Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
หมายเหตุ : คุยกันก่อน
[ฟัง-คิด-ถาม-เขียน]
อ่านมา แล้ว ตัดแปะ
พูดถึงหนังสือที่อ่าน
ดูหนัง แล้ว เล่าใหม่
เล่าเรื่องตลกขำขำ
ทำนองดนตรี กับ จังหวะชีวิต
ภาพ-เล่า-เรื่อง
The Plin, :-p Theater
เรื่อย ๆ เปื่อย ๆ
-{ ส า ร บั ญ }-
กรกฏาคม 2549
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
22 กรกฏาคม 2549
ศรีลังกา (9) : สวนพฤกษชาติ (Royal Botanical Garden, Peradeniya)
All Blogs
เสียงไก่ขันยามเช้า
เดินเล่น ชมเมือง ภูเก็ต
ซ้อนท้าย จักรยานยนต์
พระพุทธบารมีสยามบุรีพิทักษ์
ผานางคอย (ผาพระ) วัดเขาศาลา จังหวัดสุรินทร์
รอยพระพุทธบาท ที่ วัดเขาศาลาฯ อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์
แมววัด
เวียดนาม (20) : โฮจิมินห์ซิตี้วันสุดท้าย
เวียดนาม (19) : อุโมงค์กู๋จี (Địa đạo Củ Chi)
เวียดนาม (18) : War Remnants Museum - โฮจิมินห์ซิตี้
เวียดนาม (17) : พิพิธภัณฑ์ประติมากรรมจาม เมืองดานัง
เวียดนาม (16) : ฮอยอัน (Hội An)
เวียดนาม (15) : สุสานจักรพรรดิไคดิงห์ (Khải Định)
เวียดนาม (14) : พระราชวังต้องห้าม
พระเจดีย์มุตาว
เวียดนาม (13) : เจดีย์เทียนมู และ รถ Austin คันนั้น
เวียดนาม (12) : แม่น้ำหอม
เวียดนาม (11) : หุ่นกระบอกน้ำ
เวียดนาม (10) : สะพานเทฮุก วัดหง๊อกเซิน และ ทะเลสาบคืนดาบ
เวียดนาม (9) : พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ ที่ฮานอย
เวียดนาม (8) : Chua Mot Cot - เจดีย์เสาเดี่ยว
เวียดนาม (7) : สุสานโฮจิมินห์ และ ทำเนียบประธานาธิบดี
เวียดนาม (6) : Văn Miếu - วัดในศาสนาขงจื้อ และ Quốc Tử Giám - มหาวิทยาลัยโบราณ
เวียดนาม (5) : The Kissing Cocks Island(s) ในอ่าวฮาลอง
เวียดนาม (4) : Thiên Cung Grotto - ถ้ำพระราชวังสวรรค์
พรุ่งนี้หวยออก วันนี้เลยมาใบ้หวย
เวียดนาม (3) : ล่องเรือที่อ่าวฮาลอง
เวียดนาม (2) : ระหว่างทางไปอ่าวฮาลอง
เวียดนาม (1) : รอ "เธอ" ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
เททองหล่อพระ
รูปถ่ายเผยโฉม
เซ็งโว้ยยย.. ก็เลย.. หาอะไรทำแก้เซ็ง
[สุญญตา คือ ความว่าง] - [ตถตา คือ เช่นนั้นเอง]
หกผีอัปรีย์
"เจ้าผึ้งน้อย" กับ "ดอกตะขบ" (VDO พร้อมเรื่องประกอบ)
คำถามช่วยชีวิต
Diary ของ "น้องปั๋ม" I'm a Happy Pug. ค่ะ
อย่า แอบ มอง หนู -- อย่า ดู สิ คุณ
เสาอินทขีล : เสาแห่งปฏิญญาฟ้าเวียงพิงค์ : ความนัยของความร่มเย็น
ต้นยางใหญ่
กระจก ฉัน แมลง
Carica papaya
บริจาค
Artocarpus heterophyllus
อนาคตประเทศไทย
เทวดา นางฟ้า
ดอกไม้ริมทาง
ขอฃวดหน่อยคร๊าบ
ขอ "น้องปั๋ม" อ่านหนังสือบ้างสิคะ
เล่นซ่อนแอบ
แจกัน กับ วันเหงา ๆ
มองหน้าหาเรื่อง (เหรอไงวะ?)
