Bloggang.com : PIWAT : ความเป็นไปได้คำวินิจฉัยยุบพรรค

ความเป็นไปได้คำวินิจฉัยยุบพรรค

23 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

      หากไล่เรียงน้ำเสียงของฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับคดียุบพรรคการเมือง เริ่มตั้งแต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ตุลาการรัฐธรรมนูญ ล้วนเป็นความเห็นที่แตกต่างกันไปตามข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือภูมิรู้ของแต่ละคน

      แต่ปัจจัยต่างๆ เหล่านั้นยังไม่สำคัญเท่ากับพฤติกรรมความผิดของกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ถูกร้องว่าเป็นความผิด และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค ซึ่งมีมูลฐานความผิดแตกต่างกันไปตามแต่ละพรรค และต้องไม่ลืมว่าคดีนี้ไม่ใช่คดีอาญาทั่วไป ที่จะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) มาใช้พิจารณา นี่คือคดีการเมืองอันเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูว่าด้วยพรรคการเมืองปีพ.ศ.2541

      นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นในกรณีหากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคใดแล้ว กรรมการบริหารพรรคนั้นจะต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปีหรือไม่ ว่า ศาลรัฐธรรมนูญ คงจะไม่ระบุลงไปในรายละเอียดขนาดนั้น แต่อาจจะต้องไปว่ากันในขั้นตอนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่ในทางกฎหมายแล้วหากมีคำสั่งยุบพรรค กรรมการบริหารพรรคจะต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองด้วย ซึ่งเป็นไปตามประกาศของคณะปฏิรูปการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 27 ระบุเอาไว้

      ด้านนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง ยืนยันว่า หากศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคแล้ว พรรคการเมืองที่ถูกยุบยังไม่สามารถจดทะเบียนพรรคใหม่ได้ในทันที เนื่องจากตามพ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 68 วรรคท้าย ได้กำหนดข้อห้ามเอาไว้ โดยเมื่อพรรคการเมืองพรรคใดถูกสั่งยุบแล้วขั้นตอนจากนั้นจะต้องมีการชำระบัญชีภายใน 15 วัน ขณะเดียวกันสำนักงานตรวจสอบทรัพย์สิน จะต้องเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินภายใน 6 เดือน

      ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งที่ยังไม่สามารถยื่นขอจดทะเบียนพรรคใหม่ได้เนื่องจากยังมีคำสั่ง คปค.ฉบับที่ 15 และ 27 ที่ห้ามตั้งพรรคการเมืองใหม่ ดังนั้น ถือว่าตั้งพรรคใหม่ยังไม่ได้ แลด่านสำคัญอีกประการหนึ่งคือ แม้มีการชำระบัญชีและมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จสิ้นแล้ว การขอจดทะเบียนตั้งพรรคใหม่ได้หรือไม่นั้น ก็ยังขึ้นอยู่กับนายทะเบียนพรรคการเมืองจะเป็นผู้พิจารณา และนายทะเบียนพรรคการเมืองก็ยังคงเป็นกกต.ชุดปัจจุบันนี้

      ประเด็นสำคัญที่ มีการเฝ้าติดตามกันมากเพราะถือเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมือง ก็คือ การสั่งยุบพรรคจะมีผลไปถึงการตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค ด้วยหรือไม่

      ก่อนหน้านี้ตุลาการรัฐธรรมนนูญ ท่านหนึ่งยอมรับว่าคำวินิจฉัยของศาลคำนึงถึงประกาศคปค.ด้วย

      กรณีนี้ นางสดศรี กล่าวว่า โทษทางอาญาเท่านั้นไม่มีผลย้อนหลัง แต่กรณีตัดสิทธิทางการเมือง (เว้นวรรค 5 ปี) ไม่ได้ระบุเอาไว้ และหลายฝ่ายบอกว่าเป็นคำสั่งทางปกครอง ไม่ใช่โทษทางอาญาจึงมีผลย้อนหลังได้

      "เรื่องนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะอัยการได้เสนอขอให้ศาลรัฐธรรมนูญออกคำสั่งในประเด็นนี้ด้วย โดยเสนอไปในท้ายคำฟ้องยุบพรรคตามข้อเสนอของ กกต.ไปก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดปัญหาตีความตามมาอีก ดังนั้น เชื่อว่าคำวินิจฉับของศาลรัฐธรรมนูญจะระบุห้ามใครบ้างที่ต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองหากพรรคถูกยุบ แต่ตามปกติแล้วเมื่อสั่งยุบพรรคกรรมการบริหารก็มีความผิดด้วย ส่วนจะผิดทั้งหมดหรือไม่แล้วแต่ศาลฯ จะตัดสินและถือว่าทุกอย่างสิ้นสุด”

