ธันวาคม 2556

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
21
22
23
24
26
27
28
29
31
 
 
All Blog
[CR] All Alone in Kyoto-Osaka : เดินเล่นย่าน Namba กันจ้า [ตอนจบ]
  สวัสดีค่ะทุกท่านที่ติดตามชมและหลงเข้ามาอ่าน :D

ตอนนี้จะเป็นตอนสุดท้ายของทริปนี้แล้วค่ะ กะจะให้จบก่อนปีใหม่ซะเลย

ต้องออกตัวก่อนเลยว่า รีวิวอันนี้ ไม่ได้แนะนำว่าของถูกอยู่ที่ไหน หรือควรซื้ออะไรบ้างนะคะ

แต่เป็นบันทึกความทรงจำเสียมากกว่าว่าไปเจออะไรบ้าง ไปตรงไหนมาบ้าง

โปรดติดตามชมกันค่าาาาาา


วันที่ 5 ของทริป : 13 ธันวาคม 2556

วันนี้ ตั้งใจจะใช้เป็นวันช้อปปิ้งทั้งวันค่ะ และถ้ามีโอกาสก็จะเที่ยวที่ที่น่าไปด้วย เช่น Osaka Aquarium Kaiyukan แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไปเพราะท่าทางจะเดินทางลำบาก (จริงๆ คือขี้เกียจอ่ะ พูดง่ายๆ)

เราเลยออกจากโรงแรมสายหน่อย 9 โมงกว่า เกือบ 10 โมง เพราะคิดว่าตามห้างหรือแหล่งช้อปปิ้งน่าจะยังไม่เปิด (เดาเอา)

subway สาย Midotsuji line สายสีแดง ค่อนข้างจะไปถึงแหล่งช้อปปิ้งได้หมดดังนั้น เราเลยตั้งใจจะไปแถวๆ Shinsaibashi และ Namba ค่ะ

ถ้าพูดจริงๆ แล้ว ไปที่สถานี Namba เลยก็จะได้เจอแหล่งช้อปปิ้งแม้จะยังไม่ออกจากใต้ดินเลยจ้าาาาาา

ตอนที่เดินทางนั้น เราไปถึง Namba ก็ฝนตกแล้วล่ะค่ะ ตกเปาะแปะจนถึงเที่ยงเลย

จากที่เคยอ่านข้อมูลในเว็บนึงมา เค้าบอกว่า "ให้ออกจากสถานีนัมบะ ทางออกที่ 10-11 จะเจอแหล่งช้อปปิ้งทันที" 

เอาเข้าจริง ทางออก 10 กับ 11 อยู่ไกลกันมากกกกกกก เมื่อออกจาก 10 เจอแต่ตึกสูง ดูงงๆ ส่วน 11 อยู่หลังห้างห้างนึง (จำชื่อไม่ได้)

ต้องเดินไปตรงซอยหลังห้างค่ะ ถึงจะเจอ shopping arcade แต่ก็ยังไม่ใช่ส่วนที่เราต้องการอยู่ดี เราก็เดินมั่วๆ เดินไปเรื่อยๆ ค่ะ เจอร้าน drug store ก็ช้อปเครื่องสำอางไปสิ หุหุ



จนไปเจอ Game Center แถวๆ นั้นเข้า...



เห็นน้องผู้หญิง 2 คนเล่นเจ้าเกมนี้อยู่ Dance Revolution ซึ่งเวลาเต้น จะไม่ใช้แค่ขาแล้วนะ ต้องวาดแขน ทำมืออะไรตามหน้าจอด้วย

คือเราว่าท่าเต้นมันแปลกๆ นะ แต่น้อง 2 คนนี้ก็เต้นเก่งทีเดียว แทบจะไม่หลุดจังหวะเลย เพื่อนผู้ชาย 2 คนที่ยืนข้างๆ เองก็เต้นเป็นด้วย (เห็นทำท่าตามเพลงอยู่)

ไม่รู้ว่ามีใครนำเข้าในไทยแล้วรึยัง แต่เราว่ามันน่าสนใจดี ต้องใช้ความกล้าในการเล่นพอสมควรเลย 



หลังจากเดินไปเรื่อยๆ เราก็ไปเจอร้านนี้เข้า...




