ร้อยวันพันปีอยู่อย่างนี้ก็ดีแล้ว
Group Blog
 
 
กันยายน 2550
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
5 กันยายน 2550
 
All Blogs
 

แชทออนไลน์พบคนในเน็ต

แชทออนไลน์
พบคนในเน็ต ตอนที่1

หลังจากที่หัดเล่นแชทพูดคุยกับเพื่อนทางเน็ตได้ไม่นานนัก
วันนั้นลูกมาปรึกษาว่าจะขออนุญาตเจอเพื่อนชายคนนี้ได้ไม๊
พ่อถามว่าใช่คนที่เคยคุยกันในเอ็มบ่อยๆนั่นหรือเปล่า ? ลูกตอบว่าใช่แล้ว


ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเท่าที่เห็นก็คือพวกเค้าคุยถูกคอกันดี
ดูแล้วไม่น่ามีปัญหา ถามว่าจะพาเพื่อนไปด้วยกี่คน ลูกบอกว่า 1 คน
พ่อบอก ไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่อไปส่ง

ตอนนั้นลูกยิ้มเริงร่า กระโดดกอดพ่อด้วยความดีใจสุดๆ
บอกขอบคุณพ่อตั้งมากมาย



จำเป็นที่จะต้องให้ลูกไป เพราะขืนห้ามอาจแอบนัดพบกัน
โดยที่ไม่บอกเราก็เป็นได้ เด็กวัยรุ่นสมัยนี้มักชอบทำอะไรแผลงๆอยู่เสมอ
ขืนเผลอใช้ไม้แข็งเข้า มันจะแย่นะ

รู้มาก่อนแล้วว่าเพื่อนชายของลูกที่เล่นแชทกันในเน็ตหมอนี่ชื่ออะไร
อายุเท่าไร บ้านอยู่ใหน เพราะการสนทนาส่วนใหญ่ลูกจะไม่ปิดบัง
ขอคุยโทรศัพท์หลังจากทำงานบ้านและการบ้านเสร็จก็ไม่ได้ว่าอะไร
แต่มีข้อกำหนดนิดเดียวคือ ไม่ให้คุยเกิน 30 นาที เกินนี้ต้องเลิก

เรื่องแชทกับเพื่อนทางเน็ต อนุญาตให้เล่นได้หลังจากเสร็จงาน
แต่ไม่ได้ให้เล่นดึกเกินไปนัก และไม่เกินเลย
การนัดเจอกันในครั้งนี้พ่อไม่ได้กีดกันหรือขัดขวางแต่อย่างใด
ขอแค่ไปส่ง ไม่ได้เข้าไปวุ่นวาย ปล่อยให้มีอิสระกันเต็มที่
แต่นั่นหมายถึง ต้องอยู่ในขอบเขตที่กำหนด
ลูกสาวดีใจจนเนื้อเต้น คว้าโทรศัพท์ โทรบอกเพื่อนชายด้วยอาการลิงโลด



10 .00 น.ของเช้าวันนัด ลูกสาวแต่งตัวดูน่ารักตามแบบฉบับของเค้า
กลิ่นแป้ง คละเคล้ากับน้ำหอมบางๆ แบบเด็กๆ ฟุ้ง ไปทั่วหน้าบ้าน
พ่อส่งยิ้มให้ลูกเล็กน้อยในขณะที่กำลังก้มหน้าก้มตาเช็ดกระจกหน้ารถอยู่

"ดูดี ป่ะพ่อ"
ลูกทักทาย เดินเข้ามาใกล้ ส่งยิ้มให้อย่างคนอารมณ์ดี

พ่อตอบไปว่า
"น่ารักที่สุดในโลก"

แค่นั้นแหละ ยิ้มแก้มปริ อายม้วนไปโน่น
(ตอบอย่างอื่นไม่ได้เชียวแม่ต้องค้อนขวับให้ เป็นเรื่องอีกต่างหาก)
...


พวกเรามาถึงสถานที่นัดหมายตรงตามเวลาเผง
ขณะนั้นเพื่อนหญิงคนสนิทได้มายืนรออยู่ตรงทางเข้าก่อนแล้ว
(เด็กสุพรรณนี่แปลกอยู่อย่าง เวลาเค้านัดเจอเพื่อนที่รู้จักกันทางเน็ต
เค้ามักจะนัดให้มาเจอกันที่หอคอยบรรหาร มากกว่าไปที่อื่น)

รถเราจอดบริเวณด้านนอกรั้วของหอคอย พ่อบอกลูกว่าไปเถอะเพื่อนรอ
มีอะไรก็ให้รีบโทรติดต่อกลับมา พ่อไม่ได้ไปใหน
ลูกสาวกับเพื่อนรีบเดินเข้าไปข้างในบริเวณหอคอย
พ่อเองนั่งคอยลูกอยู่ในรถเพียงลำพัง ก็เป็นห่วงพวกเค้าเหมือนกัน
คอยสังเกตุดูอยู่ห่างๆไม่ให้คลาดสายตาโดยตลอด


10.30 น.เพื่อนชายของลูกก็มาถึง เค้าเดินมาด้วยกัน 2 คน
เป็นเด็กชายรูปร่างไม่สูงเท่าไรนัก หน้าตาก็ไม่ถือว่าขี้ริ้วขี้เหร่อะไร
มารถอะไรกันก็ไม่ทันได้สังเกตุ เพราะบริเวณแถวนั้นรถราสัญจรเยอะ
พวกเค้าทักทายกันไปตามประสาเพื่อน ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรน่ากลัว
เด็กผู้ชายนั่นอายุก็ไม่น่าจะเกิน 20 เสียด้วยซ้ำ

พวกเค้านั่งคุยกันอยู่ตรงนั้นนานเป็นชั่วโมงเห็นจะได้
พ่อแอบสัปหงกในรถไปหลายครั้งเหมือนกันเพราะไม่มีอะไรทำ
เห็นพวกเด็กๆเค้าคุยกันมองดูแล้วก็น่าหมั่นไส้นะ ไม่รู้สิ คิดไปเอง
แต่ได้เห็นลูกยิ้ม หัวเราะได้ เราก็เป็นสุขใจอย่างประหลาด
...


พ่อหลับไปนานเท่าไรไม่รู้ ตกใจตื่นขึ้นมาอีกทีอ้าว คราวนี้ ลูกหาย
หายไปกันทั้งหมด กวาดสายตามองดูรอบๆบริเวณจนทั่วแล้ว
ปรากฎว่าไม่มีพวกเค้าอยู่ที่นั่นจริงๆ เอ ... หายไปใหนนะ

พ่อบ่นพึมพำอยู่คนเดียว งึมๆ
รีบหยิบโทรศัพท์มือถือกดเข้าไปที่เบอร์ลูกทันที

"กินข้าวอยู่อ่ะพ่อ เดี๋ยวจะกลับแล้ว อยู่ด้านหน้าหอคอยนี่แหละ"
เสียงของลูกสาวพูดกรอกโทรศัพท์เข้ามา
เฮ้อ !!! พ่อมันถอนหายใจเฮือกใหญ่
ที่แท้แอบไปกินข้าวกันอยู่ด้านหน้าหอคอยฝั่งโน้น นี่เอง
(บริเวณหน้าหอคอยจะมีร้านอาหารขายอยู่หลายร้านบริการนักท่องเที่ยว)


พ่อล็อคประตูรถเพื่อออกมาเดินยืดเส้นยืดสายเดินดูนั่นนี่เพื่อฆ่าเวลา
นานเหมือนกันที่เตร็ดเตร่อยู่แถวนั้น แต่ก็นึกถึงพวกเค้าอยู่ตลอดเวลา
และรู้สึกว่าพวกเค้าจะหายกันไปนานเกินไปแล้ว

พ่อกดโทรศัพท์ไปยังมือถือของลูกในตอนนั้นทันทีด้วยเป็นห่วง

“พ่อสตาร์ทเครื่องรถรอเลยนะ หนูกำลังจะไปเดี๋ยวนี้แล้ว”
เสียงใสๆตอบมาด้วยอาการร้อนรน พ่อรีบเดินกลับไปที่รถทันที

ไม่นานก็เห็นลูกกับเพื่อนรีบเดินออกมาจากทางด้านหน้าหอคอย
โดยมีหนุ่มสองคนนั่นเดินตามหลังมาติดๆ ตอนนั้นลูกคงจะบอกว่าพ่อมารับ
เจ้าหนุ่มสองคนนั่นจึงได้รีบเดินกลับออกไป
...


