 

โดย: cottonbook 5 มีนาคม 2549 16:27:39 น.  

 

เขียนได้น่าสนใจดีครับ อ่านแล้วต้องคิดตามหลายเรื่องเลย

 

โดย: นายเบียร์ 5 มีนาคม 2549 18:08:53 น.  

 

very interesting . you have to be guy that see alot of movies. i will looking forward to see youe next reviews

 

โดย: tony IP: 58.8.27.161 7 มีนาคม 2549 20:15:27 น.  

 

ตอนนี้คนจีนไม่กลัว (พวกเอ็ง) แล้ว

พวกเอ็งนี่ใครหว่า

 

โดย: YuBing 18 มีนาคม 2549 15:21:58 น.  

 

ผมชอบวิทยายุทธ์จีนมากครับ

 

โดย: [D]ai{M}yO IP: 125.25.221.28 17 พฤษภาคม 2551 16:33:22 น.  

 

ชื่อ Fearless ผมว่าน่าจะเหมาะแล้วครับ สำหรับคนฝึกการต่อสู้ ถ้ายังมีความกลัวอยู่ไม่อาจเข้าถึงสุดยอดวิชาได้
เพราะยึดมั่นถื่อมั่นจึงมีความกลัว ว่างเปล่าจึงไร้ความกลัว
เซ้น นะครับ

 

โดย: นักรบ IP: 118.173.248.235 11 กรกฎาคม 2551 1:46:33 น.  

 

อีกมุมนะครับ fearless แปลว่า ไม่มีความกลัวครับ

ผู้ไม่มีความกลัว ย่อมทำอะไรโดยไม่ได้ไตร่ตรองครับ
ฮั๋วหยวนเจี๋ย ไม่กลัวสิ่งใด ๆ การจะฆ่าใครซักคน ต้องไตร่ตรองครับ ว่า ลูก เมีย เค้าจะอยู่ยังไง เค้าคิดไม่ถึง
กรรมถึงได้ย้อนมาเข้าตัว อันนี้คือ ผู้ปราศจากความกลัวครับ คนที่ไม่กลัว ย่อมอยู่ไม่ได้นานครับ เพราะไม่รู้จักคำว่าแพ้ครับ พอไม่รู้จักคำว่า แพ้ ก็ดื้อครับ

ในสมัยนึงของซามูไร ที่กุฏิหอกโฮโซอิน มีพระรูปนึงเก่งมาก จนถึงไม่มีใครเอาชนะและไม่กลัวใคร เพราะคำว่าไม่กลัวนี้แหละครับ คิดว่า ตัวเองไม่มีใครชนะได้ครับ
ได้ประลองกับนักดาบคนนึง ซึ่งเขาก็ได้แพ้ ถึงวินาทีสุดท้ายเขาได้รู้จักกับความกลัว แต่ตัวเองก็บาดเจ็บสาหัส ถ้าอาจารย์ไม่ให้หยุดการต่อสู้ กุฏิหอก คงไม่มีแล้วครับ

 

โดย: คร๊าบ IP: 110.164.231.143 10 กุมภาพันธ์ 2553 18:35:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Plin, :-p
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]









Instagram






บันทึก ท่องเที่ยว เวียดนาม


e-mail : rethinker@hotmail.com


Friends' blogs
[Add Plin, :-p's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.