ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
<<
สิงหาคม 2555
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
13 สิงหาคม 2555

สัปดาห์อาดูร - เรื่องของเรา (๑)

สัปดาห์อาดูร

(เรื่องของเรา)


วันที่ ๒๒กรกฎาคม ๒๕๔๖

วันนี้นับเป็นวันดับ

วันที่คุณสารภาพความจริงที่เกิดขึ้นกับคุณคุณบอกว่าเป็นอุบัติเหตุ

การกระทำของคนเราไม่มีอะไรผิดอะไรถูกไปทั้งหมด

บางทีถ้าเรายอมรับได้ว่าอะไรเป็นเหตุที่ทำให้เราเลือกเดินทางไปตามนั้นมันอาจ

ตกหลุมพรางที่ขุดดักเราไว้

ถ้าเรารู้ทันและ หยุด ได้คือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือชนะใจ ตนเองได้ ซึ่งน้อยคน

นักที่จะทำได้

คุณยืนอยู่ตรงจุดไหน? วันนี้มีเส้นลวดที่ให้เราไต่ไปให้ตลอดชีวิตคุณยังต้องต่อสู้

ไปอีกนานไกล

ผมอาจยืนอยู่บนปลายสายสุดแล้วคุณค่าของตัวเองลดถึงขีดต่ำสุด

วันนี้ถ้าคุณหยุดคิด และเริ่มต้นใหม่ ยังไม่สาย

นี่เป็นความรู้สึกที่ดีดี ที่มีต่อคุณ

คืนนี้นอนไม่หลับทั้งคืน อะไรมันจะเกิดเร็วขนาดนั้นเพียงสัปดาห์เดียวชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือไม่มีแม้แต่ความทรงจำให้หลงเหลือ หลับตาภาพเก่า ๆ ก็

หลอกหลอนจนแทบไม่น่าเชื่อว่ามันเป็นไปแล้วจริง ๆ

การ์ด อวยพรวันเกิดที่เตรียมไว้ต้องรีบเอาไปให้คงเป็นการ์ดใบแรกและใบสุดท้าย

ของผมที่ตั้งใจให้คุณ

วันที่๒๓ กรกฎาคม ๒๕๔๖

ตื่น ขึ้นมาตอนเช้ามืดโผเผ อ่อนแรง กินอะไรไม่ได้อาหารไม่มีรสชาติเอาเสียเลย

ถาม ตัวเองว่าเป็นอะไรไป ทำไมไม่คุมจิตใจให้อยู่ในสภาพปกติ

คำตอบ ก็คือพยายามแล้วอย่างที่คุณบอกแต่มันทำไม่ได้ คนที่เคยใกล้ชิดและ

ผูกพัน เป็นความรู้สึกที่แย่มาก

ถาม ตัวเองอีกทีเราทำอะไรผิดไปหรือ

ตอบได้ว่าตัวเองไม่รู้หรอก แต่คนอื่นจะรู้และไม่บอกให้เรารู้

วันนี้ คิดเรื่องนี้ทั้งวันดูโทรทัศน์ก็ไม่รู้เรื่อง ว้าวุ่น ยังหาทางออกไม่ได้ เราเห็น

แก่ตัวหรือเปล่า

จะพูด กับคุณอย่างไรถึงจะทำไม่ให้คุณโกรธแต่เห็นใจ เข้าใจเรา เข้าใจถึงความ

รู้สึกที่ดีที่มีต่อคุณ

ถ้า กลับไปอยู่สภาพเดิมอย่างเมื่อหลายปีก่อนได้ เรารับได้ แต่คนอื่นเขาจะรับได้หรือ นี่คือคำถามที่ไม่มีคำตอบ

