หนังผจญภัยในอวกาศเรื่องนี้เกี่ยวกับการเอาชีวิตรอดที่น่าตื่นเต้น ลุ้นระทึก เต็มไปด้วยความตึงเครียดถึงระดับที่ผู้ชมแทบกลั้นลมหายใจ และ แอบมีฉากทำให้ตกใจเล่นแทรกซ้อน ประกอบกับการออกแบบท่วงท่าการเคลื่อนไหวที่งดงาม และ สมจริง คือ เสน่ห์ดึงดูดที่เอาชนะแรงโน้มถ่วงในใจผู้ชม อัลฟอนโซ คัวรอน สร้างผลงานชิ้นล่าสุดในรอบเจ็ดปีสไตล์มินิมอลลิสม์ เดินเรื่องโดยอาศัยตัวละครหลักคือ ผู้หญิง กับ ผู้ชาย ซึ่งเป็นนักบินอวกาศคู่หนึ่งพยายามรับมือกับสภาพแวดล้อมอันตราย ไม่มีการสู้รบ ไม่มีเอเลี่ยน ตลอด 90 นาที

      แม็ต โควอลสกี้ ( จอร์จ คลูนี่ย์ - แสดง ) นักบินอวกาศประสบการณ์สูง ได้พูดติดตลกเมื่อเริ่มต้นภารกิจโคจรรอบโลกว่า .. ฮูสตัน ผมรู้สึกไม่ค่อยดีกับปฏิบัติการครั้งนี้ ผู้ชมไม่กี่คนอาจคล้อยตามขณะส่วนใหญ่กำลังอ้าปากตาค้างกับช็อตลองเทคตอนเปิดเรื่องความยาว 13 นาที ส่วน ดร.ไรอัน สโตน ( แซนดร้า บูลล็อค - แสดง ) เป็นวิศวกรการแพทย์ ทั้งคู่ช่วยกันซ่อมกระสวยอวกาศของสหรัฐที่ตกอยู่ในสภาพเสียหาย เพื่อเดินทางกลับสู่พื้นโลกก่อนที่อ็อกซิเจนของพวกเขาจะหมดลง แม็ตชอบฟังเพลงโฟล์กซองส์เริ่มบินครั้งแรกเมื่อปี 1996 บอกผู้ช่วยมือใหม่อย่างดร.ไรอันว่า เธอมีมันสมองอัจฉริยะ ส่วนเขาเป็นได้แค่คนขับรถ ฟังดูเหมือนตลกร้ายแต่ไม่อาจปิดบังความเป็นมืออาชีพ และ ความรอบรู้ในการเอาตัวรอดในห้วงอวกาศของเขา 

     มหันตภัยที่ถาโถมเข้าตาผู้ชมภาพสามมิติจนเบี่ยงหน้าหลบจอคือเศษซากชิ้นส่วนกลางเวหา เนื่องจากรัสเซียยิงดาวเทียมดวงหนึ่งของตนทิ้ง ในอวกาศอันเวิ้งว้างว่างเปล่าพลันเต็มไปด้วยฝูงห่าเศษเหล็ก ทำลายกระสวยอวกาศพวกเขาพังยับ กระแทกร่างดร.ไรอันตีลังกาลอยเคว้งคว้างไปไร้จุดหมาย ผู้ชมเริ่มประจักษ์ถึงภัยคุกคามอันร้ายกาจท่ามกลางความเงียบงัน ภาพโคลสอัพใบหน้าซีดขาวของดร.ไรอัน พ่นลมหายใจฟุ้งหน้ากาก และ เสียงหัวใจเธอเต้นตุบตับแรงขึ้นตามความวิตกกังวล

     แม็ตมีเครื่องยนต์เหาะไปช่วยดร.ไรอันเอาไว้ทันท่วงที เขามองเห็นที่ปลอดภัยคือสถานีอวกาศของรัสเซียซึ่งจะทำให้พวกเขาอยู่รอด จนกว่ายานช่วยเหลือภาคพื้นดินจะถูกส่งมาถึง ปริมาณอ็อกซิเจนเหลือน้อยลงเรื่อยๆ สัญญาณสื่อสารถูกตัดขาด และ ดร.ไรอันเริ่มโดดเดี่ยว หมดหวังกับการมีชีวิต หนังสร้างความประหลาดใจดักรอผู้ชมคล้าย ริปลี่ย์ ( ซิกอร์นี่ย์ วีเวอร์ - แสดง ) ในเรื่อง เอเลียน เมื่อ ดร.ไรอันลอยตัวในสภาพไร้น้ำหนักเข้าไปพบฝันร้ายในสถานีอวกาศแห่งนั้น