ไม่ได้โฆษณานะคะ แต่เสื้อผ้าน้องหมาร้านนี้ โดนใจจริงๆ จนต้องซื้อมาฝากตัวแสบ 2 ตัวที่บ้านคนละตัว 5555

ตัวที่แขวนข้างหน้านี่ ตอนแรกอยากได้เหมือนกันค่ะ แต่ราคาพันกว่า สองพันเยน แถมหนาอีกต่างหาก ไม่กล้าซื้อเพราะกลัวบ้านเราไม่หนาวค่ะ (แต่พอกลับมาสักพัก หนาวเลย - -)

ปล. เสื้อติดป้าย made in Thailand T T ขายตัวละ 1000 เยน กรี๊ดดดดดด ประเทศไทยมีขายที่ไหนชี้เป้าทีค่ะจะตามไปซื้อ



ไม่ยอมมองกล้องกันง่า -3- 


เดินไปเรื่อยๆ จนมาเจอร้าน Daruma กับเจ้าปูตัวนี้ ร้านดังนี่นา!!! แปลว่าเรามาถูกทางแล้ว เย้ๆๆๆ



เราเดินไปถึงก็เที่ยงพอดีอ่ะค่ะ ในร้านก็คนยังไม่เยอะ ไม่ถึงกับต้องต่อคิว 

ในร้านมีเมนู 4 ภาษา : ญี่ปุ่น เกาหลี จีน อังกฤษ ให้เลือกค่ะ



เราสั่ง Dotonburi Set ราคา 1400 เยน


มีกาละมังใส่กะหล่ำปลีสด จาน ผ้าเช็ดมือ ชาอู่หลงสั่งต่างหาก แก้วละ 300 เยน ถาดเงินข้างหลังเป็นถาดใส่น้ำจิ้ม ซึ่งหลายท่านคงทราบแล้วว่าให้จิ้มแค่ครั้งเดียวนะจ้ะ กัดแล้วห้ามจิ้มซ้ำอีก

กระบอกไม้ไผ่เอาไว้ใส่ไม้เสียบที่กินหมดแล้วค่ะ

ของทานเล่น เลือกได้ 3 อย่าง เราสั่ง edamame หรือถั่วแระญี่ปุ่น (ตอนนั้นลืมว่ามันคืออะไร สั่งมั่วว่าชื่อคุ้นๆ ได้ถั่วแระญี่ปุ่น โชคดีไป 5555)



ทั้งเซต มี 9 ไม้ 9 อย่าง และมาเป็นเซตแบบ 5-4 ค่ะ โดยจะมีน้องพนักงานสุดน่ารักมาอธิบายว่าแต่ละไม้คืออะไร (น้องเค้าพยายามพูดอังกฤษด้วยนะ)

อันที่เรากัดไปแล้วคือเนื้อชุบแป้งทอด ในถาดจากซ้ายไปขวา : กุ้งชุบแป้งทอด (สุดยอด) หน่อไม้ฝรั่ง ไข่นกกะทา และโมจิทอด (อันนี้อร่อยมาก)



เซตถัดมามี ไส้กรอก (กินไปแล้ว) หมูทอด ลูกชิ้นไก่ และลูกชิ้นปลาชีส

แทะกะหล่ำปลีแกล้มไปด้วย ช่วยตัดเลี่ยนได้ดีค่ะ ชาอู่หลงเองก็โอเค เราสั่งเบิ้ลชาอู่หลงไปอีกแก้วด้วย

