...ไหว...ไหว...ยอดหญ้าส่าย ในป่าฝน....เพียงยอดหญ้าไหว ที่บ้านปลายฟ้า.......
ไข้หวัดของ "นก"





มาแนะนำหนังสือค่ะ




สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ ฉบับวันที่ 18-24 มีนาคม 2551



หนังสือเกือบจะถอนจากแผงอาทิตย์นี้แล้ว เจ้าตัวเพิ่งว่างออกตลาดค่ะ
เลยเพิ่งรู้ว่ามีงานเรื่องสั้นได้ตีพิมพ์ฉบับนี้


เลยมาส่งข่าวค่า






"ไข้หวัดนก" คือ เรื่องสั้นของปลายแปรงที่ได้ตีพิมพ์ฉบับนี้

เอาตัวอย่างท่อนแรกมาให้อ่านกันนิดหน่อยค่ะ



ไข้หวัดนก
โดย ปลายแปรง



ทามิฟลูปลอมระบาดหวั่นผลข้างเคียง เตือนพื้นที่เสี่ยงภัยทำลายไก่ทิ้ง
คนเลี้ยงไก่ไร้ทางออก คุมวัคซีน ขาดทามิฟลู
โกสินทร์อ่านพาดหัวหนังสือพิมพ์แล้วลูบคางตรองเนื้อข่าว ไข้หวัดนกติดถึงคนแล้วตายเร็วกว่าเชื้อใดๆในโลก ณ เวลานี้
“ ฉิบหายแล้วหลาว “ น้าชายวัยไม่ต่างจากเขามากนัก ทรุดตัวลงพิงประตูขนำหน้าเล้าไก่อย่างระทดท้อ
“ ไส “ เขาถามสั้นๆ
เจ้าของเล้าไก่ส่ายหน้าอย่างหมดอาลัยในชีวิต โกสินทร์เหลือบดูหนังสือตราครุฑที่ถ่ายเอกสารมาจนตัวหนังสือพร่าเลือนในมือน้าชาย จังหวัดส่งหนังสือ “ด่วนที่สุด” ให้กับอบต.สำเนาแจกประกาศพื้นที่ระบาดของไข้หวัดนกพร้อมสั่งทำลายไก่และสัตว์ปีกในบริเวณที่ไก่ตายอย่างผิดปกติทันที
“ ต้องฝังไก่เมื่อไร “ เขาถามตรงๆ ปกติของการเลี้ยงไก่เนื้ออากาศเย็นเกิน ร้อนเกิน เด็กอุตริจุดประทัดใกล้ ไก่ยังช็อกตายเป็นสิบๆ แต่ไก่ของน้าชายดันมาตายตอนเป็นพื้นที่ระบาด
“ มันห้อยคอตายกันครึ่งเล้า คอกฝ่ายโน้นก็เริ่มหยองย่อแล้ว พ่อเอ็งต้องแจ้งปศุสัตว์มาแล เขาบอกต้องขุดหลุมฝังหมด เหม็ด.....เหม็ดกันกู ”
“ เดี๋ยวช่วย “ เขาบอกเบาๆราวกับไม่อนาทรร้อนใจกับภัยพิบัติแห่งชีวิตคนเป็นน้า
“ คงต้องขุดหลุมสัก 4-5 หลุม ปศุสัตว์จะมาฝังแล้วฆ่าเชื้อให้ “
โกสินทร์พยักหน้า ผลุดลุกขึ้นสูดอากาศช้าๆ เนิ่นนาน พรุ่งนี้.....วันหายนะของคนเลี้ยงไก่ อนาคตเงินแสนอีกเดือนกว่าๆก็จะได้ถือ กำลังจะถูกฝังไปพร้อมกับไก่นับหมื่นๆตัว
“ เดี๋ยวบ่ายๆจะมาขุดให้ เข้าหลาดสักพัก “ น้าชายมุ่นคิ้วกับน้ำเสียงเนิบๆ ไร้ชีวิตจิต ใจของหลานรัก กลับลงมาจากสวนยางรอบนี้เขาทำตัวเงียบผิดปกติของคนอารมณ์ดี หรือจะไม่ค่อยสบายจึงไม่อยากเล่นหัวกับใคร
“ ไม่บายแล้วไปเที่ยวหลาดทำไหร....กลับบ้านไปหายากินแล้วนอนเสียไม่ต้องมาช่วยกู่จ้าวก็ได้ “
ชายหนุ่มยิ้มยืนยันว่าจะช่วย น้าชายพยักหน้าหงึก สงสัยพฤติกรรมหลานอยู่ครามครัน แต่อนาคตตนก็เลวร้ายเสียจนไม่มีใจไถ่ถาม เอาไว้เสร็จเรื่องไก่ค่อยกอดคอมันไปกินเหล้าปลดเปลื้องเรื่องในหัวใจกัน



0000000000 00000000 000000000

โกสินทร์.....ลูกชายกำนันคนดังเจ้าของสวนยางใหญ่คลุมเขาไม่รู้กี่ลูก หนุ่มฉกรรจ์ที่กำเงินเป็นหมื่นๆทุกรอบสิบกว่าวันเมื่อถึงเวลาออกยาง บรรดาร้านอาหารในตำบลและอำเภอ ให้การต้อนรับขับสู้ชนิดที่เด็กในร้านชิงกันมาบริการ แม้พี่สินทร์จะมาในสภาพเหม็นกลิ่นขี้ยางอับชื้น ชวนคลื่นเหียน ก็ยังเป็นกลิ่นหอมละมุนให้น้องๆเพ้อหา
แต่ทุกครั้งพี่สินทร์ต้องมาเยือน “น้องนกคาราโอเกะ” ร้านมุงตับจากสองห้องซ่อนอยู่ในซอกตึก
เก่าแห่งหลืบมุมอาทิตย์อับแสง แสดงตนด้วยป้ายหน้าร้านเขียนสีกระป๋องทาบ้านจัดจ้าน หยาบดิบ
คืนค่ำ....ยามแสงโรยลับ ต้นไม้พันไฟราวกับมัมมี่กระพริบวิบวับ กระชากใจหมู่ภมรหวามไหว แม้ไฟวิ่งบนเชิงชายย้อยสายอย่างไร้ศิลปะ โต๊ะเก้าอี้มอมแมมไร้การดูแล ฝีมืออาหารไร้รสอย่างสิ้นเชิง “น้องนกคาราโอเกะ” กลับมีโต๊ะจองคิวร้องเพลงแน่นขนัด ยิ่งวันไหนฝนตกหน้ายางเปียก จะมีเพลงพม่า เพลงมอญงองแงงอยู่ตามมุมร้านอื้ออึง
อาหารชั้นเลิศที่ “น้องนกคาราโอเกะ” เหนือกว่าใคร คือ เด็กเสิร์ฟที่คอยชงเหล้า รินเบียร์ ฉอเลาะป้อนอาหารเป็นครั้งครา น้องๆทั้งห้าหามีใครเกิน 17 ปีไม่ แต่ละนางขาวกว่าคนพื้นถิ่น อีกยังอวบอิ่มเต็มตา แต่สุดยอดของสุดยอดต้องยกให้ “น้องนก” ลูกสาวคนเดียวของเจ้าของร้าน
“บั้นท้ายยกถาด” เป็นสมญานามที่โกสินทร์ตั้งให้อย่างรักใคร่เอ็นดู จนกลายเป็นที่รู้จักแพร่หลายว่า “น้องนกก้นยกถาด”
พ่อกับแม่น้องนกเป็นคนต่างถิ่น เข้ามารับจ้างในเหมืองแร่ยุคสุดท้า เถ้าแก่ยกที่ดินให้พอสร้างบ้านคุ้มหัว เร่ขายไก่ย่าง ส้มตำอยู่พักใหญ่ ครั้นเห็นลูกสาวคนเดียวเริ่มมีหนุ่มๆมาติดพันตั้งแต่ยังเรียนประถมปลาย จึงเปิดร้านลาบ ส้มตำให้น้องนกมาหยิบจับจัดจาน ขยุ้มผัก ยัดข้าวเหนียวหลังเลิกเรียน ทันทีที่จบม.3 ร้านลาบแปลงร่างเป็นร้านคาราโอเกะในทันใด แรกๆน้องนกหวงเนื้อ หวงตัวตามประสาหญิง ต่อมาลูกค้าได้ลูบนิดล้วงหน่อย ค่าทิปที่บรรจงวางกลางอุ้งมือน้องมันเพิ่มขึ้นจนน่าตาลุก
แม้ว่าพ่อแม่น้องนกพยายามเจาะเรือให้ล่มจมหนอง แต่มักจะถูกกีดกันจากผู้คนที่นิยมศรัทธากำนัน ในที่สุดก็เลิกคิดเมื่อน้องนกคำนวณตัวเลขให้เห็นเป็นรูปธรรม ถึงพี่สินทร์จะทิปหนักเดือนหนึ่งก็ไม่เกิน 4 ครั้ง แต่รายได้ประจำอีก 20 กว่าวัน....ไม่เป็นกอบเป็นกำ แต่เป็นเส้นเลือดใหญ่ที่เลี้ยงดูทั้งร้าน และสำคัญกว่านั้น....พี่สินทร์ดันเชื่อฟังคำพ่อกำนันอย่างเคร่งครัด
“ กินอ้อย เคี้ยวหมาก ขากน้ำ คายชานทิ้งเสียนอกรั้ว.....อย่าได้เผลออมไว้มาคายบนเรือน มดไรจะตอมไต่ให้รำคาญคนร่วมบ้าน “ พ่อกำนันเตือนลูกชายทุกครั้งก่อนท่องราตรี




0000000000 00000000 000000000



ถ้าจะติดตามอ่านต่อ.....รอสักพักค่ะจะเอามาวงบล๊อคให้อ่าน

แต่พักขนาดไหนไม่รู้นะคะ.....ไม่รับประกัน....ฮี่...ฮี่






Create Date : 24 มกราคม 2551
Last Update : 28 มกราคม 2551 8:25:01 น. 24 comments
Counter : 1455 Pageviews.

 
อ่านเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาล่ะค่ะ

ยินดีด้วยค่ะ...

วันนั้นว่าจะเข้ามาถามคำแปลภาษาใต้เหมือนกัน แหะๆ


โดย: เพลงฝนต้นลมหนาว วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:17:04:54 น.  

 
ตะกี้ไปยืนหน้าแผงหนังสือแล้ว
ทำไมไม่เรียก...หา
ว่าอิชั้นอยู่ข้างในเล่มนี้ๆ

เอ้...
ต้องซื้อรึว่าอ่านในห้องสมุดดีหว่า
ไม่ชอบคนบนปกเลยอ่ะ
จะเข้าหน้าร้อนแล้ว
น่าจะเอานางแบบเอวงามๆมาทำปก
ยอดขายจะได้กระเตื้องขึ้น
เฮ้อ...รัฐบาลใหม่ี


โดย: พ ร า น IP: 222.123.42.92 วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:19:39:09 น.  

