Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
หมายเหตุ : คุยกันก่อน
[ฟัง-คิด-ถาม-เขียน]
อ่านมา แล้ว ตัดแปะ
พูดถึงหนังสือที่อ่าน
ดูหนัง แล้ว เล่าใหม่
เล่าเรื่องตลกขำขำ
ทำนองดนตรี กับ จังหวะชีวิต
ภาพ-เล่า-เรื่อง
The Plin, :-p Theater
เรื่อย ๆ เปื่อย ๆ
-{ ส า ร บั ญ }-
<<
มีนาคม 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
8 มีนาคม 2551
กฎจราจร สมัย ปี พ.ศ. 2418
All Blogs
John Lennon - Happy Xmas! (War Is Over)
John McCain's Concession Speech
President-elect Barack Obama's Acceptance Speech
"เที่ยงวันทันเหตุการณ์" 2 ตุลาคม 2551 - ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
"สถาบันอาจารย์มหาวิทยาลัย" โดย "แดง ไบเล่" (ประมาณ ปี พ.ศ. 2525)
ชีพจรโลก - กรณีกัมพูชายื่นเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก
บ้านเมืองไม่ใช่ของเรา : 2475 ทุกวันเลย
จดหมายถึง Samuel Kercheval โดย Thomas Jefferson (1816)
เพื่อนให้เพื่อน มิตรภาพบำบัด
นี่ไงครับ สันดานคนหนังสือพิมพ์
เราจะสร้างฉันทะให้เกิดขึ้นในเด็กไทยได้อย่างไร ?
"จับเข่าคุย" (12 พ.ค. 50) เภสัชกร ดร. กฤษณา ไกรสินธุ์
กฎจราจร สมัย ปี พ.ศ. 2418
After A While -- Veronica A. Shoffstall
กลอนหลวงพ่อคูณ
บันทึกคำทำนายของ "โหร" ชื่อดัง
To Learn Something
กำเนิดมนุษย์ในพงศาวดารล้านช้าง
ชาวพุทธชั้นนำ
จุดหมาย 3 ด้าน
หลักตรรกะบ้องตื้นสามานย์ทางการเมือง
Speech by Bill Gates - at Harvard University - (June 7, 2007)
"เหี้ย" เต็มเมือง (จริง ๆ)
"Darrell Huff" and Fifty Years of "How to Lie with Statistics"
วาสนาคนไทย ได้แค่ไสยศาสตร์ : ประเด็นจตุคามรามเทพ
จุดหมาย 3 ขั้น
ภาพยนตร์เรื่อง "Syndrome and a Century" (แสงศตวรรษ)
Interview with Alta Charo on mandating HPV vaccination in the United States. (Podcast)
เมื่อประชาธิปไตยที่ไม่ประสีประสา มาเจอปัญหาศาสนาประจำชาติ
"พุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติ" : เหตุผลจากฝ่ายสนับสนุน (2)
"พุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติ" : เหตุผลจากฝ่ายคัดค้าน (1)
"พุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติ" : เหตุผลจากฝ่ายสนับสนุน (1)
Tony Buzan และ Mind Map จาก Bangkok Post
เมื่อ Mark Twain พูดถึง "Statistics"
รักษาความสัมพันธ์ 6 ทิศ
เมื่อประธานาธิบดีของโรมาเนีย พูดถึง ประโยชน์ของ Software เถื่อน
พระสงฆ์ - คฤหัสถ์
"เศรษฐกิจพอเพียง" -- สัมภาษณ์ 'สมเกียรติ อ่อนวิมล' โดย 'สรวิศ ชุมศรี'
นายงาน - คนงาน
มิตรสหาย
"Louvre Pyramid" ที่เขียนใน "The Da Vinci Code"
ภรรยา - สามี
ครูอาจารย์ - ศิษย์
คำที่ "แย่" ที่สุดใน "ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน" ในความคิดของ Christopher Doyle
บิดามารดา - บุตร
เตรียมทุนชีวิต 2 ด้าน
รู้ถึงมิตรแท้
รู้ทันมิตรเทียม
เว้นชั่ว 14 ประการ
ปัญหาการโฆษณา alcohol : ดิ้น! สู้! ชูประเด็น!
เล่าเรื่อง "ชนชั้น" ในตำราภาษา
พลีชีพเพื่ออุดมการณ์
ตลกร้ายทางประวัติศาสตร์ - double false consciousness
Stages of Scientific Knowledge
พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี กับ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก
ความหมายของคำว่า Demagogue - นักกวนเมือง?