หน้าบ้าน
เมฆดำ
"ควาย" เพื่อนบ้าน
หมดไปอีกวัน
พระอาทิตย์ และ พระจันทร์ (วันแรม 1 ค่ำ)
"มด" ที่ป้ายรถ
ศรีลังกา (14) : แล้วเราก็กลับมาโคลอมโบอีกครั้ง (เพื่อกลับประเทศไทย)
ศรีลังกา (13) : วัตดูวา
ศรีลังกา (12) : วันนี้วันพระ
ศรีลังกา (11) : The Bridge on the River Kwai !!
ศรีลังกา (10) : Nuwara Eliya และ Ceylon Tea
ศรีลังกา (9) : สวนพฤกษชาติ (Royal Botanical Garden, Peradeniya)
ศรีลังกา (8) : นมัสการพระเขี้ยวแก้ว
ศรีลังกา (7) : สีคิริยา เมืองปราการลอยฟ้า
ศรีลังกา (6) : ดัมบุลลา วัดถ้ำบนภูเขา
ศรีลังกา (5) : "ป่าต้นบุนนาค" "Pink Quartz Mountain" และ พระภิกษุนักอนุรักษ์
ศรีลังกา (4) : อนุราธปุระ นครหลวงแห่งแรกของศรีลังกา
ศรีลังกา (3) : ระหว่างทางไป อนุราธปุระ
ศรีลังกา (2) : เช้าวันรุ่งขึ้น พวกเราก็ไปถวายพระพุทธรูปกัน
ศรีลังกา (1) : แล้วเราก็ไปกรุงโคลอมโบ ประเทศศรีลังกา
ศรีลังกา (9) : สวนพฤกษชาติ (Royal Botanical Garden, Peradeniya)
(อ่านเที่ยวศรีลังกาตอนอื่น ๆ)
(ตอนที่แล้ว)
|
(ตอนต่อไป)
หลังจากเรานมัสการพระเขี้ยวแก้วที่แคนดี้แล้ว เนื่องจากเช้านี้ทำเวลาได้ค่อนข้างดี เราก็เลยไปเที่ยวกันต่อ
พวกเราออกเดินทางไปทางทิศตะวันตก ห่างออกไปจากเมืองแคนดี้ประมาณ 6 กิโลเมตร ก็จะถึง Royal Botanical Garden หรือ สวนพฤกษชาติ แห่ง Peradeniya ครับ
ดูแผนที่คราว ๆ ของสวนพฤกษชาตินี้กันก่อนนะครับ
(นั่นเงาสะท้อนกระจกของผมนะครับ ไม่ใช่วิญญาณที่ไหน)
ก็จะเห็นว่าสวนแห่งนี้ มีแม้น้ำโอบล้อมถึง 3 ด้าน แม่น้ำนี้ก็คือ Mahaweli Ganga ครับ
ประวัติของ Royal Botanical Gardens นี้ ก็อาจจะนับย้อนไปถึง ปี ค.ศ. 1371 ในรัชสมัยของ กษัตริย์ Wickramabahu III พระองค์ทรงโปรดให้สร้างพระราชฐาน ใกล้บริเวณแม่น้ำ Mahaweli Ganga นี้
แต่ตอนนั้น ก็ยังไม่ได้นับว่าเป็นสวนพฤกษชาติ
นะครับ
ครั้นมีการย้ายเมืองหลวงมายังแคนดี้ ด้วยความที่ Peradeniya ห่างจากแคนดี้ไม่มากนัก กษัตริย์บางพระองค์ก็ทรงแปรพระราชฐาน โปรดให้สร้างพระที่นั่งที่บริเวณนี้ไว้ด้วย
(ประมาณปี ค.ศ. 1747 โดยกษัตริย์ Kirti Sri)
อย่างไรก็ตาม สถานที่แห่งนี้ ได้พัฒนาให้กลายเป็นสวนพฤกษชาติจริง ๆ ก็หลังจากที่ศรีลังกาเสียเอกราชให้อังกฤษไปแล้ว โดยในปี ค.ศ. 1821
(6 ปีหลังจากที่อังกฤษชนะกษัตริย์เมืองแคนดี้)
พื้นที่แห่งนี้ก็ได้ถูกแปรสภาพให้เป็นสวนพฤษชาติ โดย Mr Alexandar Moon
สวนพฤกษชาติแห่งนี้ มีเนื้อที่กว้างขวางถึง 147 เอเคอร์
(1 เอเคอร์ = 0.004047 ตารางกิโลเมตร)
และมีพรรณไม้ถึงกว่า 4,000 สปีชีส์ !!
