Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
24 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 

ไวท์ชอคโกแลตบลูเบอรี่ มูสเค้ก



ขอติดสูตรไว้ก่อนนะคะ เพราะจำไม่ได้ว่า ลอกการบ้านของใครคะ เดี๋ยวส่งผิดคน 555




 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2550
12 comments
Last Update : 24 กรกฎาคม 2550 11:31:02 น.
Counter : 1572 Pageviews.

 

วันนี้วันเกิดขอเป็นขนมเค้กสักปอนด์แทนได้ป่าวอะ

 

โดย: Aui_haui 24 กรกฎาคม 2550 13:11:59 น.  

 

โอ้ น่าหม่ำอย่างแรงค่ะ
ทำขนมเก่งจังค่า

 

โดย: ยัยหมามุ่ย (bon_bonkatz ) 24 กรกฎาคม 2550 13:20:00 น.  

 

น่าทานมากเลยค่ะ เก่งมากๆ

 

โดย: มันอยู่ในปอด 24 กรกฎาคม 2550 14:30:49 น.  

 

คุณ Aui_haui อยากทานเค้กอะไรคะ เดี๋ยวจัดให้คะ

 

โดย: ดวงใจพ่อแม่ 24 กรกฎาคม 2550 15:26:18 น.  

 

ขอลงสูตรไว้ตรงนี้นะคะ เค้กก้อนนี้ แบ่งขั้นตอนออกเป็น 3 ส่วน นะคะ ค่อยๆ ทำคะ ไม่ต้องรีบ
ขั้นตอนที่ 1
ทำสปันจ์เค้ก 1 ก้อน ขนาด 1 ปอนด์ นะคะ
สูตรสปันจ์เค้ก แมวใช้ของ คุณแหม่มคะ อร่อยและง่าย แมวใช้เป็นสูตรหากินประจำตัวไปแล้วคะ 555 ขอบคุณ คุณแหม่ม คะ
ส่วนผสม ดังนี้ คะ(ส่วนผสมที่ลงนี้จะได้เค้ก ขนาด 2 ปอนด์นะคะ อย่าลืม หาร 2)
แป้งเค้ก ตราพักโบก 100 กรัม
ผงฟู 3/4 ช้อนชา
ไข่ไก่ เบอร์2 4 ฟอง
น้ำตาลทราย 120 กรัม
เกลือ 1/2 ช้อนชา
น้ำเปล่า 40 กรัม
สารเสริม SP 10 กรัม
นมข้นจืด 30 กรัม
กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
เนยสดจืด 70 กรัม(ทำให้ละลาย)
วิธีการทำ(ง่ายๆ และสั้นๆ คะ)
1. เตรียมพิมพ์เค้กปูแต่ กระดาษไขไม่ต้องทาไขมัน ตามสูตรจะได้เค้กขนาด 2 ปอนด์คะ แต่มูสเค้กก้อนนี้ แมวใช้ตัวเค้กขนาด 1 ปอนด์คะ เพื่อนๆ ต้องหาร 2 นะคะ
2. เปิดเตาอบคะ ที่ 180c แล้วนำเนยวางเข้าไปในเตาเลยคะ
3. ร่อนแป้ง กับ ผงฟู สัก 2 รอบ พักไว้, นมข้นจืดผสมกับกลิ่นวานิลา ไว้ด้วยคะ
4. น้ำ เกลือ น้ำตาลทราย และ ไข่ไก่(ไข่ต้องไม่เย็นนะคะ สปันจ์เค้กใช้ไข่เย็นๆ ไม่ได้คะ มันจะขึ้นฟูยากคะ ถ้าไข่ที่ใช้แช่อยู่ในตู้เย็น ต้องนำออกมาทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องก่อนคะ) และ สารเสริม SP ใส่ลงในอ่างผสมคะ
5. เริ่มตีด้วยสปีดสูงสุด(ตะก้อไฟฟ้าของแมว มี 4 ระดับ แมวใช้ระดับที่ 4 คะ) ใช้เวลาในการตี 5-7 นาทีคะ
6. เมื่อตีไข่จนฟูข้นแล้ว ปิดเครื่องคะ ใช้พายยางปาดอ่าง แล้วเติมแป้งลงไปทั้งหมด แล้วเปิดเครื่องที่สปีดต่ำสุด ตีเพียง 1 นาที พอนะคะ ปิดเครื่องแล้วปาดอ่างคะ
7. หันไปหยิบเนยออกจากเตาอบได้แล้วคะ หากว่าเนยยังละลายไม่หมด ก็ใช้ช้อนคนๆ ให้ละลายก็ได้นะคะ แล้วพักไว้ก่อน
8. เปิดเครื่องตีอีกครั้งหนึ่ง ที่สปีด กลางนะคะ แล้วตีส่วนผสมต่อไปอีก 5-7 นาทีคะ ขั้นตอนนี้ต้องใช้ทั้งสองมือช่วยกันนะคะ คือ มือหนึ่งถือตะก้อไฟฟ้าคะ ส่วนอีกมือหนึ่งก็ถือพายยางคะ ใช้พายยาง ปาดส่วนผสมเข้าหาตะก้อคะ จะช่วยให้ส่วนผสมเข้ากันได้เนียนคะ
9. เมื่อครบ 5-7 นาทีแล้วไม่ต้องปิดเครื่องนะคะ ก็ เติมนมข้นจืด และ เนยละลายคะ ค่อยๆ เท เป็นสายเล็กๆ นะคะ อย่าเทพรวดเดียวหมดนะคะ ไม่เป็นผลดีกับส่วนผสมคะ พอเติมทั้งสองอย่างหมดแล้ว ก็ตีต่อไปอีกสัก 2-3 นาทีคะ เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำสปันจ์เค้กคะ
10. เทใส่พิมพ์ อบที่อุณหภูมิ 180c นาน 40 นาที(สำหรับพิมพ์ 2 ปอนด์) หากใช้พิมพ์ 1 ปอนด์ ก็อบแค่ 25-30 นาทีคะ