หมากรุก 3 กระบวนรบ ของสุมาอี้
พระราชดำรัส หลังธนบัตรยี่สิบบาท
ตำราตรีภพ ของรัชกาลที่ 4 จากหนังสือ โหราศาสตร์ และ คาถาพระจอมเกล้าฯ
John Harvard Statue : เรื่องของ "กาลามสูตร"
ศีรษะ หู เท้า และตระกูลแซ่ของฟ้า
เมื่อ 3 + 4 = 5
กรุณาถอนฟ้อง และหยุดให้ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทำร้ายกัน
แถลงการณ์ประวัติศาสตร์ - "ผมขอถอยโดยไม่รับตำแหน่งนายกฯ"
พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 : อำนาจของนายกรัฐมนตรี
อยากให้คนชุมนุม"ข้างทำเนียบ"เข้าใจ"หัวอก"คนที่ไปชุมนุมที่"จตุจักร"บ้าง
Unfair , Unrealistic, ผลจากการพัฒนาทุนนิยมแบบไม่สมดุล
บทเรียนจากพรรคไทยรักไทย
คู่มือผู้ดี ... สร้างวัฒนธรรม หรือ ทำลายวัฒนธรรม ??
จะต่อสู้กับรัฐบาลซึ่งทำลายประชาธิปไตย ด้วยการละทิ้งวิถีทางประชาธิปไตย ?
ในที่สุดท่านทักษิณก็วิจารณ์ตัวเอง
นิทานสำหรับเด็กเรื่อง "ต้นไม้ประชาธิปไตย"
คำปราศรัยบางประโยคจากม๊อบวันที่ 27 กพ 49
วัฒนธรรมคนอย่างทักษิณ : อ. นิธิ
ว่าด้วยเรื่อง การขอให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก"พิจารณาตัวเอง"
ขออัญเชิญ พระราชดำรัส ที่พระองค์ประทานแก่ "พลเอก สุจินดา" และ "พล ต จำลอง" ช่วงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
หลากหลายความคิดต่อรายการของ"คุณสรยุทธ"
เหตุผลในอดีตที่ "จำลอง" เลือก"ทักษิณ"มาเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม
นี่ล่ะหนา การเมือง
จากบทความ "กู้ชาติแบบจีน"
ทรท.โคราชสุดทนร่อนหนังสือไล่ทักษิณลาออก !
เกษียร เตชะพีระ : ความอิจฉาเป็นบ่อเกิดแห่งความเสมอภาค
ด้านดีของคุณสมัคร
กฎจราจร สมัย ปี พ.ศ. 2418
["ตัดแปะ" เรื่องอื่น]
ตัดตอนมาจากบทความเรื่อง
กฎจราจรเมื่อแรกในเมืองไทย
ในหนังสือ
เพลงดี vs สปอตดัง Vol.3
กรุงเทพฯ วันนี้เมื่อ 60 ปีก่อน
หน้า 53 - 55
(ที่ท้ายบทความแจ้งไว้ว่า ได้คัดมาจาก หนังสือ
ย้อนรอย... กรุงเทพฯ
อีกต่อหนึ่ง)
ในบทความพูดถึง
โปลิศ 53 ข้อ
พ.ศ. 2418
สมัยต้นรัชกาลที่ 5
ซึ่งเป็นกฎหมายระเบียบให้มีตำรวจแบบใหม่ ใน 53 ข้อนี้
มีส่วนที่เกี่ยวกับกฎจราจรอยู่ 5 ข้อ
ข้อ 40
ถ้าผู้ใดมีรถ มีเกวียน มีฬ้อ ที่ใช้อยู่ในท้องถนน จะไปหยุดภักที่แห่งใด ตำบลใด ฤาจะภักขนของลงจากรถก็ดี จากฬ้อก็ดี ฤาเมื่อขนของขึ้นบันทุกรถ บันทุกเกวียน บันทุกฬ้อที่บันทุกของมานั้น ให้หลีกไว้ให้พ้นทางอย่าให้เป็นที่กีดขวางอยู่ในทางรถ ทางเกวียน ทางฬ้อได้ ถ้าผู้ใด
หยุดรถ หยุดฬ้อ หยุดเกวียนต่าง ๆ อยู่ในท้องถนนเกินกำหนดธุรกิจของตัว
ซิบโปลิศออฟฟิซเซ่อจะปรับไหมเอาเงิน 10 บาท แล้วให้ซิบโปลิศออฟฟิซเซ่อบังคับให้เจ้าของภารถ ภาเกวียน ฬ้อไปไว้ในที่สมควร อย่าให้กีดทาง
ข้อ 41
ถ้าผู้ใด