 
สวัสดีจ้ะปลายแปรง
ขอแสดงความยินดีด้วยที่เรื่องสั้นได้ตีพิมพ์ที่สยามรัฐ


ขอให้มุ่งหน้าเขียนหนังสือต่อไปไม่ยอมหยุด

หยุดตอนทำงานให้พี่บูลย์บ้างเล็กน้อยไม่เป็นไร (555)



เรื่องร้านที่ตลดาเก่าคิดว่าใกล้ความจริงเข้ามาแล้ว

รอให้แม่พบกับหมออีกครั้ง ถ้าหมอนัดยาวก็จะลงมาพร้อมกับแม่เลย

เพื่อจะได้มาดูร้านงามนิจที่รออยู่ข้างหน้าเสียที

อย่าลืมนึกๆสินค้าไว้บ้างนะ
มาแจมกันสนุกๆน่า




โดย: พ่อพเยีย วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:19:59:44 น.  

 
พรุ่งนี้เช้าต้องแวะร้านหนังสือซะแว้วววว


โดย: filmgus วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:21:51:54 น.  

 
นอนไม่หลับ นอนไม่หลับ...


ทำงัยง่ะ....


แวะมาส่งปลายแปลงคนฉวย คนเก่ง คนอนามัยดี๊ดี เข้านอนจ้า


โดย: ช่อชบา (HHG ) วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:23:14:38 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะ
ยินดีด้วยค่ะกับเรื่องสั้น

เอาอีก ๆ ๆ ๆ หลาย ๆ เรื่องเลย

แควน ๆจะรออ่านจ๊ะ
เอ่อ.. ข่าวเช้า หวัดนกมาอีกแย้วว...


โดย: นกแสงตะวัน วันที่: 25 มกราคม 2551 เวลา:6:31:16 น.  

 


พี่ปลายแปรงคะ..

เย็นนี้จะออกไปร้านหนังสือค่ะ จะได้ไม่ต้องรออ่านที่นี่ อิอิ กลัวนักเขียนไม่อัพน่ะค่ะ



โดย: Nok_Noah วันที่: 25 มกราคม 2551 เวลา:8:45:37 น.  

 
เย็นนี้ถ้าได้แวะร้านหนังสือจะไปดูนะคะ


โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 25 มกราคม 2551 เวลา:13:01:03 น.  

 
สวัสดีวันศุกร์ค๊าบบบบบ.......


อย่าว่ากันเลยนะคะ...เพราะตัวเองก็เพิ่งเห็นหนังสือเหมือนกัน
จนเขาจะลาแผงแล้ว....อ้าว

มีเรื่องสั้นของตัวเองได้ลงเรอะ....

เกือบซื้อไม่ทันเหมือนกันจ้า





.....................เพลงฝนต้นลมหนาวคะ

ได้เห็นเรื่องก่อนปลายแปรงซะอีกแน่ะ

เรื่องภาษาใต้....แฮ่
ปลายแปรงเป็นพวกสวมรอยแหลงใต้น่ะ
ได้เท่าที่รู้และอยู่มา 5-6 ปี เท่านั้นล่ะก๊า




.....................พรานเอ๋ย

อิชั้นเองก็แทบติดเบรคไม่ทันเหมือนกันแหละ

ว่าจะไม่พลิกดูแล้วนะ...รังเกียจปกเหมือนกันแหละ

แต่มันมีลางสังหรณ์นิ
เลยต้องเปิดดูก๊า...
ว่าจะให้ตานุทำรีทัชปกให้ก็กลัวจะถูกฟ้อง
ฉานไม่มีเงิน 100 ล้าน 500 ล้านให้เรียกหมิ่นประมาทดอก




.....................พ่อพเยียคะ

รอ...รออย่างตื่นเต้น
เหมือนจะมีคนมาพักที่บ้านซะอย่างนั้นแหละ

แล้วใจคอจะแบกป้ายลงมาจากตลาดขวัญเลยหรือคะพี่



..................... filmgus คะ

แฮ่....ถือว่าช่วยเหลือกิจการของหม่อมท่านเนอะ
ระวังหยิบผิดเป็นฉบับใหม่นะคะ.....ขออำภัยที่มาบอกช้าไปนะคะ



..................... ช่อชบาจ๋า

ตอนนี้ตื่นแล้วจ้า
เมื่อวานง่วงจริงๆ...ว่าจะคุยเสียหน่อย
อย่างว่านะเด็กอนามัยก็งี้แหละ

ว่าแต่คุณครูชบามีโครงการจะรับลูกศิษย์โข่งทางไกลไหมคะ....
เพราะถ้าไปลงคอร์สต้องเสียตังค์ง่ะ...อยากเรียนฟรี...ฮี่








โดย: ปลายแปรง IP: 203.113.17.148 วันที่: 25 มกราคม 2551 เวลา:18:54:18 น.  

 
มาอีกรอบแล้วจ้า.....
ชะแว๊บไปหม่ำมื้อเย็นซะก่อน เลยคุยไม่จบเรื่องนิเรา




...................พี่นกแสงตะวันคะ

ถ้าเกิดเป็นหวัดขึ้นมาก็อย่ามาโทษกันเชียวนะ

ช่วงนี้ยุ่งมาเหรอคะพี่ เห็นเงียบๆหายไปจากบล๊อค
เอ...หรือว่าปลายแปรงตะหากที่เงียบหายไปนิ
รักาสุขภาพนะพี่นะ


...................น้องนกจ๊ะ

เสาร์อาทิตย์นี้กลับบ้านใช่ไหม....
อ่านหนังสืออย่างปลอดภัยนะจ๊ะ
นี่ก็คงจะยุ่งอีกคน...เห็นแปะเพลงไว้ที่บล๊อคอย่างเดียว
เฮ้อ...ไอ้คนว่างจัดอย่างปลายแปรงนี่พูดลำบากจริ๊ง


โดย: ปลายแปรง IP: 203.113.17.148 วันที่: 25 มกราคม 2551 เวลา:19:43:47 น.  

 
ผมเคยใฝ่ฝันอยากมีเรื่องสั้นลง
ในสยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์
แต่พอได้ลงเรื่องนึง นานand
ืนานมากๆ จึงได้ค่าเรื่อง
300 ร้อยบาท ความภูมิใจหดหาย
คือผมมันนักเขียนหวังเงินน่ะ
ไม่ได้อยากเป็นศิลปงศิลปิน
หรอก หวังเงิน หุหุ
***
ดีใจกับพี่ด้วยนะครับ


โดย: ธารดาว IP: 202.149.24.161 วันที่: 25 มกราคม 2551 เวลา:20:15:57 น.  

 
แหะๆๆ แวะมาบอกว่า ได้แวะผ่านร้านหนังสือเมื่อเย็นนี้
หมดแผงแระ
ไว้ได้เข้าเมืองอาจจะมีหลงเหลือเนอะ


โดย: filmgus วันที่: 25 มกราคม 2551 เวลา:23:11:38 น.  

 
แวะมาแสดงความยินดีที่มีเรื่องสั้นลงในสยามรัฐฯ จ้ะ ยังมิได้อ่าน รออ่านจากบล็อกก็แล้วกันนะ

ปลายแปรงสบายดีนะ ง่วนกับงานครูอีกคนซะแล้ว

ค่ำนี้ พี่หนอนฯ เพิ่งกลับจากการดูงานแสดงละครเพลงภาษาอังกฤษของหนูแป้งเล่นที่โรงเรียน (โอ๊ะ...อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าเธอแสดงอะไรจริงจังมากมาย เธอเล่นเป็นกระต่ายหนึ่งในกี่สิบตัวก็มิรู้แหละ ไม่ได้เป็นตัวเอกหรอก แต่เธอก็มีความสุขดี และอยากให้แม่เห็นเธอเต้นระบำกระต่ายตามจังหวะเพลง แม้จะเป็นเพียงตัวประกอบเล็ก ๆ ก็ตาม)

เด็ก ๆ เล่นกันเก่งมาก ๆ เลย ดูแล้วซาบซึ้งใจ โดยเฉพาะดนตรีและเพลงประสานเสียงประกอบนี่สุดยอด (เป็นภาษาอังกฤษซะด้วย)

น่าเสียดายที่พี่หนอนฯ ไปไม่ทันเห็นหนูแป้งเธอออกมาเต้นระบำกระต่ายน่ะ เพราะวันนี้เป็นวันศุกร์ จากที่ทำงานพี่หนอนฯ ที่ศาลายา (ฟากนึง) ไปถึงโรงเรียนแป้งที่สุขุมวิท (อีกฟากนึง) ใช้เวลาเดินทางรวมทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง 45 นาที และใช้พาหนะหลายประเภทเพื่อให้ทันเวลา (ถ้าไม่ทำอย่างงี้ อาจถึงโรงเรียนตอนเลิกงานแสดงพอดี หึ หึ เรื่องจริง)
พี่หนอนฯ ใช้รถเมล์ปรับอากาศ เดินเท้าอีกระยะหนึ่ง เพื่อไปต่อรถมอเตอร์ไซค์ ขึ้นรถไฟฟ้า และไปต่อรถมอเตอร์ไซค์เข้าซอยอีกที เหนื่อยกับการเดินทาง แต่พอเห็นเด็ก ๆ มีความสามารถเล่นเรื่อง ปีเตอร์แพน หายเหนื่อยเลยค่ะ

มาบอกปลายแปรงว่า ชีวิตคนเมืองนี่สาหัสมิใช่น้อย ไหนเลยจะสู้ที่บ้านปลายฟ้าได้ นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของคนเมือง น่าเห็นใจจริง ๆ



โดย: หนอนเมืองกรุงฯ IP: 58.9.170.159 วันที่: 26 มกราคม 2551 เวลา:1:21:59 น.  

