พอใจในสิ่งที่เรามี ยินดีในสิ่งที่เราเป็น และเห็นคุณค่าในสิ่งที่เราเลือก
space
space
space
 
พฤศจิกายน 2556
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
space
space
8 พฤศจิกายน 2556
space
space
space

เที่ยวเพชรบูรณ์....เขาค้อ

จังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งอยู่ในเขตภาคเหนือตอนล่าง แวดล้อมไปด้วยพื้นที่ป่าเขาเขียวขจี ภูมิประเทศสวยงามไม่ว่าจะเป็นเขาค้อ หรืออุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ คืออุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ซึ่งได้รับรางวัล Thailand Tourism Award ประจำปี 2543 ประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมโบราณสถานยอดเยี่ยม รวมไปถึงอาหารขึ้นชื่ออย่าง ไก่ย่างวิเชียรบุรี ขนมจีนหล่มเก่า และผลไม้ยอดนิยมของจังหวัด คือ มะขามหวานเมืองเพชร และลูกเสาวรส

เมืองเพชรบูรณ์นี้ สันนิษฐานว่า สร้างมา 2 ยุค ยุคแรก สมัยสุโขทัย หรือพิษณุโลก เป็นเมืองหลวงสักเกตตามแนวกำแพงเมือง ซึ่งเอาลำน้ำไว้กลางเมือง และยุคสอง สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีป้อมและกำแพงก่อด้วยอิฐปนศิลา สัณฐานคล้ายเมืองนครราชสีมาแต่เล็กและตี้ยกว่า เอาแม่น้ำไว้กลางเมืองเช่นเดียวกัน เมืองเพชรบูรณ์ที่สร้างทั้งสองยุคนี้ สำหรับป้องกันข้าศึกซึ่งจะยกทัพมาจากฝ่ายเหนือ

เพชรบูรณ์ เดิมชื่อว่าเมือง "เพชรบุร" หรือ "พีชปุระ" อันหมายถึง เมืองแห่งพืชพันธุ์ธัญญาหาร ตัวเมืองอยู่ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 346 กิโลเมตร อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ย 114 เมตร ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ลุ่มแบบท้องกะทะ พื้นที่ของจังหวัดมีลักษณะลาดชันจากทิศเหนือไปทิศใต้ ตอนเหนือเป็นทิวเขาสูง ตอนกลางเป็นที่ราบขนาบด้วยเทือกเขาเพชรบูรณ์ทางทิศตะวันออก และทิศตะวันตก มีแม่น้ำสำคัญไหลผ่านคือ แม่น้ำป่าสัก












พระตำหนักเขาค้อ เป็นพระตำหนักที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ตั้งอยู่บนเขาย่า สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,100 เมตร จัดสร้างโดยบรรดาข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร และประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ภายหลังการต่อสู้ด้วยอาวุธกับ ผกค. สิ้นสุดลงแล้ว จึงได้รวบรวมทุนทรัพย์ ริเริ่มการก่อสร้าง พระตำหนักเขาค้อ ขึ้นเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ประชาชนในพื้นที่ และเป็นที่ทรงงาน และแปรพระราชฐานมาประทับแรม ในวโรกาสที่พระองค์ และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จมาตรวจเยี่ยมโครงการตามพระราชดำริ ในพื้นที่เขาค้อ

ภาย ในพระตำหนักประกอบด้วยอาคารเชื่อต่อกันลักษณะรูปวงแหวน มีเรือนข้าราชบริพารเป็นส่วนเชื่อมต่อกับพระตำหนัก อาคารมีลักษณะโค้ง 2 ชั้น ชั้นบนมี 2 ห้องใหญ่ ซึ่งเป็นห้องบรรทมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ชั้นล่างประกอบด้วย ห้องพระราชทานเลี้ยง ซึ่งมีห้องครัวอยู่ทางด้านหน้า , ห้องเสวย , ห้องเข้าเฝ้า และห้องโถงใหญ่

นอก จากนั้นชั้นล่างยังเป็นห้องบรรทมของสมเด็จย่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารี บริเวณ ด้านหน้าพระตำหนัก มีสวนหย่อม และแปลงไม้ดอกมีลักษณะเป็นวงกลม ณ จุดศูนย์กลางของวงกลมเป็นที่ตั้งของเสาธงมหาราช มีความสูง 60 เมตร ซึ่งสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสฉลองครบพระชนมายุครบรอบ 60 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ผู้ริเริ่มประสานงานการก่อสร้างคือ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ ผู้ออกแบบ มล.ตรีทศยุทธ เทวกุล วิศวกร ดร.รชฏ กาญจนวนิชย์ ผู้ก่อสร้าง (พ.ต. ธีรวัฒน์ สวามิวัสดิ์ ผู้ควบคุม) ช.พัน.4 ใช้งบประมาณการก่อสร้าง 26 ล้านบาท (ไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ) ระยะเวลาในการก่อสร้าง 7 เดือนเศษเปิดเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2528






















พิพิธภัณฑ์ อาวุธ (ฐานอิทธิ) ตั้งชื่อตาม พันเอก อิทธิ สิมารักษ์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้ยึดพื้นที่เขาค้อคืนจาก ผกค.ในปี พ.ศ.2524 บริเวณนี้เคยเป็นฐานปืนใหญ่ ยิงสนับสนุนการ สู้รบ ปัจจุบันจัดให้ เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง มีอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่ใช้ในการสู้รบตั้งอยู่มากมาย เช่น เครื่องบินขับไล่ เอฟ 5 รถสายพานลำเลียงพล ปืนใหญ่ ปืนใหญ่ขนาด 105 มม. จำนวน 2 กระบอก ปืนใหญ่ ขนาด 155 มม. ยิงได้ไกล 11 กิโลเมตร 1 กระบอก ฯลฯ
ภายในอาคารมีห้องบรรยายสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ ในยุทธภูมิเลือดเขาค้อ มีห้องจัดนิทรรศการ เกี่ยวกับอุปกรณ์ เครื่องใช้ เสื้อผ้า อาวุธของคอมมิวนิสต์ ส่วนด้านนอกอาคารยังมีฐานอาวุธ จัดแสดงอาวุธยุทโธปากรณ์ เช่น ปืนใหญ่ รถถัง รถแทรกเตอร์ บังเกอร์หลบภัย แต่ละจุดมีป้ายประวัติพร้อมคำอธิบายประกอบ

ที่นี่แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่ผู้มาเยือนเขาค้อไม่ควรพลาดชม เพราะนอกจากจะได้มารู้จักเขาค้อ รู้จักอาวุธยุทโธปกรณ์แล้ว ยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดบทหนึ่งของประเทศไทย ได้รับทราบถึงบทเรียนสำคัญในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อยุคหนึ่งของชาติ

พิพิธภัณฑ์อาวุธ เปิดให้เข้าชม เวลา 07.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม 10 บาท
กรณีมาเป็นหมู่คณะ จะมีเจ้าหน้าที่ช่วยบรรยายสรุปและฉายวีดีทัศน์ การต่อสู้ที่เขาค้อให้รับชมด้วย





















ทะเลหมอกบนเขาค้อ บริเวณที่เกิดทะเลหมอกบนเขาค้อ คือบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำรัตนัย ซึ่งอยู่ด้านล่างของถนนเส้นทางหลักสาย 2196 บริเวณใกล้ๆ กับที่ทำการอำเภอเขาค้อ สามารถชมทะเลหมอกได้เป็นระยะทางค่อนข้างยาวไกล ในช่วงเช้า ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ถึงเวลาประมาณ 8 โมงเช้า จุดที่นิยมไปชมกันมากที่สุด คือบริเวณศาลาชมวิวเขาค้อ, จุดบริเวณที่ตั้งของรีสอร์ทเขาค้อทะเลหมอก, พรสวรรค์รีสอร์ท,เขาค้อสวิส, รุ่งอรุณรีสอร์ท, ภูอาบหมอก, ภูชิดหมอก, ฟ้าใสหมอกสวยรีสอร์ท,The Sense วิวทะเลหมอกเขาค้อ,บ้านไร่ระเบียงหมอก, แทนรักทะเลหมอก, ภูผาหมอกเขาค้อ และบริเวณใกล้เคียง เช่น ศาลาชมวิวเขาค้อ, ชุมสายโทรศัพท์เขาค้อ และสถานที่ราชการ ที่อยู่ติดๆกัน เช่นสถานีตำรวจภูธรเขาค้อ, ที่ทำการไปรษณีย์ และโรงเรียนร่มเกล้าเขาค้อ