จะหัดม้า หรือจะหัดรถ ในท้องถนนที่โปลิศได้รักษาก็ให้ไปบอกกับซิบโปลิศออฟฟิซเซ่อให้รู้ก่อน
ซิปโปลิศออฟฟิซเซ่อกำหนดให้ไปหัดที่ตรงนั้น ให้วิ่งไปเพียงนั้น ให้กลับเพียงนั้น ถ้าผู้ใดที่หัดม้า ขับรถแลหัดม้าที่วิ่งเกินกำหนดของซิบโปลิศที่กำหนดไว้นั้นก็ดี ฤาไม่ได้บอกให้รู้ก็ดี โปลิศได้ห้ามปรามไม่ฟังก็ดี ให้ปรับไหมเอาเงิน 10 บาท
ข้อ 47
ถ้าผู้ใดจะไล่ฝูงสัตว์เดินไปมาในท้องถนนที่โปลิศรักษา ก็ให้โปลิศบอกเจ้าของที่ไล่ฝูงสัตว์ช่วยกันระวังไล่สัตว์นั้นเดินในท้องถนนให้เป็นท่องแถวให้เรียบร้อย อย่าให้สัตว์นั้นกระจายกันเดินให้เต็มถนน
จะเป็นที่กีดขวางทางรถทางคนเดิน ถ้าม้ามีลำพองขาดแหล่ง ฤาลำพองพารถวิ่งเหลือกำลังเจ้าของที่รักษา ร้องให้โปลิศช่วยจับ ถ้าเหลือกำลังโปลิศ ม้าวิ่งไปเหยียบของ ฤาโดนคน จะเอาโทษแก่โปลิศแลเจ้าของม้านั้นไม่ได้ ด้วยเจ้าของได้ร้องให้ช่วยจับอยู่แล้ว
ข้อ 50
ถ้าผู้ใดขึ้นม้า ขึ้นรถ ขึ้นเกวียน ขึ้นฬ้อ ฤาจะแบกของหามไปมา ถ้าผู้หนึ่งไปผู้หนึ่งมาเห็นกันแต่ไกล
ให้หลีกกันข้างซ้ายมือของตัวทั้ง 2 ฝ่าย
ข้างผู้ที่ไปแลผู้ที่มา ถ้าผู้หนึ่งไปข้างซ้ายมือของตัว ผู้หนึ่งไปข้างขวาของตัว รถฤาฬ้อเกวียนโดนกันแตกหัก จะตัดสินให้ผู้ไปข้างซ้ายมือนั้นชนะฝ่ายเดียว ถ้าผู้หลีกไปทางขวามือจะแตกหักยับเยิน ผู้ที่หลีกไปข้างซ้ายมือนั้นโดยไม่แตกหักสิ่งใด ผู้ที่หลีกไปข้างซ้ายมือนั้นไม่ต้องใช้ค่าสิ่งไร
เพราะผู้ที่หลีกไปข้างขวามือทำผิดกฏหมาย
ถ้ารถม้า เกวียน ฬ้อ จะโดนกันถึงตาย ที่หลีกไปซ้ายมือโดนผู้หลีกไปทางขวามือตาย ผู้โดนต้องเสียค่าปลุกตัวเผาผีให้แก่ผู้ตายแต่ไม่มีโทษสิ่งไร
ถ้าผู้ที่หลีกไปข้างขวามือโดนผู้ที่หลีกไปซ้ายมือตาย ต้องเสียค่าปลุกตัวเผาผีและเบี้ยปรับไหม แล้วให้มีโทษหลวงตามพระราชกำหนดกฎหมาย เสมือนหนึ่งผู้ที่แกล้งฆ่าคนตาย
ถ้ามีเหตุอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะหลีกไปข้างซ้ายมือของตัวเองไม่ได้ก็ให้ร้องบอกกันแต่ไกล
อย่าให้นิ่งเสีย ให้ผู้ที่ไม่กีดขวางหลีกอย่าให้โดนกันได้ ถ้าคนเดินตามถนนให้เดินริมถนนข้างซ้ายมือของตัว อย่าให้เดินออกมากลางถนนกีดทางรถทางม้า ถ้าเดินออกมากลางถนนที่ทางรถทางม้า ถ้ารถม้าโดนผู้ที่ออกมากลางถนน ผู้นั้นก็เจ็บเปล่า ๆ จะเอาโทษแก่ผู้โดนไม่ได้ ถ้าผู้ที่ขับรถม้าไปโดนผู้ที่เดินริมถนนเจ็บป่วย จะปรับไหมผู้ที่ขับรถม้าไปโดนผู้นั้นตามบาดแผลมากแลน้อย ถ้ารถ ถ้าม้าโดนคนเดินคนที่เดินริมถนนถึงตาย จะปรับไหมเจ้าของม้าเจ้าของรถให้เสียเบี้ยปลุกตัวเผาผีให้แก่ผู้ตาย แล้วให้มีโทษตามพระราชกำหนดกฎหมาย ถ้าคนเดินจะข้ามถนนไปให้คอยดูม้าดูรถ ว่างจึงข้ามไป
ข้อ 51
ถ้าผู้ใดขับรถ ฬ้อเกวียนเป็นเวลาพลบค่ำแล้ว ถ้าเป็นรถให้มีโคมจุดเพลิงน่ารถเป็นที่สังเกตุ จุดได้แลเห็นกันแต่ไกล
