|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
17 พฤษภาคม 2554
|
|
|
|
สามทศวรรษ ลักษณะไทย ตอนที่ ๙
เล่มที่ ๓ ศิลปการแสดง
ดนตรี นาฏศิลป์และการละคร ผู้เขียน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อาจารย์มนตรี ตราโมท ดร.มัทนี รัตนิน
ในทำนองเดียวกับเรื่องทัศนศิลป์ จุดมุ่งหมายของข้อเขียนเกี่ยวกับดนตรีและศิลปการแสดงในหนังสือชุดลักษณะไทยนี้ อยู่ที่การวิเคราะห์เรื่องศิลปการแสดงในฐานะที่เป็นการแสดงออกทางวัฒนธรรมของคนไทยมากกว่าจะวิเคราะห์จากด้านสุนทรียภาพอันบริสุทธิ์ ในหนังสือเล่มนี้จะบรรยายถึงลักษณะของดนตรีไทยเดิม ซึ่งมีระบบการบรรเลงที่มีลักษณะเป็นของตนเองอย่างเด่นชัด
นาฏศิลป์ไทยเดิมและศิลปการแสดงประเภทต่าง ๆ โดยสืบสาวพัฒนาการของศิลปของไทยแขนงนี้ย้อนหลังไปในอดีตเพื่อชี้ให้เห็นว่า แม้ศิลปเหล่านี้จะมีบ่อเกิดมาจากความเชื่อถือทางศาสนาสำคัญ ๆ ที่มีอิทธิพลต่อวิวัฒนาการของศิลปวัฒนธรรมของเหล่าประเทศในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์นี้เป็นอย่างมาก
แต่เช่นเดียวกับพัฒนาการของวัฒนธรรมแขนงอื่น ๆ เมื่อกาลเวลาล่วงไป คุณลักษณะพิเศษของศิลปไทยก็ปรากฏเด่นชัดขึ้นอย่างที่จะหาไม่ได้ในศิลปการแสดงของประเทศและชนชาติอื่น ๆซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากแหล่งวัฒนธรรมเดียวกัน หนังสือเล่มนี้จะพูดถึงกระบวนการปรับปรุงให้ต้องด้วยสมัยนิยม โดยเฉพาะในเรื่องของนาฏศิลป์และการละครซึ่งดำเนินอยู่โดยไม่หยุดยั้งและช่วยให้ศิลปการแสดงแบบไทยเดิมพัฒนาต่อไปได้ โดยไม่มีการขาดตอน
เมื่อภูมิหลังทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมเปลี่ยนแปลงไป มีการนำความคิดเห็นใหม่ ๆ เข้ามา นาฏศิลป์และนาฏกรรมแบบไทยเดิมก็เริ่มเปลี่ยนบทบาทและหน้าที่จากการแสดงเพื่อความบันเทิงล้วน ๆ ของประชาชนหรือของราชสำนักซึ่งมีพิธีกรรมทางศาสนาเกี่ยวอยู่ด้วยกึ่ง ๆ มาเป็นการแสดงที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคม
ทัศนคติของคนไทยที่มีต่อนาฏศิลป์และการละครได้เริ่มเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคใหม่ตั้งแต่อิทธิพลตะวันตกได้แพร่ขยายเข้ามาในประเทศไทยสมัยรัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งสร้างเสริมบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนารูปแบบการแสดง การจัดแสดง การสร้างและการตัดตอนบท การสร้างฉากและเครื่องแต่งกายละคร และการพัฒนาดนตรีที่ประกอบนาฏศิลป์และการละครไปในแนวใหม่ในรัชสมัยต่อมา คือสมัยรัชการที่ ๕ และที่ ๖ สมัยรัชกาลที่ ๕ นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการละครสมัยใหม่ทีเดียว