ทั้งนี้ แนวทางที่จะออกมาในคดียุบพรรคจึงมองได้ 3 ทางดังนี้

แนวทางที่ 1 ยุบพรรค แต่ไม่ตัดสิทธิการเล่นการเมืองของกรรมการบริหารพรรค

หมายถึง พรรคถูกยุบไป ขณะที่กรรมการบริหารพรรคการเมืองทุกคน จะมีโทษตามมาตรา 69 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 กล่าวคือ จะไม่สามารถไปจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง เป็นเวลา 5 ปีแต่กรรมการบริหารพรรค ยังมีสิทธิที่จะไปลงสมัคร ส.ส. หรือไปเป็นรัฐมนตรี หรือ นายกรัฐมนตรี ได้

แนวทางที่ 2 ยุบพรรค และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคห้ามเล่นการเมือง 5 ปี

หมายถึง พรรคถูกยุบไป กรรมการบริหารพรรคทุกคนนอกจากไม่สามารถไปจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ตามพ.ร.บ.พรรคการเมือง แล้ว ยังถูกตัดสิทธิทางการเมืองอีก คือ ไม่สามารถไปลงสมัครส.ส.หรือแม้กระทั่งลงสมัครสมาชิกสภาท้องถิ่นใดๆ เป็นรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ เป็นเวลา 5 ปี

      กรณีนี้เกิดขึ้นได้เมื่อตุลาการรัฐธรรมนูญ ลงโทษยุบพรรคและให้เป็นไปตามประกาศคปค. ฉบับที่ 27 ที่ระบุว่า พรรคการเมืองที่ถูกตุลาการรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค กรรมการบริหารพรรคที่ถูกยุบ ต้องถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เป็นเวลา 5 ปี

      สำหรับแนวทางนี้จะเป็นการ “ล้างบางการนักเมืองไทย” ในระดับแกนนำร่วม 200 คน โดยเฉพาะหากยุบ 2 พรรคการเมืองใหญ่ที่พรรคไทยรักไทยมีกรรมการบริหาร จำนวน 119 คน ส่วนประชาธิปัตย์มีกรรมการบริหารพรรค จำนวน 49 คน

      ผลวินิจฉัยที่ออกมาเช่นนี้จะเป็นการเปลี่ยนน้ำใหม่ทางการเมือง ส่วนผู้ที่คัดค้านก็ใช้ประกาศคปค.จัดการโดยเด็ดขาด จากนั้นก็ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ และจัดการเลือกตั้งต่อไป

ส่วนแนวทางที่ 3 ยุบพรรค ตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเฉพาะคนที่กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองและห้ามเล่นการเมืองเป็นเวลา 5 ปี

กรณีนี้หมายถึง พรรคถูกยุบไปซึ่งทำให้กรรมการบริหารพรรคการเมืองที่กระทำความผิด ไม่สามารถไปจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง ซึ่งเป็นโทษตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หมดสิทธิเล่นการเมือง เป็นเวลา 5 ปี แต่กรรมการบริหารพรรคคนอื่นที่ไม่ได้กระทำผิด ยังมีสิทธิที่จะไปลงสมัคร ส.ส. หรือเป็นรัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรี ได้และเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองได้เหมือนเดิม

      แนวทางสุดท้ายนี้เป็นทางออกที่เป็นไปได้น้อยที่สุดเพราะคำว่ากรรมการบริหารพรรคนั้นไม่ได้จำเพาะเจาะจงเฉพาะคนทำผิดที่กฎหมายให้เหมารวมทั้งหมด

Create Date : 24 พฤษภาคม 2550

Last Update : 24 พฤษภาคม 2550 12:38:53 น.

9 comments

Counter : 593 Pageviews.

สวัสดียามบ่ายจ้ะ ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมเยียนที่บล็อคนะจ๊ะ
เมื่อกี้เข้าใจว่าคงไม่ได้ยินเพลงที่บล็อคใช่มั๊ยจ๊ะ ตอนนี้แก้ไขโค๊ดเพลงแล้ว
ถ้าว่างเมื่อไรเชิญลองไปฟังอีกทีได้นะจ๊ะ