|
คนที่ไม่เลือกข้างระหว่างทักษิณกับพันธมิตร คือคนที่ไม่สนใจปัญหาบ้านเมืองอย่างนั้นหรือ
[สารบัญ] [อ่านบทความอื่น]
มีอยู่คำนึง ที่ควรรู้จักไว้ นั่นคือ "False Dilemma" ตอนนี้คนที่อยู่เป็นกลาง มักจะถูกโจมตี(โดยคนที่เลือกข้างแล้ว)ว่า "ลอยตัวเหนือปัญหา" "ดูดายความเสื่อมทรามของบ้านเมือง" คนที่ดูเหมือนว่าจะวางตัวเป็นกลาง จึงมักถูกถาม หรือ ได้รับการแนะนำว่า "ให้เลือกข้างได้แล้ว" "ถึงเวลาแล้วล่ะที่จะต้องมีจุดยืนสักข้าง" ซึ่งหลังจากถามหรือแนะนำแล้ว ก็จะมีการบอกว่า ข้างต่าง ๆ มีดังนี้ เลือกสิ มี (undesirable) choices ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ .... ถ้าให้ง่ายที่สุดในเวลานี้ มีตัวเลือกสองอย่าง คือ ข้างทักษิณ และ ข้างพันธมิตรกู้ชาติ (สนธิ จำลอง) หรือ มีอีกแบบคือ ข้างทักษิณ และ ข้างที่ไม่ใช่ทักษิณ (โดยใช้คำพูดแบบนี้ แต่โดยนัยก็ก็คือไม่เอาทักษิณ) ถามว่าข้างที่ไม่ใช่ทักษิณ equivalent to ข้างพันธมิตร (สนธิ จำลอง) หรือไม่ ดูเผินๆ เหมือนจะใช่ แต่เราก็รู้ดีว่า อันที่จริงแล้วมันไม่ใช่ อันตรายของ "false dilemma คือ" มันเป็นการจำกัดทางเลือก เป็นกับดักทางความคิด และ กับดักทางภาษา เมื่อคุณด่า สนธิ คุณจะถูกกล่าวหาโดยอัตโนมัติว่า คุณคือพวกทักษิณ เช่นเดียวกัน เมื่อคุณพูดถึงข้อดีของทักษิณแม้เพียงเสี้ยงหนึ่งของความดีทั้งหมด คุณก็จะถูกมองโดยอันตโนมัติเช่นกันว่า เป็นพวกทักษิณ (อีกแล้ว ) ในทางกลับกัน ถ้าด่าทักษิณ คุณก็จะถูกบางคนเหมารวมว่า คุณเป็นพวกเดียวกันกับพันธมิตรกู้ชาติ หรือถ้าชมสนธิ คุณก็จะถูกพวกนิยมทักษิณด่ากล่าวหาทันทีว่า เป็นพวกใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย เพราะอันที่จริง การที่ด่าหรือชมทั้งสองฝ่าย ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นพวกเขา หรือมีความต้องการอยู่ข้างเขาก็ได้ และคนพวกนี้ ที่ไม่เลือก commit ตัวเองว่าอยู่ฝ่ายไหน ก็จะถูกคนทั้งสองฝ่ายด่าว่า ไอ้พวกเป็นกลาง ลอยตัวเหนือปัญหา จะว่าไป การมอบศัพท์แบบนี้ให้ว่า "เป็นกลาง" ก็ถือได้ว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งเป็น false dilemma เช่นกัน ที่จริงแล้ว การที่อ้างว่าเป็นกลางอาจจะไม่ได้กลางจริง ๆ ก็ได้ คือมีจุดยืนของตัวเองอยู่ (เป็นจุดยืนใหม่) ซึ่งทั้งสองฝ่ายที่ทะเลาะกันอยู่อาจจะคาดไม่ถึงเลยก็ได้ จึงได้เกิดมีคำเรียกว่า "ที่สาม" ขึ้นมา (ซึ่งที่จริงอาจมีที่สี่ ที่ห้า ก็ได้ ) เช่น ทางเลือกที่สาม (แต่เราก็กลัว มือที่สาม) การที่ไม่ได้อยู่ทั้งสองฝ่ายนั้น ไม่ได้แปลว่าเขาจะเป็นประเภท "คอยเข้าร่วมกับฝ่ายที่ได้เปรียบด้วย" แน่นอน แม้ไม่เข้าร่วมฝ่ายได้เปรียบ พวกเขาก็อาจจะ"เข้าร่วมกระหน่ำตีฝ่ายเสียเปรียบด้วย" (แต่ก็ไม่จำเป็น) ผมมองว่า วันนี้มีประเด็นที่เรียกว่า False Dilemma อยู่ มีกับดักทางความคิด (กับตัวเลือกที่ถูกนำเสนออย่างจำกัด) คนจึงได้ทะเลาะกัน แล้วพยายามหาแต่จุดต่าง ไม่ยอมหาจุดร่วม ผมมองว่า คนที่อ้างตัวว่าเป็นกลางนั้น ไม่ได้เป็นกลางที่อยู่ระหว่างสองขั้วทั้งหมด คือไม่ได้เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างจุดสองจุด หากแต่ส่วนหนี่งเป็น "ขั้วที่สาม" (อาจมีที่สี่) ที่คนทั่วไปไม่ทราบจุดยืน ว่า ขั้วนี้คืออะไร แต่ทว่า พวกเขาพยายามทำให้อีกทั้งสองฝ่าย (Taksin and Sondhi) จำนนต่อขั้วอำนาจนี้ (พูดให้แรงลดลงคือ คล้อยตามความเห็นพวกเขา ว่าทางออกเขาดีกว่าเข้าร่วมกับทั้งสองกลุ่ม)
ดังนั้นอย่ากล่าวหาหรือว่าคนที่คุณคิดว่าเป็นกลาง ว่าไม่รักชาติ ไม่สนใจปัญหาชาติ ไม่รักประชาธิปไตย หรือ ข้อกล่าวหาอะไรที่จะขุดขึ้นมาได้เลย เขาอาจเป็นอีกขั้วหนึ่ง ซึ่งโดยอุดมการณ์แล้ว ไม่สามารถเลือกข้างได้ หากแต่ต้องการให้คุณ หรือ อีกสองขั้ว คล้อยตามอุดมการณ์ของพวกเขา ซึ่งพวกเขาอาจจะไม่ได้ดูดายปัญหาบ้านเมืองเลย และการที่ต้องเข้ากลุ่มเดียวกับคุณนั้น สำหรับพวกเขาแล้ว เขาคิดว่า อาจจะเป็นอันตรายต่อชาติบ้านเมืองก็ได้
การมีจุดยืนเป็นสิ่งดี แต่ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในสิ่งที่เข้าไปเกี่ยวข้องสำคัญยิ่งกว่า ความเข้าใจมีหลายระดับ เช่นต้องเข้าใจ "จุดยืนที่แท้จริง" และ hidden agenda ของแต่ละฝ่าย หรือ เอาง่าย ๆ ลองถามตัวเองกับคนอื่นดูสิว่า นิยามศัพท์ที่พูดกันน่ะตรงกันหรือไม่ ที่ดูเหมือนว่าจุดยืนเดียวกันน่ะ จริงหรือ เพราะศัพท์คำเดียวกันยังเข้าใจอะไรไม่ตรงกันเลย เพราะถ้าเราเข้าใจทุกอย่างตามความเป็นจริง ก็จะทำให้ผลสรุปจากการตัดสินใจโดยรอบคอบนั้น ไม่นำพาเราให้ตกเป็นเพียง "เบี้ยตัวหนึ่งในกระดาน" (ซึ่ง เบี้ยดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนสถานการณ์ตอนนี้ให้ดีขึ้นหรือแย่ลงเลย) และทำให้เราเดินและปฎิบัติอยู่ในทางที่ถูกต้อง ถ้าใครสักคนอยากจะแสดงจุดยืนสู่สังคมในตอนนี้ ขอให้มีสติ ไม่ใช้อารมณ์ ขอให้เป็นจุดยืนที่เป็นประโยชน์ ไม่อยู่ในวังวนของ False Dilemma นี้ (ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ และไม่เปลี่ยนทิศทางของสถานการณ์แต่อย่างใดเลย)
โดยสรุปก็คือ ควรพิจารณาข้อมูลต่าง ๆ อย่างรอบคอบก่อนที่จะทำอะไร พวกเราควรใช้แนวทางตามหลักพุทธธรรม คือการใช้ หลักกาลามสูตร ซึ่งจะทำให้เราได้แนวทางของตัวเองว่า เราควรจะปฎิบัติอย่างไร จึงจะถูกต้อง
False dilemma From Wikipedia, the free encyclopedia
The logical fallacy of false dilemma (in some sources falsified dilemma), which is also known as fallacy of the excluded middle, black and white thinking, false dichotomy, false correlative, either/or dilemma or bifurcation, involves a situation in which two alternative points of view - often, though not always, the two extreme points on some spectrum - are held to be the only options, when in reality there exist one or more alternate options which have not been considered.
คุณเห็นด้วยกับบทความนี้หรือไม่ |
|
[สารบัญ] [อ่านบทความอื่น] [หน้าแรก Blog]
Create Date : 16 มีนาคม 2549 |
|
7 comments |
Last Update : 31 สิงหาคม 2549 20:24:31 น. |
Counter : 1244 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: POL_US 18 มีนาคม 2549 17:52:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: Dr Seri IP: 202.28.181.9 19 มีนาคม 2549 8:43:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: เฒ่าน้อย 19 มีนาคม 2549 18:24:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: zzz IP: 61.19.54.238 1 เมษายน 2549 17:33:40 น. |
|
|
|
|
|
|
|
มาคิด
มาโว๊ต