และในสมัยรัชกาลที่ ๖ นั้นการละครของไทยได้รับการพัฒนาในด้านบทบาททางการเมืองและสังคมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นแบบอย่างให้แก่การละครในสมัยหลัง คือในสมัยหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ มาจนกระทั่งปัจจุบัน
Create Date : 17 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2554 18:33:09 น. |
|
0 comments
|
Counter : 496 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
พ คชา |
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
พยงค์ คชาลัย เกิด ๒๔๗๘ (น่าจะแก่) จ. ราชบุรี ตกฝากเวลาพระออกบิณฑบาต(๐๖.๐๐ น.) เจ็บ เป็นครั้งคราว(เคยหนัก แต่รอด) ตาย ยังไม่ได้กำหนด(วัน /เวลา) สมรส หม่าย บุตร ๒ คน และ หลาน ๒ คน
การศึกษา ประถมที่ รร.เทศบาล๑ หน้าวัดสัตตนาถ ปริวัตร ราชบุรี รร.ประชาบาลไพลประชานุกูล วัดบางแคกลาง อ.อัมพวา จ,สมุทรสงคราม (หนีภัยสงครามโลกครั้งที่ ๒)
มัธยม ที่ รร.บำรุงราษฎร์และรร.เบญจมราชูทิศ หลังวัดสัตตนาถฯ จ,ราชบุรี / โรงเรียนทหารม้า(ยานเกราะ)และ สูงสุด ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิชาการหนังสือพิมพ์ แผนกวารสารศาสตร์ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์
การงาน รับราชการทหาร และเป็นเจ้าหน้าที่สถานีวิทยุยานเกราะ เป็นผู้ควบคุมเสียง เป็นผู้ประกาศ เล่นละครวิทยุ ประจำกองบรรณาธิการนิตยสารยานเกราะ เขียนบทความ เขียนสารคดี เป็นบรรณาธิการผู้ช่วยนิตยสารช่อฟ้าของอภิธรรมมูลนิ ฯลฯ
เข้าทำงานธนาคารกรุงเทพ ตั้งแต่ปี ๒๕๑๒ เป็นเจ้าหน้าที่ตั้งแต่เป็นพนักงานอันดับหนึ่งจนถึงเจ้าหน้าที่บริหารชั้น AVP ในฝ่ายการประชาสัมพันธ์(ยุคบุกเบิก)รวมเป็นเวลากว่า ๓๐ ปี(และยังช่วยทำอยู่)
มีผลงานที่น่าคุย คือ เสนอก่อตั้งศูนย์สังคีตศิลป์ ที่สร้างชื่อให้ธนาคารได้มาก และ
ร่วมประสานงานโครงการหนังสือลักษณะไทย จนบรรลุผลสำเร็จเป็นรูปธรรมที่สำคัญ คือ
ธนาคารจัดพิมพ์ทูนเกล้าฯถวายในวโรกาส ๘๐ พรรษามหาราช(นับจากจะพิมพ์เนื่องในวันเปิดอาคารสำนักงานใหญ่ สีลมเมื่อ ปี ๒๕๒๕) และงานอื่น ๆอีกเยอะมาก ทั้งยังร่วมก่อตั้งชมรมประชาสัมพันธ์ธนาคารด้วย
งานเขียน หนังสือชื่อ ๓๖๖ อดีต พิมพ์แจกห้องสมุดประจำจังหวัด เขียนเรื่องสั้นชื่อคำสั่งลงในป๊อกเก็ตบุ๊ค(คงไม่มีใครได้อ่าน) และเขียนอะไรต่อมิอะไรในหน้าที่การงานเยอะเหมือนกัน
งานพิเศษ ร่วมกับอาจารย์ประจวบ อินอ๊อด สอนวิชาประชาสัมพันธ์ธุรกิจ ในคณะนิเทศศาสตร์ ม.กรุงเทพ หลายปี รับเชิญบรรยายตามสถาบันการศึกษาหลายแห่งด้วย
เกียรติยศ ได้รับเหรียญกาชาดสรรเสริญชั้น ๒ และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น ๕ เบญจมาภรณ์มงกุฏไทย เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคณะวารสารศาสตร์และสื่อมวลชน มหาวิทยาธรรมศาสตร์
กีฬา กอล์ฟ (พอเล่นได้ถ้วยบ้างเท่านั้น)
|
|
|
|