ืนนี้ทำใจได้บ้างแต่ไม่มาก หลับไปได้ ๒ – ๓ ชั่วโมง

ร่างกายชักจะแย่โทรมเร็ว จิตใจนั้นไม้ต้องพูดถึงล่องลอยไปไหนไม่รู้เลย


วันที่๒๔ กรกฎาคม ๒๕๔๖

                ตื่น แต่เช้า โทร.ไปหาอย่างเคยทำได้เพียงฝากข้อความไว้ ความเปลี่ยนแปลงเริ่ม

ครอบงำมันเกิดขึ้นรวดเร็ว รุนแรงจนปวดร้าวเกินกว่าที่จะบอกได้ ถ้าไม่เกิดกับ

ใครจะไม่มีวันรู้ แม้จะอยู่บนโลกมานานก็เถอะ ผ่านชีวิตมามากก็ยังเป็นได้

ชีวิตจริงของคุณเพิ่งจะเริ่มต้นยังต้องการประคับประคองให้ตั้งหลักให้ได้ก่อน

นั่นเป็นความหวังแต่เมื่อวันนี้มาถึง คุณตัดสินใจที่จะเดินทางนี้ด้วยตนเอง แต่มัน

จะมั่นคงแค่ไหนพรหมลิขิตเท่านั้นที่จะกำหนด วันนี้วันเกิดของคุณแต่เป็นวันดับ

ของผมไม่อยากจะเชื่อ

ต่อไปผมคงได้แต่มองดูคุณอยู่ห่างๆ อีกไม่นานคุณก็จะค่อย ๆลืมในทุกสิ่งที่เกิด

ขึ้นกับชีวิตของเรา

ผม อยากให้คุณพบกับความเป็นจริงยิ่งกว่านี้ถ้าแม้กลับหลังหันไม่ได้ก็จงก้าวไป

และต่อสู้ไปโดยไม่มีย่อท้อ อ่อนแอ วันข้างหน้าจะไม่มีความสุขอย่างนี้อีกแล้ว

ผม คิดว่าได้ทำดีที่สุดตลอดมาแม้คุณอาจจะมองไม่เห็นก็ตาม

                                                    เรื่องของความรักที่มาเร็วและรุนแรงได้ทำลายคนในสังคมมามากแล้ว เห็นกันอยู่ คุณยังอ่อนเยาว์ต่อโลกและความเป็น         จริงของชีวิต

ผม ตัดคุณไม่ขาดหรอกขณะเขียนบันทึกนี้ ๒๒.๓๐ น.ไม่รู้ว่าล้มตัวลงนอนตาจะหลับหรือไม่

วันนี้วันเกิดของคุณ

ขอให้ไปดีนะ

วันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๔๖

วันนี้ยังไม่ได้บันทึกยัง เช้าอยู่(๐๘.๒๐ น.)

(เช้าวันรุ่งขึ้นจึงมาบันทึกต่อ)

ตลอดทั้งวัน ไม่ได้ทำอะไร อ่านหนังสือพิมพ์ดูโทรทัศน์ ฟังเพลงไม่รู้เรื่อง

ใจยังไม่สงบนั่นเอง

กลางวันได้มีโอกาสโทรศัพท์คุยกัน๒ – ๓ ครั้ง พอสบายใจขึ้นแต่ก็แค่นั้น

ตกเย็นมีความหวังขึ้นแต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นจริงได้แค่ไหน

ค่ำ เวลาที่เคยคุยกัน ก็ยังมีเวลาแต่ไม่เหมือนเดิมแล้ว ดูเป็นภารกิจไป

คิด ไปก็สะท้อนใจไปทำให้รู้ว่าชีวิตคนนั้นอยู่ได้ด้วยความหวัง

ถ้า เราหวังคนอื่นก็ต้องหวัง เป็นความหวังคนละอย่างหรืออย่างเดียวกัน

นั่นคือการบรรจบกันของความคิดความหวังของคนสองคน

ถ้า ตั้งต้นดีมันก็น่าจะดีไปได้ตลอด นี่เป็นความหวังของเราด้วย

ขอให้เป็นอย่างที่คุณและผมหวัง แม้จะเป็นคนละเส้นทางก็ตาม

จะรอคอยวันพรุ่งนี้ก็ด้วยความหวังเช่นกัน

ต่อไปล่ะจะทำอย่างไร(อย่าพึ่งคิด) รอให้มันเกิดก่อนดีไหม?