ถือเป็นสวนพฤกษชาติที่สมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเลยครับ
(สำหรับในเอเชียใต้นี้ก็ถือว่าสมบูรณ์ที่สุด)
กว้างขนาดนี้นี่ ก็มีบริการเกวียนให้นั่งนะครับ ก็ต่อคิวนานเหมือนกัน วันนั้นเราไม่ได้นั่งกัน
ต้นไม้แต่ละต้นที่นี่ สูง ๆ ใหญ่กันทั้งนั้น เดี๋ยวเราลองเอาคนไปยืนเทียบกันดูนะครับ อืม... รู้สีกว่าจะเป็นต้นขนุนนะครับ
ที่จริง.. แบบนี้ก็ยัง ต้นไม่ใหญ่เท่าไหร่นะครับ เดี๋ยวเราเดินกันต่อดีกว่า
อันนี้สิครับ สูงใหญ่จริง ๆ เดินออกไปไกลมากแล้ว ก็ยังเก็บให้เห็นยอดไม่ได้เลยครับ ผมได้แต่อ้าปากค้าง เลยลืมดูป้ายว่าเป็นต้นอะไร
เดินมาอีกนิด ก็จะพบกับต้นปาล์ม ซึ่งมีผลรูปร่างแปลก ๆ ต้นนี้ถือว่าเป็น Highlight ของที่นี่เลยก็ว่าได้นะครบ เขาเรียกว่า
Double Coconut
ที่จริงแล้วเป็นปาล์มชนิดหนึ่งนะครับ พบยากมาก และถือว่าเป็นพืชที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
ลูกที่เห็นนั้น หนักประมาณ 10-20 กิโลกรัมเลยนะครับ ลักษณะพิเศษของมันก็คือ "เมล็ด" ครับ จะเป็นลักษณะคล้ายแฝดตัวติดกัน
เราเดินกันต่อนะครับ จุดหมายคราวนี้คือพุ่มไม้ตรงนั้นล่ะครับ
โอ้ ใหญ่จริง ๆ
ป้ายที่โคนต้นเขียนว่า นี่คือ
Giant Java Willow Tree
(
Ficus benjamina
Linn.)
ครับ
อันที่จริงแล้ว Willow tree นี่จะหมายถึงต้นหลิวนะครับ แต่ว่าชื่อวิทยาศาสตร์
Ficus benjamina
นี้ และถ้าดูจากรูปร่างต้นไม้แล้ว มันคือ
"ไทรย้อย"
ครับ
เราเดินออกมาจากไทรย้อย ไปยังถนนเลียบแม่น้ำ Mahaweli Ganga บริเวณนี้จะปลูกต้นสนสองข้างทางครับ
มองไปที่ฝั่งแม่น้ำ ก็จะเห็นกอไผ่ ขึ้นเป็นทิว
ในปี พ.ศ. 2542 (ค.ศ. 1999) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯเยือนประเทศศรีลังกาอย่างเป็นทางการ
(ระหว่างวันที่ 23 ถึง 29 สิงหาคม)
ครั้งนั้น พระองค์ทรงปลูกต้น
Mesua stylosa
ซึ่งอยู่ในวงศ์ Clusiaceae เพื่อเป็นอนุสรณ์ด้วย เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2542 (ค.ศ. 1999)
ผมเองไม่แน่ใจนะครับว่า
Mesua stylosa
นี่มีชื่อภาษาไทยว่าอะไร แต่ว่า
Mesua ferrea
นี่คุณ ๆ ที่ติดตามมาตั้งแต่ต้นคงจะจำกันได้นะครับว่าคือ
"ต้นบุนนาค"
ก็เดินกันจนเหนื่อยเลยครับ พอดีเรามาเดินกันนี่ก็สายแก่ ๆ แล้ว จวนจะเวลาอาหารเที่ยง แดดแรงเหลือเกิน ภาพเลยถ่ายได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศที่นี่ร่มรื่นมากเลยนะครับ มอง ๆ ไป ก็เห็นอยู่กันเป็นคู่ ๆ แบบนี้
ดูแล้วก็น่าอิจฉานะครับ
พวกเราเดินเล่นที่นี่กันจะบ่ายโมงเลยล่ะครับ ซึ่งเดี๋ยวเราต้องเดินทางต่อ จุดหมายต่อไปของเราก็คือ Nuwara Eliya ครับ
(ตอนที่แล้ว)
|
(ตอนต่อไป)
(อ่านเที่ยวศรีลังกาตอนอื่น ๆ)
Create Date : 22 กรกฎาคม 2549
9 comments
Last Update : 16 กันยายน 2549 22:54:16 น.