ค่าเสียหายมื้อนี้อยู่ที่ 2000 เยนค่ะ ไม่อิ่มแต่กินให้พอเป็น check point 5555




แวะช้อปปิ้งร้าน Glico ด้วยยยยยยยยย

ที่นี่มี kitkat อยู่หลายรสเลยค่ะ รสแปลกๆ ที่ไปเจอที่เกียวโตก็มีขายที่นี่ เลยสอยป๊อกกี้สายรุ้งกับป๊อกกี้กล่องเล็ก (แท่งสั้นๆ) มาอีกกล่อง ที่เหลือหิ้วคิทแคทตามออเดอร์เพื่อนค่ะ



เดินผ่าน Okonomiyaki กับ Takoyaki หลายร้าน แต่ยังอิ่มอยู่เลยเดินผ่านไป - -"



คุณเค้าขยับได้ด้วยล่ะ ตีกลองๆๆ

เลี้ยวซ้ายจากร้านดารุมะเมื่อกี้ เราก็จะเจอร้านปูใหญ่อีกร้าน



แล้วก็....



เจอแล้วววววววววววววววววววววววววววว

ฉันมายืนอยู่กลางย่านช้อปปิ้งของนัมบะแล้วววววววววววววววววววววว

มองหาป้าย Glico ต่อ ไหนอ่ะ ไหนๆๆ พอหันหลังไปก็...



ฮูเร่!!!!



ให้คนแถวนั้นช่วยถ่ายให้ค่ะ

จากนั้นก็วิ่งเข้าร้าน Matsumoto Kiyoshi ด้วยความเร็วแสงค่ะ วันนั้นหนาวมากกกกกกกก 8 องศาที่มีฝนและลมแรง 



แว็กซ์แต่งผมสำหรับชาวไซย่า (ผิดดดด) ดูระดับนะคะ

3 ดาว ไม่ค่อยแรงเท่าไหร่/ 5 ดาว เริ่มโหดละ /7 ดาว เป็นซุปเปอร์ไซย่าเลย

กระปุกละ 980 เยน เชิญไปโดนกันได้ 55555

ฝั่งข้างในของ Matsumoto Kiyoshi (shopping arcade) มีร้านขายแบรนด์เนมมือสอง แล้วก็พวกนาฬิกามือสองด้วยนะคะ 



เราตั้งใจจะเดินจนกว่าจะมืดเพื่อรอ light up ค่ะ เลยตัดสินใจเข้าไปรอใน starbucks แทน มีน้องแนะนำว่า ต้องลอง matcha green tea late 

ร้านข้างล่างโต๊ะเต็ม เลยต้องเดินขึ้นชั้นสอง ซึ่งที่นั่งเยอะกว่ามาก เลิศสุดๆๆๆๆ



วิวดีนะคะ :D นั่งมองหน้านิโนะ อาราชิไปด้วยแบบนี้

แต่ชาเขียวที่นี่ กินแล้วปากเขียวมาก - -" เราก็ไม่รู้นะ เดินไปห้องน้ำทั้งที่ปากเขียวๆ นั่นแหล่ะ เข้าห้องน้ำยังไม่สังเกตเลย จนมาส่องกระจกเองใกล้ๆ 

โอ้วววววววววววว มิน่าคนมองกันทั้ง floor 555555


เราก็นั่งชิลไปเรื่อยๆ ค่ะ ไม่มีอะไรทำ ก็แชทหาชาวบ้าน โพสรูปบ้างอะไรบ้างจนกว่าจะหมดแก้วนั่นแหล่ะ

แล้วก็เดินไปเดินมาแถวนั้น หนาวก็หนาว ฮือออออออออ 

เราลงไปเจอกลุ่มโฮสต์คลับแถวนั้นด้วยค่ะ พวกหนุ่มๆ ออกมาเต้นเพลง Koisuru fortune cookies (อันนี้พี่ที่เป็นติ่ง AKB48 บอกมา) เต้นกันแบบเขินๆ อ่ะค่ะ คนมุงกันเยอะ