หลังจากที่พวกเราออกมาจากหอคอยกันแล้วพ่อไปส่งเพื่อนของลูกที่บ้าน
เมื่อกลับมาถึงบ้านในบ่ายของวันนั้นเราพ่อลูกก็ได้นั่งคุยกันอีกครั้งหนึ่ง
พ่อถามลูกถึงตอนที่พากันออกไปร้านอาหารด้านนอกหน้าหอคอยนั่น
ลูกคุยกันเรื่องอะไรบ้าง ลูกบอกว่า หนุ่มสองคนนั่นอยากให้เป็นไกด์
พาไปเที่ยวที่บึงฉวากบอกว่าอยากไปเพราะตั้งใจมาเที่ยวจริงๆ
(บึงฉวากคือสถานที่ท่องเที่ยวของสุพรรณห่างจากตัวเมือง 80 กม.)

พวกเค้าเอารถยนต์มาด้วย จอดอยู่แถวๆนี้แหละ
พ่อถามลูกกลับไปว่า จะไปกับเค้าไม๊ถ้าพ่อไม่ได้มาด้วย
ลูกตอบว่า “ไม่รู้เหมือนกัน”


เราพยายามคิดแบบเด็กๆ นึกย้อนกลับไปตอนที่เรายังเป็นวัยรุ่นอยู่
ความคิดความอ่าน คิดตรึกตรองแค่ใหนเรื่องของความไม่ประมาท
ให้ความไว้ใจและให้ความสำคัญกับคนแปลกหน้ามากน้อยแคใหน
อันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง คิดรอบคอบเพียงไร
ความคิดของวัยรุ่นช่วงอายุ 16-17 นี่ ไม่ได้คิดกับเรื่องนี้เท่าไรนะ
เห็นเป็นเรื่องสนุกกันมากกว่านี่สิสำคัญ ก็น่าเป็นห่วงอยู่

ตอนนั้นถามลูกไปว่า ยังจะติดต่อกันอยู่เหมือนเดิมเหมือนที่ผ่านมาไม๊ ?
ลูกตอบว่า คงไม่แล้ว เพราะดูแล้วไม่ชอบนิสัยเท่าไร
ไม่ชอบตรงที่เค้าเอาแต่ใจตัวเอง พูดชักชวน แกมบังคับว่า
จะต้องให้ขึ้นรถไปกับเค้าให้ได้ แต่พอเห็นว่าเราไม่ไปแน่แล้ว ก็มาอ้างว่า
อุตส่าห์ลงทุนลงแรงขับรถมาจากต่างจังหวัด หมดเงินไปตั้งมากมาย
อย่างนี้เลิกคบกันดีกว่า


“เลิกคบกัน” ?

ความรู้สึกของลูกในตอนนั้นผมรู้ว่าเป็นอย่างไร
ถามลูกด้วยความห่วงใย แล้วคิดอย่างไรต่อไปกับเรื่องนี้
ลูกบอกว่าไม่อยากคิดอะไรอีกแล้ว
จากความรู้สึกที่เคยชอบเมื่อก่อนนั้น เดี๋ยวนี้กลายเป็นความกลัวมากกว่า
ถ้าเค้าคิดว่าจะเลิกคบกันก็ไม่เป็นไร ยินดีนะ

ลูกว่าอย่างนั้นจริงๆ ...


