คาเมนไรเดอร์คิบะ ตอนที่ 6

คาเมนไรเดอร์ คิบะ ตอนที่ 6 : ปะทะพลังหื่นรุ่นแม่สู่รุ่นลูก บาสช่าฟอร์มออกโรง จากตอนที่แล้วทั้งด้านปี 1986 ยูริก็ถูกสไปเดอร์แฟงไกอาลักพาตัวไป ทางด้านปี 2008 เมกุมิที่เพิ่งช่วยคิบะจากชีพแฟงไกอา ก็ถูกจับตัวไปเช่นกัน เพราะเจ้านาโกโผล่มาขวางคิบะแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ทำท่าจะแปลงร่างแต่ดันกั๊กไว้ไม่ได้แปลง พอเมกุมิถูกจับตัวไป วาตารุก็คืนร่างจากการเป็นคิบะ นาโกพยายามถามว่าเห็นคิบะไปทางไหนหรือไม่ วาตารุเหมือนจะพยายามบอกว่าเป็นตัวเขาเอง แต่นาโกไม่เชื่อแน่นอนว่าไอ้กากแบบนี้จะเป็นคิบะ ไม่น่าเชื่อ ตอนนี้เรามีบทแค่นี้เรอะ ตัดมาที่ปี 1986 ยูริที่ถูกลักพาตัวไปเป็นคนสำคัญขององกรณ์มาก (คงจะหาคนสวยแบบนี้ในหน่วยไม่ได้อีกแล้ว) ชิมะจึงต้องยอมมาเจรจากับป๋าขี้หลีโอโตยะ ให้ช่วยงานในการตามหายูริ แต่ไม่รู้ว่าป๋าเราเล่นสำนวนขนาดไหน ทำทีไม่ค่อยตกลง แต่ท้ายที่สุดก็ยอม (ไม่ยอมสิแปลก การได้ไปช่วยสาวที่กะหลีไว้แบบนี้ พลาดได้ไง) ในช่วงที่สนทนาอยู่นั้น การูลูก็แอบฟังอยู่ด้วย จริงๆองค์กรณ์เรากะส่งเธอเข้าประกวดด้วย เพราะช่วงนี้รายได้องค์กรณ์เริ่มติดตัวแดง ด้านยูริที่ถูกไอ้แมงมุมหื่นจับตัวไป ก็รู้ความจริงว่าไอ้ตัวที่จับเธอมาคลั่งไคล้เธออย่างมาก แบบพวกสโตลเกอร์โรคจิต เพราะมีรูปเธออยู่เต็มไปหมดเลย เมื่อโผล่หน้ามาก็จำได้ว่าคือสไปเดอร์แฟงไกอา ที่ออกมาในตอนที่ 1 แล้วหายไป หมอนี่สารภาพว่าได้ปิ๊งแรกพบกับยูริซะนั่นเอง แล้วเริ่มออกลายต๊องๆให้เห็นจนได้ สภาพแบบนี้มันโรคจิตสมบูรณ์แบบ จำได้อ๊ะป่าวว่าผมเล่นหนังฮีโร่เรื่องอะไรมาบ้าง เคยเป็นทั้งฝ่ายพระเอกและผู้ร้ายเลยนะ ตัดมาที่ปี 2008 เมกุมิที่ถูกจับตัวไป เธอก็อยู่ในที่เดียวกันกับเมื่อ 22 ปีก่อนที่แม่ของเธอถูกจับตัวไว้ และได้เห็นภาพของแม่เธอที่ประดับอยู่ ตอนนั้นไอ้แกะหื่นก็โผล่มาเสนอหน้า แต่ว่าเบื้องหลังการสั่งการกลับคือ ไอ้แมงมุมหื่นของเมื่อ 22 ปีก่อนนั่นเอง แถมเรียกเมกุมิว่ายูริซะด้วย ท่าทางมันจะสับสนแยกแม่แยกลูกไม่ออก แต่ว่าบุคคลิกของมันยังไม่เปลี่ยนแปลง ไอ้แกะหื่นพยายามจะแตะต้องเมกุมิ แต่ก็โดนมันหึงขวางไว้ นี่แกกะฟันแม่พลาดเลยมาฟันลูกต่อใช่มั้ย 22 ปีผ่านไป มุขก็ไม่พัฒนา ตัดมาที่ปี 1986 โอโตยะพยายามจะหาเบาะแสการติดตามยูริที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่รู้จะตามได้ยังไง ตอนนั้นเองการูลูก็เข้ามา และใช้พลังดมกลิ่นที่เก่งกาจดุจหมา (ก็หมานี่หว่า) เลยสามารถพาโอโตยะไปที่ยูริถูกจับตัวไว้ได้ แต่ก็ช่วยแค่นั้น ว่างๆไปช่วยตำรวจดมหายาบ้าทีสิ ยูริที่ถูกไอ้แมงมุมหื่นจับไว้ กำลังจะถูกแต่งตัว เพราะมันกะลากไปเป็นเจ้าสาว ในเวลานั้นเองโอโตยะก็ย่องมาข้างหลังเพื่อบ้อมหัวมัน และ.... นอกจากมันจะหื่นแล้วยังเพี้ยนซะด้วย ตัดมาที่ปี 2008 ด้านวาตารุก็พยายามตามหาเมกุมิ (แล้วไอ้นาโกมันหายไปไหนฟะ ไหนบอกว่ารักเมกุมิไง) แต่ก็ไม่สามารถหาได้ แต่แล้วคนที่ไม่น่าเชื่อที่นำเขาไปยังที่ซ่อนของไอ้แมงมุมหื่นก็มา นั่นคือไอ้แกะหื่นนั่นเอง คงเพราะไม่ลงรอยกันแย่งสาวกันแน่ๆ พอไปถึงวาตารุก็มาขอไอ้แมงมุมหื่นให้ปล่อยเมกุมิง่ายๆ แน่นอนไม่ง่าย โดนอัดลงไปหมอบ ส่วนไอ้แกะหื่นก็โดนไอ้แมงมุมหื่นแปลงร่างขู่ แค่นิดเดียวมันก็หนีไปเลย (อะไรหว่า ก็แฟงไกอาด้วยกัน อยากได้สาวทำไมไม่มาตบแย่งไปเองละฟะ) สาวสวยแบบนี้มาขอกันง่ายๆได้ไงฟะ ต้องมีมวยกันก่อน ตัดมาที่ปี 1986 ป๋าโอโตยะก็ทำได้ตามคาดคือ โดนอัดหมอบและจับมัดไว้ แต่ในตอนนั้นช่วงที่ไอ้แมงมุมหื่นหลบไปเตรียมชุดแต่งงาน ยูริก็บอกให้โอโตยะอย่าเพิ่งยอมแพ้ ให้เอาเอาสร้อยคอของเธอมาตัดเชือกให้ขาดแล้วช่วยกันหนี ระหว่างนั้นก็ได้คุยกัน ดูเหมือนยูริจะเริ่มใจอ่อนนิดๆกับป๋าขี้หลีของเราซะแล้ว ไม่รู้ว่าโดนคารมอะไรต้องรอดูซับอีกทีนะครับ แต่ว่าไม่ทันที่จะตัดเชือกขาด ไอ้แมงมุมหื่นก็เข้ามาโชว์ชุดแต่งงาน สร้อยคอที่ใช้ตัดเชือกก็ถูกทิ้งไว้แถวนั้น เริ่มหลงคารมป๋าแล้วสิ กลับมาที่ปี 2008 คู่เมกุมิกับวาตารุก็ถูกจับมัดไว้ คล้ายกับสมัยพ่อกับแม่ เมกุมิยังพูดคล้ายๆกับแม่ด้วยว่าอย่ายอมแพ้ ตอนนั้นเธอก็เห็นสร้อยคอของแม่เธอที่ตกไว้ (เยี่ยม 22 ปี ยังไม่มีใครเก็บไปอีก) เมกุมิหยิบมาไว้แต่ไม่ทันตัดเชือก ไอ้แมงมุมหื่นก็โผล่มาเอาชุดเจ้าสาวมาพอดี แต่เธอก็ส่งสร้อยให้วาตารุไว้ได้ ช่วงนั่นไอ้แกะหื่นก็โผล่มาในร่างแฟงไกอา