| All Blog
|
ขอเชงเก้นไป Swiss ครั้งแรก!! สวัสดีค่ะ ขอคั่นรายการด้วยเรื่องนี้ละกันนะ พอดียังไม่ค่อยว่างทำตอนที่ 2 เลยค่ะ 5555 พอดีว่าพี่แป๋ว (เจ้าเดิม) เปิดทริปไปสวิสเซอร์แลนด์ ตามรอยในหลวง ร.9 เราก็ลังเลอยู่นาน ติดนั่นติดนี่ สุดท้ายเลยตกลงว่าจะไป ทริปนี้เริ่มวันที่ 4-15 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ เราเลยต้องรีบตัดสินใจนิดนึง พอบอกพี่แป๋วว่าเราตกลงไป ก็รีบหาข้อมูลเลยว่าเอกสารต้องใช้อะไรบ้าง ยื่นที่ไหน ขั้นตอนมีอะไร สำหรับวีซ่าเชงเก้นของประเทศ Switzerland สามารถขอได้ที่ TLS contact คนที่จะไปประเทศลิกเทนสไตน์ (Liechtenstein) ก็ขอกับสวิสเหมือนกันนะคะ และที่เดียวกันนี้ก็ไว้ขอเชงเก้นฝรั่งเศสเช่นกัน โดยต้องกรอก application form ทางเว็บของ TLS contact ก่อน แล้วจึงนัดวันและเวลายื่นเอกสาร อย่างแรก ต้องรู้ก่อนว่า เราไปทำอะไร กี่วัน จุดประสงค์ของการเดินทางของเราคือ "ท่องเที่ยวระยะสั้น" เอกสารที่ต้องใช้ 1. แบบฟอร์มคำร้องของวีซ่าตัวจริง (พิมพ์จากหน้าเว็บแล้วพริ้นท์ออกมา) พร้อมลายเซ็นของเรา 2. รูปถ่าย 2 รูป พื้นหลังขาว ใบหน้าใหญ่ เห็นหูและคิ้ว ไม่สวมหมวก ขนาด 3.5 x 4 ซม. ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน 3. passport ตัวจริง และสำเนา **ต้องถ่ายสำเนาหน้าที่ประทับตราและวีซ่าทุกหน้าในเล่มด้วย** 4. ประกันภัยการเดินทาง วงเงิน 1.5 ล้านบาท (แต่ถ้าลืม ไปซื้อที่หน้า TLS contact ก็ได้ค่ะ มีบริษัท MSIG ขายอยู่) 5. เอกสารจองตั๋วเครื่องบิน ระบุวันที่เดินทางทั้งไปและกลับ 6. เอกสารจองโรงแรม **ต้องมีชื่อเราและเพื่อนทุกคนลงในชื่อผู้เข้าพักด้วยนะ** 7. หนังสือรับรองการทำงาน (ระบุตำแหน่งงาน เงินเดือน ทำงานมานานเท่าไหร่ ลากี่วัน ชื่อบริษัท) / เด็กนักเรียนขอจดหมายรับรองที่โรงเรียน-มหาวิทยาลัย / ใครไม่มีเป็นฟรีแลนซ์ เขียนจดหมายแนะนำตัวไป 8. Bank Statement ที่ขอจากธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน (ไม่ใช่ที่ถ่ายเอกสารจาก book bank เรานะคะ) **สำคัญมาก ผิดกันเยอะ** 9. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล พร้อมตัวที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ 10. โปรแกรมท่องเที่ยวของเราเอง แนบไปด้วยค่ะ ระบุสถานที่ไป วันที่เที่ยว ไฟลทบิน แบบคร่าวๆ ก็ได้ พร้อมชื่อเพื่อนหรือคนที่เดินทางทริปเดียวกับเรา สำหรับเราเอง เราจัดเอกสารเองหมดค่ะ เพราะขอมาแล้วเป็นครั้งที่ 3 ก็ชิลๆ นะ รู้อยู่แล้วว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง กรอกแบบฟอร์มขอวีซ่าทิ้งไว้ก่อนเลย ระบบของ TLS ค่อนข้างโอเคค่ะ กรอกไปครึ่งทางก็ยังเซฟได้ อันนี้เราต้องสมัคร "สร้างบัญชีของท่านเอง" เอาไว้ก่อนนะคะ ตรงนี้ทำให้เราสามารถล็อคอินเข้าหน้าเว็บเพื่อไปกรอกแบบฟอร์มได้ และเอาไว้ติดตามผลการยื่นวีซ่าได้ด้วย แต่หน้าเว็บจะไม่บอกว่าวีซ่าเราจะผ่านหรือไม่นะคะ สำหรับคนที่จะไปยื่นพร้อมกัน กรอกแบบฟอร์มในล็อกอินเดียวกันเลยก็ได้นะ แล้วจองยื่นเอกสารพร้อมกันไปเลยค่ะ ค่าธรรมเนียมยื่นวีซ่าระยะสั้น คนละ 2300 บาท (อยู่ที่ค่าเงินตอนนั้น) ค่าบริการของ TLS 863 บาท ค่าส่ง EMS 180 บาท (ถ้าไม่มารับเอง) สำหรับเราเองนั้น รีบเตรียมเอกสารแต่เนิ่นๆ ของอย่างแรกที่ได้มาคือ ตั๋วเครื่องบิน ค่ะ ไปเจอ Turkish airline ราคาดีเลยรีบซื้อก่อน ที่เหลือค่อยทยอยตามมา หลังจากที่ได้วันยื่นเอกสารแล้ว วันที่เราเลือกคือวันที่ 9 มีนาคม เวลา 13.30 น. ซึ่งเร็วสุดและสะดวกสุดของเรา สำหรับคนที่เลือกวันแล้วแต่ยังเร็วไม่ทันใจ แนะนำให้เข้าไปเลือกใหม่ได้ กดรีเฟรชไปค่ะ เผื่อมีคนยกเลิก จะได้วันที่เร็วขึ้น ใครที่ถ่ายรูปมาแต่พลาด ถ่ายไม่ถูกต้องตามแบบ เค้ามีบริการถ่ายรูปให้ 4 ใบ 250 บาทค่ะ บริการถ่ายเอกสารใบละ 8 บาท TLS contact อยู่ที่ตึกสาธรซิตี้ ชั้น 12 แลกบัตรประชาชนแล้วค่อยขึ้นตึกนะคะ เดินทางจาก BTS ช่องนนทรีย์ใกล้สุดค่ะ ที่เหลืออ่านตามนี้ค่ะ https://ch.tlscontact.com/th/BKK/page.php?pid=Address_and_Opening_hours วันที่ไปยื่นเอกสาร แฟนพาไปค่ะ มีคนมารอหน้าออฟฟิศ TLS เยอะพอประมาณ อุปกรณ์อิเลคโทรนิค มือถือ แท็บเล็ต ต้องฝากไว้ในล็อกเกอร์ (ฝากฟรี) ส่วนเราฝากไว้ที่แฟน เมื่อใกล้ถึงคิวรอบของเรา เจ้าหน้าที่จะให้เข้าแถวตอนลึก ให้รอแถวๆ หน้าประตูเลย ประตูจะเปิดเมื่อถึงเวลาเท่านั้น เมื่อเข้าไปแล้วต้องสแกนร่างกาย ยื่นใบนัดที่ได้จากหน้าเว็บ (ได้หลังจากเลือกวันยื่นเอกสาร) ที่มีบาร์โค้ด เข้าไปแล้วให้นั่งรอเรียกชื่อที่จะขึ้นบนหน้าจอมอนิเตอร์และเลขเค้าเตอร์ค่ะ ของเราจะได้เร็วหน่อยเพราะเคยเก็บลายนิ้วมือและถ่ายรูปมาก่อนแล้วจากครั้งที่ไปออสเตรียและเยอรมนีก็ได้เข้าช่องเลขต้นๆ เลยค่ะ เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารจะตรวจนานพอประมาณ ตรวจละเอียดมาก ถ้าอยากให้เร็วให้เตรียมตัวแบบนี้ไปค่ะ - ไฮไลท์ชื่อของเราบนเอกสารสำคัญ เช่น ตั๋วเครื่องบิน(ชื่อและจุดหมายปลายทาง วันที่บิน) ใบจองโรงแรม (ชื่อเรา วันที่ ชื่อโรงแรม) - ติดรูปบนแบบฟอร์มขอวีซ่า และเขียนชื่อนามสกุลเป็นภาษาอังกฤษ เลขพาสปอร์ต เบอร์โทรไว้ที่หลังรูปด้วย (บางคนคิดว่าไม่สำคัญ แต่ถ้ารูปหลุด เค้าจะตามหาให้เราไม่เจอนะ) เราเพิ่งทำพาสปอร์ตใหม่เมื่อปีก่อน เลยต้องเอาพาสปอร์ตเล่มเก่าติดไปด้วยค่ะ แน่นอนว่าถ่ายเอกสารสำเนาหน้าแรกที่มีข้อมูลเราและทุกหน้าที่มีตราประทับไปด้วย (เสียหน้าละ 8 บาท ถ้าโดนให้ถ่ายเพิ่มคงไม่ต่ำกว่า 10 แผ่นแน่ๆ 80 บาทเลยนะ!!!) ตัว Bank statement ต้องเป็นตัว official ที่ออกโดยธนาคารเท่านั้นนะคะ เราส่งแบบ book bank ถ่ายเอกสารไป แล้วก็ตัว bank guarantee ไป เค้าขึ้นในระบบว่า "เอกสารไม่สมบูรณ์" ด้วย ตรงนี้ทำให้รู้สึกหวาดเสียวเหมือนกัน เอกสารที่เหลือไม่มีปัญหาค่ะ ตอนแรกจะขอเพิ่มกับธนาคารกรุงศรีฯ แต่ตอนที่เจ้าหน้าที่บอกก็เกือบบ่ายสองแล้ว ต่อให้เสร็จจากตรงนี้แล้ววิ่งออกไปขอเพื่อยื่นใหม่ก็ไม่ทันบ่ายสองครึ่งอยู่ดี เราเลยคิดว่า รอให้ทางสถานทูตโทรมาขอเอกสารเพิ่มเองละกันถ้ามีปัญหาอะไร เพราะทาง TLS contact ยื่นเอกสารวันต่อวันให้ทางสถานทูตไปเรียบร้อยแล้ว สรุป ปล่อยเลยตามเลยนะ ยื่นเอกสารจบ จ่ายเงินก็ออกมาได้เลยค่ะ อย่าลืมแลกบัตรประชาชนกลับไปด้วยนะ เราได้รับแจ้งว่าทางสถานทูตสวิสส่งเอกสารคืนมาทาง TLS ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 มีนาคมละ แต่ส่ง EMS มาถึงบ้านเรา 15 มีนาคม แน่นอนว่า ได้วีซ่าเชงเก้นจากสถานทูตสวิสจ้าาาาาาาาา นี่ก็เตรียมตัวไปเที่ยวละนะ 55555 จะพยายามทำบล็อกญี่ปุ่นให้เสร็จก่อนไปสวิสนะคะ คืนนี้น่าจะว่างละ สวัสดีค่า ปล. เอกสารที่อยู่นอกเหนือจากที่เราเขียนไป ขอไม่ตอบนะคะ แนะนำให้ถามทาง TLS contact ในเวลาทำการเพื่อความถูกต้องในข้อมูลค่ะ
|
อัลปาก้าจัง
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?] สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกของ Piyoko-chan !! เจ้าของบล็อกชื่อ เป้ ค่ะ แต่งหน้าก็พอไหว แต่งตัวไม่ได้เรื่อง(ในบางที) ตอนนี้มีหมวดท่องเที่ยวแล้ว ความฝันอีกอย่างคือได้เที่ยวทั่วโลกค่ะ จะพยายามรีวิวให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงทริคและเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่างประเทศให้ได้ชมกันค่ะ เอาเป็นว่า นั่งอ่านขำๆ ไปแล้วกันนะคะ ^^ ถูกใจบล็อก donate สมทบทุนค่าเดินทางในทริปต่อๆ ไปได้ที่นี่เลย.. https://www.paypal.me/yanisapae ขอบคุณล่วงหน้าค่า |
||||||||||||