มื้อกลางวันที่ ร้านอาหารมาลี (ที่นี่ไม่ทำอาหารจานเดียวนะคะ)




พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก ตั้งอยู่บนเขาค้อ ริมทางหลวงหมายเลข 2196 อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเขาค้อไปทางทิศเหนือประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นพระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก อยู่ติดถนนด้านขวามือ เป็นเจดีย์ที่มีสถาปัตยกรรมผสมผสานทั้งแบบสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปให้ประชาชนได้สักการะบูชา ยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอัฐธาตุของพระพุทธเจ้า ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา โดยพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานให้กับประชาชนในพื้นที่ หลังจากยุติการสู้รบกับคอมมิวนิสต์ใน ประเทศไทย
ความเป็นมา
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2529 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ รวมทั้งพระธาตุของพระอริยสาวก ในสถูปศิลาขนาดเล็ก ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร และหนึ่งในจำนวนของสถูปศิลาที่ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ถวายแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และพะราชทานพรบรมสารีริกธาตุแก่ พลเอก พิจิตร กุลละวณิชย์ เพื่อให้อัญเชิญไปประดิษฐานประจำสำนักสงฆ์วิชมัยปุญญาราม บ้านเขาค้อ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

การ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานไว้ ณ พื้นที่เขาค้อแห่งนี้ เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ในอดีตเคยเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบ ระหว่างคนไทยด้วยกันเองมานาน จนทำให้เกิดการสูญเสียชีวิต และเลือดเนื้อจำนวนมาก ยังเศร้าโศกเสียใจให้กับคนไทยทั้งชาติ และเมื่อการสู้รบยุติลง ความสงบสุขร่มเย็นก็เริ่มบังเกิดขึ้น ราษฎรในพื้นที่ได้รับการส่งเสริม ให้มีที่ทำกินเป็นของตนเอง มีการพัฒนาอาชีพทางการเกษตร ราษฏรในพื้นที่เขาค้อ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเป็นลำดับ มีรายได้เพียงพอต่อการครองชีพ และที่สำคัญราษฎรมีความรัก และหวงแหนในแผ่นดิน ที่แลกมาด้วยชีวิตเลือดเนื้อ และหยาดน้ำตาของทหารหาญและพี่น้องคนไทยจำนวนมาก

พระ บาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุให้กับ พลเอก พิจิตร กุลละวณิชย์ เพื่อให้นำไปประดิษฐาน ณ พื้นที่เขาค้อนี้ให้เป็นที่เคารพสักการะ และนำความสงบสุขร่มเย็นมาสู่ราษฎรในพื้นที่ อีกทั้งให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทุกหมู่เหล่า ให้ร่วมมือร่วมใจพัฒนาชาติไทย ให้วัฒนาสถาพร ดังนั้น จึงได้มีพระบรมสารีริกธาตุให้ราษฎรในพื้นที่เขาค้อ และใกล้เคียงได้เคารพสักการะ ณ สำนักสงฆ์วิชมัยปุญญาราม บ้านเขาค้อ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
















 

Create Date : 08 พฤศจิกายน 2556
1 comments
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2556 8:22:04 น.
Counter : 1612 Pageviews.

 

thx u crab

 

โดย: Kavanich96 9 พฤศจิกายน 2556 12:43:26 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

space

หมูตัวลาย
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คนที่มีความสุขที่สุด ไม่ใช่คนที่ "มี" ทุกอย่างในชีวิตดีที่สุด แต่คือคนที่สามารถ "ทำ" ทุกอย่างในชีวิตให้ดีที่สุด

space
space
space
space
[Add หมูตัวลาย's blog to your web]
space
space
space
space
space