แล้วยิงขู่ไอ้แมงมุมหื่นไว้ ไอ้แมงมุมหื่นกลับวิ่งหนีออกไปทันที (อ้าว ไหงมันไม่สู้หว่า ทีแรกก็แปลงร่างได้) ตอนนั้นเองไอ้แกะหื่นเลยสวมรอยต่อ ที่จะพาเมกุมิไปเป็นเจ้าสาวของมัน เจอสาวสวยกล่อม วาตารุเริ่มทิ้งความวายแสดงความแมนขึ้นมาทันที ต่อให้แกก้มกราบแผ่นดิน ฉันก็ไม่ยอมเฟ้ย ตัดมาที่ปี 1986 ยูริที่กำลังถูกไอ้แมงมุมหื่น จับใส่ชุดเจ้าสาวและจะแต่งงาน ตอนนั้นเองป๋าโอโตยะก็มาในมาดพระเอกเข้ามาช่วยไว้จนได้ มาด้วยอาวุธพลองสองสี แต่จะช่วยได้รึเปล่าล่ะ ไอ้แมงมุมหื่นเริ่มจะล้ำเส้น เรื่องอะไรป๋าจะยอม ดูพลองสองสีสุดหวานแหววของป๋าซะก่อน ทางด้านปี 2008 เมกุมิก็โดนไอ้แกะหื่นจับใส่ชุดเจ้าสาวเตรียมจะแต่งงาน (น่าจะดูดพลังมากกว่า) แต่คนที่ตามมาช่วยก็คือวาตารุนั่นเอง วาตารุที่ได้สร้อยที่เมกุมิให้ไว้ได้ตัดเชือกขาด และเขาพยายามจะตามหา ก็ใช้จิตสัมผัสถึงตัวเมกุมิ (นึกถึงสาวสวยมากกว่า) ทำให้ความแมนเข้าครอบงำ สามารถตามมาได้ถูก และแน่นอน ไอ้ค้างคาวปากมากคิบัตก็โผล่มาก่อน จากนั้นวาตารุก็แปลงร่างเป็นคิบะเข้าต่อสู้กับไอ้แกะหื่นในทันที ไอ้แกะหื่นนี่ไม่ลงทุน เพราะชุดและสถานที่ไอ้แมงมุมหื่นมันเตรียม อ๊ะ วันนี้กัดมือขวา ทางด้านปี 1986 ป๋าโอโตยะที่เสี่ยงเข้าไปลุยกับไอ้แมงมุมหื่นก็สู้ไม่ได้ โดนซัดหมอบ แต่ว่าตอนนั้นก็มีตัวช่วยที่คาดไม่ถึง นั่นคือการูลู เขาได้เข้ามาต่อสู้กับไอ้แมงมุมหื่น ซักพักก็โชว์การแปลงร่าง กลายเป็นร่างหมาป่าสีน้ำเงิน เชื้อพิษสุนัขบ้าจะเข้าทางสมอง มีการตั้งท่าแปลงร่าง ไม้ต้องรอฟ้าผ่า กลายร่างเป็นหมา การูลู มาแล้ว การต่อสู้ระหว่างไอ้แมงมุมหื่นกับไอ้หมาป่าคอกาแฟ เป็นไปอย่างดุเดือด แต่ทางด้านการูลูดูท่าจะเหนือกว่า ไอ้แมงมุมหื่นเลยใช้แผนยิงใยแมงมุมใส่หน้า แล้วหลบหนีไป พลังกาแฟย่อมชนะขาด เผื่อคราวหน้าเนสกาแฟจะได้มาเป็นสปอนเซอร์ กลับมาปี 2008 คิบะต่อสู้กับไอ้แกะหื่นได้ลำบากตามเดิม เพราะความเร็วที่มันคล็อกอัพได้ (ใช่เรอะ) แถมยังมีปืนเป็นอาวุธ แต่นั่นล่ะทำให้พวกมอนสเตอร์ช่วยเหลือต้องออกโรง ตอนนั้น การูลูกับด๊อกก้ากำลังโขกหมากรุกกัน เลยไม่ว่างไปช่วย บาสช่าที่ว่างตัวเดียว (เหมือนจะเป็นเบ๊) เลยโชว์เทพ ใช้พลังจิตบังคับหมากรุกเบี้ยกินเล่นๆ ก่อนที่จะถูกเรียกตัวจากเสียงนกหวีด กลายร่างเป็น บาสช่าแมกนั่ม ลอยไปหาคิบะ แล้วทำการโอเวอร์โซลรวมร่างไม่มีปาหมอน ทำให้คิบะกลายร่างเป็น บาสช่าฟอร์ม ที่ใช้ปืนไล่ยิงไอ้แกะหื่นได้อย่างสบาย ไม่น่ายกปืนโชว์มันเลย เลยใบ้ให้คิบะเรียกปืนมาใช้ บาสช่า .. แมกนั่ม !!! ไอ้หนูไดกิ (ชื่อตอนแสดงในเดนโอนะครับ) โชว์ร่างวิญญาณของพรายน้ำ ปืนฉีดน้ำลอยมาอยู่ในมือขวา วิญญาณพรายน้ำเข้าสิง บาสช่าฟอร์ม มาตามใบสั่งบันได การเปลี่ยนฟอร์มของคิบะ คงจะเป็นการถูกสิงแบบเดียวกับเดนโอ เพราะตอนนี้จะเห็นได้ชัดเลยว่า เสียงของบาสช่าฟอร์มจะเป็นเสียงของเด็กเลย ไอ้แกะหื่นแม้จะมีความเร็วสูง วิ่งหลบกระสุนปืนฉีดน้ำของบาสช่าฟอร์มได้ แต่ว่าบาสช่าฟอร์มก็งัดไม้ตายออกมาใช้นั่นคือ อควาทอเนโด เป็นกระสุนนำวิถีไล่ตามไอ้แกะหื่นและจัดการได้อย่างสบาย พี่แกะขอคล็อกอัพโชว์ก่อนตาย บาสช่า ไบท์โตะ !! อภินิหารสุดยิด เรียกพระจันทร์มาไม่พอ เปลี่ยนพื้นเป็นน้ำได้ด้วย ต้องโชว์เงาจันทร์ตกน้ำ เรียกพลังคลื่นน้ำออกมารอบตัว ไรเดอร์ ชูตติ้ง ! ไม่ใช่ล่ะ ท่าไม้ตายย่อมมีการประทับสัญลักษณ์ประจำตัว แฟงไกอาที่โดนท่าไม้ตายนี้จะเหมือนโดนแช่แข็ง พอคิบะมาจิ้มก็แตกสลายอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นวาตารุก็ไปเยี่ยมเมกุมิ เขาสามารถเล่นไวโอลินโชว์ต่อหน้าเมกุมิได้อย่างไม่เกร็ง ชิสุกะที่อยู่ด้วยก็บอกว่าเป็นครั้งแรกที่วาตารุสามารถเล่นไวโอลินต่อหน้าคนอื่นได้ ซึ่งทำให้วาตารุเริ่มมั่นใจในตัวเองมากขึ้น (หรือว่าสายเลือดขี้หลีกำลังเริ่มตื่นแล้ว) คุณพ่อสอนไว้ว่า สีไวโอลิน มีไว้เพื่อสีหญิง แต่ว่าทางด้านปี 1986 การูลูที่เพิ่งช่วยเมกุมิกับโอโตยะไป ก็เริ่มออกอาการแปลกๆ ดูเหมือนเขากำลังจะกลายร่างเป็นหมาป่าออกมาเอง พบเห็นสุนัขต้องสงสัยว่าจะเป็นสุนัขบ้า โปรดแจ้งเทศบาล เหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อไป ความเกี่ยวพันของช่วงปี 1986 กับปี 2008 กำลังจะเริ่มถูกเผยออกมาทีละน้อย ต้องคอยติดตามให้ได้นะครับ

Create Date : 02 มีนาคม 2551		6 comments
Last Update : 2 มีนาคม 2551 23:33:51 น.
Counter : 2269 Pageviews.
Share Tweet