ความรู้สึกของเด็กสาววัยรุ่นอายุเพียง 16-17 ปี
พ่ออาจเข้าไปไม่ถึงข้างในลึกๆก็เป็นได้ ตอนนั้นลูกอาจจะกลัวเสียฟอร์ม
อายพ่อ หรืออย่างไรไม่รู้ แต่พฤติกรรมของลูกในแต่ละวันที่ผ่านมา
ในช่วงนั้นอยู่ในสายตาของเราโดยตลอด ลูกบอกว่าสบายดีไม่ซีเรียส
พ่อก็เห็นว่าลูกสบายดีไม่ซีเรียสจริงๆนั่นแหละ


แต่ที่ลึกลงไปมากกว่านั้นหล่ะ กับความรู้สึกข้างในลึกๆ พ่อจะรู้ไม๊ ?
ถามลูกว่า นี่ใช่ความรักหรือเปล่า ลูกบอกว่า ไม่รู้ ... แต่ไม่น่าจะใช่
...


เขียนเพื่อเตือนภัยคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกสาว ระวังลูกสาวหายไปโดยไม่รู้สาเหตุ


counter เดิม 250
(อัพเดดใหม่ 2 พฤษภาคม 2551)




 

Create Date : 05 กันยายน 2550
29 comments
Last Update : 2 พฤษภาคม 2551 10:08:18 น.
Counter : 123 Pageviews.

 

เป็นคุณพ่อที่ดี และมีลูกที่น่ารัก ดีจัง ขอชื่นชมคะ

 

โดย: หนุ่มน้อยแห่งลุ่มแม่น้ำบางปะกง 5 กันยายน 2550 22:42:06 น.  

 

.... เข้ามายิ้มครับ...ดีจังครับ ที่น้องเค้ารู้จักกลัวเพื่อนใหม่ ไม่อย่างงั้น ไอ้หนุ่มนั่นคงคิดไปไกลกว่านั้น

ผู้ชายอ่ะครับ พอผู้หญิงยอมให้คืบ มันก็คิดว่าใจจริงคงยอมให้ศอก

ถ้าผู้หญิงยอมให้ศอก มันก็คิดว่าผู้หญิงคงยอมให้วา

สิ่งที่ผู้หยิงต้องการก็คือความมั่นคง
โดยเฉพาะความรักที่มั่นคง ฐานะที่มั่นคง อนาคตที่มั่นคง สาวๆ ที่ถูกหลอกกันแล้วก็เลยตามเลย เพราะความมั่นคงที่เขาหลอกล่อนี่ล่ะครับ

โชคดีครับ...ที่คุณพ่อเป็นทั้งพ่อ ครู เพื่อน แพทย์ น้องเลยรู้จักระวังตัว....

 

โดย: เสี่ยวเหลียงจือ 5 กันยายน 2550 23:07:15 น.  

 

อ่านแล้ว น่าตกใจนะคะ
จะรั้งเชือกอย่างไร ไม่ให้ตึง ไม่ให้หย่อนเกินไป
ช่างยากเย็นจริงๆ

ลูกสาว ... มีสติและฉลาดนะคะ
เก่งมากเลยค่ะ ชื่นชม ชื่นชม

 

โดย: พริม 5 กันยายน 2550 23:40:03 น.  

 

คุณพ่อน่ารักมากเลยคะ..

บรรยายจนแอบอินไปด้วย..แต่ดีแล้วคะเพราะสมัยนี้คนในอินเตอร์เนตไว้ใจยากจริงๆ...

นึกถึงตัวเอง..ในสมัยวัยรุ่น..(ตอนนี้ก็รุ่น..แต่รุ่นปลายแล้ว..อิอิอิ) เราอาจทำให้พ่อแม่เป็นห่วงในหลายเรื่อง..นะเนี่ย..

แต่ตอนนี้..โตแล้ว...ห่วงแต่น้องชายละคะ..

ขอบคุณที่นำมาเล่าสู่กันฟังคะ

 

โดย: ^^Ken-Ju***Pu-Jung^^ 5 กันยายน 2550 23:44:12 น.  

 

เป็นคุณพ่อที่น่ารักมากครับ

 

โดย: หมาเห่าดาวเทียม 5 กันยายน 2550 23:59:21 น.  

