ในเมื่อหนังได้รับความนิยมเกินกว่าจะเป็นบ็อกซ์เซ็ท-ไตรภาค ไมเคิล เบย์ จึงไม่อิดออดหากสตูดิโอฮอลลีวู้ดจะเห็นเขาเป็นตัวปั๊มเงินให้สร้างภาคต่อ ตอน 4 ที่ได้ชมกันอยู่ขณะนี้ และ ภาค 5 วางโปรแกรมจะฉายปี 2016 ถึงแม้หนังจะยกเครื่องทีมนักแสดงใหม่หมด และ มีฉากวินาศสันตะโรถล่มฮ่องกงร่วมครึ่งชั่วโมง แต่มันไม่ได้ให้ความรู้สึกแปลกใหม่สมกับหนังแฟรนไชส์ที่ทุกคนรอคอย เดิมหนังพูดถึง เดอะ คิวบ์ ต้นกำเนิดของเอกภพ และ ขุมพลังยิ่งใหญ่แห่งจักรวาล การค้นพบมนุษย์น้ำแข็งของคุณปู่วิทวิคกี้ ณ ดินแดนอาร์กติก หนังเปิดตัวสถานที่แห่งเดียวกันนี้ โดยทีมสำรวจของบริษัทอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ เคเอสไอ (คิเนติก โซลูชั่นส์ ) พบว่าไดโนเสาร์ไม่ได้สูญพันธุ์เพราะถูกอุกกาบาตจากนอกโลกถล่ม โครงกระดูกของพวกมันถูกเคลือบด้วยลาวาโลหะชนิดหนึ่ง

     หนังเปิดฉากต้นเรื่องราวกับ วอลกิ้ง วิธ ไดโนซอว์ + เดอะ ฟาสต์ แอนด์ เดอะ ฟิวเรียส พระเอกคนใหม่คือ เคด เยเกอร์ ( มาร์ก วอห์ลเบิร์ก-แสดง ) เป็นพ่อหม้ายนักประดิษฐ์ถังแตก กรรมกรชาวเท็กซัส เขาทำมาหากินโดยซื้อซากรถเก่าตั้งใจนำมาแยกชิ้นส่วนอะไหล่ขายทำกำไร นำเงินไปจ่ายหนี้ และ เหลือค่าเทอมให้ลูกสาว เทสซา ( นิโคลา เพลท์ซ -แสดง ) จึงเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นเมื่อรถบรรทุกคันนั้นคือ อ็อบติมัส ไพรม์ ผู้นำหุ่นยนต์ออโตบ็อท ภายหลังเหตุการณ์ชิคาโก้พังพินาศ ผู้คนล้มตายมากมายใน ดาร์ก ออฟ เดอะ มูน หลายปี หน่วยงานลับวางแผนตามล่า และ ทำลายหุ่นยนต์ฝ่ายออโตบ็อท ส่วนบริษัทเอกชนต้องการเทคโนโลยีจากต่างดาวมาสร้างมวลสารมหัศจรรย์ที่แปรรูปเปลี่ยนร่างอย่างไร้ขีดจำกัด หรือ ทรานส์ฟอร์เมี่ยม สร้างหุ่นยนต์เลียนแบบ และ ร่วมมือกับหุ่นยนต์นักล่าค่าหัว,ล็อคดาวน์ ออกไล่ล่า อ็อบติมัส ไพรม์ 

     น่าเสียดายที่หนังขาดอารมณ์ขันอย่างในหนังต้นฉบับตอน แซม วิทวิคกี้ (ไชอา ลาบัฟ -แสดง ) นักเรียนระดับมัธยมได้รถมือสองที่บังเอิญคือหุ่นยนต์ บัมเบิลบี แปลงร่างมาใช้มุกจีบสาวกับเสียงเพลงออดอ้อน หรือ ฉากมนุษย์ปะทะคารมกับพวกหุ่นยนต์ และ ขาดความรู้สึกสะเทือนอารมณ์อย่างที่หนังภาค 2-3 ทำสำเร็จ สแตนลี่ย์ ทุคซี่ แห่งเคเอสไอแสดงมีสีสันเหนือกว่าใคร แจ็ค รีย์นอร์ เป็นเชน,แฟนหนุ่มของเทสซาน่าจะมีบทแอ็กชั่นดีกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยให้ มาร์ก วอห์ลเบิร์ก ฉายเดี่ยวอย่างทุลักทุเล บทดราม่าที่เขามีต่อว่าที่ลูกเขย และ ลูกสาวค่อนข้างจืดชืด หลี่ ปิงปิง เลขานุการสาวผู้ฉลาดปราดเปรื่อง และ หาญกล้ามีบทบาทมาเอาใจแฟนหนังเอเชียโดยเฉพาะ ขณะกริมล็อค,ไดโนบ็อทส์ หรือ วายร้าย กัลวาทรอน,สติงเจอร์ สมุนเวฮิคอน หรือ ควินเทสซั่น ผู้พิพากทัณฑ์ ช่วยเติมเต็มให้เรื่องเดินหน้าสุดอลังการ

     ชื่อตอน มหาวิบัติยุคสูญพันธุ์ นั้นไม่เชื้อเชิญให้คิดว่ามนุษยชาติ และ ดาวเคราะห์โลกกำลังจะถูกทำลายล้างจนป่นปี้ ตรงกันข้ามสติสตังของผู้ชมต่างหากที่ใกล้สูญพันธุ์เพราะถูกหนังโหมกระหน่ำฉากสู้รบอย่างดุเดือดร่วมสามชั่วโมง มันอาจทำให้อะดรีนาลินพลุ่งพล่านเร้าใจ รู้สึกตื่นเต้นได้ระยะหนึ่ง หลังจากนั้นอะไรที่มากล้นเกินไป คงทำให้หัวสมองมึนงง ลดความสนุกสนานลงไป รอเวลาเมื่อไหร่หนังจะฉายจบเสียที คนชอบของเล่นเด็ก และ รถหรู คือแฟนขาประจำ หนังขายสเปเชี่ยลเอฟเฟ็กต์จึงใช้ซีจี เรนเดอร์ภาพสวยสมจริง ลำดับภาพฉากต่อสู้ได้ดีเยี่ยม ขาดเพียงการเชื่อมโยงภัยคุกคามทั้งหลายให้สมเหตุสมผลกลายเป็นหนึ่งเดียวกันเท่านั้น

     *ย่อและเรียบเรียงใหม่จาก นิตยสารเอนเตอร์เทน ปักษ์แรก กรกฎาคม 2014 แปลจากบทวิจารณ์ของ แคลเรนซ์ ซุย - ฮอลลีวู้ด รีพอร์ตเตอร์