 
เอ๊...เพลงว่าเมื่อวานเพลงแวะมาบ้านนี้นี่หนา

สยามรัฐฯ จ่ายเงินช้าจริงอย่างที่คุณธารดาวว่าน่ะแหล่ะค่ะพี่
รู้สึกว่าเค้าจะตัดรอบเบิกจ่ายเงินให้ทุกสองเดือน
หมายความว่าหากจังหวะที่เรื่องสั้นพี่ได้ลงนั้น มันเพิ่งผ่านการจ่ายเงินไป ก็นับรออีกสองเดือน บวกเพิ่มด้วยการโทรทวง (ฮา)

แต่ที่คุณธารดาวว่าได้เพียงสามร้อยนั้น เพลงสงสัยตะหงิดๆ ว่ามันนานหรือยัง อันที่จริงมันก็พันห้าร้อยบาทยังไม่หักภาษีนี่คะ
เอ้า...หรือถ้าแบบยังไงล่ะ ใหม่ๆ เลย เพลงว่าก็น่าจะได้สักพันนึงนะคะ

โถ...ขนาดบทกวีหัวบางนาที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า จ่ายค่าบทกวีไม่เท่ากันนั้น คนที่ได้ต่ำสุดเค้าก็ยังได้แปดร้อยเลยนะคะ

ถ้าไม่นานเท่าไหร่...เพลงว่าเรื่องของคุณธารดาวคงไปในช่วงที่ผู้รับผิดชอบบางคนเล่นแร่แปรธาตุเงินคุณไปใช้ก่อนมั้งคะ

ด้วยมิตรภาพ


โดย: เพลงฝนต้นลมหนาว วันที่: 26 มกราคม 2551 เวลา:10:32:34 น.  

 
วันนี้วันหยุดดูการ์ตูนของปลายแปรงค่า.....

(จริงๆก็วันหยุดทุกวันนั่นแหละ....ไอ้วันทำงานจริงๆสะกิดสะเกาหามาสะสมไม่ค่อยจะได้
ถึงรู้สึกว่าหลังมันหนักๆเหมือนมีคนมาขี่หลังอยู่ร่ำไป......
พอถอดเสื้อส่องกระจกดู อ้าว.....ขนขึ้นหลังเพียบเลยเรา)




.................คุณนางไม้หน้า 3 คะ

ยินดีค่ะที่แวะมาทักทาย
วันก่อนแวะไปที่บล๊อคอย่างไม่ตั้งใจ...แต่สงสัยว่าน่าจะเป็นเด็ก....? คนเดียวกัน
เลยแวะไปอ่านดู...แล้วก็จริง
ปลายแปรงขำกลิ้งเลยค่ะ...
อยากกลับเป็นเด็กแล้วสวมวิญญาณตัวเองตอนนี้ขึ้นมาเลยล่ะ....

ขอบคุณนะคะที่กรุณาจะอ่านงานที่นานๆได้เข็ญออกไปทีของปลายแปรง



...............ธารดาวคะ

จริงๆแล้วปลายแปรงไม่ค่อยคิดเรื่องเงินเรื่องทองจากงานของตัวเองเท่าไรหรอกค่ะ......ศิลปินน่ะ
555555......ข้างต้นน่ะพูดผิด
แหม....ถ้าได้ 300 เหมือนธารดาวได้
ก็น่าเอ็ดอึงเหมือนกันแหละ
แต่ว่ามันปีไหนแล้วล่ะธารดาว ?
เพราะเมื่อ 20 ปีที่แล้วก่อนที่ปลายแปรงจะเลิกเขียน
ค่าเรื่องสั้นตอนนั้นยังได้ตั้ง 500 จากหนังสือรู้รอบตัวมั้ง
ปีไหน...มาเฉลยซะดีๆ
เงินน่ะ....อยากได้เหมือนกัน
แต่เจ้าคุณปู่ท่านก็ฝังไว้ในที่ดินหมดแล้ว
ต้องมาตั้งหน้าตั้งตาขุดกันกับตานุเนี่ย
สวนยางยังตัดไม่ได้เต็มหน้าเล้ยยยย




.................filmgus คะ

อย่ากังวลค่ะ....อย่ากังวล
เพราะปลายแปรงเองยังเกือบแห้วเหมือนกัน
กว่าจะรู้เขาก็เกือบถอดออกจากแผงแล้ว
โชคดีนะที่มีลางสังหรณ์....ฮิ....ฮิ

กะว่าถ้าไม่มีอะไรมาอัพบล๊อคก็จะเอามาลงให้อ่านในบล๊อค
ซึ่งยังไม่รับประกันความยาวนานเจ้าค่ะ..
ขอบคุณอีกครั้งค่ะที่กรุณาติดตาม



................พี่หนอนเมืองกรุงคะ

เข้าใจอย่างซาบซึ้งจริงๆค่ะกับการเดินทางที่พี่หนอนฯบรรยายกว่าจะไปถึงโรงเรียนน้องแป้ง
ปลายแปรงจำบรรยากาศนั้นได้ดีเสมอ...ครั้งทำงานอยู่สุขุมวิทแล้วต้องกลับที่พักที่ย่านอนุสาวรีย์
เลิกงาน 5โมงเย็น กลับถึงบ้านเกือบสามทุ่มทุกวัน
ทั้งๆที่ระยะทางก็ไม่เท่าไร....จากที่หิวแสบไส้ก็หายหิว
ผอมได้ก็ตอนนั้นแหละ...555

ตอนนี้เหรอ....เลี่ยงได้จะพยายามไม่เข้ากรุงเทพ เหนื่อย
วันนี้ตั้งคำถาม...เราเร่งรีบกับชีวิตไปทำไม
จริงอยู่ที่ว่าเราต้องทำงานหาเงินดูแลครอบครัว...แต่บางครั้งเงินที่ได้มาก็ไม่สามารถทำให้ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าได้แม้แต่อาหารมื้อเย็นสักหนึ่งมื้อในรอบสัปดาห์
แล้วตัวเราจะธำรงรักษาครอบครัวจริงๆของตัวเองได้อย่างไร....จึงตัดสินใจที่จะกลับมาอยู่อย่างไม่มีอะไร แต่มีเวลาให้กับคนในครอบครัวจริงๆ

หากสักวันหนึ่งมีโอกาสนะคะ....ยังเชียร์ให้พี่หนอนฯกับครอบครัวได้มาใช้ชีวิตนอกเมืองสักครั้งหนึ่งค่ะ...
อยู่กับครอบครัวโดยมีทุกวันเป็นวันหยุด ไม่ใช่หยุดแค่สองวันเพื่อเป็นวันครอบครัว...จริงๆนะคะ




..................เพลงฝนต้นลมหนาวคะ

555.....หัวเราะไว้ก่อนค่ะ
สองเดือนน่ะสิวๆ
555.....อีกที
นิตยสารบางเล่ม...ปลายแปรงเจอเป็นปีเลยล่ะ ทวงสอง หรือสามรอบเห็นจะได้....
800 หักภาษีเหลือ 700 กว่าบาท
สิวๆ....เห็นไหมล่ะ
เลยไม่กังวลเท่าไรหรอกค่ะ...ไม่ใช่ว่าจะไม่สนใจ ทำนองอารมณ์ศิลปินอย่างธารดาวเขาว่า
แต่ถ้าเดือดร้อนเรื่องเงินทีก็โวยทีน่ะ
ปกติอยู่ที่บ้านปลายฟ้าไม่ต้องใช้เงินมากค่ะ
แต่มีตังค์ซื้อข้าวสาร กะปิ น้ำปลาเอาไว้ก็อยู่ได้แล้ว
เพราะที่นี่ปลูกผักกินเองด้วยแล้วก็ผักพื้นบ้านเยอะ อยู่ไม่ยากค่ะถ้ากินผักเป็นอาหารหลัก...
มันลำบากอีตอนจะหายอกผักกลั่นกินลำบากเท่านั้นล่ะ....555 (อีกรอบ)
ขอบคุณนะคะที่ให้ข้อมูลเรื่องการเงิน...เพราะไม่ค่อยสันทัด จะได้โวยได้ถูกค่ะ
โวยกะใครล่ะ...โวยกันเองในบ้านนี่แหละ
อยู่กลางเขาแบบนี้โวยไปใครจะได้ยินนิ....



โดย: ปลายแปรง IP: 203.113.17.148 วันที่: 26 มกราคม 2551 เวลา:12:55:52 น.  

 
พี่คร้าบ...
ปีไหนไม่รู้ แต่ยืนยันว่าไม่นาน
และตอนที่ผมได้สามร้อยนั่นน่ะ
มาตรฐานค่าเรื่องสั้นทั่วไปอยู่ที่พันนึง
ถึงหนึ่งพันห้าร้อยนะครับ
แต่ไม่รู้จะทวงยังไงอีก ให้แค่นั้นก็เอาแค่นั้น(ก็ได้วะ)
การทวงค่าเรื่องสำหรับคนเขียน
หนังสือบ้านนอก ซื่อๆและหน้าตาดี หุหุ มันลำบากพอสมควรครับ



โดย: ธารดาว IP: 202.149.24.129 วันที่: 26 มกราคม 2551 เวลา:13:35:33 น.  

 
สวัสดีจ้ะ ปลายแปรงงง...จ๋า
ว้าๆไม่บอกล่วงหน้า จะมีเหลือไหมนั่น
เดี๋ยวจะรีบไปดู อย่างว่านั่นแหละค่ะ หน้าปกแบบนี้ต้องรีบเก็บๆไปจากแผง น่ากลัวอิ๊บอ๋ายเลย..หุหุ
เอามาลงกั๊กๆแบบนี้ แฟนๆก็แย่ซิคะ
อ่านเรื่องสั้นทีละครึ่งหน้า เวรล่ะ อิอิ
ดีใจจังที่ปลายแปรงยังทำงานเขียนหนังสืออยู่
มันเป็นงานที่อิ่มทิพย์น่ะ ถ้าอยากจะอยู่ได้อย่างดี คงต้องหางานด้านอื่นทำไปด้วย
ไม่งั้นน่าจะเครียดกับค่าเรื่องแสนน้อยนิด
แต่เราเชื่อว่าวันหนึ่งก็จะกลายเป็นเรื่องสั้นรวมเล่มได้
และมีหนทางอื่นๆเปิดรออยู่
เราเชื่อเรื่องความตั้งใจ และการทำอะไร แล้วต้องได้ผลตอบคืนที่ดี...นะจ้ะ
เป็นกำลังใจให้ ว่าแต่ค่าเรื่องได้แล้ว พาไปเลี้ยงมั่งนะ แฮ่มๆ(ลูกชิ้นปิ้งคนละไม้น่านะ)


โดย: ยิปซีสีน้ำเงินจ้ะ IP: 124.121.45.191 วันที่: 27 มกราคม 2551 เวลา:9:09:01 น.  