Counter : 6089 Pageviews.
Share
Tweet
น่าทึ่งมากๆค่ะ แต่ละต้นใหญ่ๆสูงๆกันทั้งนั้น
ทำไมบ้านเราเก็บไว้ไม่ได้อย่างนี้บ้างนะ
โดย:
Picike
22 กรกฎาคม 2549 3:00:58 น.
แหมที่นี่ถูกใจจริงๆค่ะ เวลาไปเที่ยวไหน จะต้องวิ่งเข้าไปดูพวก Botanic Garden นี่แหละเป็นอันดับแรก
ต้นไม้ของเขาใหญ่น่าทึ่งมากจริงๆค่ะ ร่มต้นไทรย้อยนั่นท่าทางจะกว้างขวางอลังการน่าดู แล้วต้นขนุนนั่นลูกเลยกลายเป็นขนุนจิ๋วไปเลย เคยอ่านหนังสือเจอว่าขนุนเป็นผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก (พูดแล้วอยากกินอ่ะ ที่นี่นะมีแต่ขนุนกระป๋อง)
สงสัยคุณ Plin ออกตัวว่าถ่ายรูปไม่ค่อยสวยนี่ คงไม่ใช่เพราะแดดแรงกระมัง ใกล้เที่ยงแล้วหิวข้าวตาลายมากกว่า ยิ่งไปอยู่ใกล้ๆขนุนด้วย เลยอยากจะข้ามจากของคาวไปหาของหวานเสียเลย
รูปสวยดีค่ะ ชอบหลายรูปเลย
โดย: SevenDaffodils (
SevenDaffodils
) 22 กรกฎาคม 2549 4:05:45 น.
สวนพฤกษ์นี่ไม่รู้เป็นที่เดียวกับที่ผมเคยอ่านในหนังสือแนวที่สุดในโลกตอนเป็นเด็กรึเปล่าครับ ที่ว่าเป็นสวนสวนพฤกษ์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก รูปวาดไทรย้อยในหนังสือเหมือนที่คุณถ่ายเลย สวยมากๆครับ ชอบที่ได้เห็นมากๆครับ
โดย:
นายเบียร์
22 กรกฎาคม 2549 16:29:11 น.
เดินไปเรื่อยๆนี่ คงมีความสุขนะคะ หายใจทั่วท้อง แล้วเวลาอยู่ในที่ที่มีต้นไม้เยอะๆนี่ จะสดชื่นมาก น่าเอาเสื่อไปปูนอนอ่านหนังสือเล่นนะคะ
โดย:
PANDIN
22 กรกฎาคม 2549 22:43:32 น.
ติดตามมาตลอด ดีใจจัง ที่มีคนเก็บมาเล่าสู่ให้เพื่อนๆได้ฟัง
โดย: น้าออ IP: 124.120.122.73 22 กรกฎาคม 2549 23:53:45 น.
บรรยากาศดีชมัดเลยค่ะ......... ท่าทางลมจะเย็นน่าดู น่านั่งเล่น นอนเล่นอ่านหนังสือจังเลยค่ะ
โดย:
largeface
27 กรกฎาคม 2549 13:57:25 น.
ภาพตึกสีขาว (หลังภาพต้น Mesua stylosa) เป็นภาพหอพรรณไม้ (herbarium) ใช่รึเปล่า
Plin พอจะจำได้มั๊ย
จอยคุ้นๆ แต่ไม่แน่ใจค่ะ
โดย: จอย IP: 58.181.143.189 4 เมษายน 2551 21:27:51 น.
ไม่ทราบครับ เพราะไม่ได้เดินเข้าไป
เค้าจะรีบไปที่อื่นกันต่อ
ไปหลาย ๆ คนมีข้อเสียแบบนี้แหละ
โดย:
Plin, :-p
4 เมษายน 2551 21:56:00 น.
โดย: จอย IP: 58.181.143.189 4 เมษายน 2551 23:14:40 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Plin, :-p
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [
?
]
Tweets by @paul_lin
บันทึก ท่องเที่ยว เวียดนาม
e-mail :
rethinker@hotmail.com
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add Plin, :-p's blog to your web]
Links
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
Project Gutenberg
New England Journal of Medicine
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ทำไมบ้านเราเก็บไว้ไม่ได้อย่างนี้บ้างนะ