 

โดย: ดวงใจพ่อแม่ 25 กรกฎาคม 2550 10:39:10 น.  

 

ขั้นตอนที่ 2 เมื่อเราได้สปันจ์เค้กตามต้องการแล้ว เราก็มาทำตัวมูสกันคะ
ส่วนผสม บลูเบอรี่มูส คะ
บลูเบอรี่ 120 กรัม
(ใช้สด หรือ แช่แข็ง หรือ กระป๋อง ได้ทั้งนั้นคะ)
น้ำเปล่า 50 กรัม
น้ำตาลทราย 90 กรัม
เจลาตินแผ่น 4 แผ่น(แช่น้ำให้นิ่มตัดเป็นชิ้นๆ)
(หากใช้แบบผง ก็ 1 ช้อนโต๊ะละลายน้ำอุ่น 1 ช้อนโต๊ะ)
วิปปิ้งครีม 200 กรัม(ประมาณ 1 ถ้วยตวง)

วิธีการทำ
1. ปั่นบลูเบอรี่กับน้ำ ให้ละเอียด
2. ปั่นเสร็จแล้ว เทใส่หม้อผสมน้ำตาล และเจลาติน นำไปตั้งไฟอ่อนๆ คนตลอดจนน้ำตาลกับเจลาติน ละลายหมด ปิดไฟ พักไว้ให้เย็นสนิท(แนะนำให้เปลี่ยนภาชนะคะ ส่วนผสมจะได้เย็นเร็วขึ้น ไม่อย่างนั้นใช้เวลาคอยนานคะ)
3. เมื่อส่วนของบลูเบอรี่เย็นแล้ว เราก็ตีวิปปิ้งครีมให้ตั้งยอด แล้วนำบลูเบอรี่มาผสมให้เข้ากันคะ(ก่อนตีวิปครีม ให้นำหัวตีกับอ่างผสมแช่เย็นไว้ก่อนนะคะ จะช่วยให้ตีวิปครีมง่ายคะ)
4. เมื่อได้ส่วนผสมของมูสบลูเบอรี่แล้ว เราก็นำไปราดบนตัวเค้กชั้นที่ 1 ราดให้กลบเนื้อเค้กไปเลยคะ แล้วนำไปแช่เย็นไว้ก่อน (ลืมบอกไปคะ เมื่อเราได้สปันจ์เค้กแล้ว เราก็สไลด์เค้กออกเป็น 2 ส่วน ความหนาไม่ควรเกิน 2 ซม. แล้วนำเค้กชั้นที่ 1 ไปวางไว้ในพิมพ์ที่ถอนก้นได้ ขนาด 2 ปอนด์นะคะ รอไว้คะ)
5. ระหว่างรอมูสชั้นที่ 1 เซ็ตตัว เราก็มาทำตัว ไวท์ชอคมูสกันต่อเลยคะ ส่วนผสมตัวไวท์ชอคมูส มีดังนี้คะ
ไวท์ชอค 120 กรัม
เฮฟวีครีม 50 กรัม(หาซื้อไม่ได้คะ ก็เลยใช้วิปครีม แทน)
วิปปิ้งครีม 200 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ
1. หั่นไวท์ชอคเป็นชิ้นเล็กๆ คะ
2. เทไวท์ชอคใส่หม้อ เติมเฮฟวีครีม/วิปครีม 50 กรัม
3. นำไปตั้งไฟอ่อน คนตลอดจนไวท์ชอคละลายหมด ปิดไฟคะ แล้วพักไว้ให้เย็นสนิท
4. เมื่อไวท์ชอคเย็นแล้ว เราก็ตีวิปครีมกับน้ำตาลไอซิ่งจะตั้งยอด แล้วนำไวท์ชอคมาผสมให้เข้ากัน จากนั้นก็นำไปราดบนตัวเค้กชั้นที่ 2(คือมูสชั้นแรกที่เราแช่เย็นไว้เซ็ตตัวดีแล้ว เราก็วางเนื้อเค้กชั้นที่ 2 ลงไปคะ) จากนั้นก็นำไปแช่เย็นเหมือนเดิมคะ รอให้ไวท์ชอคเซ็ตตัวก่อนนะคะ


