BlogGang.com : : theexplorerphoto : Do you believe in Destination?

Do you believe in Destination?

เคยได้ยินเรื่องพรหมลิขิตบ้างไหม
ว่าเธออาจต้องเดินทางที่ไกลแสนไกล
เพื่อใครคนหนึ่ง เธอกับเขาจะแบ่งปันอากาศหายใจ
และจะใช้ทุกวินาทีร่วมกัน
.....สิ่งเหล่านี้ Greasy Cafe.....

ช่วงหนึ่งของบทเพลง "สิ่งเหล่านี้" กำลังบอกเล่าเรื่องราวความสวยงามของจุดหมายปลายทางที่มีร่วมกันระหว่างบุคลถึงบุคคล การเดินทางอันแสนยาวไกลที่มีจุดหมายปลายทางมาบรรจบพบกัน ณ สถานที่อันสวยงามแห่งหนึ่ง ความบังเอิญทีเกิดขึ้นท่ามกลางความคุ้นเคยกับใครคนหนึ่งจากในผู้คนอีกเป็นนับล้านบนโลกใบนี้ บุญและกรรมที่เคยสร้างมาในอดีตส่งผลให้ความสัมพันธ์เกิดขึ้น หวนรำลึกนำพาความผูกพันธ์ในครั้งเก่าให้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง ความเชื่อที่พวกเราเชื่อถือกันมาแสนนาน

สิ่งเหล่านี้ เรียกว่า "โชคชะตา (Destiny)"

หากชีวิตเราเปรียบกับละครเรื่องหนึ่ง บทละครที่น่าประทับใจนั้นจะต้องมีตอนจบที่แฮปปี้เอนดิ้งให้ผู้ชมได้พบเห็นอยู่เสมอ พระเอกที่คอยเป็นบอดี้การ์ดช่วยเหลือนางเอกมาตลอดทั้งเรื่อง คงจะไม่มีผู้เขียนบทคนใดพร้อมที่จะตัดบทหักมุมให้จบแบบไม่สวยงาม เพราะถ้าหากทำอย่างนั้น ผู้กำกับคงต้องทำงานหนักมากขึ้น เพื่อเขียนบทภาคต่อไปให้จบอย่างสมบูรณ์

เมื่อละครส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยอ้างอิงจากชีวิตของผู้คนในสังคม ชีวิตของเราก็คงไม่ต่างจากบทละครโทรทัศน์ที่ต้องการฉากจบที่มีความสุขเช่นกัน ต่างกันที่เราคงไม่ต้องสวมบทบาทเป็นบอดี้การ์ดเสี่ยงชีวิตเพื่อพิทักษ์คุ้มกันเพื่อที่จะได้ใจจากนางเอกเหมือนในละคร แค่เพียงใช้ชีวิตแบบปกติธรรมดา ผู้ในสังคมก็พร้อมที่จะเข้ามาช่วยต่อเติมการดำเนินเรื่องของชีวิตเราไปจนตลอดทั้งเรื่อง

ผู้คนมากมายที่เข้ามาร่วมแสดงบทบาทต่างๆในชีวิตของเราล้วนแต่เกิดขึ้นจากตัวแปรที่ทางวิทยาศาสตร์ไม่สามารถให้คำจำกัดความอย่างเป็นเหตุเป็นผลได้ หลักการที่เป็นรูปธรรมหลายๆอย่างก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าสิ่งใดที่นำพาให้คนสองคนมารู้จักกัน มาพบกัน หรือตกลงที่จะอยู่ร่วมกัน

โชคชะตาที่ดูเหมือนจะเป็นความเชื่ออย่างเดียวที่มนุษย์อย่างเราจะสามารถเอามาอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้ดีที่สุด

ความหมายของโชคชะตาคงไม่ได้หมายถึง พรหมลิขิต ที่ชักนำให้คนสองคนมาพบกันเพียงอย่างเดียว แต่โชคชะตายังคลอบคลุมไปถึงเหตุการณ์ต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นและดำเนินอยู่รอบๆตัวเรา การพบปะผู้คนแปลกหน้า การปฏิสัมพันธ์กับผู้คนอยู่ในสังคม หลายๆเหตุการณ์ทั้งที่เกิดขึ้นเกิดจากความตั้งใจของเรา และเกิดขึ้นจากความบังเอิญ

ในเมื่อโลกยังคงหมุนไปพร้อมกับสร้างเรื่องบังเอิญให้เกิดขึ้นกับเราทุกๆวัน เราจะมัวมาคอยตัดพ้อเรื่องโชคชะตากันอยู่ทำไม แม้ว่าจุดเริ่มต้นของแต่ละคนจะถูกทำให้แตกต่างกัน แต่ความตั้งใจและความบังเอิญที่กำลังถูกสร้างขึ้นในแต่ละวัน การก่อตัวเกิดขึ้นเป็นเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นแต่ละช่วงของการดำเนินชีวิต ในระยะยาวแล้วโชคชะตาจะนำพาให้เราทุกคนพบกับความสุขใจ