 

เป็นครอบครัวที่อบอุ่นดีนะคะ
ดีใจกับทั้งคุณพ่อและน้องด้วยค่ะ ที่ผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้ด้วยดี
และคิดว่าคงเป็นประสบการณ์อีกก้าวที่น้องเค้าจะเติบโตขึ้นและเข้าใจสังคมมากขึ้นค่ะ

 

โดย: Happy heart 6 กันยายน 2550 1:00:12 น.  

 

ลุงเต่ย...
เดี๋ยอุ้มจะแปลให้ลุงหนวดอ่าน นี่คือความแตกต่างของคำว่า"ใส่ใจ" ลุงเต่ยทำหน้าที่พ่อได้ดีมากๆค่ะ ลูกสาวถ้ามีพ่อเป็นHero มักไม่ค่อยเดินทางผิดพลาดนะอุ้มว่า เพราะในใจเขาจะเปรียบเทียบอยู่ตลอดเวลาว่าทำไมไอ้คนที่เดินเข้ามาในชีวิตน้องเขา กับพ่อของน้องเขา ช่างรู้สึกแตกต่างกันจังเลย อุ้มว่าลุงน่ะเข้าไปนั่งอยู่ในใจน้องเพลงแล้ว นี่ล่ะวัคซีนขนานเอกคอยป้องกันผู้ายชั่วร้าย ที่จะเข้าวุ่นวายในชีวิตน้องเขาล่ะ ชื่นชมเต็มๆเลยลุงเต่ย...

 

โดย: Bigmommy 6 กันยายน 2550 1:05:52 น.  

 

เพราะเป็นคุณพ่อที่เข้าใจมากๆ ลูกเลยมีความคิดความอ่านที่ดี ปลื้มใจแทนคุณพ่อค่ะ ที่เค้าปรึกษาคุณพ่อได้ทุกเรื่อง เก่งทั้งพ่อทั้งลูก ว่างั้นเหอะ เนอะ

 

โดย: ฟ้าสวยมาก 6 กันยายน 2550 1:52:59 น.  

 

ลุงต่ายค่ะ เรื่องราวแต่ละเรื่องที่ลุงเอามาเล่าให้ฟัง มันเป็นเรื่องที่ช่วยเตือนสติเตือนใจได้ดีมากเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับน้ำใจของลุงต่ายด้วยค่ะ

 

โดย: kateking(แม่คิงคอง) IP: 124.121.125.8 6 กันยายน 2550 8:38:37 น.  

 

ถ้าเป็นลูกสาว..มีคุณพ่อแบบนี้..รักตายเลยค่ะ

 

โดย: วรรณ wan_wan 6 กันยายน 2550 9:15:10 น.  

 

คุณBigmommyให้ความเห็นไว้ดีมากเลยค่ะ
"ลูกสาวถ้ามีพ่อเป็นHero มักไม่ค่อยเดินทางผิดพลาด...นี่ล่ะวัคซีนขนานเอกคอยป้องกันผู้ายชั่วร้าย "
อยากจะขอcopy ไปให้พ่อเจ้าปัณณ์ได้ศึกษา จากคุณพ่อต่าย ฮีโร่ของน้องเพลงบ้างค่ะ

 

โดย: patapril IP: 125.24.68.22 6 กันยายน 2550 9:18:45 น.  

 

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบ้านคะ บ้านนี้ก็มองแล้วสบายตาดีคะ เพลงก็เพราะ แต่ก็ขอชื่นชมคุณพ่อที่ดูแลลูกได้ดีมากคะ ส่วนคุณลูกก็เป็นเด็กดีคะเท่าที่อ่านแล้วก็เป็นเด็กที่ฉลาดทันคนดีคะแล้วก็เชื่อฟังคุณพ่อดีคะ

 

โดย: หนุ่มน้อยแห่งลุ่มแม่น้ำบางปะกง 6 กันยายน 2550 9:54:40 น.  

