มีนาคม 2551

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
31
 
 
วันที่ 5 ธ.ค 2549 วันที่ไม่เคยลืม..

ในวันนั้นไป The Mall งามวงศ์วาน ไปหาซื้อโปรแกรมเหมือนเคย แต่บังเอิญเห็นลุงคนนี้ตั้งแต่บนรถเมลแล้ว เห็นลุงเดินอยู่ข้าง ๆ ถนน พอเราลงจากรถก็เดินผ่านเขาไป และสังเกตเห็นว่าในเป้ลุงหนักมากและขาลุงไม่ค่อยดี เราเลยมองดูลุงอยู่พักนึง เขาก็ไปหยุดตรงแฟรนไชด์ที่ขายลูกชิ้นศรีไทย เราก็พยายามมองว่าลูงพูดอะไร แต่กลับเห็นคนขาย(ผู้หญิง)ไล่ เราเลยเดินเขาไปถามคนขายว่าลุงพูดอะไร คนขายว่าฉันไม่สนใจหรอกฟังไม่รู้เรื่อง เราเลยซื้อลูกชิ้น 3 ไม้ และไปซื้อน้ำเปล่าร้านข้าง ๆ 1 ขวด
พาลุงไปนั่งกินหน้าห้าง The Mall เราถามลุงว่าลุงคุยไรกับเขา ลุงว่า..ของานเขาทำไอ้หนู.. เรางงเลย!! ไปของานทำกับคนนั้นอ่ะน๊ะ เลยถามต่อว่า ลุงจะทำงานอะไร ลุงว่าลุงทำก่อสร้างเป็น ฉาบปูน ทำกำแพงเก่ง เนี่ยดูในกระเป๋าลุงสิ ลุงเอาอุปกรณ์มาเองหมดเลย แล้วลุงก็เงียบไป...พักนึงร้องไห้โฮเลย เราก็เหวอออเลย
แต่ถามต่อว่าเกิดอะไรขึ้น ลุงเลยเล่าเรื่องราวให้ฟัง "ลุงมาจาก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ มีนายหน้าเหมาคนงานมาทำงานก่อสร้าง เขาใช้แค่บัตรประชาชน กับเงิน 3,000 บาท ลุงเลยมากับเขา พอมาถึงปากคลองตลาด เขาก็ให้ลุงลงจากรถแล้วยึดเงินกับบัตรไปด้วย ไม่เหลืออะไรเลย" ลุงเดินมา 4 วันกว่าจะมาถึงหน้า The Mall แต่ลุงก็ไม่รู้จะเดินไปไหน(ลุงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่คือแถวไหน) อาศัยหยุดนอนข้างถนนเป็นระยะ ๆ เหตุที่ลุงมา กทม. เพราะหมดหน้าทำไร่ข้าวโพดแล้ว ไม่มีงานทำ บวกกับเงินที่ทำไร่ก็ยืมจากข้างบ้าน ดอกแพงมาก
ระหว่างที่เราคุยกับลุง ก็มีไทยมุงอยู่ 4-5 คน เขาถามเราก็เลยเล่าให้พวกเขาฟัง แล้วพวกเขาก็ถามเราว่าจะทำอย่างไรกับลุง เราคิดว่าจะพาลุงไปส่งหมอชิตให้กลับบ้านลุงอยู่ใน กทม. ไม่ได้หรอก ในกลุ่มไทยมุงมีคนนึงว่า เขาขอช่วยเรื่องเงิน 100 บาท คนที่เหลือเลยให้กันทุกคนเลย ตรงนั้นรวมแล้วได้ 500 บาท เราก็เลยพาลุงขึ้น taxi ไปส่งหมอชิต ระหว่างทาง taxi ถามเรื่องลุงก็เลยเล่าให้ฟังอีก พอถึงหมอชิต taxi ไม่คิดค่าโดยสาร เขาบอกว่าผมช่วยด้วยครับ ระหว่างรอรถที่หมอชิตก็เลี้ยงข้าวลุงอีกมื้อ,ซื้อตั๋วรถให้ลุง และให้เงินลุงอีก 300 บาท
ก่อนจากกันเราบอกลุงว่าอย่ามาเลย กทม. มันอันตรายกว่าที่ลุงคิดจ๊ะ ลุงรู้ไหมวันนี้วันอะไร?(ลุงว่าไม่รู้สิ) วันพ่อค่ะ วันดีน๊ะลุงได้กลับไปอยู่กับครอบครัว ขอให้ลุงมีความสุขมาก ๆ ค่ะ ลุงบอกว่าถ้าหนูไป จ.เพชรบูรณ์ บ้านลุงอยู่ปลายภูเขา(เราเองก็ไม่รู้ภูเขาลูกไหนอ่ะ) ไปพักบ้านลุงได้น๊ะ เจ้าหนู๋คนนี้จิตใจงาม เหมือนหน้าตาเลย(เขินนิด ๆ คงไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ)
ก็รอส่งลุงจนขึ้นรถจากไปค่ะ..