"หากวันนั้นฝนไม่ตกเราคงไม่ได้เจอกัน" ภาพหอยทากที่ผมถ่ายได้หลังจากที่ฝนตกหนัก เพราะเหตุใดหอยทากจะต้องมาปรากฏบนถนนที่ลาดด้วยยางมะตอยที่ชื้นแฉะหลังฝนตก เพราะเหตุใดผมจะต้องเดินผ่านทางเดินนั้น ณ เวลานั้น หากคลาดเคลื่อนกันแม้เพียงวินาทีเดียว ภาพแห่งความประทับใจนี้คงจะไม่ปรากฏอย่างที่เห็นแน่นอน หลายๆเรื่องราวถูกทำให้เกิดขึ้นอย่างบังเอิญ ราวกับว่ากำลังมีใครเบื้องบนกำลังกำหนดฉากในแต่ละตอนของเราอยู่

ในหนึ่งวันชีวิตเราสามารถพบเจอกับ โชคชะตา(Destiny)ได้มากมายเป็นหลายล้านเรื่องราว แต่จะมีซักกี่เรื่องราวจะสามารถสานต่อไปสู่ "จุดหมายปลายทาง (Destination)"

ทุกคนมีโอกาสที่จะทำความรู้จักกับคนบนโลกได้เป็นล้านๆคน แต่จะมีซักกี่คนที่พร้อมจะเดินร่วมทางไปจนถึง Destination คำถามที่เกิดขึ้นมากมายจากความคิดของใครหลายๆคน ว่าทำไมวันนี้พวกเขายังต้องเดินอยู่เพียงลำพัง อีกนานแค่ไหนที่จะได้พบกับคู่แท้ที่ต้องการจะเจอเสียที หากลองสังเกตให้ดีโชคชะตากำลังขับเคลื่อนอยู่ทุกๆวินาที ขณะที่เดินออกไปชอปปิ้งคุณอาจจะกำลังพบกับใครคนหนึ่ง หรือแม้กระทั่งการนั่งทานข้าวอยู่ในร้านอาหารเล็กๆ โชคชะตากำลังทำงานเพื่อให้คุณพบเจอกับใครซักคนก็ได้

แท้จริงแล้วทุกคนมีความสิทธิ์เท่าเทียมกัน ที่จะดำเนินชีวิตด้วยโชคชะตาที่ตัวเองกำหนดขึ้นมา แต่ความไม่สมดุลที่เกิดขึ้นระหว่างกันและกันกลับทำให้สิ่งที่คาดหวังไว้ไม่จีรัง สุดท้ายสิ่งที่ค้นเจอกลับเป็นสิ่งที่ไม่คงทนถาวร ทำให้ปลายทางที่หลายๆคนฝันไว้ไปไม่ถึงซักที

อาจจะไม่ใช่เหตุผลที่ต้องกล่าวโทษว่าโชคชะตากลั่นแกล้ง แต่คำตอบนั้นอาจจะเป็นเพราะตัวเราเองที่ยังไม่ได้ตัดสินใจก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางเอง หรือด้วยความไม่ลงตัวของบางสิ่งบางอย่าง เมื่อโชคชะตาเป็นสิ่งที่กำหนดให้ทุกสิ่งเดินทางมาพบกัน ผู้ที่จะสานต่อโชคชะตานั้นคงต้องเป็นหน้าที่ของตัวเราเอง

ดั่งถ้อยคำและแนวคิดหนึ่งที่ถูกถ่ายทอดไว้ในหนังสือ Only Love is Real

"...โชคชะตาเป็นผู้กำหนดให้ "คู่แท้" สองคนต้องมาพบกัน......
เรา "ต้อง" ได้พบคนๆนั้นแน่ แต่เราเลือกที่จะทำอะไร อย่างไร
หลังจากที่พบกันแล้ว สุดแท้แต่ใจเรา สุดแท้แต่เราเลือกเดิน

จงรู้สึกดีกับ Destiny ที่พบเจออยู่ทุกวัน แล้วเรียนรู้ที่จะสานต่อมันไปให้ถึง Destination อย่างที่ใครหลายๆคนประสบความสำเร็จกันมามากนักต่อนักแล้ว

ท้ายสุดของบทความเรื่องนี้ผู้เขียนต้องขอขอบคุณทุกโชคชะตา(destiny) ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของพวกเราทุกคน และหวังว่าซักวันผู้อ่านทุกคนจะได้พบกับจุดหมายปลายทาง(Destination) ที่ตนเองต้องการ

มาถึงตรงนี้แล้ว Do you believe in Destination?

//pitiphoomh.blogspot.com/

Create Date : 08 ตุลาคม 2555

Last Update : 8 ตุลาคม 2555 22:46:00 น.

2 comments

Counter : 1239 Pageviews.

เข้ามาอ่านblogนี้ แต่ไม่ได้คิดว่าจะ เขียนเพลงของพี่เล็ก greasy cafe ไว้ด้วย

เพลงครึ่งแรกกับครึ่งหลัง ความหมายของละด้านกันเลย

โดย: แฟนlinKinPark

วันที่: 8 ตุลาคม 2555 เวลา:23:41:19 น.

พิมพ์ผิด จะเขียนว่า เพลงครึ่งแรกกับครึ่งหลังคนละด้าน

blogนี้ เขียนดีใช้ได้ ต้องเข้ามาอ่านบ่อยๆซะแล้ว

โดย: แฟนlinKinPark

วันที่: 8 ตุลาคม 2555 เวลา:23:52:00 น.