 
ถ้าข้อมูลเดิมยังใช้ได้อยู่

ลองถามกะคุณพี่หมา...เอ้ย...มหาสุราริน ในการทวงเงินที่นี่ค่ะ

แหม้...แล้วนี่เครือข่ายนักเขียนเค้ามีไว้ทำไมเนี่ย
ไม่ปกป้องความเป็นธรรมในเรื่องค่าเขียนให้คนเขียนบ้างเลย

ครั้งหน้าส่งดิฉันค่ะคุณธารดาว สามพันยังไม่หักภาษี จ่ายเงินทันทีหลังหนังสือวางแผงหนึ่งเดือน

อิจฉาพี่ปลายแปรงค่ะมีปลูกผักกินเอง

รับผักหวานบ้านที่เพลงเพียรรดน้ำช่วยแม่ไปปลูกไว้เก็บยอดกินสักสองสามต้นมั้ยคะ


โดย: เพลงฝน IP: 125.26.109.88 วันที่: 27 มกราคม 2551 เวลา:13:30:05 น.  

 
วันก่อนมีผู้ใหญ่คนนึงมาคุยด้วยที่ร้าน เขาบอกว่ารู้ไหม ว่าที่ไหนน่าอยู่ที่สุด
แล้วเขาบอกต่อว่า
ที่เอเชีย ที่ประเทศไทย และที่ภาคใต้
จังหวัด อะไร จังหวัดพังงา
อำเภออะไร...อำเภอกะปง
ต.อะไร ต.เหมาะ...

เขาบอกว่าที่นั่นเลย อากาศดี มีหมอกยามเช้า น้ำไม่ท่วมถึง ผลไม้ต้นไม้ก็งอกงามดี
ที่เหมาะน่าอยู่จริงๆ ค่ะ คนที่อยู่ที่นั่นก็ช่างมีความสุขค่ะ อิอิ เห็นจะจริงค่ะ


โดย: วีดวาด ยามค่ำ IP: 124.157.221.17 วันที่: 27 มกราคม 2551 เวลา:19:22:44 น.  

 
ว้า อยากอ่านต่อ เดี๋ยวจะหาซื้อที่แผงหนังสือใกล้บ้าน ขอบคุณที่ส่งข่าว


โดย: ดุสิตา IP: 125.27.203.184 วันที่: 27 มกราคม 2551 เวลา:20:58:58 น.  

 
เป็นหวัดครับเป็นหวัดแล้ว...

ไม่รู้หวัดนกรึเปล่า???

แย่ชะมัดเลย...

ไปนอนก่อนนะค้า

เด๋วมาใหม่เน้อ


โดย: ช่อชบา (HHG ) วันที่: 27 มกราคม 2551 เวลา:23:16:44 น.  

 
วันจันทร์....อีกแล้วหรือนี่
อุทานปานประหนึ่งตกใจไปเช่นนั้นเอง....วันทุกวันเหมือนกันสำหรับบ้านปลายฟ้าค่ะ
วันแตกต่างของปลายแปรงมีสองวัน

คือ....วันที่มีอาราเล่ตอนเช้า.....แฮ่



................ธารดาวจ๊ะ
เชื่อจ๊ะว่าหน้าตาดี ซื่อ ใส
บ้านนอก เอ้ย...ชานกรุงนิดหน่อย
นั้นช่างทวงเงินยากเข็ญจริงๆ....ขัดเขิน...เกรงใจ...กลัวเขาโกรธ
ในการทวงเงิน...เลยต้องรอเป็นปีๆกว่าจะได้เงิน

ช่างมันเถอะ...มันผ่านไปแล้ว
เรามาตั้งต้นทวง สนพ.ใหม่กันดีกว่า
หรือเราจะหาผู้จัดการส่วนตัวมาช่วงทวงเงินให้เราดี



..................ยิปซีสีน้ำเงินคะ
ปลายแปรงยังอะหยื๋ยแทบตายเลย เวลาดูสยามรัฐฉบับนี้นะ
ต้องพลิกจากด้านหลังมา....
ยังเห็นด้วยกะตาพรานเลยว่าเอารูปโป๊มาลงยังจะเข้าท่ากว่า...ยอดขายกระหน่ำแหงมๆ
ปลายแปรงก็ยังเขียนอยู๋ค่ะ...แต่เขียนแบบว่า เขียน แล้วเกลา แล้วเหลา เอามาถากใหม่
อ่านอีกรอบล้างน้ำนิด ประแป้งนิด
อ่านซ้ำอีกหน...เฮ้ย
บอกตัวเองว่าไม่ใช่ทำ thesis นะเฟ้ย....วิเคราะห์ จนได้สมการ สูตร ทฤษฎีบานเบอะ
นั่นแล....กว่าจะได้เรื่องสั้นมาจั๊กกะเรื่องกับเขา
นะ...ช้าๆ แต่ได้พร้าติดทองเนอะ

ค่าเรื่องที่จะเอามาเลี้ยงนะ...
ขอปรึกษากะคุณเพลงฝนฯก่อนนะ...ว่าจะตั้งให้เป็นผจก.ฝ่ายเร่งรัดค่าเรื่องให้อยู่เนี่ย
ยิปซีเอาไม้ลูกชิ้นไปก็แล้วกันนะ ลูกชิ้นปลายแปรงกินเอง
ให้สิบไม้เลย...เอ๊า



..................เพลงฝน ฯ คะ
สนใจรับจ๊อบพิเศษไหมคะ...
ฝ่ายเร่งรัดหนี้สิน...ไม่ใช่
หน่วยเร่งรัดค่าเรื่องให้นักเขียน
ดูท่างานนี้จะล้นมือเชียวนะ
รับธารดาวไปก่อนคนแรกเลย
จริงกย่างธารดาวเขาว่าจริงๆค่ะ