๒๖กรกฎาคม ๒๕๔๖

                ตื่นแต่เช้า รีบทำภารกิจประจำวันให้เสร็จเร็ว ๆ

ออกจากบ้านไปด้วยใจว้าวุ่นนิดหน่อยถ้าคุณโทรศัพท์มา  บอกว่า พบกันไม่ได้  จะทำอย่างไร ก็คงไปเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมาย แต่คุณก็สร้างความเป็นจริงให้ได้

ทันทีที่เราเจอกันความรู้สึกตอนนั้นเหมือนเราพึงจะเคยรู้จักกัน มีเพียงแววตาเท่านั้นที่ยืนยันถึงความลึกซึ้งกินใจ

ผมรักคุณ

คุณผงะและบอกว่าพึ่งจะเคยได้ยินจากปาก ตัดพ้อว่าไม่เคยพูดคำนี้มาก่อนเลย

พูดเพียงว่าให้ดูจากการกระทำที่ผ่านมาคุณพูดเหมือนกับจะบอกว่ามันสายไปแล้ว

การกระทำ ใช่สิผมจึงอยากจะย้ำเตือนคุณอีกว่า คนเราต้องดูที่การกระทำ วันนี้คุณ

คงจะได้ยินแต่คำหวาน ความดูดดื่มมากกว่าสิ่งที่เคยได้รับมาคุณเคยอ้างว้าง ขาดคนเอาใจใส่ดูแลมาแต่เล็ก ต้องต่อสู้ดิ้นรนด้วยตนเองแม้เมื่อชีวิตเราต้องมาเกื้อกูลจนกลายเป็นเบ้าหลอมความรู้สึกต่าง ๆให้ในสิ่งทั้งผิดและถูก แต่ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า เราไม่ได้ให้ความอบอุ่นต่อชีวิตความเป็นปุถุชนของคุณคุณต้องการใฝ่คว้าหาอนาคตที่มั่นคง ถาวรนับเป็นสิ่งถูกต้อง จึงทำให้ ความพยายามของผมไม่บรรลุผลสำเร็จความตั้งใจของผมอับปางลงกลางคัน ส่งคุณไม่ถึงฝั่งผมยังเชื่อว่าคุณจะได้ใช้วิชา ความรู้ที่เล่าเรียนจากสถานศึกษาจากประสบการณ์ที่ผ่านมาให้เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตร่วมกับผู้อื่นที่อาจจะต้องตามใจเขา เอาใจใส่เขาเพื่อประคับประคองให้ความปรารถนาของคุณเป็นจริง ผมขอเพียงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคอยให้กำลังใจและปลอบโยนในบางโอกาสเท่าที่จะทำได้โดยคุณไม่เดือดร้อน

วันนี้เราอยู่ในผัสสะผมอยากให้มันเป็นเหมือนที่ผ่านมา ทุกอย่างก็เป็นไปตามความต้องการของเรารู้ทั้งรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า เรา

สร้างจินตนาการลืมความขมขื่นไว้ชั่วคราว คิดว่าโลกนี้มีเพียงเราสองคน ในใจนั้นอยากจะอยู่ด้วยกันให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

เผอิญวันนี้ฝนตกหนักดูเหมือนดินฟ้าอากาศจะเข้าข้างเราอยู่บ้างที่ทำความหวังให้เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งแต่แล้วในกระแสความคิดคำนึง อบอุ่นด้วยกลิ่นไอของเราฉับพลันนั้นเองสายฟ้าก็ฟาดเปรี้ยงลงมาท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำ มันรุนแรง

จน ผมสะดุ้งตื่นใจสั่น นี่ก็เป็นนิมิตของคนโบราณที่ไม่สู้จะดีนัก แต่คิดว่านั่นเป็นเพียงธรรมชาติต่างหาก ไม่เกี่ยวกับชีวิตจริงของคนแต่ก็ไม่พ้นที่สารพันจะคิด ขอเป็นเพียงความคิดเถอะอย่าเป็นจริง ในที่สุด.....เวลาก็พรากเราจนได้ เสียงโทรศัพท์ที่เพรียกเข้ามาถี่ยิบทำไมนะฟ้าดินจึงไม่หยุดโลก หยุดเวลาให้กับเราบ้าง