** ภาระกิจครั้งนี้ต้องการช่วยลุงให้กลับบ้านได้อยู่ในที่ ๆ ควรอยู่ อย่าเอาชีวิตมาทิ้งท่ามกลางเหตุการณ์อันเลวร้ายเลย ถ้าลุงยังเดินหางานใน กทม. แบบนี้ไปเรื่อย ๆ... วันนึงลุงไม่ได้งานทำก็คงไม่พ้นเป็นขอทาน(ไม่ได้ดูถูกลุงน๊ะค๊ะ) ทั้ง ๆ ที่ลุงไม่ได้อยากเป็น ลุงต้องกลับไปสู้ชีวิตในถิ่นของลุงค่ะ ลุงจะปลอดภัย และที่สำคัญศักดิ์ศรีค่ะ อย่าให้ใครดูหมิ่นตัวเรา นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่!! **



Create Date : 26 มีนาคม 2551
Last Update : 7 พฤษภาคม 2551 22:40:27 น.
Counter : 964 Pageviews.

1 comments
  
เมืองกรุง ก้อยังมีคนน้ำใจง้ามงามแบบนี้ ว้าว นับถืออ่ะ คนไทยมีน้ำใจ ช่วยเหลือกาน เราชอบจังเยย กรุงเทพอันตรายเราก้อไม่ค่อยเข้ามาหรอก กลัว คนใจอำมหิตก้อเยอะ แต่อย่างน้อย ก้อยังมีคนดีดีอยู่บ้าง ลุงคนนี้โชคดีมากนะคะ พระเจ้าอวยพร พระเจ้าคุ้มครองพี่ที่ช่วยคุณลงค่ะ และคุณลุงเอง มีฟามสุขนะคะ จะอธิษฐานเผื่อนะ
โดย: Olive (Cynthia_FullMoon ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2551 เวลา:1:20:17 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kanokwantui
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เราเป็นพนักงานบริษัทฯ เอกชนธรรมดา ๆ คนนึงที่ไม่ได้มีเงินมากมายนัก แต่ชอบที่จะมีส่วนร่วมในการช่วยสังคมเล็ก ๆ น้อย ๆ ดีกว่าที่เราไม่ทำอะไรเลย ปัจจุบันสังคมเลวร้ายขึ้นทุกวัน บางอย่างถ้าเราหยิบยื่นให้กับใครก็ตาม ไม่จำเป็นต้องมีคำถามว่าทำเพื่ออะไร? ไม่จำเป็นต้องหวังผลตอบแทน? ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ถ้าทำแล้วสบายใจก็ลงมือทำซ๊ะ พอช่วยได้ก็ช่วย แต่ยุคนี้ต้องระวังตัวด้วย ดูดี ๆ คนที่แกล้งทำให้น่าสงสารกับคนที่เขาเป็นแบบนั้นจริง ๆ เขาต่างกันค่ะ การทำบุญทำทานไม่จำเป็นต้องทำที่วัดอย่างเดียว ลองดูรอบ ๆ ตัวเราหลาย ๆ สิ่ง รอคนลงมือทำ
" บ้านเมืองไม่เดือดร้อนหากขาดคนเก่ง แต่จะเดือดร้อนแบบสุด ๆ หากขาดคนกล้า(ดี) "