 

เป็นคุณพ่อเพื่อนรัก...
ไม่มีช่องว่างระหว่างพ่อกับลูก
น่ารักค่ะ

 

โดย: คนเลวที่แสนดี 6 กันยายน 2550 10:49:35 น.  

 

คำจากปากน้องที่ว่า ดูท่านิสัยไม่ค่อยดี เลิกคบดีกว่า

เท็จจริงเป็นเช่นไรแต่อย่างน้อยคือสิ่งแสดงว่า
ภูมิป้องกันที่พ่อสร้างไว้ มันได้ผลบ้าง ไม่มากก็น้อย เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ครับ

 

โดย: Untrue 6 กันยายน 2550 12:28:13 น.  

 

ลุงต่ายทำดีมากค่ะ

เปนผู้ใหญ่สมัยใหม่

ซึ่งแฝงไปด้วยสมัยเก่าไป

 

โดย: มดตะนาว IP: 58.136.18.194 6 กันยายน 2550 13:07:55 น.  

 

 

โดย: ฝั่งหัวใจ IP: 222.123.73.173 6 กันยายน 2550 13:14:24 น.  

 

วิสัยผู้ชายแบบนี้ เตือนได้ก้บอกลูกไปตรงๆเลย รู้ทันผู้ชาย

 

โดย: ลุงบู่มาเอง IP: 61.19.65.97 6 กันยายน 2550 13:16:47 น.  

 

แล้วลูกชายอะคะ ไหนลุงลองเล่าเรื่องเบื๊อกมั่งจิ เผื่อหนูจะเอาไว้ใช้กับเจ้าลูกชายมั่ง

น้องเพลงโชคดีมาก ๆ เลยค่ะ ที่มีคุณพ่อแสนดีแบบนี้

 

โดย: อิจิโงะจัง IP: 203.146.147.122 6 กันยายน 2550 13:30:26 น.  

 

น่ากลัวนะค่ะเนี๊ยะ หากพ่อไม่สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกไว้ก่อนมิแย่หรือ


 

โดย: แม่น้องเพชร IP: 202.91.18.192 6 กันยายน 2550 14:10:02 น.  

 

เยี่ยมไปเล๊ย
เป็นพ่อที่สุดยอดมาก

 

โดย: คุณแม่น้องธีสิส IP: 61.47.14.3 6 กันยายน 2550 14:46:02 น.  

 

น้องเพลงน่ารักมากๆค่ะลุง เป็นเด็กคนอื่นคงขึ้นรถไปกับเค้าแล้วล่ะ

ลุงต่ายเลี้ยงลูกดีจริงๆค่ะ

 

โดย: พจมารร้าย 6 กันยายน 2550 15:01:54 น.  

 

พี่ต่าย.....ใช่มั้ย
อ่านสำนวน และเหตุผลอ้างอิงประกอบ
ทำให้จำพี่ต่ายได้ค่ะ

ดีใจที่พี่ต่ายมาเยี่ยม
หลังจากที่หายไปนาน....คิดถึงเหมือนกัน อิอิ

พี่ต่ายกลับมาแล้ว ดีใจจัง
แต่เอ็กซ์กำลังจะหักดิบบล็อคแก้งค์อยู่อ่ะ

 

โดย: angel_exx (ALFA-TANGO) IP: 124.121.164.215 6 กันยายน 2550 16:25:12 น.  

 

อ่านกี่ครั้งก็ยังกลัวแทนเด็กสมัยนี้จังค่ะ
แต่คุณต่ายเป็นคุณพ่อคนดีที่หนึ่งเลย และน่ารักทั้งคุณพ่อและคุณลูกเลยค่ะ ชื่นชมๆ

 

โดย: ตองเจ็ด 6 กันยายน 2550 16:32:53 น.  

 

สุดยอดคุณพ่อค่ะ มีลูกสาวเหมือนกันแต่ยังแบเบาะอยู่เลยค่ะ เป็นห่วงอนาคตเหมือนกัน เดี๋ยวไปเรียกพ่อของลูกมาอ่านด้วยดีกว่า

 

โดย: นู๋จ๋ายเจ้าขา 7 กันยายน 2550 8:37:17 น.  