ไม่ได้หรอกเราต้องหยุดหัวใจตัวเองต่างหาก เห็นไม๊ล่ะ ความจริงก็ปรากฏแม้คุณจะปฏิเสธแต่เมื่อคนที่เขาไม่ได้อะไรอย่างใจก็จะเกรี้ยวกราด ก็จะขาดเหตุผล

เมื่อคุณพลิกกายมามองผมเห็นมีน้ำซึมออกจากเบ้าตา ถามผมว่าร้องไห้หรือ

ผมบอกว่า ไม่ได้ร้องหรอกหัวใจต่างหากที่มันคั้นความจริงให้เป็นน้ำตา

สังหรณ์ว่ามันจะเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายทั้ง ๆที่ยังไม่อยากให้เกิดขึ้น

แต่เมื่อได้เห็นสภาพแล้วคุณลุกขึ้นจากภวังค์ไม่ได้แน่ๆ มันเข้าไปยู่ในวังวนของชีวิต ที่อยากจะเรียกว่าลึกเกินกว่าจะคิดมันอาจจะเป็นเพียงฝันร้ายของเราก็ได้นะ

ได้แต่ภาวนาก่อนนอนมาหลายคืนแล้วว่าขออย่าให้คุณเป็นอะไรไปยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ ถ้าบุญกรรมมีคุณซึ่งเคยแต่ประกอบคุณงามความดี เห็นใจผู้อื่นบุญนั้นน่าจะส่งผลให้คุณพบได้ความจริงและสมหวังอย่างที่คุณตั้งใจไว้ ผมจะดีใจมาก ๆ

ถ้ามีโอกาสได้เห็นก่อนสิ้นลมไป

วันนี้สิ้นสุดไปพร้อมๆ กับนอนไม่หลับเหมือนเคย

วันที่๒๗ กรกฎาคม ๒๕๔๖

ตื่นมาวันนี้อ่านหนังสือพิมพ์ดูข่าวต่าง ๆ ไม่น่าสนใจ พลิกไปที่หน้าพยากรณ์ของพี่(หลวงเมือง)ในข่าวสด  เขียนว่า   ชาวราศีเมถุน ท่านไม่แข็งแรงไม่ค่อยสบายง่าย คงเป็นหวัดหรืออ่อนเพลียเนื่องจากนอนไม่หลับหรือทำงานเสร็จแล้วแต่สมองยังไม่ยอมหยุด นัยตาสว่างมีผู้ดูหมิ่นและก้าวร้าวต่อท่านอยู่เงียบ ๆ แต่ในไม่ช้าท่านก็จะรู้เช่นเห็นชาติของเขาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น”ชาวราศีกรกฏ “ท่านสายตาไม่ดีหรือดีแต่ต้องเดินหรือขับรถเข้าไปในกลุ่มหมอกหนาทึบ ทัศนวิสัยไม่กระจ่างแจ้ง”

ผมไม่คอยได้อ่านคอลั่มน์พี่หลวงบ่อยนัก เพราะมักจะเป็นจริงตามคำทำนาย มาวันนี้ก็เป็นที่ประจักษ์อีกครั้งว่าทำไมพี่รู้ว่าผมกำลังมีอันเป็น

คงเหมือนเดิมอาหารไม่ได้ บังเอิญเป็นวันอาทิตย์ สาย ๆ ก็ออกไปเดินคุยกับเพื่อนบ้านแต่ก็ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น

เที่ยง ออกไปกินข้าวนอกบ้านเพื่อจะได้ลืมเสียบ้าง ไม่สำเร็จ

บ่าย ยิ่งเหงามากขึ้นก็ออกไปซ้อมไดร์ฟกอล์ฟ ตียังไม่ถูกลูก ตีไปสองถาดก็เลิก ท้อแท้ ไม่มีแก่ใจ 

กลับบ้านรอโทรศัพท์ตอนสามทุมครึ่ง หมดไปอีกวัน





Create Date : 13 สิงหาคม 2555
Last Update : 13 สิงหาคม 2555 14:37:53 น. 1 comments
Counter : 712 Pageviews.  

 
ความรู้สึก แทบขาดใจ.....