MV ตัวจริงค่ะ



น่าร๊ากกกกกกกกก

เดินข้ามสะพานไปตรงหน้าร้าน H&M ก็ไปเจอพี่มืดคนนึง พูดญี่ปุ่นได้ด้วย มาเล่นควงลูกบาสโชว์ เปิดหมวกโชว์นั่นแหล่ะค่ะ เลยให้ไป 50 เยน เพราะแกก็ควงเก่งจริงๆ อ่ะแหละ :)

เราเลยแว๊บเข้าร้าน H&M เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว กะจะหาเสื้อกับกางเกงให้พ่อด้วย เห็นบ่นเสื้อไม่มีใส่ (เพราะอ้วนมาก หาเสื้อกันหนาวใส่ยาก)

เราก็ไม่ผิดหวังนะ เสื้อถูกมากกกกกกกกกกกกก ลดราคากันกระจุยกระจาย

หมวกแบบ beanie ก็เหลือ 700 เยน (จาก 1190 เยนมั้ง) ถุงเท้าแพ็ค 3 ก็ราคานี้ วุ้ยยยยยยย สอยด่วนๆๆๆๆ

//ซื้อเสร็จก็กลับมาปวดหัวว่า จะเก็บกลับไทยไปยังไงว้าาาาาา orz





เดินไปเดินมาตัดสินใจเข้าร้าน Tsutaya ที่อยู่ตึกเดียวกับ Starbucks เพราะเห็นคำว่า DVD, Anime, Games ชั้นใต้ดินนี่แหล่ะ

หนังสือเยอะมาก การ์ตูนเยอะมาก เกมไม่ค่อยเยอะ 

แต่วันที่เราไป เกม Puzzle & Dragons เพิ่งจะวางแผงค่ะ (nintendo 3DS) กำหนดวางแผงคือ 12 ธันวาคม 2013 โปรโมตกระหน่ำมาก มีแม้กระทั่งโฆษณาบนรถไฟ JR ยิ่งดูยิ่งอยากเล่น 5555








เกาะกระหายเลือด...



Sword Art Online มี Extra edition ด้วย ถ้าอ่านญี่ปุ่นออกจะไม่พลาดแน่นอน ><



พี่น้องปริศนาโรงเรียนมหาเวทย์

แหม เรื่องนี้อนาคตไกลนะฮะ ไม่นึกว่าจะออกมาเป็นสิบเล่มขนาดนี้ บ้านเราออกถึงเล่ม 2 เอง 

(ดองไว้ยังไม่ได้อ่านทั้ง 2 เรื่อง)


นอกนั้นก็จะเป็นสินค้าอนิเม พวงกุญแจ เสื้อ โปสเตอร์ ผ้าทั้งหลาย แฟ้มสะสม DVD รวมไปถึง Blu-ray ด้วย

พวกฟิกเกอร์หรือเนนดรอยด์ไม่ค่อยมีค่ะ 

แล้วเราก็เดินมือเปล่ากลับมา = =




ณ จุดนี้...(เดินกลับมาหน้าร้านดารุมะ)

เราโดนหญิงสาวชาวจีนนางนึงมาทักเรา "Hey!"

เราทำหน้างง เธอเป็นใคร เครื่องหมายคำถามเต็มหน้า

สาวจีน : จำเราได้มั้ย?

เรา : ???

เพื่อนนาง : //ทำหน้าแบบ "เห็นมะ เค้าจำมึงไม่ได้"

สาวจีน : ที่เราเคยถ่ายรูปให้ไง ที่เกียวโตน่ะ

เรา : เอ้ออออ (จริงๆ จำไม่ได้ ทำหน้าเอ๋อ)

สาวจีน : แล้วเธอจะไปไหนต่อล่ะ

เรา : ก็ว่าจะรอ light up แล้วก็กลับโรงแรมน่ะ พรุ่งนี้จะกลับบ้านแล้ว

สาวจีน : เหมือนกันเลย เรามาจากจีน เธอล่ะ?

เรา : ไทยแลนด์ 

สาวจีน : แล้วเจอกันนะ บายๆ


อันนี้เป็นเฉลยจากรูปที่วัดทอง ตอนแรกค่ะ 

สาวจีนนางนี้เป็นคนถ่ายรูปให้เราเอง แล้วเราก็ถ่ายรูปให้นางด้วย แต่เราจำไม่ได้ กร๊ากกกกก

ดันมาบังเอิญเจอเอาวันสุดท้ายก่อนกลับบ้าน บังเอิญได้อีกกกกกกกกกกกก

ขอโทษนะตัว ถึงเราจะให้คนอื่นถ่ายรูปให้เราไม่มาก แต่เราจำหน้าคนยากมากจริงๆ = = นิสัยไม่ดี //เขกหัว 1 ที



เดินไปเดินมา เอาวะ ต้องลอง takoyaki สักที เลยเลือกเข้าร้านนึงที่มีโต๊ะนั่ง



8 ลูก 700 เยนรึไงเนี่ย แพงมาก - -"

แต่แลกกับโต๊ะที่นั่งก็พอไหว ข้างนอกหนาวเกิน ของก็พะรุงพะรัง

ไม่ค่อยอร่อยอ่ะค่ะ เราว่ากินดาโกะอร่อยกว่านะ หรือเราลิ้นเพี้ยนเองไม่รู้ เหอๆ


ออกมาก็เริ่มมืดแล้ว

เคยได้ยินเรื่อง "สาวเพื่อนเที่ยว" ในหนังสือการ์ตูนบ่อยๆ เราก็ไม่นึกว่าจะมาเจอที่นี่

ซึ่งแต่งตัวได้เปรี้ยวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก นุ่งสั้นได้อีกกกกกกกกกกกกกก

กุงเกงขาสั้นสก๊อยบ้านเราชิดซ้ายไปเลย หนาวเวอร์แต่แต่งแบบนั้นได้ พวกนางเก่งนะ 











หันหน้า มุมมหาชน (ตรงนี้ไม่มี Uniqlo แล้วนะคะ)



หันหลัง shopping arcade



เมื่อยืนกลางสะพาน...



ตอนแรกเรากะว่าจะรอจนไฟป้าย Glico เปิดนะ แต่รอจนหกโมงกว่าก็ไม่ติดสักที ป้ายข้างๆ เปิดกันหมดแล้ว 

รอจนทนไม่ไหว หนาวก็หนาว เหนื่อยก็เหนื่อย คนเยอะอีกต่างหาก เผ่นดีกว่า - -







ข้างใน Shopping arcade ค่ะ 


จากตรงนี้เดินตรงไปเรื่อยๆ จนถึงถนนใหญ่ ทางซ้ายมือเป็นทางลง subway ทางออกที่ 14 ของสถานีนัมบะ

ดังนั้น ส่วนตัวแล้วคิดว่าถ้าเราจะช้อปปิ้งที่นี่ แนะนำให้ออก exit 14 ค่ะ จะใกล้กว่า


คืนนั้น เรากลับไปนั่งเครียดเพราะของเยอะมากกกกกกกกก ของฝากซื้อและซื้อฝากเยอะจริงๆ (ของตัวเองไม่ค่อยมี) กระเป๋าแน่นตุง เครียดจิตตก คิดว่าจะแบกลงรถไฟยังไง - -"

แล้วก็กลัวว่าจะน้ำหนักเกินด้วย (ได้จากการบินไทย 30 กก.)


วันที่ 6 วันสุดท้ายของทริป : 14 ธันวาคม 2556




รูปนี้คือแบกมาจนถึงสถานี JR Tennoji กำลังจะไปสนามบินคันไซค่ะ ฝรั่ง 2 คนยืนงงกับอีนี่มาก ลากกระเป๋า 2 ใบ+ถุง 1 ใบ ที่ไหล่สะพายกระเป๋าสีชมพูอีกใบ

บอกเลยว่า แบกตั้งแต่สถานี Dobutsumae นี่ อึ้งตัวเองเพราะต้องเดินขึ้นลงบันไดเอง เจอบันไดปราบเซียนที่สถานี Tennoji อีกต่างหาก (ทำไมไม่มีลิฟต์ให้ตู!!)