คือ...นักเขียนบ้านนอกอย่างเรา
น๊าน...ตีตัวเป็นนักเขียนไปแล้ว
(คนเขียนหนังสือค่ะ...คนเขียนหนังสือ...ย้ำ)
มันรู้สึกประดักประเดิดในการไปทวงค่าเรื่องจริงๆนะคะ
ปลายแปรงเคยโทรไปทวง..พินอบพิเทากะคุณบัญชีเขาสุดชีวิต...
"ต้องรอรอบบัญชีหน้านะคะ...ฝากชื่อกับที่อยู่ไว้อีกครั้งนะคะจะตรวจสอบให้"
บีบจมูกทำเสียงสูงๆหน่อยนะคะ

นั่นแหละ...เลิกเลย
หนึ่งปีผ่านไป....700 บาท
นี่เรื่องตีพิมพ์ไปตั้งกะต้นปีที่แล้ว ยังไม่ได้เลยค่ะ...ขี้เกียจ...ช่างหัว...ง น่ะ

อ้อ...วันนี้แกงเลี่ยงผักหวานป่าค่ะ แม่ตานุไปปีนเขาแล้วเก็บติดมือมา



................วีดวาดคะ
อยากรู้จังว่าผู้ใหญ่คนนั้นเป็นใคร
รู้สึกคุ้นๆเหมือนเป็นคนรู้จักแน่ๆเลย
ตอนแรกที่ปลายแปรงมาอยู่ยังแปลกใจเลยว่าทำไมต้องเหมาะ
ถึงได้รู้ว่าสำเนียงใต้คนตั้งชื่อเป็นทางการฟังไม่สันทัด
จากหมอกกลายเป็นเหมาะ
แล้วเมื่อไร...วีดวาดจะมาสูดกลิ่นหมอกยามเช้าที่บ้านปลายฟ้าบ้างล่ะ
หรือต้องรอตาลุงจากตลาดขวัญ



...............ดุสิตา
ไชโย.....
ดุสิตายังอยู่ด้วย นึกว่าหนีไปอยู่เกาะเสียแล้ว
ไชโย...ไชโย
แล้วอย่าหายไปนานอีกล่ะ...




...................ช่อชบาจ๋า

กินน้ำอุ่นๆ ห่มผ้าหนาๆ
แล้วไปนอนซ๊ะ...

เดี๋ยวคอร์สหน้ามาสอนลูกศิษย์ไม่ได้จะมาโทษกันอีก

ระวังน้องนกนะจ๊ะ...อย่าให้คนข้างตัวไปย่างกราย..อันตรายยิ่งนัก



โดย: ปลายแปรง วันที่: 28 มกราคม 2551 เวลา:11:01:18 น.  

 


ไข้หวัดนกป้องกันได้...

โรคติดต่อ กลับมาใหม่ ไข้หวัดนก
อย่าวิตก เพราะสิ่งนั้น ป้องกันได้
พวกสัตว์ปีก ต้องระวัง อย่างตั้งใจ
เตือนลูกหลาน ให้ห่างไกล อย่าใกล้มัน

ถ้าเป็นไข้ อย่าไว้ใจ ไปหาหมอ
อย่ารีรอ รีบไปอย่าง กะทันหัน
ให้หมอตรวจ ให้กระจ่าง อย่างเร็วพลัน
ข้อสำคัญ อย่าชักช้า มาไวๆ

ใครเลี้ยงไก่ เพื่อไว้ขาย จำหน่ายแพร่
หรือแม้แต่ เลี้ยงทั่วไป ไว้กินไข่
ควรศึกษา อย่านิ่งเฉย ละเลยไป
ทุกสัตว์ปีก ควรใส่ใจ ในป้องกัน

เรื่องอาหาร รับประทาน ควรผ่านต้ม
ค่านิยม การปิ้งย่าง ไม่สร้างสรรค์
หากไม่สุก แล้วละก็ ขอยืนยัน
อาจถึงขั้น เสียชีวิต คิดให้ดี

ทางที่ดี ควรเตือนเด็ก เล็กๆบ้าง
แนะแนวทาง ให้ใส่ใจ ในเรื่องนี้
ไข้หวัดนก ป้องกันได้ ใช่ไม่มี
มันอยู่ที่ พวกๆเรา เฝ้าป้องกัน....เฟื่องฟ้า

สวัสดีคุณปลายแปรง เฟื่องฟ้าเพิ่งเข้ามา เขียนหนังสือเก่งจัง..เฟื่องฟ้า


โดย: เฟื่องฟ้า IP: 202.122.130.31 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:34:14 น.  

 
ชอบจัง น้องนก"ก้นยกถาด" สุดยอดเลยคำนี้...แล้วจะได้อ่านต่ออีกมั้ยเนี่ย ป้าปลายแปรง...เฟื่องฟ้า


โดย: เฟื่องฟ้า IP: 125.27.71.194 วันที่: 17 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:22:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปลายแปรง
Location :
พังงา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สุดปลายของแปรง
อาจป้าย...ได้ภาพเขียนงาม
อาจปาด....ได้ภาพสะเทือนขวัญ

แปรงสุดปลาย....วาดในอากาศ
สูญญากาศของสีที่ว่างเปล่า

เพียง "ใจ" ผู้ป้ายแปรง
ว่างเปล่า....ไร้แปรง....ปราศจากปลาย
สรรพเรื่องราว...ว่างเปล่าในกาลเวลา
Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
24 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ปลายแปรง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.