การทำมูสเค้ก ใช้เวลาค้อนข้างนานคะ ใจร้อนทำไม่ได้นะคะ ไม่งั้นเค้กออกมาจะไม่สวยคะ ถ้าชั้นแรกไม่เซ็ตตัวแล้วรีบราดชั้นที่สองลงไป มีหวัง สีมูส กลืนกันหมดคะ

ช่วงนี้รอให้มูสเซ็ต ตัวเราก็นั่งเล่นเน็ตไปเพลินๆ ก่อนนะคะ เดี๋ยวมาทำ ตัวเจยลี่ ที่ราดบนหน้าเค้กกันต่อคะ

 

โดย: ดวงใจพ่อแม่ 25 กรกฎาคม 2550 11:04:52 น.  

 

ขั้นตอนที่ 3
เป็นการทำเจยลี่ ที่ราดหน้าเค้ก คะ
ส่วนผสม ดังนี้คะ
บลูเบอรี่ 120 กรัม
น้ำนิดหน่อย
เจลาตินผง 1/2 ช้อนชา

วิธีการทำ
ปั่นบลูเบอรี่ให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำให้ได้ 1 ถ้วยตวง แล้วเติมเจลาตินผงลงไป ทิ้งไว้สัก 2 นาที ให้เจลาตินซึมซับน้ำเล็กน้อยคะ จากนั้นก็นำไปต้ม หรือ จะเข้าไมโครเวฟ ก็ได้คะ ให้เจลตินละลายคะ แล้วพักไว้ให้เย็นสนิท สนิทจริงๆ นะคะ ไม่งั้นเค้กเราละลายแน่นอนคะ (แนะนำให้เปลี่ยนภาชนะ หลังจากเจลาตินละลายหมดแล้วคะ ส่วนผสม จะได้เย็นเร็วขึ้น)

เมื่อมูสเค้กที่เราแช่เย็นไว้ เซ็นตัวดีแล้ว และ ตัวเยลลี่หายร้อนแล้ว เราก็นำเยลลี่ไปราดบนตัวมูสเค้กได้เลยคะ แล้วนำกลับเข้าไปแช่เย็นต่อไปอีก อย่างน้อย 6 ชั่วโมงนะคะ(ถ้าหากต้องการให้เย็นเร็วๆ แช่ช่องฟรีชก็ได้คะ 1 ชั่วโมงก็น่าจะได้คะ)

ส่วนใหญ่เวลาทำมูสเค้ก แมวจะแช่ค้างคืนไปเลยคะ รุ่งขึ้นค่อยแต่งหน้าเค้กคะ

ลองทำดูนะคะ ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแต่ต้องใช้เวลา มากกว่าเค้กอื่นๆ คะ แล้วที่สำมะคัญ คือ เราต้องใจเย็นสุดๆ คะ
ใครได้ทำแล้ว ส่งรูปมาให้ชื่นชม ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามพัฒนาการ การทำขนม ของแมวนะคะ

 

โดย: ดวงใจพ่อแม่ 25 กรกฎาคม 2550 11:17:22 น.  

 

ตัวเค้กตอนยังไม่ได้ราดเยลลี่

 

โดย: ดวงใจพ่อแม่ 25 กรกฎาคม 2550 11:26:47 น.  

 



รูปไม่ขึ้นอ่ะ สงสัยเราทำไม่เป็นอ่ะ ใครพอจะแนะนำได้บ้างคะ ว่า เราจะใส่รูปตรง ส่วน comment ได้ยังไงคะ

 

โดย: ดวงใจพ่อแม่ 25 กรกฎาคม 2550 11:30:26 น.  

 

คลิกเข้าไป ตรง jpg ไงคะ ว่าแต่แลก กับ เค้กก้อนโต ๆ นะคะ

 

โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ 13 สิงหาคม 2550 11:21:06 น.  

 

ลองใส่รูปใหม่ ตามคำแนะนำ ของเจ๊หลี

 

โดย: ดวงใจพ่อแม่ 16 สิงหาคม 2550 9:18:33 น.  

 

ก็ยังใส่ไม่เป็น อยู่ดีอ่ะ เจ๊หลีช่วยด้วย

 

โดย: ดวงใจพ่อแม่ 16 สิงหาคม 2550 9:19:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


kat281308
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add kat281308's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.