แล้วไปยืนเอ๋อที่หน้าตู้ขายตั๋วอีกที สติแตกพักนึง ค่อยๆ ตั้งสติแล้วถึงซื้อได้ (คือแบบ ไม่รู้จะหยอดเงินตอนไหน มึน+เหนื่อย+หนัก)

แล้วเราก็ขึ้นรถไฟมาจนถึงสนามบินคันไซจนได้ค่ะ ไม่มีที่นั่ง นั่งบนกระเป๋าตัวเองก็ได้ T T

ถึงสนามบิน หายเหนื่อย ดีใจเจอรถเข็น 

รีบเอาบัตร ICOCA ไปคืนทันที แล้ววิ่งไปเช็คอินเลยจ้าาาาาาาาาา



Starbucks ทันทีที่หลุดจากการเช็คอิน+โหลดกระเป๋าแล้ว

ฟินมากกกกกกกกกกกก ณ จุดๆ นี้

ณ จุดๆ นี้ เราเจอคนจีนกลุ่มนึงนั่งกินมาม่าด้วยนะ - -" พนักงาน Starbucks ต้องรีบวิ่งมาห้าม เพราะพี่แกจะเอาถ้วยมาม่าทิ้งในถังร้านเค้า ส่วนพวกที่นั่งโต๊ะก็เอาน้ำมาม่าเททิ้งลงในแก้วของเค้าอีก!

เรานี่แบบว่า เออ มันเป็นเอกลักษณ์ของชาตินี้เลยแหะ ทำอะไรห่ามๆ แปลกๆ ที่ชาวโลกเค้าไม่ทำกัน



จากนั้นก็เข้าตม.ไปจ้า เราไม่แน่ใจว่าต้องเขียนอะไรอีก เลยให้เจ้าหน้าที่หน้าตม.ช่วยดูให้ เค้าก็ดึงใบ tax refund ออกให้ค่ะ แค่นั้นแหล่ะ - -"

ผ่านเข้าตม. ช้อปปิ้งกระจุยกระจาย เพิ่มน้ำหนักและความพะรุงพะรังให้ตัวเองมากขึ้นไปอีกกกกกกกกก orz


ไฟลทนี้คนไทยเยอะ แต่ก็ยังไม่เต็มลำค่ะ สำหรับ A380

จริงๆ แล้วการขึ้น A380 ของการบินไทย เป็น 1 ใน bucket list ของเราด้วยนะคะ แต่ถ้านับจริงๆ ต้องเป็นไฟลทที่ไปปารีส CDG ต่างหาก ไม่นึกว่าจะได้นั่งเร็วขนาดนี้ หุหุ





ที่นั่งกว้างขวางสบาย เราสูง 171 ซม.ก็ยังเหลือค่ะ



เราขอเปลี่ยนที่นั่งค่ะ ขอคุณแอร์ฯ ตรง 3L ด้วย เธอก็รีบจัดที่ให้นั่งโดยไว น่ารักจริงๆ :D



ย้ายมาตรงนี้ มันเป็น Bassinet seat แต่ว่างอ่ะเนอะ ครั้งแรกเลยที่ได้นั่งตรงนี้



อาหารมื้อเที่ยงเป็นไก่อบมันฝรั่ง อร่อยดีค่ะ

ขนมปังน้ำตาลกับขนมปังขาว มันต่างกันยังไงคะ ช่วยบอกที คุณแอร์เอามาให้เลือก เราก็เลือกไม่ถูกค่ะ เลยเอาขนมปังน้ำตาลมา


ส่วนของว่างตอนใกล้ landing ก็คือ..



ไอศกรีมมังคุด!

