" จุติมาจากฟากฟ้า ดั่งเทวาฟ้าประทานจวบเป็นวาร...ชาติลำเค็ญเขาย่ำยีขัตติยะมีเปี่ยมล้น ช่วยไทยพ้นทุกข์ทวีไม่หวั่นเกรงภัยรอบร้าย....ที่มีดังหลักชัยแห่งไทยนี้ตลอดกาลท่านเกิดมาเพื่อนำชัย ผู้เกรียงไกรผู้ครองแผ่นดินอยู่เมืองไกลด้วยใจที่แสนห่วงด้วยรักปวงประชาสู้อดทนไม่เคยหวั่นผูกพันลึกซึ้งจริงใจไม่ให้มองว่าไทยไร้ค่าวีรกษัตริย์ไทยสู้เพื่อชาติและนำชัยผู้มีใจเกินร้อยยิ่งให้ความหวังผองมิตรและความสุขและถึงภูมิใจได้มาไม่ว่ามีทุกข์ร้อนใดท่านทรงเคียงข้างเราดั่งเป็นชัยนำไทยให้แสงสว่างวีรกษัตริย์ "
พระมหากษัตริย์ไทยลำดับที่ 18 ของกรุงพระนครศรีอโยธยา แห่งราชวงศ์สุโขทัย ผู้มีพระชาติทั้งราชวงศ์สุพรรณภูมิแลราชวงศ์สุโขทัย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เสด็จพระราชสมภพ ณ พระราชวังจันทร์ เมืองพระพิษณุโลก สองแคว เมื่อปีเถาะพุทธศักราช 2098 พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาและพระวิสุทธิกษัตริย์ พระราชธิดาในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิและสมเด็จพระสุริโยทัยทรงมีพระพี่นาง พระนามว่าพระสุวรรณเทวีหรือพระสุพรรณกัลยา และพระน้องยาเธอพระนามว่าสมเด็จพระเอกาทศรถ สืบจากสงครามคราวสมเด็จพระสุริโยทัยกระทำยุทธหัตถีกับพระเจ้าแปรและสิ้นพระชนม์ชีพบนคอพระคชาธาร ในปี 2091 ซึ่งพระเจ้าหงสาวดีลิ้นดำตะเบ็งชะเวตีทรงนำทัพมาด้วยพระองค์เอง โดยเมื่อกลับถึงพม่าก็เสียพระทัยมาก ทรงเสวยแต่น้ำจันทน์ไม่สนใจในราชการงานเมือง จนทำให้ถูกอำมาตย์ลอบปลงพระชนม์ โดยบุเรงนองผู้พี่เขยได้ขึ้นเสวยราชสมบัติ ทรงพระนามว่าพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง โดยพระเจ้าหงสาวดีพระองค์นี้หมายจะเอาอยุธยาเป็นเมืองขึ้นแก่หงสาวดีจึงแต่งสาส์นขอช้างเผือก 2 เชือกจากกรุงพระนครศรีอโยธยา แต่การนั้นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์มิทรงยินยอมมอบให้ ลุปี พ.ศ. 2106 พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองจึงกรีฑาทัพ 200,000 มาตีอโยธยาทางด่านระแหงแขวงเมืองตากกองทัพพม่าเข้าตีหัวเมืองเหนือได้ทั้งหมด โดยสมเด็จพระมหาธรรมราชาจำต้องยอมสวามิภักดิ์ด้วยเกิดโรคระบาดขาดไพร่พล ในการนี้พระเจ้าสิบทิศบุเรงนองจึงขอตัวพระนเรศวร ซึ่งในขณะนั้นยังทรงพระเยาว์เพียง 9 พรรษา ไปเป็นองค์ประกัน จากนั้นจึงได้ยกทัพเข้าล้อมกรุงพระนครศรีอโยธยาพร้อมระดมยิงปืนใหญ่กระหน่ำจนสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ต้องทรงเจรจาขอหย่าศึก โดยในการนั้นฝ่ายพม่ได้ขอช้างเผือก 4 เชือก พร้อมกับขอตัวพระราเมศวร พระยาจักรีและพระยาสุนทรสงครามไปยังหงสาวดี ระหว่างที่สมเด็จพระนเรศวรประทับอยู่ที่กรุงหงสาวดีในฐานะขององค์ประกัน 6 ปี ทรงเป็นที่รักใคร่ของพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองชนะสิบทิศ ด้วยทรงมีพระปรีชาสามารถด้านพิชัยยุทธและองอาจกล้าหาญ ซึ่งทรงได้ศึกษาวิชาศิลปศาสตร์และพิชัยสงครามและการรบทัพ ทรงมีโอกาสศึกษา สรรพวิทยาทั้งราชสำนักไทย พม่า มอญ และเรียนรู้ยุทธวิธีของชาติต่างๆ ที่มาอยู่รวมกันในกรุงหงสาวดีเป็นอย่างดี ปี พ.ศ. 2112 เมืองพระพิษณุโลกสองแคว ฝ่ายเหนือและกรุงพระนครศรีอโยธยาราชธานีฝ่ายใต้ครั้งนั้นเกิดขัดแย้งปีนเกลียว พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองเห็นเชิงสบโอกาสจึงยกทัพใหญ่เข้าตีกรุงศรีอโยธยา ศึกครั้งนั้นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ทรงลาผนวชมาบัญชาการรบด้วยพระองค์เอง แต่อยู่มิได้นานก็เสด็จสวรรคตระหว่างศึก พ.ศ. 2113 สมเด็จพระนเรศวรได้เสด็จนิวัติจากกรุงหงสาวดี ลุปี พ.ศ. 2114 สมเด้จพระมหาธรรมราชาซึ่งพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองชนะสิบทิศสถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์ครองกรุงพระนครศรีอโยธยา ก็โปรดให้สมเด็จพระนเรศวรเสวยราชย์ครองเมืองพระพิษณุโลก สองแคว เป็นใหญ่เหนือหัวเมืองเหนือทั้งปวงครั้น พ.ศ. 2126 พระเจ้าอังวะก่อกบฎแข็งเมือง พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงจึงยกทัพหลวงไปปราบ ในการณ์นี้ได้สั่งให้พระเจ้าแปร เจ้าเมืองตองอู เจ้าเมืองเชียงใหม่รวมทั้งกรุงศรีอโยธยายกทัพไปช่วย ไทยโดยสมเด็จพระนเรศวรทรงยกทัพออกจากเมืองพระพิษณุโลกสองแควเมื่อวันแรม 6 ค่ำ เดือน 3 ปีมะแม พ.ศ. 2516 พระองค์ทรงยกทัพไปอย่างช้าๆ เพื่อให้การปราบปราเจ้าอังวะเสร็จสิ้นไปเสียก่อน ทำให้พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองคลางแคลงใจและหาทางกำจัดสมเด็จพระนเรศวร กองทัพของสมเด้จพระนเรศวรยกมาถึงเมืองแครงเมื่อวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 6 ปีวอก พ.ศ. 2127 โดยรั้งทัพอยู่ที่นอกเมือง การณ์นั้นพระมหาเถรได้กราบทูลเรื่องการคิดร้ายของพระเจ้ากรุงหงสาวดี เมื่อพระองค์ทรงทราบความโดยตลอดแล้ว ก็ทรงดำริเห็นว่า การเป้นอริราชศัตรูกับกรุงหงสาวดีนั้นถึงกาลที่จะต้องเปิดเผยแล้ว จึงได้รับสั่งให้เรียกประชุมแม่ทัพนายกอง แล้วนิมนต์พระมหาเถรแลพระสงฆ์มาเป็นสักขีพยาน