โดย: Cherry IP: 58.9.121.61 วันที่: 16 มีนาคม 2556 เวลา:18:09:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พ คชา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




พยงค์ คชาลัย
เกิด ๒๔๗๘ (น่าจะแก่) จ. ราชบุรี
ตกฝากเวลาพระออกบิณฑบาต(๐๖.๐๐ น.)

เจ็บ เป็นครั้งคราว(เคยหนัก แต่รอด)
ตาย ยังไม่ได้กำหนด(วัน /เวลา)
สมรส หม่าย
บุตร ๒ คน และ หลาน ๒ คน

การศึกษา
ประถมที่ รร.เทศบาล๑ หน้าวัดสัตตนาถ ปริวัตร ราชบุรี
รร.ประชาบาลไพลประชานุกูล วัดบางแคกลาง อ.อัมพวา จ,สมุทรสงคราม (หนีภัยสงครามโลกครั้งที่ ๒)

มัธยม ที่ รร.บำรุงราษฎร์และรร.เบญจมราชูทิศ หลังวัดสัตตนาถฯ จ,ราชบุรี / โรงเรียนทหารม้า(ยานเกราะ)และ
สูงสุด ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิชาการหนังสือพิมพ์ แผนกวารสารศาสตร์ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์

การงาน
รับราชการทหาร และเป็นเจ้าหน้าที่สถานีวิทยุยานเกราะ เป็นผู้ควบคุมเสียง เป็นผู้ประกาศ เล่นละครวิทยุ ประจำกองบรรณาธิการนิตยสารยานเกราะ เขียนบทความ เขียนสารคดี เป็นบรรณาธิการผู้ช่วยนิตยสารช่อฟ้าของอภิธรรมมูลนิ ฯลฯ

เข้าทำงานธนาคารกรุงเทพ ตั้งแต่ปี ๒๕๑๒ เป็นเจ้าหน้าที่ตั้งแต่เป็นพนักงานอันดับหนึ่งจนถึงเจ้าหน้าที่บริหารชั้น AVP ในฝ่ายการประชาสัมพันธ์(ยุคบุกเบิก)รวมเป็นเวลากว่า ๓๐ ปี(และยังช่วยทำอยู่)

มีผลงานที่น่าคุย คือ เสนอก่อตั้งศูนย์สังคีตศิลป์ ที่สร้างชื่อให้ธนาคารได้มาก และ

ร่วมประสานงานโครงการหนังสือ”ลักษณะไทย”
จนบรรลุผลสำเร็จเป็นรูปธรรมที่สำคัญ คือ

ธนาคารจัดพิมพ์ทูนเกล้าฯถวายในวโรกาส ๘๐ พรรษามหาราช(นับจากจะพิมพ์เนื่องในวันเปิดอาคารสำนักงานใหญ่ สีลมเมื่อ ปี ๒๕๒๕)
และงานอื่น ๆอีกเยอะมาก
ทั้งยังร่วมก่อตั้งชมรมประชาสัมพันธ์ธนาคารด้วย

งานเขียน
หนังสือชื่อ ๓๖๖ อดีต พิมพ์แจกห้องสมุดประจำจังหวัด
เขียนเรื่องสั้นชื่อ”คำสั่ง”ลงในป๊อกเก็ตบุ๊ค(คงไม่มีใครได้อ่าน)
และเขียนอะไรต่อมิอะไรในหน้าที่การงานเยอะเหมือนกัน

งานพิเศษ ร่วมกับอาจารย์ประจวบ อินอ๊อด สอนวิชาประชาสัมพันธ์ธุรกิจ ในคณะนิเทศศาสตร์ ม.กรุงเทพ หลายปี
รับเชิญบรรยายตามสถาบันการศึกษาหลายแห่งด้วย

เกียรติยศ ได้รับเหรียญกาชาดสรรเสริญชั้น ๒ และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น ๕ เบญจมาภรณ์มงกุฏไทย
เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคณะวารสารศาสตร์และสื่อมวลชน มหาวิทยาธรรมศาสตร์

กีฬา กอล์ฟ (พอเล่นได้ถ้วยบ้างเท่านั้น)
[Add พ คชา's blog to your web]