พอดีในเครื่องเค้าปรับโทนแสงไฟเป็นสีม่วงให้พักผ่อนน่ะค่ะ เลยมืดไปหน่อย - -"



จบไปแล้วสำหรับทริปการผจญภัยในต่างแดน ณ ประเทศญี่ปุ่น เมืองเกียวโต-โอซาก้า แถมนาราอีกเมือง

ขอบคุณที่ติดตามชมกันมาตลอดนะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย


ทริปนี้จะขาดไม่ได้เลยถ้าไม่มีท่านพ่อที่กล้าลงทุนให้ไปเที่ยวเองคนเดียว 

ขอบคุณพี่ชาย-พี่สะใภ้ที่ขับรถไปส่ง หลงบ้างอะไรบ้างแต่ก็ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ

ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่มาเฮฮากิ๊วก๊าวกันใน fb ไม่เหงาเลยขอบอก อัพเดทแบบ real time ขนาดนี้

ขอบคุณน้องชลที่ช่วยวางแผนการเดินทางและให้คำแนะนำตั้งแต่ต้น 

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแชทให้กำลังใจมากๆ ทำให้มีแรงฮึด เดินทาง หาของ แบกของกลับไทยไปทั้งหมด



เพราะทริปนี้ ไม่มีใครเชื่อว่าเราไปเที่ยวเองคนเดียว ไม่ได้ไปทัวร์ วางแผนเอง หลงเอง มั่วเอง อะไรเอง 

เป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่จะหาที่ไหนไม่ได้แบบนี้แน่ๆ ดีใจและคิดไม่ผิดที่เริ่มต้นทริปนี้แบบปัจจุบันทันด่วนก็ตาม

กลับมาเพื่อนบอกว่า "แกเป็นหญิงถึกแห่งปีว่ะ" 555555555555


ขอบคุณค่ะ เจอกันใหม่ปีหน้า สวัสดีปีใหม่นะคะ




ของแถมนิดนึง



ตรงที่แขวนกระดาษอธิษฐานบนตึก umeda sky building



หน้าโต๊ะที่เรานั่งดื่มชาเขียวค่ะ สวีทกันเหลือเกิน 

//กรีดร้องสุดเหวี่ยง คนโสดปวดจายยยยยยยย T T





บนสถานี Osaka ถ่ายจากบันไดเลื่อน ขึ้นมาเจอภาพนี้เลยค่ะ สวยมาก



Owarimasu!! จบแล้วจ้า :D



Create Date : 30 ธันวาคม 2556
Last Update : 2 มกราคม 2557 18:39:17 น.
Counter : 3851 Pageviews.

3 comments
  
พี่เป็นแรงบันดาลใจให้หนูเลยค่ะ
เปียแชร์ไปญี่ปุ่นบ้างดีกว่า 55555

เขียนสนุกมากเลยค่ะ เก่งมากๆด้วยเดินทางคนเดียว
TC ka
โดย: l2ouht66 IP: 124.122.49.14 วันที่: 3 มกราคม 2557 เวลา:20:20:32 น.
  
ขอบคุณนะคะ ^^
โดย: อัลปาก้าจัง วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:10:13:40 น.
  
พี่นี้เจ๋งเนอะ ชอบอ่ะ
อ่านเพลินเลย ตี1ล่ะ
โดย: เป้ IP: 223.207.120.136 วันที่: 8 มิถุนายน 2557 เวลา:1:04:42 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัลปาก้าจัง
Location :
ราชบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]



สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกของ Piyoko-chan !!


เจ้าของบล็อกชื่อ เป้ ค่ะ

แต่งหน้าก็พอไหว แต่งตัวไม่ได้เรื่อง(ในบางที)

ตอนนี้มีหมวดท่องเที่ยวแล้ว ความฝันอีกอย่างคือได้เที่ยวทั่วโลกค่ะ จะพยายามรีวิวให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงทริคและเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่างประเทศให้ได้ชมกันค่ะ


เอาเป็นว่า นั่งอ่านขำๆ ไปแล้วกันนะคะ ^^

ถูกใจบล็อก donate สมทบทุนค่าเดินทางในทริปต่อๆ ไปได้ที่นี่เลย..
https://www.paypal.me/yanisapae

ขอบคุณล่วงหน้าค่า