     โทนหนังเรื่องกราวิตี้ เทียบเคียงได้กับ ไลฟ์ ออฟ พาย และ ออล อีส ลอสต์ ต่างก็เล่าถึงการเอาชีวิตรอดโดยอาศัยการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ รู้จักยืดหยุ่น ผ่อนสั้นผ่อนยาวของมนุษย์ สองเรื่องที่กล่าวมาเป็นการผจญภัยในท้องทะเลไม่ใช่อวกาศ บทภาพยนตร์ที่สองพ่อลูก อัลฟอนโซ กับ โจนัส คัวรอน ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการสำรวจอวกาศ พวกเขาอยากรู้ว่าสถานีอวกาศที่อยู่ห่างบ้านหลายพันไมล์จะเป็นอย่างไร ทั้งเรื่องการเดินทางไปกลับ การติดต่อสื่อสาร การดำรงชีพในสภาวะไร้แรงดึงดูด และ ภัยอันตราย จึงค้นคว้าข้อมูลมากมายเพื่อให้ฉากหนังสมจริงที่สุด 

     กราวิตี้ ให้มุมมองอย่างนักบินอวกาศที่มีความรักต่อโลกผ่านภาพความงดงามเมื่อได้เห็นท้องทะเล เทือกเขา มวลเมฆ และ แสงสว่างของเมืองใหญ่ๆนานาประเทศท่ามกลางความมืดมิดในห้วงอวกาศ หรือ จักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล บทสนทนาระหว่างแม็ต กับ ดร.ไรอัน แม้จะไม่มีคารมคมคายแทรกปรัชญาลึกซึ้งแต่ปูพื้นภูมิหลังชีวิตครอบครัว และ เป็นคำตอบสำคัญทำให้ดร.ไรอันต่อสู้เพื่อรักษาชีวิตตนเอง กลายเป็นเรื่องที่ดีส่งผลให้ตอนจบหนังดูเท่ และ สมบูรณ์แบบ

     แซนดร้า บูลล็อค แสดงบทหญิงแกร่ง และ ดรามาสะเทือนอารมณ์ได้ดีเยี่ยมอีกเรื่องหนึ่ง จอร์จ คลูนี่ย์ ทำให้ผู้ชมมอบความไว้วางใจแก่เขา และ คาแร็กเตอร์ที่ช่วยผ่อนคลายบรรยากาศ ผู้หญิงคงรู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาดเมื่ออยู่เคียงข้างเขา และ เอ๊ด แฮร์ริส ดารารุ่นเก๋าให้เสียงเจ้าหน้าที่ควบคุมภารกิจ เอ็มมานูเอล ชิโว ลูเบซกี้ และ ทิม เว็บเบอร์ ตากล้อง กับ วิชวล เอฟเฟ็กต์ ซูเปอร์ไวเซอร์ ได้สร้างสรรค์ภาพถ่าย และ ประดิษฐ์ไลท์บ็อกซ์ให้ตัวละครล่องลอยอยู่ในนั้นดูสมจริงยิ่งขึ้น เกลนน์ ฟรีแมนเทิ่ล ผู้ออกแบบเสียง และ สตีเว่น ไพรซ์ ผู้แต่งดนตรีประกอบเข้าขากันดีเลิศ อัลฟอนโซ คัวรอน ,ผู้กำกับหวังใจว่าผู้ชมคงจะร่วมเดินทาง และ แบ่งปันประสบการณ์มฤตยูแรงโน้มถ่วงอันน่าตื่นเต้น และ น่าหวาดกลัว โดยพร้อมเพรียงกัน

     *ย่อและเรียบเรียงใหม่จาก นิตยสารเอนเตอร์เทน ฉบับที่ 1145 ปักษ์แรก ตุลาคม 2556