ถ้าเป็นฬ้อเป็นเกวียนให้มีเพลิงสว่างเป็นสำคัญให้เป็นที่สังเกตุได้ ถ้าผู้ใดขับรถขับเกวียนขับฬ้อในเวลาพลบค่ำ ไม่มีเพลิงสว่างเป็นสำคัญแล้ว ให้ปรับไหมเอาเงิน 10 บาท
ถ้าผู้ใดขึ้นม้าไปในถนนเวลากลางคืน ถ้าไม่มีโคมเพลิงเป็นสำคัญแล้ว ให้ผูกพรวนที่คอม้าให้มีเสียงเป็นสำคัญ
ถ้ามีโคมเพลิงคนเดินนำไปเป็นสำคัญแล้วไม่ต้องผูกพรวน ถ้าผู้ใดทำผิดกฎหมายข้อนี้แล้วรถแลฬ้อแลเกวียนไปมาโดนกันแตกหักถึงคนล้มตาย จะปรับไหมตามที่ว่ามานี้ทุกประการ
หมายเหตุ
ฬ้อ
หรือ ล้อ เป็น พาหนะ 2 ล้อ หรือ 4 ล้อ ใช้สัตว์ลาก
รถ
เป็นรถ 4 ล้อที่ใช้ม้าลาก
ซิบโปลิซออฟฟิซเซ่อ
คือ หัวหน้าตำรวจ
["ตัดแปะ" เรื่องอื่น]
Create Date : 08 มีนาคม 2551
8 comments
Last Update : 9 มีนาคม 2551 0:04:19 น.
Counter : 1147 Pageviews.
Share
Tweet
แวะมาอ่านค่ะ
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันให้ได้รู้ จ้า
โดย:
gripenator
8 มีนาคม 2551 11:31:21 น.
ถ้าอ่านดูแล้วเทียบกับบริบทในปัจจุบัน จะรู้สึกขำมาก แต่ถ้าอ่านแล้วคิดตามบริบทสมัยก่อน มันก็สมเหตุสมผมเหมือนกัน
โดย:
Plin, :-p
8 มีนาคม 2551 23:37:04 น.
หุหุ สมัยก่อนยังไม่มีคำว่าตำรวจเลยอะ
โดย:
cottonbook
9 มีนาคม 2551 16:01:06 น.
โดนปรับ 10 บาท สมัยนั้น น่าจะหนักเอาการอยู่นะคะ
โดย:
เเสงตะวัน
9 มีนาคม 2551 23:47:31 น.
เห็นด้วยกับ Comment ที่3 เเล้วคำว่าตำรวจมีตั้งแต่สมัยไหนกันล่ะเนี่ย หรือว่า รัชการที่6
โดย:
เเสงตะวัน
9 มีนาคม 2551 23:53:40 น.
อืม จำไม่ได้ละว่ามีตั้งแต่สมัยไหน
แต่พอดีที่เอามาลงเนี่ย เพราะรู้สึกว่ามันน่ารักดี ต้องเขียนกฎด้วยว่า ถ้าเลี้ยวไม่ได้ต้องตะโกนบอกก่อน แสดงว่า วิ่งด้วยความเร็วที่ตะโกนบอกกันได้
ถ้าจะหัดขับรถ ก็บอกกันก่อนได้
ถ้าขับกลางคืน ต้องจุดไฟ ไม่ก็ต้องติดกระพรวน
น่ารักดี
โดย:
Plin, :-p
9 มีนาคม 2551 23:58:24 น.
อ่านข้ออื่นๆยังพอเข้าใจ
แต่อ่านข้อ 50 แล้วพยายามคิดภาพตามแล้วมึนตึ้บเลยแฮะ กฎและระเบียบไม่ว่าจะเป็นของยุคสมัยใด ก็อ่านเข้าใจยากพอๆกันเลย
โดย: Maple IP: 202.129.59.2 11 มีนาคม 2551 16:57:46 น.
ข้อ 50 นี่ ที่จริงละเอียดพอสมควรเลยนะครับ นอกจากบอกกติกาแล้ว ยังบอกวิธีตัดสินในกรณีต่าง ๆ ให้ด้วย
โดย:
Plin, :-p
11 มีนาคม 2551 17:02:56 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Plin, :-p
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [
?
]
Tweets by @paul_lin
บันทึก ท่องเที่ยว เวียดนาม
e-mail :
rethinker@hotmail.com
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add Plin, :-p's blog to your web]
Links
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
Project Gutenberg
New England Journal of Medicine
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันให้ได้รู้ จ้า