 

สวัสดีเจ้าค่ะ...

แหม..หวงลูกสาวจริงหนอ...แต่ก็น่าห่วงอยู่หรอก ลูกสาวเรา ถ้าไม่ห่วงลูกสาวจะให้ห่วงใครล่ะ จริงไหมเน้อ! ดีที่ลูกสาวพาพ่อไปด้วย จะได้ดูพฤติกรรมของหนุ่มๆที่มาติดพัน ไม่มีช่องว่างระหว่างวัย ไปไหนไปกันได้ ดีจริงแฮ่ะ...

ขอบคุณที่แวะไปคุยด้วยนะค่ะ...

 

โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) 7 กันยายน 2550 10:22:26 น.  

 



คุณต่าย
ถ้าพื้น BG ตัวนี้ขอแนะนำว่า
ให้เปลี่ยนฟร้อนตัวหนังสือเป็นสีขาว
ตัวหนังสือจะได้ไม่จมหายไปกับบีจี
และเพิ่มขนาดตัวหนังสือ 14 นะคะ
ฝันดีเจ้าค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 9 กันยายน 2550 1:07:23 น.  

 

อยากมีแฟนโดยไม่ต้องขอแม่จะทำยังไงนะ

 

โดย: กิ๊ก IP: 202.143.146.234 30 ตุลาคม 2550 12:39:28 น.  

 

ดีคับ...ยินดีที่รู้จักอ่ะ...เมล์เราแอตได้นะ
chao_chay@hotmail.com

 

โดย: เจ้าชาย IP: 61.47.1.98 17 มกราคม 2551 11:19:08 น.  

 

ดีค่ะเบเบ้กำรังหาเพื่อนอยู่เลยค่ะ



 

โดย: เบเบ้ IP: 202.143.149.101 22 พฤษภาคม 2551 13:09:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Pleng-Ticha-korn
Location :
สุพรรณบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








ลูกเล่า-พ่อเขียน
ลูกเขียน-พ่อนั่งปลื้ม

แมวไม่อยู่หนูอดโซ



เป็นคนที่ไม่มีอะไร
ที่น่าสนใจเท่าไรนัก
บางครั้งบางทีอาจดูต๊องส์ๆ
เสียด้วยซ้ำ





คนเราแก้ไขอดีตไม่ได้
แต่เราแก้้ไขอนาคตได้


บางเวลา
บางจังหวะของชีวิต
ก็ใช่ว่าจะราบรื่น
ตกหลุมตกบ่อมาก็มาก
ระวังเสมอไม่ให้ตกเหว
พ่อเองพยายามพยุงลูกๆให้ลุกเดิน
ถึงฝั่งด้วยมั่นคง
เจ้าลูกชายมาได้ครึ่งทาง
ลูกสาวจะถึงปลายทางอยู่รอมร่อ




หวังอยู่มากเหมือนกัน
ที่จะพยายามสร้างความมั่นคง
ให้กับพวกเค้า
พยายามสุดสามารถเช่นกัน
ที่จะไม่ให้พวกเค้าต้องมาลำบาก
เศรษฐกิจบ้านเรา
มันไม่ได้ดีอย่างที่ใครๆ เค้าคิด
พ่อสอนลูกเสมอว่า
สิ่งที่ลูกได้เห็น ได้รู้
และได้สำผัส

นั่นแหละมันคือของจริง
เชื่อมั่นในสิ่งที่เห็น
ศรัทธาความจริง
อย่าเอาตัวเราเองไปวัดกับใครเค้า
แล้วก็อย่าเอาเค้า
มาเป็นบรรทัดฐานให้กับตัวเรา

"ทำด้วยตัวเองให้ถึงที่สุด
เมื่อต้องรู้ว่าไม่ไหว
แล้วค่อยกวักมือเรียกใครเค้า"

ศรัทธาไม่ละลาย
ลมหายใจยังอุ่นๆ
Friends' blogs
[Add Pleng-Ticha-korn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.