บางคนสำหรับบางคน
บางคนสำหรับความฝัน
บางคนสำหรับความจริง
|
|||
คู่มือ Happy Tax ประหยัดภาษีอย่างมีสุข ตอนที่ 1 ทำความรู้จัก ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ต้องมีเงินได้เท่าไรจึงจะเสียภาษี หรือ ต้องเสียภาษีเท่าไร คำนวนอย่างไร มักเป็นคำถามที่พบเสมอสำหรับวัยเริ่มต้นทำงาน ขณะเดียวกัน หลายท่านอาจมีคำถามคาใจว่า การขอคืนภาษีอย่างไร หรือ มีเงินได้ที่มิใช่เงินเดือน ต้องเสีภาษีอย่างไร ลดหย่อนอะไรได้บ้าง เมื่อเราทุกคนที่มีเงินได้ต้องใช้ชีวิตร่วมกับภาษี จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจ ทั้งในส่วนของหลักการเบื้องต้นไปจนถึงกลยุทธ์ในการวางแผนภาษีสำหรับอาชีพต่างๆ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการภาษีสำหรับบอาชีพต่างๆเพื่อให้สามารถบริหารจัดการภาษีที่เกิดขึ้นเป็นค่าใช้จ่ายประจำทุกปีได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จึงเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ควรให้ความสำคัญอย่างมากเรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในหน้าที่ความรับผิดชอบสำหรับประชาชนผู้มีเงินได้ทุกคน แต่ด้วยข้อความต่างๆ ที่อ้างดิงตามตัวบทกฏหมาย พร้อมรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนมักรู้สึกว่า การพูดคุยเรื่องภาษี เหมือนเป็นการคุยต่างภาษา มาเริ่มลองทำความรู้จักกับภาษีกันด้วยคำถามแรก คือ ใครบ้างที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คำตอบตามนิยามแล้วหมายถึง ผู้มีเงินได้ที่เกิดขึ้นในระหว่างปีที่ผ่านมา โดยมีสถานะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้ 1. บุคคลธรรมดา 2. ห้างหุ้นส่วนสามัญ/คณะบุคคล 3. ผู้ถึงแก่ความตาย 4. กองมรดก
จะเห็นว่า ไม่เพียงแต่บุคคลธรรมดาที่เข้าข่ายเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ แต่ยังหมายรวมไปถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ/คณะบุคคล ผู้ถึงแก่ความตาย และกองมรดกอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เข้าข่ายเป็นผู้มีเงินได้นี้จะมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ก็ต่อเมื่อมีเงินได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำตามที่กฏหมายกำหนด ดังนี้
1. บุคคลธรรมดา หากเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ประจำเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง (ตามมาตรา 40(1)) และยังไม่มีคู่สมรส ต้องมีเงินได้มากกว่า 50,000 บาท แต่ถ้ามีคู่สมรสแล้ว ต้องมีเงินนได้รวมกันมากกว่า 100,000 บาทขึ้นไป สำหรับผู้ประกอบกิจการส่วนตัวหรือมีเงินได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เกิดจากการจ้างแรงงาน หากยังไม่มีคู่สมรส ต้องมีเงินได้มากกว่า 30,000 บาท แต่ถ้ามีคู่สมรสแล้วต้องมีเงินได้รวมกันมากกว่า 60,000 บาทขึ้นไป
2. ห้างหุ้นส่วนสามัญ/คณะบุคคล ที่มิใช่นิติบุคคล มีหน้าที่ต้องยื่นแบบฯ หากมีเงินได้มากกว่า 30,000 บาทขึ้นไป ทั้งห้างหุ้นส่วนสามัญและคณะบุคคลนี้ นับเป็นหน่วยภาษีที่มีลักษณะพิเศษตามกฏหมายกำหนด จัดตั้งโดยบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปตกลงกันเข้าเพื่อกระทำกิจการร่วมกัน แต่ต่างกันตรงที่ห้างหุ้นสวนสามัญนั้นมีวัตถุประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันจะพึงได้แก่กิจการที่ทำนั้น ส่วนคณะบุคคลไม่มีวัตถุประสงค์จะแบ่งปันกำไรที่ได้จากกิจการที่ทำนั้น นอกจากนี้ ยังมีสิทธิในการคำนวนหักค่าใช้จ่ายสำหรับเงินได้เช่นเดียวกับบุคคลธรรมดา สำหรับการหักค่าลดหย่อน คณะบุคคลสามรถหักค่าลดหย่อนตามจำนวนบุคคลในคณะบุคคล ซึ่งต้องเป็นผู้อยู่ในประเทศไทย โดยหักคนละ 30,000 บาท แต่รวมกันไม่เกิน 60,000 บาท แต่ไม่สามารถหักค่าลดหย่อนประเภทอื่นที่บุคคลธรรมดามีสิทธิได้ อย่างเช่น การหักลดหย่อยคู่สมรส การหักลดหย่อนบุตร หรือค่าเบี้ยประกันชีวิต เป็นต้น
3. ผู้ถึงแก่ความตาย แม้จะเสียชีวิตไปแล้ว ตามกฏหมายให้ถือว่า ยังเป็นผู้มีภาระหน้าที่ที่ต้องเสียภาษีเงินได้อยู่ อย่างไรก็ตาม หน้าที่เสียภาษีนี้มีเฉพาะในปีที่ถึงแก่ความตายเพียงปีเดียวเท่านั้น โดยทายาทหรือผู้จัดการมรดกหรือผู้ครอบครองทรัพย์มรดกเป็นผู้มีหน้าที่ยื่นแบบฯ
4. กองมรดก เมื่อผู้มีเงินได้เสียชีวิตไปแล้ว มีกองมรดกของที่ยังไม่แบ่งและมีเงินได้ทั้งปีมากกว่า 30,000 บาทขึ้นไป ในปีภาษีถัดจากการเสียชีวิต ทายาทหรือผู้จัดการมรดกมีหน้าที่ยื่นแบบฯ ในนามกองมรดกของผู้เสียชีวิต โดยทั่วไป การยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทำปีละ 1 ครั้ง ผู้มีเงินได้มีหน้าที่ต้องยื่นแบบฯ เพื่อเสียภาษีภายในเดือนมกราคมถึงมีนาคมของปีถัดไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้มีเงินได้บางประเภท เช่น การให้เช่าทรัพย์สิน เงินได้จากวิชาชีพอิสระ เงินได้จากการรับเหมา หรือเงินได้จากธุรกิจการพาณิชย์ เป็นต้น กฏหมายกำหนดให้ยื่นแบบฯ เพื่อเสียภาษีตอนครี่งปีสำหรับรายได้ที่เกิดขึ้นใรช่วงครึ่งปีแรก ภายในเดือนกันยายนของปีนั้นก่อนการยื่นภาษีประจำปีตามปกติ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาภาระภาษีที่ต้องชำระ แทนที่จะชำระทั้งหมดในคราวเดียว |
ไส้เดือนดิน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |